@159473

ตอนที่ 2 Online

fanasai View 213
ภายหลังจากเหตุการณ์ ภัยพิบัติครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้วงการ MMORPG ต้องแทบถึงกาลอวสาน จากการที่ผู้เล่นซึ่งเข้าไปในโลกเกมส์ไม่สามารถทำการ Log Out ได้ เป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว ในตอนนี้เครื่องจำลองฝันได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นและหลังจากนั้นไม่นานเกมส์แนวโลกเสมือนจริงก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง แต่ในตอนนี้ไม่จำเป็นว่าเกมส์นั้นจะต้องเป็นของค่ายเกมส์ใหญ่ๆอีกต่อไป ด้วยโปรแกรมที่มีชื่อว่า Seed ซึ่งปรากฏตัวมาโดยไม่ทราบแหล่งที่มาจึงทำให้ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้ และมันก็ทำให้เกมส์แนวโลกเสมือนจริงไม่ได้จำกัดวงอยู่ที่ MMORPG อีกต่อไป...

"Online ? เกมส์อะไรล่ะนั่นน่ะ"เสียงจากหนุ่มหน้าหวานในชุดนักเรียนชายดังขึ้น ดวงตาสีอำพันจ้องมองคู่สนทนาอย่างงุนงง "หวังว่ามันคงจะไม่ได้งี่เง่าเหมือนเกมส์ที่นายมาชวนฉันไปเล่นครั้งที่แล้วหรอกนะ ทิม"

"ก็ไม่รู้สิ ดูเหมือนเกมส์ที่ชื่อ Online จะเป็นเกมส์แนว MMORPG ที่โปรแกรมเมอร์ไทยสร้างขึ้นมาล่ะ จากข่าววงในดูเขาจะว่ากันมาอย่างนั้น"ทิมพูดอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่ ตัวทิมนั้นเป็นชายร่างสูงเกือบสองเมตร ผิวสีคล้ำ ตัดผมรองทรงสูง ร่างกายมีแต่มัดกล้าม เหมือนพวกเล่นกล้ามมาเป็นเวลานาน แต่เห็นดูแมนๆแบบนี้แต่สำหรับคนที่คุ้นเคยจริงๆจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขา เป็นพวกที่ร่างเป็นชายแต่ใจหญิงเกินร้อย "ฉันเองก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมากหรอก ดูเหมือนเกมส์นี้เองก็จะเปิดมาได้เกือบสองปีแล้วด้วยล่ะนะ"

"แล้วนึกยังไงจู่ๆมาชวนเล่น MMORPG ล่ะเนี่ย ฉันนึกว่านายจะเล่นเป็นแต่พวกทำสวนปลูกผักซะอีก"หนุ่มหน้าหวานหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้มหัวหลบฝ่ามือที่ฟาดมาด้วยความอายของเพื่อนสุดแมนแทบจะไม่ทัน 

"ฉันไม่ได้จะเล่น แต่ในบอร์ดที่ฉันไปเจอข่าวเกมส์นี้ ได้ยินมาว่ามันเป็นเกมส์ที่ยากมากเพราะไม่เคยมีใครพิชิตบอสตัวสุดท้ายของเกมส์นี้ได้เลย เห็นว่านายเป็นเกมเมอร์ระดับต้นๆ ก็น่าจะสนใจ ยังไงก็ลองดึงเอาลิ๊งค์ไปดูข้อมูลของเกมส์นี้ก่อนดีไหมล่ะ"ทิมพูดพลางหยิบเอา การ์ด ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนถ่ายโอนข้อมูลลงในการ์ดของคู่สนทนา 

"Online งั้นเหรอ...ไม่เคยได้ยินชื่อเลยแหะ...ฉันเองก็ติดตามข่าวมาตลอดไม่น่าจะพลาดได้เลยนะ"หนุ่มหน้าหวานบ่นพึมพำระหว่างดึงภาพโฮโลแกรมข้อมูลของ Online ขึ้นมาดู จากที่ดูคร่าวๆมันก็ไม่ต่างไปจากแนว MMORPG ทั่วไปที่มีการเก็บระดับ เปลี่ยนอาชีพ ทำเควส อะไรทำนองนั้น ดูแล้วก็ไม่น่ายากชนิดที่ว่าเปิดมาเกือบสองปีแต่ไม่มีเกมเมอร์คนไหนพิชิตลาสบอสได้ แต่ทว่าไม่ทันไรหลังจากนั้น เสียงกริ่งเข้าเรียนก็ดังขึ้นพร้อมกับอาจารย์ชายที่ดูหน้าตาอมทุกข์ตลอดเวลาจะเดินเข้ามาพร้อมกับปึกกระดาษที่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ

"วันนี้สอบ..."อาจารย์วัยหลักสี่ที่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีครอบครัว พูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบผิดกับเหล่านักเรียนชายในห้องต่างกุมห้องร้องโวยวาย จนดังลั่นทำเอาอาจารย์ต้องยกปึกกระดาษฟาดโต๊ะยุติความวุ่นวาย ก่อนที่จะเรียกนักเรียนมารับกระดาษข้อสอบโดยที่เหล่านักเรียนไม่อาจจะปฏิเสธชะตากรรมได้...

"อาจารย์โหดเป็นบ้าเลย จู่ๆนึกจะสอบก็สอบซะแบบนั้น ไม่มีเวลาให้นักเรียนได้เตรียมตัวสักนิด"ในช่วงพักกลางวันหลังจากคาบสอบสุดหินจบลง ทิมก็เข้ามาคุยด้วยพร้อมบื่นขนมปังกับนมกล่องที่คนตรงหน้าฝากซื้อให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไปพลางเลื่อนดูศึกษาข้อมูลของเกมส์ใหม่ที่วันนี้เขาจะเข้าไปเล่นเพื่อพิชิตมัน

"เห็นว่าอาจารย์แกอกหักอีกแล้วนินะ ก็ไม่แปลกหรอก นี่ก็รายที่สิบหก แล้วจะสะเทือนใจก็ไอ่แอก"หนุ่มหน้าหวานพูดไปเคี้ยวขนมปังไป ดวงตายังคงจับจ้องข้อมูลตรงหน้าโดยไม่กระพริบ ก่อนจะหลับตาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายและปิดภาพโฮโลแกรมลง "จากข้อมูลที่มีก็ดูเป็นเกมส์ทั่วๆไปนิ ดูแล้วไม่น่าจะยากอะไรอย่างที่นายบอกเลยนะ ถึงจะแปลกๆนิดหน่อยที่นอกจากระบบพื้นฐานของเกมส์จะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอื่นเลยก็เถอะ แน่ใจนะว่าเปิดมาสองปีแล้วริงๆ ไม่ใช่ว่าเพิ่งเปิดหรอกเหรอ ถ้าเพิ่งเปิดฉันก็ไม่เล่นหรอกเสียเวลา"

"เอ๊า ฉันเคยหลอกนายสักครั้งไหมล่ะ"ทิมดูจะโกรธที่โดนอีกฝ่ายดูถูกซึ่งในฐานะของฝ่ายข่าวแล้วถือเป็นอะไรที่ร้ายแรงมาก

"อ่ะๆๆ ฉันยอมเชื่อก็ได้ เอาเป็นเย็นนี้ฉันจะเข้าไปในเกมส์นั้นดู ตกลงตามนี้ล่ะกัน"เมื่อได้ยินคำตอบรับจากอีกฝ่าย ทิมก็กลับมายิ้มอีกครั้งก่อนที่จะวนไปบ่นเรื่องของอาจารย์เช่นเดิม...

"ฉันลืมตาขึ้นมาจากความทรงจำก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบหนังสือบนโต๊ะขึ้นมา หนังสือเล่มนั้นคือสมุดรวมภาพถ่ายของฉันกับแม่..."

"ให้ตายสิ...เหมือนโดนหลอกให้เสียเวลาเลยแหะ..."หลังจากเลิกเรียน เด็กหนุ่มก็ลากับทิมซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาในโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ โดยเส้นทางกลับบ้านของเขานั้นเต็มไปด้วยนักเรียนหญิงจำนวนมากซึ่งต่างเดินจับกลุ่มคุยกันเหมือนปกติ เหมือนกับเรื่องตลกโรงเรียนชายล้วนกับโรงเรียนหญิงล้วนนั้นตั้งอยู่ติดกันโดยมีเพียงรั้วไฟฟ้าแรงสูงเป็นเส้นแบ่งกั้น แต่คุณภาพของโรงเรียนแทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน อุปกรณ์ทางการศึกษา อาหาร หรือแม้แต่กระทั่งเครื่องแบบที่เนื้อผ้ายังคนละเกรด

เด็กหนุ่มเลี้ยวเข้าซอยแห่งหนึ่งและเดินลัดเลาะไปตามถนนแคบๆ เขารู้สึกแย่ทุกครั้งที่ต้องไปเดินปะปนอยู่ในกลุ่มนักเรียนหญิงพวกนั้น เสียงกระซิบกระซาบมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นเป้าหมายของการสนทนาของพวกเธอ เขาผุดออกมาจากถนนแคบๆและเข้าสู่เส้นทางของย่านการค้า ทุกๆสิ่งในตอนนี้มันดูย่ำแย่ไปหมด ถนนการค้านั้นมีเหลือเปิดอยู่เพียงไม่กี่ร้าน เพราะหลายๆร้านก็ถูกทางการย้ายไปขายในจุดอื่นซึ่งจำกัดเฉพาะเอาไว้ให้เพศหญิงเข้าไปทำการซื้อขายได้ อันที่จริงมันก็ยังไม่เลวร้ายเท่าไหร่นักเพราะถึงแม้เพศชายสำหรับประเทศนี้จะเป็นเพียงพลเมืองชั้นสองแต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ถึงกับกดขี่ใช้แรงงานทาส เพียงแต่ถูกจำกัดสิทธิหลายๆอย่างไป ตามคำกล่าวที่เป็นหัวใจของระบบการปกครองแบบนี้ซึ่งดำเนินใช้กันมาร่วมสีสิบปี นั่นคือ "สตรีและชายนั้นมีความเท่าเทียมกันทางสังคม"

เท่าเทียม...เท่าเทียม งั้นเหรอ ? เขาก็ไม่เข้าใจว่าพวกคนที่ปฏิวัตรล้มล้างระบบการปกครองเก่านั้นคิดยังไงถึงมองว่าเป็นความเท่าเทียม หลังจากการปฏิวัตรครั้งนั้นสิ้นสุดลง ชัยชนะนั้นเป็นของเพศหญิง พวกเธอได้จำกัดราชการนั้นมีไว้เฉพาะเพศหญิง รถโดยสารประจำทางต้องมีการแบ่งแยกเพศ ย่านค้าขายจำกัดทางเพศ โรงเรียนก็จำกัดเพศ ซึ่งแน่นอนว่าเพศหญิงย่อมจะได้รับการศึกษาที่ดีกว่าเพราะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศนี้ ส่วนเพศชายหากไม่มีความสามารถจริงๆงานที่มีรองรับก็มีแค่คนเก็บกวาดถนนไม่ก็แรงงานเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึงการแต่งงาน หลังจากกฏนี้เริ่มใช้ การแต่งงานเพราะใจรักมันก็ไม่มีอีกต่อไป เพราะใครจะอยากให้ลูกสาวตัวเองไปแต่งกับคนไร้ประโยชน์ จึงทำให้เกิดการแต่งงานแบบร่วมเพศมากขึ้น ยิ่งไม่ต้องนับเพศที่สามที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆเพราะเข้าหาเพศไหนก็ลำบาก เพศหญิงยุคใหม่ที่ถูกปลูกฝังความคิดมาก็รังเกียจเพศที่สามเพราะว่าเป็นแค่ผู้ชายแต่พยายามจะมาเทียบชั้นทำตัวเลียนแบบพวกตัวเอง ส่วนทางเพศชายก็รังเกียจเพราะทำตัวให้เพศเสื่อมเสีย จึงทำให้จากที่เคยเปิดเผยอิสระต้องอยู่อาศัยอย่างหลบๆซ่อนๆ เหมือนกับ ทิม เป็นต้น

เด็กหนุ่มแวะซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่ยังคงยึดมั่นจะอยู่เปิดที่เดิม ก่อนจะเดินไปตามถนนที่เงียบสงัดจนมาถึงบ้านพักแบบสองชั้นที่ดูเก่าๆ สถานที่แห่งนี้คือบ้านพักที่พ่อกับแม่ของเขาซึ่งทำงานอยู่ต่างประเทศเช่าให้เขาอยู่ตั้งแต่ช่วงขึ้นมัธยมปลาย อันที่จริงพ่อกับแม่เขาเองก็อยากย้ายเขาไปเรียนที่ต่างประเทศแต่ติดตรงที่ค่าใช้จ่ายมันสูงมากเกินกว่าที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายได้ และก็เป็นเขาเองด้วยที่ตัดสินใจจะอยู่ที่ประเทศนี้ต่อ เขาไม่อยากจะสร้างภาระให้กับทางครอบครัวมากนัก

กริ๊ง!...เสียงนั้นดังขึ้นจากเตาไม่โครเวฟ ดูเหมือนอาหารจะอุ่นกินได้แล้ว เด็กหนุ่มหยิบมันออกมาวางบนโต๊ะก่อนลงมือทานมัน พลางพลิกหน้ากระดาษของหนังสือทำขนมไปเรื่อยเปื่อย ความฝันของเขาคือการได้เป็นเจ้าของร้านขายขนม เหตุผลง่ายๆเพราะเขาอยากเห็นรอยยิ้มของคนที่ได้ทานขนมของเขา แต่เอาจริงๆประเด็นมันก็คือเขาชอบกินของหวานมันก็แค่นั้นแหละ

"ทำการบ้านเสร็จสักที...ให้ตายสิ...เหนื่อยชะมัดยาด"เด็กหนุ่มนอนแผ่ลองบนพื้นห้องจ้องมองหลอดไฟที่เพดาน ดวงตาสีอำพันจ้องมองหลอดไฟนั้นเหมือนจะตั้งคำถามทั้งๆที่รู้ดีว่ามันจะไม่มีคำอบใดๆดังออกมาจากอีกฝ่าย ก่อนที่หลังจากนั้นสักพักเขาจะดีดตัวขึ้นมาแล้วเดินไปอาบน้ำ เพื่อที่กลับมาเขาจะได้กลับเข้าไปในโลกที่เขาจะเป็นอิสระจากกรอบบ้าๆเหล่านี้ โลกของเกมส์ออนไลน์...

"ภาพถ่ายเหล่านี้เก่ามากแล้ว...ในยุคนี้เขาเลิกใช้กันหมดแล้ว จะไปใช้กันเป็นภาพเก็บใน การ์ด กันเสียหมด แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เคยมีความคิดจะเก็บ ความทรงจำเหล่านี้ลง การ์ด สักนิด..."

เด็กหนุ่มกลับออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดสีขาว เขาเดินไปที่เตียงซึ่งมีสึ่งที่คล้ายๆจะเป็นหมวกสีเงินวางอยู่ที่หัวนอน ก่อนจะเสียบการ์ดลงไป กระจกที่หน้าจอมีแสงสีต่างๆวิ่งผ่านไปมันกำลังทำการประมวลผลและสแกนหาข้อมูลที่ป้อนลงไป ก่อนที่มันจะดับลงแสดงผลถึงการค้นหาที่เสร็จสิ้น

เด็กหนุ่มทิ้งตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะหยิบ Gear ขึ้นมาสวมและหลับตาลง ภาพทุกอย่างดับวูบลงเหมือนโดนปิดสวิตซ์ ก่อนที่จะระเบิดแตกออกกลายเป็นแสงสีขาวและตามหลายด้วยสีต่างๆมากมาย พร้อมกับข้อความที่ขึ้นโชว์เด่นว่า "ยินดีต้อนรับสู่ Online"