ทำไมกันนะ... ตั้งแต่เมื่อใหร่
ตั้งแต่เมื่อใหร่ที่เริ่มเกลียดชังผู้คน
ตั้งแต่เมื่อใหร่ที่ไม่แม้แต่จะคิดยุ่งด้วยกับใครก็ตาม
แล้วมัน...ตั้งแต่เมื่อใหร่ ที่ชั้นได้โดนโลกใบนี้ทิ้งไป
“ซา~เนีย~จางงงงง>w<”
“...ฮึ?”
“หว่ะ=___=;;มืดมนเกิ๊น~ออกจะน่ารักแท้ๆ ยิ้มสิ ยิ้มมมม...”
“(‘[++]’)...”
“ถ้าลำบากขนาดนั้น ก็ทำหน้าหงิกอย่างเดืมเถอะ=___=;;;”
เปิดเรื่องมาแล้วสินะ ถึงจะยังไม่รู้ว่าเกี่ยวกะอะไรก็เหอะ แนะนำตัวก่อน มินาซากิ ซาเนีย คาเรน อายุ16 ...เมื่อสองวันก่อน(. .) ส่วนผู้หญิงผิวสีแทนที่ลุคเหมือนสาวนักกีฬาผมซอยนี่คือ อิคุชิ โย ลูกพี่ลูกน้องของชั้น ที่อยู่ห้องเรียนข้างๆ และมักจะมาเล่นกับชั้นบ่อยๆในตอนที่เธอว่างๆ ต้องยอมรับล่ะนะ ถึงจะน่ารำคาญไปบ้าง แต่นั่นก็ทำให้ชั้นหายเหงาไปเยอะเลย... ในห้องเรียน... ในโรงเรียนแห่งนี้ ไม่มีใครยอมคุยกับชั้นเลย แม้แต่คนเดียว นอกจากโย...
“โย... บางที ชั้นน่าจะอยู่คนเดียวได้...”
“ชั้นอยากอยู่กับเธออ่ะ แกล้งซาเนียน่ะสนุกนะขอบอก^w^”
เออ...ขอบคุณ รู้สึกดีขึ้นเยอะ- -*
“เอาน่า ชั้นน่ะไม่อะไรมาก ไม่ใช่ประเภทเพื่อนไม่คบแบบซาเนียซะหน่อย(. .)”
พูดใส่กันอย่างนี้ ยกมือมาตบหน้าชั้นเลยสิ รึไม่ก็เอามีดมาปักคอชั้นไปเลยดีมั๊ยT___T แต่ก็จริง แม้โยจะไม่ขาวผมยาวแบบนางเอกทั่วไป แต่เธอกลับดูดีด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงเกินความจำเป็นมากกว่า ซึ่งมันต่างจากชั้น...ชั้นที่มืดมน น่าอึดอัดและสมควรถูกทอดทิ้ง...
ครืด~...
ประตูห้องเรียนถูกเปิดออกด้วยมือที่ดูซูบจนไม่น่าจะมีผิวหุ้มของอาจารย์โยเนคาว่า อย่าได้คาดหวัง... โรงเรียนเก่าๆบ้านนอกอย่างแสนสาหัสอย่างที่นี่ ไม่มีนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่แน่ๆ- -*
“อ...อิคุอินาอิชิคูง~... กลับไปห้องเธอได้แล้ว@O@;;”
“ใครล่ะนั่น? อิคุชิค่ะ จารย์=O=;;”
“อื่อ...ชื่อเธอนี่เรียกยากจริงแฮะ(.___.);;”
“ที่ยากกว่าชื่อหนูก็ความทรงจำของอาจารย์นั่นแหละ=___=*”
ชั้นว่าไอ้ที่ยากกว่า ก็คือชื่อที่อาจารย์แกคิดนั่นแหละ อิคุอินาโออิชิ...รึเปล่านะ- -?;; และโยก็ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนพยักหน้าให้ชั้นเป็นเชิงขอตัว ชั้นพยักหน้าตอบ และหยิบหนังสือวิชาฟิสิกส์ออกมาวางไว้บนโต๊ะ แต่ว่า กลับมีบางสิ่งตกลงมาจากหนังสือของชั้นซะก่อน
กระดาษยับๆที่พอคลี่ออกมาดูก็เห็นเป็นใบสมัครงานพิเศษที่ชั้นรับมาตอนไหนไม่รู้ เมดคาเฟ่=___=?! ในที่แบบนี้ก็ยังมีใครกล้ามาเปิดอีกนะ ร้านพิซซ่า...ลุงๆป้าๆที่นี่แกคงกินเป็น ใบปลิวเงิน:X้...แล้วก็
บลาๆๆ... เอาเป็นว่าเยอะ...
ที่รับมาขนาดนี้ เพราะชั้นต้องหางานพิเศษใหม่ทำ เพราะร้านสะดวกซื้อที่เคยทำ เจ้าของร้านก็ปิดไปแต่งงานกับผู้ชายในเมือง ชั้นเลยต้องระเห็จออกมาหางานใหม่ เหอะๆ... แล้วในเมืองอย่างนี้ ช่างน่าศิวิไล
หลังจากฟังสูตรฟิสิกส์ที่วิบัติได้ที่จากอาจารย์โยเนกาว่า เวลาก็ผ่านไปอย่างแสนยากเข็ญ ในยามบ่ายสามกว่าๆ แสงแดดจ้าเหมือนจะเผานักเรียนและทุกสิ่งมีชีวิต:Xออกมาจนจ้าตา ชั้นค่อยๆเดินออกไปจากโรงเรียนช้าๆ และอาศัยเงาต้นไม้ที่ขึ้นข้างรั้วโรงเรียนเดินหลบแดดไปเรื่อยๆ เสียงล้อจักรยานของนักเรียนคนอื่นๆปั่นใกล้เข้ามา และนำหน้าชั้นไป คงจะสบายกว่านี้ ถ้าชั้นเอาจักรยานของตัวเองมาโรงเรียนบ้าง เสียอย่างเดียว ...โซ่มันหลุด และที่แย่กว่า คือชั้นใส่มันไม่เป็น=___=;;;
ในวันที่แดดร้อนเหมือนจะเผากันเล่นแบบนี้ ชั้นเดินขึ้นมาบนเนินเขาที่เหมือนจะเคยเป็นฟาร์มมาก่อน บนนั้นเหมือนจะไม่มีใครอยู่เลย นอกจากคุณลุงคุณป้าที่เป็นคนเฝ้าที่นั่นไว้ เพราะเป็นที่ที่อยู่ไกลตัวเมืองเอาการ คนที่นี่เลยต้องอาศัยการซื้อขายสินค้าในสังคมเล็กๆนี้ของพวกเค้ากัน ที่ที่ชั้นเลือกขึ้นมานั่งเล่นเวลาที่ไม่มีงานพิเศษทำก็จะเป็นที่นี่ จะนั่งถึงเย็นๆนู่นแหละ แล้วค่อยกลับบ้าน
“อ้าว... ซาเนียจัง วันนี้ไม่ได้ทำงานพิเศษเหรอ?”
“คุณป้าโลล่า... แบบว่า เหมือนหนูจะว่างงานอีกแล้ว-*-;;”
“อ่า...เหรอจ๊ะ งั้นก็มาทำงานฟาร์มช่วยป้าเหมือนเดิมสิ^^;;”
“แต่ฟาร์ม... เห็นว่าเร็วๆนี้จะมีคนมาอยู่แล้วนี่”
ป้าโลล่าทำหน้าเหมือนลังเลว่าจะบอกดีมั๊ย แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจยอมบอกออกมา
“จ้ะ... แต่ป้าว่า ทาคุยะคุง ไม่น่าจะว่าอะไรมั้งจ๊ะ^^;;”
“ทาคุยะ?”“จ้ะ... เป็นหลานชายของเจ้าของฟาร์ม ตอนนี้พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เค้าเลยจะมารับช่วงแทน... แบบไม่เต็มใจเท่าใหร่”
อ๋า... เคยได้ยินมาจากคุณลุงพูดมาซักพักแล้วล่ะ ว่าน้องชายของเค้าป่วยหนัก และเสียไป ส่วนภรรยาไม่นานก็ตรอมใจเสียไปอีกคน ความรู้สึกที่เคว้งคว้างแบบนั้น ชั้นก็พอจะเข้าใจน่ะนะ ถ้าเป็นหลานของคุณลุง ก็เท่ากับว่าฟาร์มนี้ ที่ไม่มีใครรับช่วงต่อ ทาคุยะที่เป็นหลานปู่ก็คงได้รับช่วงแบบไม่มีปัญหาล่ะนะ
เอาเหอะ... ชั้นเองก็ไม่ได้ว่างขนาดมาดีใจที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรม ที่ต้องทำอย่างด่วนๆในตอนนี้ คือต้องหางานพิเศษทำล่ะนะ- -;;
และหลังจากนั่งเปื่อยอยู่ที่ฟาร์มซักพัก ชั้นก็ขอตัวกลับบ้านหลังจากบรรดาน้องยุงพากันกรูเข้ามาขอบริจาคเลือดชั้นกันเป็นกองทัพ บ้านเดี่ยวสองชั้นที่ดูไม่เก่าไม่ใหม่ที่ตั้งอยู่เชิงเขาไม่ไกลจากฟาร์มของป้าโลล่า นั่นคือที่อยู่ของชั้น หลังจากต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ หลังจากที่ไม่อาจจะเข้ากับครอบครัวที่พ่อแต่งงานใหม่ได้ แสงไฟขุ่นๆจากหลอดไฟในบ้านสว่างขึ้นหลังชั้นเอื้อมมือไปควานเปิดมันในความมืด แสงจากเครื่องตอบรับกระพริบเป็นจังหวะ บ่งบอกว่ามีใครโทรมาตอนที่ชั้นเอ้อระเหยอยู่ข้างนอก
ชั้นมองไปที่มันอย่างเบื่อจนไม่รู้จะบอกคนที่โทรมาซ้ำๆนั้นว่ายังไง เมื่อบ้านที่สวยหรูนั่นไม่มีที่สำหรับชั้น จะดึงชั้นกลับไปทำไม?
-คาเรน... ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ทำไมไม่ยอมรับเงินที่พ่อส่งไปให้ พ่อรู้ว่าแกลำบาก กลับมาบ้านเราเถอะ พ่อจะ...-
ชั้นกดปิดข้อความหลังจากคำพูดเดิมๆที่ไม่มีอย่างอื่นนอกจากจะบอกให้ชั้นกลับไปของพ่อจะออกมาอีก ชั้นทรุดตัวลงนั่งที่ข้างๆโต๊ะวางโทรศัพท์ ทรมาณ... ทุกๆครั้ง... พ่อโกหกชั้นมาตลอด เมื่อตอนที่แม่ของชั้นเสีย พ่อก็สัญญาว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับใคร และจะให้ความสำคัญกับชั้นแทนแม่ที่เสียไป
แต่นั่น...กลับแค่เป็นแค่ คำพูดกลับกลอกให้ผ่านไปตามเวลาเท่านั้น
แปะ...
น้ำตาของชั้นหล่นลงมาอีกแล้ว ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ชั้นก็ไม่เคยทำใจให้อภัยรึทำใจยอมรับเรื่องต่างๆได้จริงๆเลย ชั้นเลยได้แต่ปล่อยให้ความเจ็บปวดที่เข้ามาทำร้ายให้พอ แล้วก็รอ รอให้ความชินชามันมาแทนที่ไปเอง... แต่ชั้นก็หวังเอาไว้... ว่าแม้จะเป็นไปไม่ได้ รึอาจเป็นเพียงนิยาย หรือนิทาน และความฝันที่สวยหรู ชั้นอยากจะเจอใคร ที่พร้อมจะพาชั้นออกไปจากวังวนที่เจ็บปวดนี้ได้ซักที