@159473

ตอนที่ 15 สิ่งที่เหลืออยู่(รีไรท์)

fanasai View 322
"เฮือก!!!!"

"ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดเธอก็ฟื้น"เสียงๆหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับความรู้สึกของความอบอุ่นที่โอบกอดเขาเอาไว้ ดวงตาของแบล็คพยายามปรับแสงที่ได้รับ หัวตอนนี้นั้นมึนงงไปหมด เป็นเวลาพักใหญ่กว่าที่เขาจะรู้ว่าคนที่กอดเขาอยู่นั่นคือพี่สาวเคท รอบๆห้องเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย มันดูแตกต่างสภาพมันคล้ายๆกับห้องซึ่งถูกปิดตายด้วยคอนกรีตซึ่งมีประตูอยู่ตรงมุมห้อง เด็กหนุ่มสะบัดไล่ความมึนงงก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

"ที่นี่...มันที่ไหนครับ"

"ที่นี่คือ ศุนย์บัญชาการลับของ St."เคทตอบหญิงสาวเช็ดน้ำตาออกอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าได้สติสักที

"เกิดอะไรขึ้นครับ"ความทรงจำสุดท้ายของแบล็คคือกำปั้นของใครบางคนที่อัดเข้ามา แล้วใบหน้าของหญิงสาวผู้มีเส้นผมสีแดงกำลังหันมามองเขาอย่างตกใจ

"ฉันต่างหากที่จะต้องถาม มันเกิดอะไรขึ้นที่รังจ้าวมังกร ตอนที่พวกเธอหายไปนานเกินกำหนด พวกเราก็ออกไปตามหา แต่เห็นเธอนอนอยู่ที่เขตปลอดภัยคนเดียว ข้างในรังจ้าวมังกรมันเละเทะไปหมด"เคทรีบถามอีกฝ่ายเป็นชุดจนถึงเอาแบล็คถึงกับมึนงงไปอีกรอบ

"ใจเย็นๆเคท ให้เวลาเจ้านี่มันตั้งสติก่อน"เสียงนั้นเป็นเสียงของเซ็ทที่เดินเข้ามาข้างใน ดวงตาสีซีดของเขานั้นมืดหม่น แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร เขาก็โดนเด็กสาวคนหนึ่งกระโดดทับจนล้มหน้าทิ่ม เด็กสาวพุ่งเข้ากอดแบล็คพลางหัวเราะชอบใจใหญ่

"โอ๊ยๆๆๆ คุณฟรอ ผมปวดหัวอยู่นะครับ"สุดท้ายก็ต้องเป็นคุณเคทที่ต้องดึงตัวของฟรอเซ็นออกมา "ว่าแต่ทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ"

"ตั้งแต่ตอนที่นายสลบไปนี่ก็ผ่านมา 4 วันแล้ว"เซ็ทเป็นคนพูดแทน "พวก Guild กลับมาพร้อมกับอาวุธใหม่ที่ทรงอานุภาพ พวกมันร่วมมือกับพวกดาร์ก ทำลายเมืองของฝ่ายไลท์ไปจนหมด แต่โชคดีที่พวกเราไหวตัวทัน พาคิงเกียร์ หนีออกมาได้ทัน ทำให้พวกเรายังไม่โอเวอร์"

"สถานการณ์แย่เอามากเลยนะครับแบบนั้น"แบล็คมีสีหน้าที่ย่ำแย่ลง

"เราประมาทพวก Guild มากเกินไป ในระหว่างที่พวกเราเล่นเอาชีวิตรอดอยู่ คนของ Party หลายกลุ่มก็ถูกลอบสังหารไป ตอนนี้เหลือคนที่ยังรอดอยู่ รวมกับ NPC ที่รอดชีวิตในฐานนี้ ก็ ประมาณ 1420 คน"เซ็ททำการอธิบายต่อ ดวงตาสีเทาซีดจ้องมองแบล็คอย่างไม่วางตา "เอาล่ะทีนี้เราอยากจะให้นายบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในรังจ้าวมังกรให้เราฟัง แต่ก่อนอื่นตอนนี้นายต้องพักผ่อนให้พอเพื่อเตรียมเข้าที่ประชุมในวันพรุ่งนี้"

"ประชุม ?"

"ใช่...การประชุม เพื่อตัดสินใจในทางเลือกของผู้เล่นอย่างพวกเรา"กล่าวจบเซ็ทก็ลุกจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงเขากับฟรอเซ็นและเคทที่มีสีหน้าที่ค่อนข้างจะแย่พอสมควร

"แล้วคนอื่นๆปาร์ตี้ล่ะครับ"แบล็คตัดสินใจถามต่อ

"ไมตอนนี้อยู่กับพวกนักวิจัยของ NPC และ Party ที่เหลืออยู่ เอ็ดเวิร์ดพาโอทาเกะไปเร่งเพิ่มระดับที่ดันเจี้ยนลับ ส่วนเคียวยะ..."

"คุณเคียวยะ...?"

"ได้รับการยืนยันจากสายข่าวแล้วว่าเสียชีวิตและกลายเป็น NPC เรียบร้อย"หญิงสาวเอ่ยเสียงเศร้าแต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเพราะว่ามันออกมาจนไม่มีเหลือจะให้ไหลอีกต่อไป หากสังเกตที่จะพบว่าขอบตาของเคทจะมีร่องรอยของการร้องไห้มาอย่างหนัก เพียงแต่ว่าแบล็คไม่ทันสังเกตเห็นมันเพราะเธอแอบซ่อนมันไว้ใต้แว่นตากรอบเหลี่ยม

แบล็คเหมือนถูกน้ำเย็นราดลดตัวจนหัวใจนั้นเย็นเฉียบเหมือนถูกแช่แข็ง ดวงตาของเด็กหนุ่มเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึง ภาพในอดีตที่สับสนเริ่มปะติดปะต่ออย่างเด่นชัด

คุณเคียวยะตายแล้ว...

คุณเคียวยะตายเพื่อช่วยชีวิตเขา...

ในขณะที่แบล็คกำลังตกอยู่ในภวังค์ที่ดำมืด เคทก็หยิบกระเป๋าไอเทมที่เคียวยะฝากมันไว้กับแบล็คซึ่งเธอเก็บรักษามันไว้ให้ส่งมอบให้กับมือของเด็กหนุ่มที่ดวงตาแข็งค้าง

"เคียวยะมอบสิ่งนี้ให้กับเธอ ก่อนที่เขาจะตาย"หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบโดยไม่แสดงอารมณ์ที่เจ็บปวดออกมาทุกครั้งที่พูดถึงมัน แบล็ครับกระเป๋าไอเทมทั้งสองมาจากหญิงสาว ดวงตาของเขายังคงแข็งค้างความรู้สึกนั้นเหมือนกับตอนที่เขาเห็นรถเข็นศพของคนที่เขารู้จักผ่านไปในโลกแห่งความฝันนั้น

"ผมขออยู่คนเดียวสักพักได้ไหมครับ"แบล็คพูดด้วยน้ำเสียงที่วางเปล่า ซึ่งแม้ฟรอเซ็นทำท่าจะปฏิเสธแล้วยืนกรานที่จะอยู่แต่สุดท้ายเมื่อเห็นเคทส่ายหน้าไม่เห็นด้วยเธอก็ยอมทำตามแต่โดยดี

แบล็คลูบกระเป๋ากีต้าร์อย่างเงียบงันก่อนจะเปิดมันออก กระเป๋ากีต้าร์แสดงลิสต์ไอเท็มซึ่งถูกเก็บรักษาเอาไว้เพราะในตอนนี้เขาถูกจารึกชื่อเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ เด็กหนุ่มกดเรียกปืนลูกซองแฝดที่เขาเห็นชายหนุ่มใช้เป็นครั้งสุดท้ายออกมา เขาสัมผัสไปตามกระบอกปืน เขาสัมผัสได้ถึงความคาดหวังที่ถูกส่งมอบต่อมาให้ ในรายชื่อลิสต์ไอเทมนั้นมีม้วนไอเทมซึ่งมีชื่อว่า 'บัญญัติสืบทอดอยู่'

ไอเทม บัญญัติสืบทอดนั้นมีไว้เพื่อสืบทอดคลาสและความสามารถทั้งหมดของผู้เป็นเจ้าของความสามารถสู่ผู้รับซึ่งเป็นกระทำที่มอบให้บุคคลผู้เป็นเป้าหมายเพียงบุคคลเดียว ต่อให้มีใครขโมยไอเทมชิ้นนี้ไปตราบเท่าที่ชื่อนั้นไม่ใช่ชื่อของผู้ขโมยก็จะไม่สามารถเปิดม้วนอาชีพนี้ได้อย่างแน่นอน

-บัญญัติสืบทอด (คลาสมือปืน) ผู้สืบทอด (เรเนียร์)

'เรเนียร์ นี่มันใครกันนะ'แบล็คขมวดคิ้วอย่างงุนงง เขาไม่เคยจำได้ว่ามีคนชื่อนี้ หรือบางทีอาจจะเป็นคนรู้จักของคุณเคียวยะก็เป็นได้ ชายหนุ่มทำการเก็บบัญญัติสืบทอดกลับเข้าไปในกระเป๋าไอเทม ก่อนที่เขาจะพบว่านอกจากบัญญัติสืบทอดไอเทมทุกชิ้นมีการจารึกชื่อเจ้าของคือเขาทั้งหมด ยกเว้นไอเทมหนึ่งชิ้นซึ่งมันมีชื่อเป็นตัวอักษร ???  มันคือม้วนหนังทักษะที่เขาไม่สามารถทำการเรียนรู้ได้เพราะมันบอกว่าคลาสของเขาไม่ถูกต้อง แบล็คตัดสินใจเก็บมันลงกระเป๋าไป

เด็กหนุ่มลุกออกจากเตียง ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อนอกมาสวม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะมาเสียใจ สถานการณ์ในตอนนี้มันร้ายแรงจนเกินกว่าเขาจะยังคงนิ่งเฉยได้ ถึงตัวเขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้มาก แต่อย่างน้อยเขาก็คิดว่ามันดีกว่าการที่เขาจะได้ทำอะไรเลย

แกร๊ก..แกร๊กๆๆๆๆ

ประตูล็อคจากด้านนอก ?

"ฮัลโหล มีใครอยู่ข้างนอกไหมครับ ช่วยเปิดประตูให้ผมที"แบล็คตระโกนเรียกภาพซี่ลูกกรงที่ประตูซึ่งทำจากเหล็ก แต่ทว่าไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

แปลก...? ทำไมถึงต้องล็อคประตูจากด้านนอก ? 

แบล็คตัดสินใจเรียกไอเทม "ระเบิด" ออกมาจากลิสต์ไอเทม ก่อนที่จะทำการแปะระเบิดติดกับประตูและถอยมาให้ชิดกำแพงที่สุดจากนั้นก็กดสวิตซ์

ตุ๊ม!! โครม!!! เคร้งๆๆๆ..!!!

เสียงระเบิดส่งผลให้ประตูเหล็กปลิวกระเด็นไปกระแทกกับผนังในสภาพบิดงอ ก่อนหล่นปะทะกับพื้น เด็กหนุ่มไอเสียยกใหญ่จากฝุ่นที่ฝุ้งกระจาย พลางปัดมือสะบัดฝุ่นออกไปให้พ้นทาง ดูจะยังไม่มีใครรู้ตัวสินะ...

ทางเดินนั้นเป็นสองฝากฝั่งที่มีปลายทางเป็นบันไดขึ้นไปเหมือนกัน แต่แบล็คเชื่อความคิดตัวเองจึงตัดสินใจเดินไปทางขวาก่อน ในมือกำปืนลูกซองแฝดเอาไว้เพื่อป้องกันตัว เขาพบว่ายังมีห้องลักษณะเดียวกันอีกหลายห้องซึ่งถูกล็อคด้วยกุญแจที่ต้องใส่รหัสในการเปิดแบบเดียวกัน เขาจึงชะเง้อมองเข้าไปข้างใน พบว่าข้างในนั้นมีคนซึ่งมีผ้าพันแผลรอบตัวจากการบาดเจ็บกำลังนอนหลับอยู่ และเป็นแบบนั้นทุกห้องเพียงแต่แตกต่างลักษณะเพศและอาการบาดเจ็บ ดูเหมือนห้องที่ดูมืดหม่นนี้จะเป็นห้องที่มีไว้รักษาพยาบาลสินะ แต่ว่าทำไมถึงต้องล็อคประตูจากด้านนอกกันล่ะ

ฉัวะ!!!

"อั๊ก!!!"แบล็คสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่หลังจากการโดนฟัน เขารีบหันกลับไปมองสิ่งที่ฟันหลังของเขา แต่ทว่าภาพที่เห็นก็ทำให้เขาถึงกับดวงตาเบิกกว้าง

[ผู้เล่น แบล็ค เฟเธอร์ พบ อันเดธ ระดับ 76]

อันเดธตัวนั้นเป็นเพศหญิงซึ่งมีผิวสีม่วงคล้ำในชุดพยาบาลที่ขาดวิ่น ดวงตาเหลือกขาวไร้สัญญาณชีวิต ในมือถือมีดเล่มหนึ่งเอาไว้และคาดได้ว่ามันคือสาเหตุของความเจ็บปวดที่หลังเขา

"บ้าจริง!!"เด็กหนุ่มทำการยิงสวนกลับเข้าไป แรงปะทะส่งผลให้ร่างของนางพยาบาลผีดิบตัวนั้นส่วนบนกระจายก่อนจะแตกสลายกลายเป็นเศษกระจก แต่สัมผัสที่วาดผ่านอากาศมาจากอีกทิศหนึ่ง ทำให้แบล็คดีดตัวหลบแทบไม่ทัน เขาพบว่ามีอันเดธอีกครึ่งโหลอยู่ด้านทางขวา และเขาก็ได้พบอีกว่า มีอยู่ข้างหลังเขาในตอนนี้อีกสามสี่ตัว เขารู้แล้วว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงยังปลอดภัย แล้วที่นี่คือที่ไหน ทำไมพวกเขาถึงต้องล็อคประตูจากด้านนอก

สถานที่แห่งนี้คือ แผ่นดินของผู้ไม่ตาย หัวเมือง วอชิงตัน อาณาจักร อเมริก นี่มันอยู่ใจกลางของเขตศัตรูชัดๆเลยนี่!!!

"บ้าชะมัดเลยเรา"เด็กหนุ่มรู้สึกปวดหัวกับความงี่เง่าของตัวเอง ระหว่างที่ยังคงไล่ฆ่าพวกอันเดธต่อไป โดยที่อันเดตเหล่านี้ก็ดูจะมีโผล่มาให้ฆ่าได้เรื่อยๆไม่มีวันหมด เหมือนกับว่ามันถูกสาปให้ต้องคอยวนเวียนถูกฆ่าซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ไร้จุดสิ้นสุด ในที่สุดแบล็คก็ฝ่าฝูงอันเดธออกมาได้สำเร็จ แต่เขากลับพบว่าเมื่อเขาขึ้นมายังชั้นบนก็มีอันเดธอีกฝูงใหญ่รอบริการเขาด้วยท่าทางสุดเซ็กซี่

"ไม่ไหวแฮะ ทักษะการใช้ปืนของเราน้อยเกินไปแบบนี้มีหวังคงจะตายก่อนแน่ๆเลย"แบล็คตัดสินใจเก็บปืนของตัวเองไป ก่อนเลือกใช้ความสามารถของคลาสเขาเอง แบล็คเมด ปรากฏกาย!!!

พวกอันเดธดูจะไม่สามารถฝ่าการป้องกันสมบูรณ์แบบของแบล็คเมดได้เลย แต่ทว่าแบล็คเองก็ทำอะไรพวกนั้นไม่ได้เช่นกัน ดูท่าชุดเมดในสถานการณ์แบบนี้คงจะไม่มีประโยชน์เท่าไหร่

'ไม่เวิร์คแหะ...อย่าบอกนะว่าต้องไปใช้ชุดนั้น'แบล็คคิดในใจแล้วก็ได้แต่ร้องไห้ แต่ว่ามันก็ไม่มีทางเลือกอื่น ร่างของแบล็คส่องสว่างอีกครั้ง ก่อนที่จากชุดเมดที่สวมใส่จะกลายเป็นชุดแบบอัศวินแบบครึ่งส่วนสีดำสนิท โดยส่วนล่างนั้นยังคงเป็นกระโปรงที่ยาวจนแทบคลุมข้อเท้าอยู่ จากด้ามไม้กวาดในมือก็ถูกแปรสภาพกลายเป็นดาบคมคู่แบบมาตรฐานเพียงแต่ว่าที่ใบดาบมีการสลักอักขระหลายอย่างเอาไว้บนใบดาบ ดวงตาสีอำพันเรืองแสงสว่างวาบ หญิงสาวผู้งดงามชูดาบในมือขึ้นสู่ฟ้าราวกลับจะประกาศอำนาจแห่งวีรชน ก่อนจะตระโกนด้วยเสียงอันดังกังวาล

"บทเพลงประกาศชัย!!!"

แสงสีทองพุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้าก่อนยิงตรงอาบจากปลายดาบลงมาก่อนจะไล่เคลือบร่างกายเอาไว้เหมือนเกราะคุ้มกัน อันเดธตัวหนึ่งที่ฟันเข้ามาจากด้านหลัง หญิงสาวย่อตัวหลบได้ในจังหวะที่เสี้ยวปลายเส้นผม เธอย่อตัวลงหลับตากุมดาบไว้ด้วยมือทั้งสองข้างหลับตาลงราวกลับตั้งสมาธิ แต่เหมือนพวกอันเดธจะไม่มีเวลามานั่งรอให้หญิงสาวร่ายมนต์เสร็จพวกมันฟาดอาวุธเข้าใส่หญิงสาวที่ย่อตัวอยู่

"ประกายแสงแห่งวีรชน!!!!"เสียงสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน พร้อมกับแสงสีทองที่พุ่งออกมาเป็นรูปกางเขน เมื่อแสงทั้งสองมาสัมผัสรวมกันอำนาจของทักษะก็ยิ่งทวีคูณ โรงพยาบาลทั้งตึกส่องสว่างวาบราวกลับถูกย้อมกลายเป็นสีทอง ก่อนที่แสงสว่างจะดับวูบลง หญิงสาวรู้สึกงุนงงเล็กน้อย พลังจากทักษะของเขาไม่น่าจะแรงขนาดนี้ แล้วเขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของคนอีกคนดังขึ้นพร้อมๆกัน แต่ก่อนที่เเบล็คจะได้ลุกขึ้นยืน เธอก็พบว่ามีดาบเล่มหนึ่งวางพาดบนไหล่ของเธอ มีบางคนยืนอยู่ตรงหน้าแต่ทว่าแรงกดจากใบดาบก็มีมากจนทำให้เธอไม่สามารถทำได้แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไป

"เธอคือใคร"

'ผู้ชาย ? คนของ Party รึเปล่า หรือของฝ่าย NPC ไม่หรอก หรือว่าจะเป็นพวก Guild'ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังคิด แรงกดจากใบดาบก็มีมากขึ้นอีกจนทำเอาแบล็คที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับร้องออกมาเบาๆเพราะความเจ็บ

"เธอคือใคร"เสียงเดิมถามย้ำ

"แบล็ค เฟเธอร์"หญิงสาวกัดฟันตอบ แต่เมื่อตอบคำถามจบไปเธอก็พบว่าแรงกดจากใบดาบลดลง แบล็คเงยหน้าขึ้นมองก่อนที่ดวงตาสีอำพันจะเบิกกว้างเมื่อคมดาบด้านบนวาดผ่านลงมา 

เคร้ง!!!!!

หญิงสาวยกดาบขึ้นรับแทบไม่ทัน แรงปะทะนั้นทำเอาพื้นที่เธอคุกเข่าอยู่ถึงกับแตกร้าว

"เธอโกหก"ชายหนุ่มร่างสูงในชุดลักษณะเดียวกับเธอเพียงแต่มันเป็นสีขาวกล่าวเสียงเรียบ ใบหน้าที่คมเข้มกล่าว ดวงตาสีเพลิงจ้องมองมาที่ร่างที่อยู่ต่ำกว่าอย่างเย็นยะเยือกแม้ดวงตาจะร้อนเหมือนเปลวเพลิงแต่มันกลับเย็นยะเยือกจนเหมือนน้ำแข็ง ทำเอาแบล็ครู้สึกเหมือนเห็นเงาของไวท์ซ้อนทับกับภาพของคนตรงหน้า

ฮึ่ย!!!

แบล็คดีดปะทะดาบของ คนตรงหน้าออกไป ก่อนดีดตัวมาตั้งหลัก แต่ว่ามันทันจะทำอะไรก็โดนด้ามดาบกระแทกเข้าที่เอวอย่างแรงจนทำเอาหญิงสาวถึงกับจุก ก่อนทรุดลงไปอีกครั้ง

"เธอคือใคร"

"ฉันคือแบล็ค เฟเธอร์!!"แบล็คกัดฟันคำรามใส่ คนตรงหน้านั้นมีทักษะที่สูงกว่าเธอหลายระดับจนเธอนั้นเทียบไม่ติด ดวงตาทั้งสองประสานกัน แบล็ครู้สึกเหมือนถูกคนตรงหน้าล่วงรู้ความลับทุกอย่างที่แอบซ่อนเอาไว้ ความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากการโดนพี่สาวจ้องมองมาแม้แต่น้อย ชายร่างสูงกระพริบตาครั้งหนึ่งก่อนจะเก็บดาบเข้าฝักไปก่อนจะยื่นมือให้จับ

"ฉันเชื่อเธอ"ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบก่อนที่แบล็คจะยื่นมือไปจับ เขาดึงร่างของแบล็คให้ลุกขึ้นยืน หญิงสาวปัดฝุ่นที่กระโปรงออกไป แบล็คยังรู้สึกเคืองคนข้างๆอยู่เพราะตัวเองสู้ไม่ได้ ก่อนที่ความรู้สึกจะยิ่งติดลบมากขึ้นไปอีก "แต่ฉันไม่เชื่อเธอว่าเธอคือ แบล็ค เฟเธอร์ เพราะเเบล็ค เฟเธอร์ เป็นผู้ชาย"

"ก็บอกว่าฉันคือแบล็ค เฟเธอร์ ไง แต่นี่มันเป็นผลของคลาสตั้งหาก"หญิงสาวโวยวาย แต่มันก็ทำให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูง

"งั้นช่วยยกเลิกผลของคลาสด้วยครับ"

"คลาสวีรสตรีมันติดบัคน่ะ พอแปลงมาเป็นคลาสนี้แล้วจะทำให้เปลี่ยนคลาสหรือยกเลิกคลาสไม่ได้เป็นเวลา 7 วัน"แบล็คเบือนหน้าหนีอย่างท้อแท้ 'ถึงความสามารถมันจะดีแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากจะเปลี่ยนก็เพราะแบบนี้ล่ะ ให้มาอยู่ในร่างที่ทำมาเยาะเย้ยกันชัดๆแบบนี้ตั้งเจ็ดวัน ฆ่ากันเลยดีกว่า'

"ที่แท้เธอก็คลาสวีรสตรีนี่เอง น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ"ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจที่แบล็คพูดมาทั้งหมด ก่อนจะเริ่มออกเดินไปนอกโรงพยาบาล ทำเอาแบล็คต้องรีบเดินตาม

"นายคือใคร"

"ก่อนที่คุณจะถาม ผมขอถามชื่อของคุณก่อน คุณชื่ออะไรกันแน่ ไม่ต้องบอกนะว่าแบล็ค เฟเธอร์ เพราะผมจะไม่เชื่อคุณ"ชายหนุ่มพูดดักคอไว้ก่อน ในหัวเมืองวอชิงตันนั้นนับเป็นดันเจี้ยนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกมส์ เพราะว่าทั้งเมืองนั้นไม่มี NPC อาศัยอยู่เลย นอกจากประชากรอันเดธ ซึ่งมีอยู่หลากหลายคลาสและจำนวนมหาศาลมาก แม้แต่พวกดาร์กเองก็ยังไม่กล้าที่จะฝ่าเข้ามายึดครองเมืองนี้ จึงเรียกได้ว่านี่เป็นเมืองเดียวในเกมส์นี้ที่เป็นเมืองอิสระไร้ผู้ปกครอง

'ไม่เชื่อจริงๆด้วย...'แบล็ครู้สึกสิ้นหวังเล็กๆ "งั้นนายเรียกฉันว่าแบล็คไปก็เเล้วกัน"

"เข้าใจแล้วครับ เอาล่ะถึงแล้วครับ"ที่ชายหนุ่มพามานั้นเป็นร้านที่น่าจะเป็นร้านอาหารแต่ว่าสภาพมันพังจนไม่พังแหล่ "อ่ะ อีกอย่าง ผมชื่อ เวสต้า ยินดีที่ได้รู้จักครับ"

คำพูดคำนั้นทำเอาแบล็คถึงกับยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานราวกับช่วงเวลาของเธอได้ถูกหยุดเอาไว้

วีรบุรุษเวสต้า Rank...1

"ทางนี้ครับ"เวสต้านำทางเธอมาจนถึงหลังร้านก่อนที่เขาจะเลื่อนตู่ซึ่งเกาะไปด้วยหยากไย่ให้พ้นทาง ชายหนุ่มทำการปิดประตูทางเข้าไว้ตามเดิมหลังจากแบล็คเข้ามาทั้งสองเดินลงไปตามขั้นบันไดซึ่งแตกต่างจากสภาพด้านบนโดยสิ้นเชิง เพราะมันทำจากโครงสร้างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เมื่อทั้งสองลงมาถึงชั้นล่าง ภาพที่เธอพบก็ทำให้เธอถึงกับดวงตาเบิกกว้าง

ห้องโถงกว้างความกว้างพอๆกับสนามฟุตบอล รายล้อมไปด้วยประตูหลากหลายบาน ตรงกลางมีหญิงสาวที่เธอคุ้นเคยกำลังนั่งทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ที่ดี

"คุณ Limbo สวัสดีครับ"

"อ้าว เวสต้า สวัสดีจ๊ะ เอ๊ะ ? ผู้หญิงคนนั้น ?"Limbo หันมามองแบล็คอย่างงุนงง ก่อนที่ดวงตาสีดำลูกปัดจะฉายประกายเจ้าเล่ห์ ทำเอาแบล็คถึงกับขนลุก "แฟนเหรอจ๊ะ น่ารักดีนะ"

พรวด!!!

"ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่ไปเจอเธอเดินอยู่ๆแถวโรงพยาบาล พอตรวจสอบแล้วไม่ใช่ พวกดาร์ก แล้วก็พวกกิล ผมก็เลยพามาที่นี่ครับ"เวสต้าตอบ ทำเอาแบล็คที่กำลังจะเถียงปฏิเสธถึงกับหน้าแดงฉ่า ส่วน Limbo ก็กลั้นหัวเราะแทบจะแย่

"เซ็ท รอพบเธออยู่น่ะ"หลังจากสงบอารมณ์ได้แล้วเธอก็กลับมาพูดเป็นงานเป็นการอีกครั้ง เวสต้าทำเพียงพยักหน้าน้อยๆก่อนจะเดินหายไปในประตูบานหนึ่ง"ไง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังไม่ตายอีกเหรอจ๊ะ"

"ถ้าหากตายแล้วก็คงจะไม่มาอยู่ให้คุณเห็นหรอกค่ะ"

" อุ๊บส์!! 'ค่ะ' เหรอ ฮะๆๆๆๆๆๆๆ"Limbo ที่ได้ยินแบล็คพูด ค่ะ หัวเราะเสียยกใหญ่ทำเอาคนหันมามองกันอย่างงุนงง แบล็คกลับมาหน้าแดงอีกครั้ง เพราะทั้งอายจากการถูกจ้องจากคนจำนวนมากๆแถมยังต้องมาการเป็นประเด็นของจุดสนทนาเสียอีก แถมเพราะในสภาพของเลดี้แบบนี้ยิ่งกลายเป็นจุดสนทนาเอาซะยกใหญ่ 

"อย่าไปแกล้งสมาชิกใหม่แบบนั้นสิคะ คุณลิม"เสียงเด็กหญิงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังของแบล็ค แบล็คหันกลับไปมองอย่างนึกสนใจ

เด็กหญิงผู้มีเส้นผมมัดเป็นทรงโพนี่เทลสีฟ้าใส และดวงตาสีอเมทิสต์ในชุดกระโปรงยาวแบบนักเวทย์สีฟ้ารับกับเส้นผมของเธอ ซึ่งหอบกองเอกสารจำนวนมากซึ่งสูงจนแทบจะเท่าศรีษะของเธอ แบล็คตัดสินใจเดินไปช่วยหยิบแต่ทว่า ดูเหมือนเธอจะทำพลาดไปเพราะเกิดเสียงฮือฮาจากคนรอบๆแบบหลากหลายอารมณ์ปนๆกัน

"ไม่ใช่เด็กนะ...."

"เห๊ะ ?"

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ!!!!!!!!"เด็กหญิงตระโกนก่อนจะร้องไห้โฮ ทำเอาแบล็คถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวได้แต่เก้ๆกังๆก่อนจะปลอบโดยวิธีมาตรฐานที่สุดคือการลูบหัวเบาๆ ซึ่งมันดูจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม เพราะเด็กหญิงยิ่งร้องไห้โฮมากขึ้นไปอีก

"แอ๊ฟ!!!!"เสียงร้องของเด็กหญิงตรงหน้าแบล็คดังขึ้นอีกครั้ง ร่างเล็กเอนตัวลงเพราะหมดสติ กองเอกสารที่กำลังจะปลิวว่อนถูกรับเอาไว้โดยแบล็คอย่างทันท่วงที แบล็คเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของการกระทำนั้น พบว่าเจ้าของร่างนั้นคือ เวสต้า นั่นเองซึ่งยกแขนข้างนึงขึ้นหันด้านสันเอาไว้ 

"ส่งเสียงดังมันรบกวนคนอื่นนะครับ"เวสต้าพูดด้วยใบหน้าตายด้าน ก่อนจะอุ้มเด็กหญิงขึ้นหลัง แล้วหันมาบอกกับแบล็คที่กำลังมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "เอกสารพวกนั้นถ้าไม่ว่าอะไรช่วยหยิบตามผมมาด้วยครับ"

"เห๊ะ!! ค่ะ!!!"

ดูเหมือนเธอจะได้มารู้จักกับพวกแปลกๆอีกแล้วสินะ...