~ヾ(^∇^)おはよー♪
อ๊ายยยเพิ่งเคยเขียนเป็นครั้งแรกเลย ดีใจ ฮ่าๆๆ อยากจะมาเล่าเรื่องชีวิตของเราให้ทุกคนอ่านน่ะค่ะ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลย ฮ่ะๆๆ ******อาจจะมีคำหยาบนิดนึงนะค่ะ
ตอนนั้นเราอยู่ ปี1 ตอนนี้เราอยู่ ปี 2 ค่ะ ที่มหาลัยแห่งหนึ่งเราคิดว่าเฮ้ยยเข้าที่นี่แหละเจ๋งดีคณะ บริหารธุรกิจญี่ปุ่นด้วย โคตรเฟี้ยวอะ ญี่ปุ่นเราก็โอเคอยู่ ที่โรงเรียนตอน ม. ปลายกุได้ตั้ง 4.00 เข้ามันที่นี่แหละ เอกชนด้วย ไม่น่าจะยาก สบาย พอเข้าไปเรียนที่นี่ รุ่นพี่ดีมากกก แทคแคร์เรา เรารักสถาบันนี้จริงๆแต่พอหมดรับน้องแล้วต้องเริ่มเรียน เทอมแรกมีเรียน 5 ตัว มี ญี่ปุ่น คณิต อังกฤษ เศตร์ศาสตร์ บริหาร ครั้งแรกที่เรียนญี่ปุ่น เหยดดแม่ม ง่าย แต่ตัวที่ไม่ไหวเลยคือ คณิต (เคยคิดในใจนะว่า อย่าให้กุเป็นนายกนะ กุจะยกเลิกคณิตไม่ต้องมีการเรียนการสอนแม่ม ) เรียนไปแรกๆเจอเลยจ้า ทำโครงงาน เพื่อนตอนแรกที่ว่าดี ก็เริ่มออกนิสัย ไม่ทำงาน ไปนู้นไปนี่ เห็นแก่ตัว สุดๆ เราท้อมากแบบไม่เคยเจอคนแบบนี้ แถมยังปาแฟชไดร์ใส่เราอีกตอนทำโครงงานแบบอยากร้องไห้มาก แต่ช่างแม่มเด๋วค่อยเอาคืน ตูปั่นงานก่อนเพื่อนสนิทเราอีกคนถึงกลับวีนแตกแต่เราก็บอกให้มัน เฮ้ยยช่างมันๆๆ งานแรกผ่านไป งานที่ สองมาอีกคราวนี้ วิชาญี่ปุ่น เรานั่งทำโครงงานเพื่อนเรามันก็ลอกการบ้านญี่ปุ่นให้เรา พอเสร็จ การรบ้านของเพื่อนเราที่ปาแฟชไดร์ใส่เรามันหาย มันเลยเอาการบ้านญี่ปุ่นของเราไปลบชื่อเรา แล้วใส่ชื่อมันแล้วก็ส่ง โอ้วพระเจ้า เราแบบโมโหมากอะ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก ช่างมัน ณ ตอนนั้นเราแบบไม่อยากอยู่กลุ่มนี้แล้ว ก็เลยออกจากกลุ่มมากะเพื่อนสนิทเราอีกคนนึง เราแบบท้อมาก คณิตก็ไม่ได้ เศรษฐศาสตร์ก็อะไรไม่รู้เรื่อง บริหารก็ T^T ญี่ปุ่นที่ว่าง่ายพอเรียนไปนานๆแล้ว กดดันมากเพราะเพื่อนในห้องแต่ละคนโอ้ว เมพมากไปญี่ปุ่นกันแบบ โห น่าอิจฉาวะ ตูยังไม่ได้ไปเลยเราเคยถามเพื่อนเราคนนึงว่า เฮ้ย เองไปญี่ปุ่นมากี่เดือนวะถึงพูดได้ หรือเป็นปี มันเก่งมาก มันหันมาช้าๆแล้วยิ้มหวาน.....สวนคำพูดกลับมาว่า 10 ปีวะ 5555555555 เออกุแพ้กุยอม เราอยู่เซค 1 คือ กลุ่มที่เรียนญี่ปุ่นเก่งสุด แต่เราได้ที่โหล่ของห้องนั้นมันแบบว่า กดดันมาก เราไม่กดดันนะ แต่สภาพแวดล้อมมันพาไปคือเราเป็นคนแบบว่า เห็นคะแนนตัวเองไงเต็มร้อยได้ 75 เหยดดดเก่งวะกุ หันไปข้างแต่เพื่อนได้ 90+ มืดมนทันที เพื่อนที่นั่งเรียนข้างๆก็บ่นว่า คะแนนเราทุเรศได้แค่ 89 เอง (เราคิดในใจว่า 89 พ่อง) ตอนนั้นอะไรๆก็ ท้อ ท้อมากจนร้องไห้ทุกวันเลยว่า ทำไมอะ ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ขนาดอาจารย์ญี่ปุ่นเราอะถามเพื่อนเราว่าเป็นไงสอบวัดระดับยากไหม แต่พอเห็นเราเค้าถามเราว่า เป็นไงสอบวัดระดับเขียนชื่อตัวเองยากไหม คือดูถูกมากไปปะ แบบตอนนั้นท้อจนอยากไปไกลๆเลย ทีวีไม่ได้ดูมีสอบทุกอาทิตย์ ตามเพื่อนไม่ทัน หัวก็ช้า ไหนต้องทำงานพิเศษอีก ในเมื่อกุทำอะไรไม่ได้ไหนๆกุก็ไม่มีอะไดีละ เราหันไปพูดกะเพื่อนเรา เฮ้ยเมิง ไปกัน เพื่อนเราถามว่าเมิงจะไปไหน!! เรื่องราวมันเริ่มจากตรงนี้นี่แหละ
" ญี่ปุ่นไงละแสรดดด "
เป็นอะไรที่ โอ้ววววววไม่ไหวแล้วญี่ปุ่นพูดก็ไม่ได้ ฟังก็ไม่รุเรื่อง พูดกะกุทีกุนึกว่าเมิงดำน้ำพูด การ์ตูนศัพท์ง่ายๆกุต้องดูซับอยู่เลยในเมื่อกุฟังไม่ออก พูดไม่ได้ บุกแม่มถึงประเทศเลย เราไปกะเพื่อน อีกหนึ่งคนคือเพื่อนสนิทเราเอง เราไปโตเกียวหนึ่งเดือน โรงแรมไม่ได้จองไปหาเอาดาบหน้า เราไปญี่ปุ่นครั้งแรกทุกอย่างตื่นตาตื่นใจสุดๆขนาดึ้นแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิยังตื่นเต้นอะ แล้วยิ่งตอนขึ้นเครื่องบินนะอย่าให้พูด เราเหมือนพวก 55555555 คนบ้าอะ พอนั่งเครื่องสักพักก็ถึงนาริตะพอลงจากเครื่องบินเท่านั้นแหละเราก็เพื่อนเอามือแตะพื้นแล้วกะโกนดังๆว่า NIHON !!!! watashi ni kuru!!!!! แปลว่า ญี่ปุ่น!!! ฉันมาหาเทอแล้วววววว ทุกคนตรงนั้นมองพวกเราแล้วขำกันใหญ่เลย และเราก็ได้ยินคนญี่ปุ่นสักคนพูดกะพวกเราว่า 日本へようこそ。ยินดีต้อนรับสู่ประเทศญี่ปุ่น เราแบบน้ำตาไหลเลยอะ มันเป็นอะไรที่ปลื้มม มากกกกก แล้วตอนนี้เราก็หนีความท้อแท้มาประเทศญี่ปุ่นที่ใช้เงินเราเก็บถึง 4 ปี ฮี่ๆๆๆๆ
วันนี้พอก่อนแล้วจะมาอัพเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ ^^
มุมนี้สวยยยย ~