[ยินดีต้อนรับกลับค่ะ คุณแบล็ค เฟเธอร์...] เสียงของระบบดังขึ้นพร้อมๆกับภาพที่เริ่มปรากฏให้เห็นในดวงตา มันเป็นความมืดและผิวอันแห้งหยาบของหิน เด็กหนุ่มกลับเข้ามาสู่ Online อีกครั้ง แบล็คลุกขึ้นมานั่งพลางเอามือจับหัวที่กำลังมึนงงเพราะว่าผลจากการนอนนานเกินไป หลังจากตั้งสติได้เขาก็ค่อยๆชะโงกหน้าออกมาจากซอกหินเพื่อดูว่าจ้าวมังกรนั้นเกิดรึยัง เหลือแค่กำจัดอีกแค่ครั้งเดียวระดับของเขาก็จะได้ 170 แล้วจะได้หนีให้พ้นจากเรื่องน่าเบื่อแบบนี้สักที
จ้าวมังกรนั้นตอนนี้กำลังเข้าสู่นิทราอย่างสงบสุข ร่างอันใหญ่โตของมันราบไปกับพื้น ลมหายใจของมันดังอย่างเป็นจังหวะ เด็กหนุ่มค่อยย่องออกมาจากซอกหิน เขาไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป การสังหารตอนหลับนั้นจะได้ค่าโบนัสการโจมตีขึ้นถึง 300% ซึ่งหมายความว่าสามารถสังหารได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
[ผู้เล่นแบล็ค เฟเธอร์ ระดับลดลงถึง 170]
"สำเร็จ!!"เด็กหนุ่มโห่ร้องอย่างดีใจ ในที่สุดระดับของเขาก็มาถึงจุดๆนี้สักที เด็กหนุ่มที่กำลังเริงร่าวิ่งออกจากรังจ้าวมังกรและไล่ฆ่าทุกสิ่งที่ขวางทางจนเกลี้ยง เสียงคำรามร้องเหล่ามังกรดังโหยหวนไปทั่วหุบเขา ทำให้เหล่าผู้เล่นที่กำลังเก็บระดับกันอย่างมีความสุขถึงกับพากันตกใจมองไปทางที่เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น
สามชั่วโมงผ่านไปว่องไวเหมือนโกหก...ระดับของเด็กหนุ่มตอนนี้มาอยู่ที่ 150 ในที่สุด ไม่ต้องถามถึงสภาพที่เกิดขึ้นกับตัวเขา ชุดเกราะจักพรรดิมืดตอนนี้กลายเป็นซากชุดเกราะที่แตกหักและเสียหาย ส่วนสภาพของดาบแว่วเสียงสังหารนั้นดูย่ำแย่ยิ่งกว่าเพราะตอนนี้มันหักครึ่งและพลังโจมตีเหลือเพียงแค่ 1 แถมใช้ทักษะประจำตัวของดาบไม่ได้อีกแล้ว
แบล็คเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกคนที่เขาเจอเมื่อวานถึงใช้คทาแทนอาวุธ เพราะว่าอาวุธที่มันมีดร็อปจากมังกรก็มีแค่คทาอย่างเดียว อีกอย่างราคาของอาวุธที่ขายในเมืองนั้นก็แพงจนหูฉี่
*ค่าเงินในเกมส์นี้ใช้หน่วยเป็น เดล ซึ่งได้มาจากการทำเควสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น (ไอเทมในเกมส์นี้ขายไม่ได้ราคา มีไว้เพื่อการสะสมวัตถุดิบเพื่อสร้างไอเทม)ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่าคนไม่ทำงานไม่สมควรมีกิน
ในเมืองเริ่มต้นนั้นสภาพเมืองขอเรียกย่อๆว่า สลัม ดีๆนี่เอง เมืองนั้นสภาพโทรมมาก ตึกต่างๆนั้นถูกสร้างจากไม้และสังกะสี ผู้คนในเมืองนั้นมีประปราย ต่างคนต่างอยากจะรีบออกไปจากสถานที่ที่ดูมืดหม่นแบบนี้ให้เร็วที่สุด แน่นอนว่ารวมไปถึงตัวเขาเองด้วย เด็กหนุ่มเดินมาที่ตึกสำนักงานซึ่งตั้งอยู่กลางจตุรัสเมือง ตึกสำนักงานนั้นสภาพเหมือนเอากล่องไม้ความกว้างขนาด 5x5 เมตรมาเรียงต่อกันเป็นชั้นๆสีชั้น ป้ายสำนักงานนั้นสภาพดูจะพังไม่พังแหล่ ดูแล้วชวนหดหู่ใจเป็นที่สุด
"สวัสดีครับ"แบล็คเปิดประตูเข้ามาข้างในอย่างระวังที่สุด เพราะหากออกแรงมากประตูคงจะล้มตึงไปนอนกับพื้นเป็นแน่ และความประทับใจอย่างที่สองก็มาถึง นั่นคือประชาสัมพันธ์ของที่เคาเตอร์ปกตินั้นจะเป็น NPC สาวสวยน่าตาน่ารัก ยิ้มรอบริการ แต่นี่กลับกลายเป็นคุณยายวัยเกือบ 80 ในชุดคอกระเช้ากำลังนั่งเคี้ยวหมาก ไม่ว่าเปล่าหูตายังฟ้าฟางสมกับอายุกว่าจะติดต่ออะไรกันรู้เรื่องใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ความประทับใจอย่างต่อไปคือที่นี่ไม่มีลิฟต์ดังนั้นเลยต้องเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสี่เพื่อเปลี่ยนอาชีพแล้วเป็นการออกกำลังกายไปในตัว อย่างสุดท้ายที่ประทับใจเป็นที่สุดคือคิวของคนที่มาต่อแถวรอเปลี่ยนอาชีพนั้นยาวมากเรียกว่าต้องมาตันทางรอตั้งแต่ยังไม่ทันจะเดินขึ้นถึงชั้นสามเสียเวลารอไปอีกเกือบชั่วโมงกว่าจึงจะมาถึงคิวของเขาสักที ซึ่งเหมือนอะไรมันจะลงตัวไปหมดเพราะเขาคือคนสุดท้ายพอดิบพอดี
นับได้ว่าเป็นความกรุณาอย่างนึงที่อย่างน้อยเจ้าหน้าที่ประจำจุดเปลี่ยนอาชีพก็เป็นผู้หญิงวัยประมาณ 20 ต้นๆซึ่งจัดว่าหน้าตาสวยพอสมควร เธอนั้นมีผมสีน้ำตาลเป็นลอน ดวงตาสีดำสนิทเหมือนลูกปัดจ้องมองมาที่เด็กหนุ่มอย่างพิจารณา พอมองรูปทรงของหญิงสาวตรงหน้าที่ดูหลุดมาจากนางแบบสุดเซ็กซี่แล้วมันรู้สึกเจ็บแปล็บๆข้างในอย่างบอกไม่ถูก
"สวัสดีครับ ผมจะมาเปลี่ยนอาชีพครับ"แบล็คเป็นฝ่ายเริ่มเปิดฉากทักทายก่อน หญิงสาวพยักหน้าอย่างรับรู้เธอนั่งไขว้ขาเปลี่ยนไปอีกด้านพลางหมุนปากกาในมือเล่น
"เธอสินะที่ได้ฉายางี่เง่านั่นไปน่ะ"หญิงสาวมองมาที่เขาอย่างนิ่งเรียบ ดวงตาสีดำสนิทนั้นพอโดนมองจ้องตรงๆแล้วรู้สึกหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก ในระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังอ้ำๆอึ้งๆก็กลับกลายเป็นฝ่ายหญิงสาวที่หลุดหัวเราะออกมาเสียก่อน ทำลายบรรยากาศตึงเครียดไปซะหมด "ล้อเล่นหรอกน่า ล้อเล่น เธอนี่ตลกดีนะ"
"ฮะๆๆ....อย่างนั้นเหรอครับ..."แบล็คหัวเราะแห้งๆ ในใจนั้นอยากจะรีบไปจากที่นี่ให้ไวที่สุดตอนนี้เขาชักรู้สึกปวดหัวขึ้นมานิดๆ รู้สึกใกล้แถวนี้จะมีร้านขายยาอยู่ บางทีเขาน่าจะไปหาซื้อยาแก้ปวดหัวมากินได้
"เอ๊า เข้ามานี่สิ จะมาเปลี่ยนอาชีพไม่ใช่เหรอ ?"หญิงสาวส่งเสียงเรียกเรียกสติของเด็กหนุ่มให้กลับมาอีกครั้ง แบล็ครีบเดินตามเธอไปข้างในห้อง ซึ่งพอเดินผ่านพ้นประตูเข้ามาความประทับใจอย่างสุดท้ายก็ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับทำหน้าเหวอ
สิ่งมีชีวิตที่เขาเคยเห็นในการ์ตูนสายมืด ตัวใหญ่คับห้อง ดวงตาสีแดงก่ำที่มีเพียงดวงเดียวของมันกลอกไปมาเหมือนสอดส่องไปทั่ว ตรงฐานของมันนั้นมีสิ่งที่ลักษณะคล้ายที่นอนทรงไข่ตั้งตระหง่านอยู่อันหนึ่ง ข้างๆนั้นมีเเผงวงจรควบคุมอะไรสักอย่าง บางทีเขาน่าจะเข้ามาผิดห้อง...เด็กหนุ่มคิดแบบนั้นจึงค่อยๆก้าวถอยหลังไปในระหว่างที่หญิงสาวตรงหน้าอธิบายสรรพคุณของเจ้าสิ่งมีชีวิตสยองตัวนั้นให้ฟัง แต่เหมือนมันจะช้าไปเพราะจู่ๆประตูด้านหลังมันก็ปิดอัดหน้าเขาทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับล้มหงายหลัง เรียกเสียงหัวเราะที่แหลมสูงจากหญิงสาวด้านหลังได้เป็นอย่างดี
"คิดจะหนีตอนที่ ผู้หญิงกำลังพูดอยู่เธอนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ แบล็ค เฟเธอร์..."หญิงสาวเดินตรงเข้ามาหาเขา โดยมีฉากด้านหลังเป็นระยางอะไรสักอย่างที่กำลังขยับตัวเข้ามาหา แบล็คถอยหลังจนไปชิดกำแพง เหมือนเห็นภาพซ้อนจู่ๆภาพของเด็กสาวผมทองก็เหมือนจะมาปรากฏแทนที่หญิงสาวตรงหน้า ดวงตาสีแดงดั่งเลือดที่จ้องมองมาที่เขาอย่างหิวกระหาย เธอเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าพร้อมเสียงหัวเราะที่สั่นประสาท ในจังหวะที่เด็กหนุ่มเลือกที่จะหนีทั้งแขนขาของเขาก็ถูกระยางสีชมพูแหยะๆรัดล็อคการเคลื่อนไหว
"ยะ อย่าเข้ามา!!!"แบล็คร้องอย่างหวาดหวั่น แต่ไม่อาจหยุดการเคลื่อนไหวของคนตรงหน้าได้ เธอคุกเข่าแล้วคลานเข้ามาหา ใช้มือบางๆนั้นลูบไล้ไปตามแก้มที่ซีดเผือกของเขา ดวงตาสีแดงเปล่งประกายอำมหิต เธอค่อยๆเผยอปากขึ้นเหมือนจะกล่าวเอ่ยในบางคำ แต่นั้นเหมือนเป็นดั่งกรรไกรที่ตัดประสาทเส้นสุดท้ายของเด็กหนุ่มจนขาดสะบั้น
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!"
โป๊ก!!!
"ถ้าคิดจะลวนลามกันช่วยรอตอนกลางคืนได้ไหมเนี่ย ปิโยะจัง"เสียงของเด็กสาวที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น เรียกให้หนังตาที่ปิดสนิทต้องค่อยๆขยับลืมตาขึ้นอย่างอ่อยอื่ง แสงสว่างจากภายนอกทำให้ดวงตาต้องกลับลงไปปิดอีกครั้ง เด็กหนุ่มใช้เวลาสักพักในกลางพยายามปรับแสงสว่างภายนอกให้เข้าที่ ก่อนที่ภาพของเจ้าของเสียงจะมาปรากฏให้เห็นได้เด่นชัด
"ให้ตายสิครับ...คุณฟรอ งัดเข้ามาห้องผมอีกแล้วเหรอครับ..."แบล็คเอี้ยวตัวไปอีกด้าน ทำเอาเด็กสาวที่นั่งคร่อมอยู่ถึงกับเสียหลักร้องเหวอและกลิ้งตกเตียงไป ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งทำแก้มป่องหน้ามุ่ยใส่ ระดมหมัดรัวๆทำเอาเด็กหนุ่มนอนไม่ได้ในที่สุด "โอ๊ยๆๆๆ ตื่นก็ได้ครับ ตื่นก็ได้เลิกทุบผมสักที!!"
"หึ!! ดีมากที่ยอมแพ้แต่โดยดี"ฟรอเซ็นลุกขึ้นยืนพลางเชิดหน้าอย่างมีชัย ก่อนจะลั้นล๊าวิ่งร้องเพลงออกไปจากห้อง เด็กหนุ่มลุกขึ้นมานั่งในสภาพงัวเงียพลางขยี้ผมอย่างหงุดหงิด...ทำไมจู่ๆถึงได้ฝันเห็นหน้ายัยปีศาจนั่นนะ
"อรุณสวัสดิ์ แบล็คคุง"เคทยิ้มทักระหว่างที่กำลังนั่งหวีผมให้กับฟรอที่ยิ้มอย่างมีความสุข แบล็คทำเพียงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหาวฟอดใหญ่ เขารู้สึกตัวเองนั้นนอนไมพอเลยสักนิด เมื่อวานทั้งวันหลังจากไปเจอบอสสไลม์ก็ได้แต่พากันวิ่งหนีตายออกมา หนำซ้ำคุณเอ็ดยังไปเดินเหยียบกับดักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดยกคณะโชคดีที่หุ่นยนต์ของคุณไมออกมาช่วยดึงขึ้นไปได้ทันกาล ไม่งั้นพวกเขาคงไม่เหลือชีวิตมานั่งชิวกันแบบนี้แน่
"คนอื่นๆไปไหนกันล่ะครับ"แบล็คที่เริ่มจูนเครื่องได้เอ่ยถาม ในชั้นล่างของโรมแรมนอกจากพวกเขาสามคน NPC เจ้าของร้าน ก็ไม่เห็นใครเลย
"คนอื่นเขาออกไปรับเควสกันน่ะ เงินในคลังของพวกเราจะหมดแล้วนินะ ช่วยไม่ได้หรอก"เคทพูดยิ้มๆพลางหวีผมให้ฟรอเซ็นต่อไป "ยังไงในเมื่อนายก็ตื่นแล้วก็ออกไปหางานทำซะ ไม่ได้งานสักงานเย็นนี้ก็ไม่ต้องกินข้าว!!!"
"เฮ้อ...สามเดือนก่อนเป็นแบบไหนสามเดือนหลังก็เหมือนเดิม"แบล็คเอ่ยบ่นกับตัวเองอย่างหดหู่ ระหว่างเดินมาที่อาคารสำนักงานในเมืองผู้เริ่มต้นที่จนบัดนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่ามันมีชื่อเมืองว่าอะไร สาเหตุที่ผู้เล่นระดับต้นของเกมส์อย่างพวกเขาต้องมาอาศัยกันอยู่ที่เมืองเริ่มต้นนั้นสาเหตุมันก็มีแค่อย่างเดียวคือ ไม่มีเงินเช่าที่ๆดีกว่านี้อยู่...ซึ่งมันเป็นความจริงที่น่าเศร้ามาก (ระดับเฉลี่ยของผู้เล่นตอนนี้อยู่ที่ 100 ส่วนผู้เล่นที่ระดับต่ำกว่า 90 นั้นมีกันไม่ถึง 80 คน จากจำนวนประชากรที่มีทั้งหมด 3768 คน)
"เกมส์โอเวอร์ไปอีกสิบหกคนสินะวันนี้..."เด็กหนุ่มมองรายชื่อผู้เล่นที่เกมส์โอเวอร์ไปแล้วซึ่งแปะป้ายประกาศเอาไว้ที่บอร์ดตรงหน้าอาคารสำนักงานเหมือนจะประจานในความไร้สามารถของผู้เล่น จำนวนผู้เล่นที่เกมส์โอเวอร์ในตอนนี้นั้นมีทั้งหมด 1816 คน ซึ่งนับได้ว่าเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เล่นทั้งหมดที่มีในเกมส์นี้ เด็กหนุ่มละสายตาจากบอร์ดรายชื่อผู้เล่นที่เกมส์โอเวอร์แล้วเลื่อนสายตาไปมองยังอีกบอร์ดนึงซึ่งเป็นแผนที่ของเกมส์
โลกของ Online นั้นมีหนึ่งทวีปใหญ่มีชื่อว่า เกียอา แบ่งออกเป็น 4 อาณาจักรใหญ่ ยูเรเซีย อาร์กติก อเมริก และ ฮาฟเว่น โดยแต่ละอาณาจักรนั้นจะมีเมืองย่อยอีกคนละสี่หัวเมือง และแต่ละหัวเมืองจะมีมณฑลอีกหัวเมืองละ 8 มณฑล โดยเมืองผู้เล่นใหม่นั้นตั้งอยู่ในมณฑลที่ 1 ของหัวเมืองอีเดน อาณาจักรฮาฟเว่น ซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดของทวีป
การจะเดินทางข้ามไปแต่ละเมืองนั้นเกมส์นี้นั้นมีความลำบากมากเพราะว่าไม่มีไอเทมจำพวกวาร์ปให้ได้ใช้กัน จะมีก็แต่ยานพาหนะของเกมส์ที่ช้าพอๆกับเต่า และพาหนะที่สร้างกันเองโดยผู้เล่นคลาสนักประดิษฐุ์และช่างเครื่องกล
แสงสว่างที่หน้าจอนั้นกระพริบอย่างถี่ยิบที่จุดมณฑลที่ 2 ของหัวเมือง แอสการ์ด ในอาณาจักร อาร์กติก แสดงให้เห็นว่าที่มณฑลนั้นกำลังเกิดการสู้รบกันระหว่าง ฝ่ายมาร (Dark) และ ฝ่ายสวรรค์ (Light) ซึ่งดูเหมือนมันจะเป็นเนื้อเรื่องหลักทั้งหมดของเกมส์ๆนี้
เด็กหนุ่มละสายตาจากบอร์ดที่ตอนนี้ไฟนั้นได้ดับวูบ แสงสว่างตรงหัวเมืองนั้นหายไปและถูกแทนที่ด้วยสีดำบ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ของเหล่าสวรรค์ ตั้งแต่เหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ดำเนินมาได้ 1 เดือน กองทัพจาก ยูเรเซีย ก็ทำการรุกไล่เข้ามาตลอดโดยที่ฝ่ายผู้เล่นเองไม่สามารถทำอะรได้เลยเนื่องจากความต่างชั้นโดยสิ้นเชิงของระดับ เขาเองก็เคยเข้าไปร่วมรบในสงครามครั้งหนึ่ง ที่ สงครามใหญ่เมืองหลวงของอเมริก เมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งพอได้เห็นถึงความโหดร้ายของสิ่งที่เรียกว่าสงครามแล้วเขาก็ได้รู้เลยว่าความแข็งแกร่งจากประสบการณ์ Single Player ไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าการที่ทำทำให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
ผู้เล่นที่เสียชีวิตนั้นจะถูกแปลงสภาพกลายเป็น NPC ของฝ่ายมาร อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ตายแล้วไม่หายไปเลยอย่างในเกมส์ๆหนึ่งที่เป็นต้นเหตุที่เกือบทำให้เกมส์แนวโลกเสมือนจริงต้องถึงกาลอวสาน แต่ทว่ามันก็แค่นั้นเพราะหากมัวแต่ยืดยาดตัวในโลกจริงนั้นก็คงจะได้พิการก่อนแน่เพราะมัวแต่นอนนานเกิน นับตั้งแต่เกิดเรื่องที่ผู้เล่น Log out ไม่ได้ทางบริษัทผู้ผลิต Gear ก็มีการพัฒนาให้ระบบนั้นสามารถเชื่อมต่อไปถึงระบบติดต่อความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีหากผู้เล่นไม่ Log out เกิน 20 ชั่วโมง ที่จนถึงป่านนี้เขายังไม่ตายนั่นก็แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยระบบนั่นมันก็ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในที่สุดเขาก็เดินขึ้นมาถึงชั้นสามของอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นโซนของจุดรับเควส เจ้าหน้าที่ประจำจุดนี้ก็เป็นคนๆเดียวกับที่ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่เปลี่ยนอาชีพนั่นเอง หญิงสาวผู้มีดวงตาเหมือนลูกปัดแย้มยิ้มทักทายเมื่อเห็นคนที่คุ้นหน้าเดินเข้าประตูมา
"สวัสดีจ๊ะ แบล็ค เฟเธอร์ ยังไม่ตายอีกเหรอนายน่ะ"
"ถ้าผมตาย คุณคงไม่เห็นผมมายืนบ้าอยู่ตรงนี้หรอกครับ"แบล็คตบมุกไปตามความเคยชิน บทสนทนาของทั้งสองเป็นไปเหมือนอย่างปกติ หญิงสาวเจ้าหน้าที่นั้นเธอชื่อ Limbo เป็นหนึ่งใน Game Master ของเกมส์ๆนี้ แต่เธอนั้นเป็นผู้ออกแบบเควสและคลาสของเกมส์ซึ่งไม่ใช่ผู้ดูแลระบบหลัก ในตอนนี้เธอนั้นก็เลยต้องติดแหงกอยู่ที่นี่เช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่นๆ ส่วนสาเหตุที่เขารู้นั้นมันก็เพราะเรื่องอะไรนิดหน่อยที่เกิดขึ้น
"มารับเควสหรือไงจ๊ะ"ถึงเธอจะไมสามารถออกจากเกมส์ได้ แต่เธอก็ยังสามารถใช้คำสั่งของ GM ได้ตามปกติ ซึ่งนับว่ายังโชคดีเพราะไม่เช่นนั้นผู้เล่นคงจะไม่มีเงินใช้อย่างแน่นอน "ไหนดูซิ ว่าวันนี้มีงานอะไรเหลือให้เธอทำบ้าง.....อืม...."
เด็กหนุ่มดึงเก้าอี้ลงมานั่งรออย่างใจเย็น เขาต้องให้เวลาคนตรงหน้าคิดเควสขึ้นมาสักพัก เพราะตอนที่เกิดเหตุการณ์ตัวเกมส์นั้นก็ยังไม่ได้สเถียรอะไรนักหนา ระบบเควสเองก็เป็นหนึ่งในนั้นทำให้เมื่อเควสที่ระบบมีอยู่ในฐานเดิมหมดไปจึงไม่มีเควสเสริมมาสำรองรับ อันที่จริงตอนช่วงที่เขาเข้ามาในเกมส์นั้นตัวเกมส์ยังนับได้ว่าเป็นช่วง Close Beta (ช่วงทดสอบเทสระบบเกมส์) อยู่เสียด้วยซ้ำ
"เอาล่ะได้แล้ว..."Limbo พูดขึ้นหลังจากนึกเควสขึ้นมาได้ ก่อนที่ในมือของเธอจะปรากฏกระดาษขึ้นมาหนึ่งม้วน "ตอนนี้น่ะนะ ฉันอยากได้น้ำผลไม้สีรุ้งสักขวดหนึ่ง เธอช่วยไปเอามาให้ฉันได้ไหม"
"น้ำผลไม้สีรุ้ง ?"แบล็คเอ่ยทวนอย่างสงสัย เขาไม่เคยได้ยินชื่อไอเทมนี้มาก่อนเลย อย่างน้อยเขาก็แน่ใจแบบนั้นในฐานะของผู้คิดค้นสูตรอาหารกว่าครึ่งที่มีใช้กันในเกมส์ตอนนี้
"มันเป็นไอเทมที่เพิ่งมีปรากฏมาในลิสต์น่ะ ดูเหมือนจะมาจากการอัพเดตแพท....ล่ะมั๊ง ?"Limbo เองก็ดูจะสับสนเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้โวยวายอะไรออกมาเหมือนในตอนแรกๆที่เเบล็ครู้จักกับเธอ เหมือนเธอนั้นจะเริ่มปลงได้แล้ว เขาเองก็เช่นกัน...
ไอคนที่มีปัญญาอัพเดตแพทใส่นั่นนี่เข้ามาในเกมส์ทำไมถึงไม่มีปัญญาจะแก้เอาปุ่ม Log out กลับมาให้ผู้เล่นออกไปได้กันล่ะ...
"ส่วนที่อยู่ของไอเทมนั่นก็อยู่ที่นี่ล่ะ"
"ตรงนี้มัน!!!!"แบล็คทำหน้าเหวอเมื่อเห็นจุดพิกัดของไอเทม
"ใช่แล้วล่ะ ที่อยู่ของ น้ำผลไม้สีรุ้ง คือรังจ้าวมังกร ผลตอบแทนงานนี้คือ 50000 เดล ยังไงก็ฝากด้วยนะ หนึ่งในใต้หล้า"Limbo หัวเราะคิกคัก แต่ก่อนที่แบล็คจะเดินออกไปเธอก็พูดขึ้นมาอีกอย่าง "อ่ะๆ ใช่แล้ว เควสนี้ต้องทำอย่างน้อยสามคนนะจ๊ะ อิอิ"
"ไม่เอา!!!"เสียงร้องโวยวายของฟรอเซ็นดังขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องราวจากเด็กหนุ่มที่กลับมาที่โรงแรมก่อน
"แต่เควสมันจำกัดสามคนนะครับ ถ้าคุณฟรอ ไม่ยอมช่วยแล้วผมจะหาใครอีกคนล่ะครับ!!!"แบล็คยังคงพยายามชักจูงต่อไป แต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธลูกเดียวเพราะไม่อยากติดฉายา หนึ่งในใต้หล้าแบบแบล็ค
"น่านะ ฟรอจัง ตอนนี้เราต้องการเงินมากเลยนะ ช่วยๆกันหน่อยก็แล้วกันนะ"เคทเข้ามาช่วยพูดอีกคน จนทำให้ฟรอเซ็นเริ่มเปลี่ยนใจเล็กๆ เพราะประเด็นของเรื่องมันคือ ถ้าไม่มีเงิน = ไม่มีอาหาร
"ก็ได้ค่ะ..."ฟรอเซ็นถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่ถ้าพวกผู้ชายคนอื่นยังอยู่ก็คงจะดีกว่านี้เยอะ จะได้มีตัวตายแทนพวกเธอสองคน
"ฮะๆ..."แบล็คได้แต่หัวเราะแห้งๆ อันที่จริงเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากจะเอาภาระมาให้ทั้งสองคนหรอก แต่ทำยังไงได้ เพราะ คุณอมาร็อค กับ คุณไมดัส ตอนนี้อยู่อีกเมืองซึ่งไกลจากที่นี่จนเป็นฝ่ายแบล็คเองที่บอกปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนทั้งสอง ส่วนอีกคนในลายชื่อลิสต์เป็นไปได้เขาแทบอยากจะลบทิ้งไปเลยด้วยซ้ำ ติดตรงที่ว่าเกมส์นี้มันไม่มีแม้กระทั่งช่องแบล็คลิสต์ชื่อเพื่อนเสียด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างว่าที่เขาพูดๆกัน ว่ายิ่งพูดถึงผี ผีก็ยิ่งมา
"ยังไงให้ฉันช่วยไหมเคท"เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูโรงแรม ทันทีที่เคทกับฟรอเห็นอีกฝ่ายก็พากันหยิบอาวุธขึ้นมาอย่างระวังตัวทันที
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เซ็ท!!"เคทเอ่ยเสียงเย็นเฉียบ หัวคทานั้นส่องแสงสว่างวาบแบบเตรียมปล่อยมนต์ที่ร่ายอยู่แทบจะในทันทีที่อีกฝ่ายขยับตัว เซ็ทยกมือทั้งสองขึ้นเหนือหัวแบบยอมแพ้พลางหัวเราะเบาๆ
"ใจเย็นน่า...ตอนนี้พวกเราก็อยู่ในเรือลำเดียวกันแท้ๆจะมาตีกันเองทำไมล่ะ"เซ็ทนั้นเป็นชายร่างสมส่วนวัยประมาณ 25 สูงเกือบ 185 มีช่วงขาที่ยาวกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ดวงตาสีเทาซีดที่ดูเจ้าเล่ห์ถูกซ่อนเอาไว้ใต้เส้นผมสีดอกเลาที่ยาวจนแทบจะปิดหน้า หนวดเครานั้นคือเป็นหย่อมๆดูๆไปแล้วเหมือนพวกพนักงานบริษัทที่กำลังตกงานแล้วหางานทำยังไม่ได้เลยกลายเป็นนีทขังตัวเองไปวันเสียมากกว่า แต่คนที่เคยสู้กับคนตรงหน้านั้นรู้เลยว่าการมองคนแค่ภายนอกจะนำพาหายนะมาสู่ตัว
"เรือลำเดียวกันพูดมาได้ ครั้งนั้นกลุ่มของพวกนายเล่นเอาซะพวกเราเกือบตาย จำไม่ได้หรือไง!!"ฟรอเซ็ทตวาดลั่น ดวงตาสีทับทิมจ้องมองคนตรงหน้าอย่างโกรธจัด แต่ก็ได้แค่แปปเดียวเพราะทันทีที่เห็นคนอีกคนซึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของเซ็ทเด็กสาวร่างเล็กก็รีบวิ่งไปหลบหลังแบล็คทันทีเพราะความกลัว ซึ่งแบล็คเองใจจริงก็อยากจะหาที่หลบเหมือนกันแต่ติดตรงที่มันทำไม่ได้
"ไม่เห็นต้องกลัวผมขนาดนั้นเลยครับ คุณฟรอ"เสียงที่เนิบนาบดูสบายๆนั้นดังขึ้นจากร่างของชายหนุ่มซึ่งอายุประมาณแบล็คซึ่งตัวสูงพอกับเด็กหนุ่ม เส้นผมสีทองที่ยาวสลวยถูกมัดเป็นหางม้าไปด้านหลัง ดวงตาสีเลือดที่ดูเป็นมิตรจ้องมองมาที่กลุ่มของเคทพร้อมหัวเราะเบาๆ
"สวัสดี เฟธ"เคททำเสียงแบบไม่เต็มใจจะทักทายสักเท่าไหร่ ในกลุ่มคนของเซ็ทนั้น เฟธ เป็นคนๆเดียวที่เธอไม่สามารถคาดการณ์อารมณ์ได้เลย เพราะแปรปรวณหนักยิ่งกว่าเซ็ทเสียอีก หากไม่นับเซ็ทที่ชอบทำอะไรตามใจ ก็มีเฟธอีกคนเนี่ยล่ะที่เธอระแวงมากที่สุด
"นับว่าเป็นเกียรติของผมแล้วครับที่ จอมเวทย์ห้องสมุด ยังจำชื่อของผมได้"เฟธยิ้มรับพลางเอามือทาบอกแล้วโค้งตัวให้เล็กน้อย ส่วนเคททำเพียงแค่แค่นเสียงเบาๆ
"เราไม่ต้องการความช่วยเหลือของพวกนายหรอก เควสเราคนเต็มแล้ว"เคทปฏิเสธอย่างไร้เยื่อไย คทาเวทย์ในมือนั้นยังคงส่องแสงอยู่ หญิงสาวผู้สวมแว่นเดินมาบังคนทั้งสองเอาไว้ ในฐานะผู้นำกลุ่มเธอต้องปกป้องลูกทีมเอาไว้ให้ได้
"เฮ้ๆๆๆๆ หยุดทะเลาะกันก่อน แล้วมาจับมือกันดีกว่าน่า"จู่ๆเซ็ทก็มาปรากฏตัวตรงหน้าหญิงสาวทำให้เคทตกใจปล่อยเวทย์ที่ร่ายอยู่ใส่ กระแทกร่างของเซ็ทจนปลิวทะลุออกไปจากโรงแรมและหายลับไปในพงไม้ที่ริมกำแพงเมือง
"เป็นการจู่โจมที่สวยงามมากครับ"เฟธไม่เพียงไม่ไปดูแถมยังยกมือป้องแสงดูเซ็ทหายลับไปเสียดื้อๆ ทำเอาลูกน้องในทีมเซ็ทพากันสับสนว่าควรจะทำยังไงดี ก่อนที่ในที่สุดจะตัดสินใจช่างหัวหัวหน้าทีมไป แล้วยืนคุมสถานการณ์ต่อไปแบบนี้ยังจะดีกว่า เพราะเซ็ทนั้นขึ้นชื่อเรื่องความอึดและถึกยิ่งกว่าปีเตอร์เสียอีกโดนไปแค่นั้นยังไงก็ไม่ตายแน่นอน
"ฟรอเซ็น เตรียมพาแบล็คหนีออกไปเลยนะ"เคทกระซิบ
"ไม่ไหวหรอกค่ะ..."ฟรอเซ็นร้องเสียงเบา เธอยังกลัวเฟธไม่หายหลังจากการต่อสู้ครั้งก่อน
"ให้ตายสิ เจ้าพวกบ้านั่นเมื่อไหร่จะกลับกันมาล่ะเนี่ย..!!"เคทกัดฟันกรอดแล้วถอยหลังไปเรื่อยๆเมื่อเจอกลุ่มคนที่มากกว่ากดดันเข้ามาจากทางด้านหน้า
เฟี๊ยวว!!!!
เสียงกระสุนที่แหวกผ่านอากาศดังขึ้น ก่อนที่จะปะทะเข้ากับกระจกแก้วที่ปกคลุมตัวของเฟธเอาไว้ หลังจากจู่ๆใต้เท้าของเฟธก็สั่นสะเทือนและเสียงของเครื่องกลก็ดังกระหึ่ม ก่อนที่จักรกลรูปร่างคล้ายหนอนยักษ์จะปรากฏแล้วเขมือบชายหนุ่มเข้าไป เมื่อจู่ๆเฟธก็โดนกินหายเข้าไป ก็ทำให้กลุ่มลูกน้องพากันตกใจ แต่ไม่ทันไรก็โดนลูกเตะฟาดเข้าที่ก้านคอสลบเหมือดลงไปจนหมด คนที่ยืนเด่นอยู่กลางวงนั้นคือชายวัยกลางคนในชุดพนักงานบริษัทที่กำลังยกขวดเบียร์ดื่ม
"ขอโทษนะ มาช้าไปหน่อยรึเปล่า"เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นหลังจากถอนปากออกจากขวดเบียร์
เปรี้ยง!!!
เสียงสายฟ้าเส้นนึงวาดผ่านเฉี่ยวแก้มของเอ็ดเวิร์ดไปทำเอาเขารับรู้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมา แต่ก่อนที่เขาจะได้โวยวายใส่ ก็เหลือบเห็นว่าที่แท้ก็มีผู้เล่นทีมเซ็ทที่ยังไม่สลบง้างอาวุธเตรียมฟันเขาอยู่
"ไม่ต้องขอบคุณหรอกนะ"เคทพูดขำๆ
"จับตัวได้ล่ะ!!!"เสียงของผู้เล่นทีมเซ็ทดังขึ้นจากด้านหลังของเคท ทำเอาเคทกับฟรอพากันตกใจ เพราะสัมผัสถึงตัวอีกฝ่ายไม่ได้เลย ตอนนี้แบล็คนั้นถูกจับตัวไปได้แล้ว
"หลักสูตรตรีโกณฉบับย่อส่วน!!!"เสียงร่ายมนต์ดังขึ้นจากชั้นสาม ก่อนที่ผู้เล่นของทีมเซ็ทที่จับตัวแบล็คไว้ ต้องเอามือมากุมหัวอย่างเจ็บปวดและสลบลงไปเป็นคนสุดท้าย
"ขอโทษฮะ ที่มาช้าไปหน่อย"โอทาเกะพูดอย่างรู้สึกผิด หลังจากทิ้งตัวลงมาที่พื้นโดยใช้เวทย์มนต์เป็นตัวชะลอความเร็วและแรงปะทะก่อนสัมผัสพื้น
"จะตายไหมนั่น"ไมกับเคียวยะที่มาเสริมทีหลังถามขึ้นหลังจากเข้ามารวมกลุ่ม ขณะที่ดวงตานั้นมองดูหนอนจักรกลที่ยังคงพยายามย่อยสิ่งที่อยู่ข้างใน
"น่าจะไม่ พวกเรารีบหนีก่อนดีกว่า ขืนชักช้าตาเซ็ทกลับมาพวกเราจะแย่"เคทสรุป แต่ไม่ทันจะไปไหนเจ้าของชื่อก็เดินกลับมาถึงก่อนซะแล้ว สภาพตัวนั้นมอมแมมกว่าตัวแรกเสียอีกแต่ก็ดูจะไม่เป็นอะไรมาก
"ให้ตายสิ ชอบใช้ความรุนแรงจริงๆเลยนะ พวกแกเนี่ย"เซ็ทขยี้ผมอย่างเบื่อหน่าย ก่อนหันไปมองหนอนจักรกล "เฟธ เลิกเล่นได้แล้วฉันรู้ว่าแกไม่เป็นอะไร"
"โธ่...จะรีบกลับมาทำไมครับเนี่ย ผมอุตส่าห์จะอู้งานสักหน่อย"สิ้นคำหนอนจักรกลก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ ทำให้เห็นว่าเฟธนั้นไม่มีแม้กระทั่งรอยเปื้อนที่ชุดเลยด้วยซ้ำ
"เอาไงต่อดีครับ ?"ไมกระซิบถามอย่างไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่
"รอดูก่อนแล้วกันว่าพวกนี้จะมาไม้ไหน ขืนที่นี่พังไปมีหวังไม่ต้องมีที่นอนกันพอดี"เคทตัดสินใจในที่สุด ทำให้ทั้งทีมยอมลดอาวุธลง เฟธปรบมือให้เบาๆกับการตัดสินใจที่เฉียบขาดของอีกฝ่าย หญิงสาวผู้เป็นหัวหน้าทีมดันแว่นกอบเหลี่ยมของตนให้เข้าที่ก่อนจ้องมองชายตรงหน้าทั้งสองอย่างหงุดหงิด
"มีอะไรจะพูดก็พูดมา!"