แหลมที่ทอดยาวออกไปเป็นทางในทะเล เส้นทางแห่งความโศกเศร้า... เพราะไม่รู้กี่คนที่จะเดินมาร้องไห้เสียใจคร่ำครวญตรงนี้ในเวลาค่ำคืน มันเป็นสถานที่ที่ดีสุดที่จะซ่อนความอ่อนแอจากสายตาผู้คน โดยเฉพาะคนสำคัญซึ่งยากที่จะปฏิเสธได้ว่าพวกเขานั้นกำลังหลบหนีความจริงว่าตนนั้น"อ่อนแอ"เพียงไร แต่อย่างไรก็ตามความอ่อนแอนั้นก็สามารถแปรเป็นความแข็งแกร่งได้เสมอ...
ผมเองก็มักจะมายืนมองบนยอดแหลมนี้ มองคลื่นแรงซัดโถมขึ้นมาสูงราวกับกำลังจะกลืนกินแหลมให้กลายเป็นหนึ่งเดียว สุดท้ายก็สาดกระเซ็นเป็นฟองสีขาวกลับลงสู่ทะเลอยู่ดี แต่สังเกตุเห็นได้ชัดเจนว่าแหลมนี้ค่อยๆถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆสักวัน มันคงไปรวมอยู่ด้วยกันที่ใต้มหาสมุทรหรือก็กลายเป็นเพียงหาดทรายว่างเปล่า...? ลูกเสี้ยวหมาป่าอย่างผมนั้นหรือจะเข้าใจ เพราะอย่างไรไม่ทราบ ผมถึงได้มีพลังมหาศาลมากมายเช่นเดียวกับพวกมัน แต่ทว่า เลือดของมนุษย์ที่ไหลเวียนอยู่ในกายคงเข้มข้นกว่าเสียกระมัง ถึงได้ปิดกั้นตนเองจากขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะพลังปีศาจนั่นที่ผมมี ไม่สามารถปกป้องใครได้เลย....?
ว่าแล้วน้ำตาก็ไหลไม่หยุด ในอกมันอึดอัดราวกับมีบางอย่างมาสุมกันไว้แน่นเสียจนรู้สึกอ่อนแรง ร่างกายสั่นเนื่องจากลมหนาวพัดลงมาจากทางเหนือ ผมทิ้งตัวลง นั่งมองแหงนขึ้นบนฟ้า นึกถึงเมื่อตอนเป็นเด็กที่อยู่กับพี่ชายที่แหลม หลังจากที่เราไปร่วมสนุกที่งานฮาโลวีนกันที่เมืองฟีเรียสต้า ผมแต่งตัวธรรมดาๆในขณะที่สวมหัวเลียนแบบ แจ๊คโอเรนเทริ์น ส่วนพี่ชายก็แต่งเป็นแวมไพร์ ในงานมีเสียงเพลงสนุกสนาน และมีเกมบ้านผีสิง หรือยิงธนูปักหัวกะโหลกของปลอม รวมถึงโบลิ่งกระดูก งานนั้นสนุกสนานมากจริงๆ แต่สุดท้ายกลับจบลงด้วยน้ำตานับแสนหยด
ชายผู้มีผมสีแดงเพลิง ขุนนางเมื่อสมัยหลายพันปีที่แล้ว ผู้มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนในเรื่องทางลบ และที่เลวร้ายที่สุดคือการตื่นขึ้นจากหลุมที่ผลึกด้วยมนตราโบราณของนางฟ้า เขาคนนั้น ผู้นำความหายนะ และความตายมาสู่ผู้คน ชื่อที่ผู้คนตั้งให้กับเขา "Lord of death" ความน่ากลัวไม่ใช่เพียงแค่นั้น สายตาเขาที่เดินเข้ามาท่ามกลางงานที่สนุกสนานเช่นนั้นดูราวกับสนุก แต่แฝงความเคียดแค้นจงเกลียดจงชังพร้อมที่จะทำลายให้ทุกอย่างกลายเป็นผุยผงไปในบันดล
ภาพที่ผมจำได้มีแค่นั้น จากนั้นผมก็ลืมตาขึ้นมา ผมอยู่บนยอดเขาและกระท่อมร้าง ตรงหน้าคือพี่ชายที่สูญเสียตาให้กับผม มือของเขาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน เลือดนั้นออกเยอะมากจนผมใจหายว่าเขาจะตายหรือเปล่า... ไม่ใช่เช่นนั้น เขายิ้มให้ผมพร้อมกับผลักร่างของผมตกลงมาจากยอดเขา จากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย แม้แต่ใบหน้าของพี่ชายก็ตาม ทำไม... ผมถึงลืมมันไปนะ ? ผมหยุดสนใจกับความคิดตนเองพลางมองน้ำทะเลต่อ ดวงตาสีน้ำตาลข้างซ้ายของผมดูหมองหม่น แต่ดวงตาของสีเงินข้างขวาของพี่ชายที่อยู่ในตาของผมกลับทอประกายกับทะเลและดวงดาว... บางทีในวันที่ผมคิดว่าสูญเสียทุกสิ่งไป อาจจะเหลือความหวังจากตาขวาคู่นี้ก็เป็นได้
"เคตันส์... พี่อลิซาเบ็ธให้มาบอกว่าให้กลับได้แล้ว แหลมนี้ไม่ค่อยปลอดภัย อีกหนึ่งชั่วยาม พวกพรายน้ำก็จะขึ้นมาหาอาหาร"เด็กหนุ่มผมทองคนนี้ คือฟิลิปส์ เพื่อนของผม และเป็นคนที่เจอผมนอนหมดสติอยู่ที่น้ำตก ผมจึงได้อาศัยบ้านเขาอยู่มาสิบกว่าปีในฐานะผู้ติดตามของเขา
"อื้อ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ"