@151129

ปวดหลัง ปัญหาใหญ่ของวัยทำงาน โอ้ย!!ปวดหลังทามงัยดีเนี่ย?

SuZuMuKi View 318

อาการปวดหลังเคยมาเยื่นคุรบ้างไหม  ถ้าไม่เคย  คุณเป็นคนหนึ่งที่โชคดีมากๆ  เพราะจากตัวเลขผู้เข้าใช้บริการโรงพยาบาลจากสำนักงานกองทุนเงินทดแทนพบว่ากลุ่มคนทำงานเป็นกลุ่มที่ปวดหลังบ่อยจำนวนพอๆ  กับผุ้สูงอายุเลยทีเดียว

                อาการปวดหลังนั้นมีหลายสาเหตุ  แต่หากสงสัยว่า  อาการปวดหลังที่ปนะสบอยู่นั้นเกี่ยวข้องกับการทำงานแล้วล่ะก็  ลองพิจารณาดูปัจจัยต่อไปนี้  ว่าคุณประสบอยู่หรือไม่

  • ปวดหลัง  หลังจากการทำงานที่ต้องนั่งนาน  หรือมีท่าการทำงานท่าเดียวนานๆ  มีการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้อง  เช่น  บิดเอี้ยวตัวอย่างแรง  และเร็ว  จนอาจทำให้กระดุกสันหลัง  แอ่น  โค้งหรือบิดงอได้ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหลัง
  • มีอารมณ์เครียดจากการทำงาน  เป็นระยะเวลานาๆ  เรื่องของอารมณ์นี้  คุณคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลัง  แต่กายและจิตใจเชื่มต่อกัน  ความเครียดของคุณส่งผลต่อการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ  และทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน
  • อาการปวดหลัง  เกิดหลังจากยกของหนัก  หรือขนย้ายสิ่งของด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง  เช่น  ก้มตัวลงมาหยิบของ  แล้วยืดขึ้นทันที  หรือเอี้ยวตัวรับของ  รวมทั้งกรณีที่ต้องแบกรับน้ำหนักที่มากเกินไปเป็นเวลานานๆ
  • ลักษณะการทำงาน  ต้องคุกเข่า  คลาน  ปีน  หรือขึ้นลงบันไดเป็นเวลานานๆ  หรือเป็นประจำ  เอื้อต่อการปวดหลังมากขึ้น
  • ปวดหลังเพราะร่างกายขากความยืทดหยุ่น  ขาดการออกกำลังกายนานๆ  จนกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง  ส่งผลไม้เมื่ออยู่ในท่าใดนานๆ  จะเกิดอาการปวดหลังได้ง่าย

              เมื่อสงสัยว่าอาการปวดหลังที่พบเห็นนั้น  อาจจะมาจากการทำงาน  เพราะลักษระงานเอื้อต่อการปวดหลังอย่างมาก  บางคนต้องนั้งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานกว่าวันละ 8 ชั่วดมง  อยุ่ทำโอทีอีก 3 -4 ชั่วโมงหลังเลิอกงาน  หรือเข้าสู้ช่วงงานเร่ง  ต้องทำงานล่วงเวลา  และการทำงานสมัยนี้หลายคนก้ต้องอาสัยอินเตอร์เน็ตเพื่อการติดต่อสื่อสาร  หรือหาข้อมูล  ทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนั่งเป็นเวลานานๆ

               อาการปวดหลังที่เกิดจากการนั่งทกำงานนานๆ  นั้น  ส่วนมากมักมาจากการปวดกล้ามเนื้อ  เนื่องจากล้ามเนื้อต้องเกร็งตัว  โดยฌฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณหลังต้องใช้พลังงานที่สพสมเอาไว้ไปกับการเคลื่อนไหวเมื่อพลังงานสะสม  ก้เริ่มออกอาการ  คือ  เมื่อยล้า  ถ้าเริ่มรู้สึกปวแหมื่อย  ลองเปลี่ยนท่า  แปลี่ยนอิริยาบถพักผ่อนบ้าง  เอนหลังพิงพนักแล้วหลับตา  หรือลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสาย  ออกกำลังเล็กๆ  น้อยๆ  พอให้เปลี่ยนท่าทางบ้าง  กล้ามเนื้อก็จะสดชื่นขึ้นมา

                แต่ส่วนใหญ่แล้ว  ปัยหาคือทำงานเพลิน  ทำงานไปเรื่อยจนลืมอาการปวดหลัง  จึงไม่ได้ลุกออกมาเปลี่ยนท่าทาง  นั่นหมายความว่ากล้ามเนื้อเราก็ต้องทำงานต่อเนื่องยาวนานเช่นกัน  ความผิดปกติ  จึงเพิ่มจากเมื่อยล้าล้าเป็นปวดหลัง  อาจมีอาการแข็งร่วมด้วย  เพราะกล้ามเนื้อเกร็งตัว  จนขาดเลือดไปเลี้ยงมีกรดแลคติดสะสมในกล้ามเนื้ออันเกิดจากความเนื่อยล้า  อาการนี้สะสมยาวนาน  จะกลายเป้นปัยหาต่อการทำงานได้  เพราะกล้ามเนื้อจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพเรื่อยๆ

                ดังนั้น  เมื่อเริ่มมีอาการปวดหลัง  อย่านิ่งนอนใจ  แล้วปล่อยให้ร่างกายต้องทนรับสภาพกล้ามเนื้ออ่อนล้า  เพราะเพียงแค่คุณสละเวลาแก้ปัยหาปวดหลังตั้งแต่ยังไม่เริ่มอาการหนักก้จะช่วยได้เยอะโดย

  1. เปลี่ยนท่าทาง : กฏเหล็กของการทำงานคือ  ไม่ควรทำงานด้วยท่าหนึ่งท่าใดนานๆ  ต้องเปลี่ยนท่าอยู่เรื่อยๆ  หรือปล่อยเอนหลังให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อนบ้าง
  2. ออกกำลังกายท่าง่ายๆ : ถ้าเมื่อย  เหนื่อยล้า  ลองลุกมายกแขน  ขา  เหมือนท่ากายบริหารสมัยเด็กๆ  เช่น  ท่าหมุนคอ  ท่าก้มแตะ  หรือท่าเขย่งปลายเท้า  สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ทั้งนั้น  โดยแต่ละท่าควรทำค้างไว้สัก 5 วินาที
  3. คลายปวดด้วยการประคบรอ้น :  หากอาการปวดหลังเพิ่มมากขึ้นสามารถใช้การประคบร้นช่วยได้โดยหาซื้อ Cold/Hot pack  ติดไว้ที่ทำงาน  เมื่อเริ่มอาการปวดหลัง  ให้นำแผ่นเจลแช่น้ำร้อนแล้วนำมาประคบบริเวณที่ปวด  สัก 10 – 20 นาที  วิธีนี้ใช้ได้ดีทั้งปวดหลัง  ปวดไหล่  และถ้าวันไหนปวดหัว  มีไข้ก็ยังนำไปแช่ตู้เย็น  ทำเป้นแผ่นประคบเย็นได้
  4. หมอนสารพัดประโยชน์ : ในที่ทำงานถ้าสามารถหาหมอนอิงสักใบ  มาไว้แก้เมื่อยจะช่วยได้มากหวกปวดหลังให้นำหมอนมารองบริเวณที่มีอาการปวด  รองแถวๆ  บั้นเอว  จะช่วยได้  หรือหากเก้าอี้เตี้ยเกินไป  ทำให้ต้องโน้มตัวไปทำงาน  ก็ให้เปลี่ยนหมอนมารองนั่ง  เพิ่มความสูงขึ้นมาให้พอดี

             นอกจากวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น  ป้องกันกันอาการปวดหลังแล้ว  ต้องลองพิจารณาอุปกรณ์ที่เราทำงานด้วย  เช่น  ขนาดของโต๊ะ  และเก้าอี้เหมาะกับสรีระของเราหรือไม่  ความสูงของเก้าอี้และโต๊ะ  ควรได้ระดับที่แขนวางเป็นมุมฉากกับลำตัวพอดี  ปรับคอมพิวเตอร์ให้จออยู่ในระดับสายตัว  ส่วนแป้นคีย์บอรืดควรอยู่ในระดับข้อศอกจะได้ไม่ต้องยกแขนขึ้นมาพิมพ์  ส่วนเมาส์  ถ้าใช้แบบไร้สายได้  ก้จะเคลื่อนไหวได้อิสระขึ้น  เมื่อปรับท่าทางอย่างดีแล้ว  ก็ทำงานได้เต็มที่แต่ไม่ควรเกิน 1 ซม.  ต้องลุกไปเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง

             ชีวิตทำงาน  กินเวลาไปกว่าครึ่งของชีวิตเรา  ถ้าหากทำงานแล้วส่งผลให้เจ็บป่วย  เมื่อยเนื้อ  เมื่อยตัว  นอกจากงานไม่ดีแล้ว  รายได้จากการทำงาน  ยังต้องเตรียมไว้ให้กับค่ารักษาพลายลาลอีกด้วย

                รักจะเป็นคนทำงานที่ลาด  อนาคตไกล  ต้องใส่ใจสุขภาพตัวเองเท่าๆ  กับงาน


...หายปวดหลังกันยังจร้า...