@159473

ตอนที่ 17 สามผู้ยิ่งใหญ่ (บทกลาง)

fanasai View 388
"ล้อกันเล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะคะ"แบล็คโบกมือไปมาพลางหัวเราะแห้งๆ คนที่มีพลังน่าสยดสยองแบบนั้นเนี่ยนะ สายคลาสวีรชน

"ผมเข้าใจครับว่ามันทำใจเชื่อได้ยาก แต่เชื่อเถอะครับ มันคือเรื่องจริง"เวสต้ามองมาที่เธออย่างจริงจัง แต่เพราะมันมีทิชชู่อุดจมูกอยู่ก็เลยทำเอาแบล็คหลุดขำอีกรอบ ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายเห็นแบบจังๆ "ที่ผมพูดมันตลกตรงไหนหรือครับ ?"

"ขะ ขะ ขอโทษค่ะ พอดีทิชชู่นั่นมัน..."แบล็คตัดสินใจพูดความจริงออกไป เพราะน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งอีกฝ่ายที่รู้ตัวก็ถอนหายใจเบาๆแล้วก็กลับไปจัดการกองเอกสารต่อ

"คุณเซ็ทเขามีคลาสเป็นสายแยกในสายคลาสวีรชนน่ะครับ"

"งั้นเองสินะคะ...แล้วคลาสของเขาคือ ?"

"ทรชนครับ"เวสต้าดูจะไม่ค่อยชอบที่จะพูดคำนี้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันเป็นด้านตรงข้ามกับสายคลาสของเขาด้วยรึเปล่า

คำตอบของเวสต้าทำให้หญิงสาวอึ้งไปพักใหญ่ๆ...แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา ทำเพียงแค่เบือนหน้าหนีแล้วหัวเราะแห้งๆ

'แบบนี้ก็พอจะเดาได้ที่ทั้งสองไม่ชอบหน้ากันนั่นแหละนะ'

"กุล ผู้นำของ Guild ก็เป็นหนึ่งในผู้มีสายคลาสวีรชนนะครับ"พอพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็ยิ่งแสดงออกถึงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแบล็คเองก็เข้าใจถึงความรู้สึกของชายตรงหน้า "คลาสของเขาคือ มหาราช ครับ เป็นสายคลาสชั้นสูงสุดของคลาสวีรชน"

พอได้ยินข้อมูลแบบนี้แบล็คเองก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ ถ้า กุล มีสายคลาส มหาราช ก็ไม่แปลกที่เขาจะสามารถควบคุมคนหมู่มากได้ รวมถึงการแผ่ออกมาของรังสีกดดันที่หนาแน่นจนชวนอาเจียน แล้วเพราะคลาสนี้เองจึงน่าจะเป็นสาเหตุที่เขามีอำนาจที่จะต่อรองกับพวกดาร์กได้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่า...สงครามที่จะเกิดขึ้นในอีกสามอาทิตย์นี้จะเป็นตัวที่ตัดสินทุกๆอย่างอย่างแน่นอน

"จากข้อมูลที่ผมได้รับครั้งล่าสุด กุล เองเหมือนจะระดับอยู่ที่ 40 แล้วครับ เขาเพิ่งจะปลดล็อคความสามารถสูงสุดของคลาสมหาราชได้มา ซึ่งเป็นข่าวร้ายที่สุด"เวสต้าจัดกองเอกสารตรงหน้าเสร็จในที่สุดเขาหันกลับมามองหญิงสาวอีกครั้งก่อนจะดึงทิชชู่ออกเพราะว่าเลือดมันหยุดไหลแล้ว

"สะ สะ สี่สิบ!!!!!"แบล็คร้องเสียงหลง ระดับ 40 ก็หมายความว่านอกจากเขาจะมีทั้งกองทัพที่ทรงพลังแล้วยังมีความสามารถในระดับที่สูงสุดอีกด้วย

"ครับ เราเสียมือดีไปให้ฝ่ายนั้นหลายคนนิครับ ทั้งคุณเคียวยะ คุณเฟธ และอีกหลายๆคน"เวสต้าพูดเศร้าๆ "ถึงเราจะช่วยกองทัพของฝ่าย NPC มาได้บางส่วนแต่ว่าระดับของพวก NPC นี่ถูกจำกัดเอาไว้รวมถึงความสามารถทำให้มีก็เหมือนไม่มีเลยล่ะครับ"

"เลวร้ายมากเลยนะคะ ถ้าเกิดต้องสู้กับสองคนนั่นขึ้นมา"

"คุณเคียวยะนี่น่าจะสบายๆหน่อยครับ เพราะเขาเองก็ฉลาดที่เลือกโอนไอเทมทั้งหมดให้กับแบล็ค เฟเธอร์ก่อนที่เขาจะตาย ทำให้เขาไม่มีอาวุธที่จะรองรับความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่"พอพูดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็สะดุ้งเฮือกอย่างไม่มีสาเหตุ

"งั้นประเด็นใหญ่ก็อยู่ที่เฟธสินะคะ"

"เรื่องนั้นมีคนรับหน้าที่ให้แล้วล่ะครับ ถึงเฟธจะเป็นจอมเวทย์ที่เก่งแต่ฝ่ายเราก็มีสุดยอดจอมเวทย์อยู่นะครับ"

"อ่อค่ะ งั้นที่ว่าเป็นปัญหาที่ว่านี่คือ ?"

"พวกนักประดิษฐ์มือดีที่ถูกลอบสังหารไปน่ะครับ เพราะพวกนี้ถือเป็นจุดที่ส่งผลต่อสงครามได้มากเลยนะครับ ยิ่งข่าวล่าสุดดูเหมือนพวกนั้นจะได้ NPC ชั้นสูงที่ยกระดับความสามารถของคลาสนักประดิษฐ์ไปด้วย นั่นคงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กองทัพของพวกเขายึดครองเมืองทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วครับ"

"อย่างนี้นี่เอง"แบล็ครู้ดีว่า NPC คนที่เวสต้าพูดถึงคือใคร ภาพของหญิงสาวผมสีแดงเพลิงที่หันมามองเธอยังคงติดตาไม่หาย เวสต้าที่สังเกตเห็นความผิดปกติมองดูหญิงสาวตรงหน้าอย่างวิเคราะห์ ดวงตาสีแดงเพลิงส่องประกายวูบหนึ่งดูเหมือนเขาจะรับรู้อะไรบางอย่าง

"เอาเถอะ คิดมากไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราไปกันได้แล้วครับ"

"คุณแบล็ค"เวสต้าเรียกซ้ำเพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจที่เขาพูดเลย

"คะ!!!"หญิงสาวตกใจจนเผลอตระโกนออกมา

"ได้เวลาแล้วครับ"

"เวลา ?"

"ฝึกไงครับ"เวสต้าพูดพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งมันไม่ชวนพิศมัยเอาสักนิด...

.....

.......

ฉัวะ!!! ฉัวะ!!! เคร้ง!!! เคร้ง!! เคร้ง!!!

เสียงปะทะของคมอาวุธที่ดังส่งประกายแฉลบของสะเก็ดไฟในยามค่ำคืนในเมืองร้างที่มืดมิด สลับกับเสียงร้องของอะไรสักอย่างที่คำรามเพราะความบาดเจ็บ และเสียงกรีดร้องของบางสิ่งที่ถูกสังหาร ร่างที่สะบัดคมดาบสีทองประกายคือหญิงสาวร่างสูงสง่าในชุดนักรบ ผมสีดำที่ถูกมัดรวบไว้เป็นจุกกลืนกินไปกับบรรยากาศ ดวงตาสีอำพันแสดงถึงความเหนื่อยล้าของการออกแรงมากเป็นเวลานาน

"เร็วกว่านี้อีก ดาบของคุณมันช้าไป!!"เสียงตระโกนดังขึ้นจากด้านบนของกำแพงอิฐสูงกว่าสี่เมตร ด้านบนนั้นมีชายคนหนึ่งในชุดเกราะสีขาวนั่งเท้าคางมองลงมาที่ตัวหญิงสาว

'นี่ยังช้าไปแล้วแบบไหนจะเรียกว่าเร็วฟะ!!!'แบล็คได้แต่โวยวายในใจก่อนสะบัดดาบตัดร่างของอันเดธตัวหนึ่งจนขาดออกจากกัน ร่างของอันเดธตันนั้นแตกสลายกลายเป็นเศษกระจก เธอหมุนตัวอีกรอบฟันผ่าไหล่ของอันเดธอีกตัวหนึ่งจนแบ่งร่างของมันออกจากกัน

หญิงสาวนั้นต้องต่อสู้กับเจ้าพวกนี้มาเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว โดยมีครูฝึกสุดหินตระโกนบอกอยู่ด้านบนโดยที่ไม่ลงมาร่วมด้วยโดยเหตุผลที่ว่าระดับของเขาตอนนี้ต่ำกว่าพวกนี้จนเกินเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้แล้ว (พอได้ยินแบบนี้ เธอก็ตกใจ เพราะแบบนั้นหมายความว่าระดับของเวสต้าน่าจะอยู่ต่ำกว่า 46 แน่นอน แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือดูเหมือนนอกจาก NPC ผู้เล่นที่เหลือรอดระดับเฉลี่ยก็อยู่ที่ 72-68 กันเสียหมด หมายความว่าเธอที่ระดับ 87 เป็นผู้เล่นที่อ่อนแอที่สุดใน Party)

[ผู้เล่น แบล็ค เฟเธอร์ ระดับลดลงถึง 80]

'จะบ้าตาย!!! สู้มาจนไม่เหลือแรงจะจับดาบแล้วระดับเพิ่งจะลดมาถึง 80'แบล็คโวยวายในใจอย่างหงุดหงิดแต่ทว่าเพราะเป็นแบบนั้นทำให้จังหวะของเธอเสียไปชั่วขณะ จนถูกอันเดธตัวหนึ่งที่ฟาดแขนมาที่หลังของเธอจนทำเอาหญิงสาวกระเด็นกลิ้งไปตามพื้นทรายก่อนล้มลงเพราะความเจ็บปวด อันเดธพวกนี้แม้พลังป้องกันและความรวดเร็วจะต่ำมากแต่พลังโจมตีก็สูงมากเช่นกันหากโดนมันโจมตีแค่ครั้งเดียว ต่อให้ระดับต่ำแค่ไหนก็ยังถึงกับกระอักเลือดได้แล้วยังมีโอกาศถึง 30% ที่จะติดสถานะอัมพาท (เทียบสเกลในระดับผู้เล่นที่ระดับ 60 ขึ้นไป)

"ยกดาบไม่ทันแน่!!"แบล็คมองไปที่เท้าของอันเดธที่กำลังจะเหยียบเธอพลางหลับตาลง แต่ทว่าเวลาผ่านไปสักพักก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้เธอต้องลืมตาขึ้นมอง ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือเจ้าของชุดเกราะขาวและเส้นผมสีแดงเพลิง รอบๆนั้นไม่มีสัญญาณของฝูงอันเดธอีกต่อไปชายหนุ่มสะบัดดาบก่อนเก็บมันเข้าฝัก พลางถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงการเลื่อนระดับของเขา

"ขอบคุณที่ช่วยไว้ค่ะ..."

"ทีหลังก็ระวังหน่อยก็แล้วกันครับ พวกอันเดธมันตีแรงมากคุณก็รู้"ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดมากที่ระดับของเขาเพิ่มราวกับเป็นเรื่องปกติ

"เอาล่ะ จากที่ผมสังเกตดูคุณจะมีทักษะในการต่อสู้คนเดียวพอสมควรเลยนะครับ"ชายหนุ่มยื่นมือดึงหญิงสาวขึ้นมา "เพราะถ้าเป็นคนอื่นๆคงจะหมอบไปตั้งแต่สองชั่วโมงแรกแล้วล่ะครับ"

'ง่ะ...'

"ระดับของคุณตอนนี้เท่าไหร่แล้วครับ"

"80 ค่ะ..."

"เข้าใจแล้วล่ะครับ รอสักครู่นะครับ ผมจะหาทีมให้คุณไปเก็บระดับอีกจุดหนึ่ง แต่รอบนี้คงต้องหาทีมไปด้วย"เวสต้าบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในฐานบัญชาการ แบล็ค มองคนตรงหน้าอย่างสงสัยเล็กน้อยแต่คิดอีกทีบางทีเธอคงจะคิดมากไป

"โห นี่เหรอสาวสวยปริศนาคนที่เขาว่าเป็นแฟนกับคุณเวสต้า"เสียงที่ฟังคุ้นๆทำเอาหญิงสาวถึงกับคิ้วกระตุก

"ไม่มีทางซะหรอก คุณเวสต้า ไม่มีทางชอบแม่นี่เด็ดขาด"คราวนี้ก็เสียงคุ้นๆอีกแล้ว แต่อันนี้เธอจำได้ เจ้าของเสียงก็คือเด็กหญิงตัวเล็กที่ถูกคริติคอลฮิตโดยเวสต้า นั่นเอง

"คุณเวสต้า เขาคงไม่คิดกับเด็กอย่างเธอแบบคนรักหรอกนะ มายุ"เจ้าของเสียงนี้ก็คุ้นๆอีกแล้ว

"คุณเวสต้า ต้องชอบแบบเด็กๆอย่างฉันนี่ล่ะ"เด็กหญิงโวยวาย เสียงของเธอดังขนาดที่ทำเอาทั้งถนนดังก้องไปหมด แบล็คตัดสินใจหันกลับมามองซึ่งก็เป็นจริงดังคาด คนทั้งสองนั้นเป็นคนที่เธอรู้จักนั่นเอง

ชายคนหนึ่งเป็นชายร่างสูงสง่าเหมือนกับนายแบบ เส้นผมสีดำพริ้วไสวตามแรงลม ดวงตาสีดำรับกับเส้นผมจ้องมองเด็กหญิงร่างเล็กที่กำลังโวยวายอย่างขำๆ เขาสวมชุดสีดำสนิทที่กลืนไปกับบรรยากาศรอบๆ ชายคนนี้คือหนึ่งในรายชื่อลิสต์เพื่อนของเขา ไมดัส

ส่วนอีกคนเป็นชายร่างสูงใหญ่รูปร่างเหมือนนักเล่นกล้าม ผิวสีแทนมองๆดูก็คล้ายๆทิม เพียงแต่ว่าดูมีอายุมากกว่า เขาไว้ผมยาวสีดำกระเซอะกระเซิงแบบติสแตกเหมือนชั่วชีวิตนี้มันจะไม่มีวันได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่าหวี แถมยังไว้หนวดไว้เคราทำให้ดูแก่ขึ้นไปอีกสิบปี มือข้างนึงจับด้ามดาบเล่มใหญ่ที่ถูกพาดเอาไว้ที่บ่า ดวงตาสีออกเหลืองกำลังมองมาที่เธออย่างสนใจ ชายคนนี้คืออมาร็อคนั่นเอง

แต่ทว่าอีกคนหนึ่งซึ่งถ้าหากไม่สังเกตดีๆก็ไม่รู้เลยว่ามีคนๆนี้อยู่ ดูจากรูปร่างแล้วคาดว่าน่าจะเป็นผู้หญิง แต่ว่าเธอสวมทั้งผ้าคาดหัวและผ้าปิดปากเหมือนกับนินจาจนทำให้ไม่เห็นใบหน้า มีเพียงช่วงดวงตาที่ไม่ถูกปกปิดดวงตาสีดำขลิบกำลังจ้องตรงมาที่แบล็ค ดูเธอเองก็สนใจหญิงสาวในชุดนักรบเหมือนกับคนอื่นๆ

และอีกคน...ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเงียบได้ขนาดนี้ แต่ดูจากสีหน้าก็พอเดาได้ว่าทำไมถึงได้เงียบ คนนี้เเบล็ครู้จักเรียกว่าเกือบจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วด้วยซ้ำ เด็กสาวร่างเล็กในชุดนักเรียนหญิงสีดำ ดวงตาสีแดงสดกำลังฉายแววอึ้งตะลึงงัน เธอเป็นคนที่มักจะสวมผ้าพันคอสีแดงสดเอาไว้เสมอ เธอมีชื่อว่าฟรอเซ็น

"ทะ ทะ ทะ!!"ไม่ทันที่ฟรอเซ็นจะพูดจบก็โดนแบล็คจับปิดปากเอาไว้ซะก่อน ทำเอาเด็กสาวดิ้นอู้อี้ไปมาเพราะว่าอีกฝ่ายปิดจมูกเธอด้วยและเธอกำลังจะหายใจไม่ออก

"ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอครับ ?"ไมดัสถามอย่างสนใจ เขาเองยังคงสนุกกับการหยอกล้อกับมายุอยู่

"ช่ะ ช่ะ ใช่แล้วล่ะค่ะ"แบล็คพูดพลางหัวเราะแห้งๆ

"ห้ามบอกใครเรื่องผมเด็ดขาดเลยนะคะ]]แบล็คทำการติดต่อเฉพาะในช่องปาร์ตี้

"กะแล้วว่าต้องเป็นเธอ]]เสียงของพี่สาวดังขึ้น ทำเอาแบล็คอยากจะกัดลิ้นตัวเองซะจริงๆ เธอลืมไปได้ยังไงกันเนี่ยว่าพูดไปแบบนี้คนทั้งปาร์ตี้จะต้องได้่ยิน

"ปิโยะจริงๆอ่ะ]]คราวนี้เป็นเสียงฟรอเซ็นขึ้นมาบ้าง

"ให้ตายสิครับ คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็บอกกันก่อนสิครับ ตกใจมากเลยนะครับที่จะไปหาคุณแล้วประตูมันโดนพังเนี่ย]]ไมดูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

"ขอโทษด้วยค่ะ...]]

"ว่าแต่ทำไมถึงใช้ ค่ะ ล่ะครับ ?]]ไมถามอย่างสงสัย

"ก็มันเป็นตัวตนจริงๆของแบล็คยังไงล่ะ]]เคทพูดพลางกลั้วหัวเราะ

"ใช่ซะที่ไหนล่ะคะ]]แบล็คสวนกลับแทบจะในทันที

"ปิโยะเป็นผู้หญิงจริงๆด้วยสินะ]]ฟรอเซ็นเออออห่อหมก

"ก็บอกว่าไม่ใช่ไงคะ]]

"ต่ะ ต่ะ ต่ะ ตัวตนจริงๆเหรอฮะ!!!!]]โอทาเกะดูจะตกใจน่าดูและดูเหมือนเขาจะตกใจจัดจนเผลอทำอะไรสักอย่างตกเพราะเขาร้องออกมาว่า โอ๊ะ!! หลังจากประโยคนั้นแล้วก็เงียบหายไป

"เลิกแกล้งผมสักทีเถอะค่ะ]]แบล็คบอกแบบเหนื่อยๆทำเอาทั้งเคทกับฟรอเซ็นพากันหัวเราะใหญ่ ไมทำเพียงหัวเราะแห้งๆ

"ยังไงก็พยายามเร่งระดับเร็วๆนะครับ ผมเองตอนนีก็กำลังยุ่งๆอยู่ด้วย]]ไมพูดอย่างเหนื่อยๆ

"เรื่องอาวุธสินะคะ]]

"ครับ ศักยภาพของอาวุธพวกเราตอนนี้มันตันๆสุดเลยครับ ระดับของพวกนักประดิษฐ์อย่างพวกผมมันถูกจำกัดเอาไว้น่ะครับ มันแย่ตรงที่ NPC ที่จะปลดล็อคความสามารถของสายคลาสผมส่วนใหญ่ก็ถูกพวก Guild จับตัวไปหมดแล้วด้วยสิ]]ไมถอนหายใจเบาๆ เพราะระดับของอาวุธที่ต่ำกว่ามากต่อให้สร้างมาเยอะแค่ไหนก็สู้สิ่งของที่มีระดับสูงกว่าซึ่งเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณไม่ได้

"คุณไม ทักษะการตรวจสอบของคุณระดับเท่าไหร่คะ ?]]

"เอ่อ...ก็...สักครู่นะครับ...]]เสียงของชายหนุ่มเว้นช่วงไปสักพักหนึ่ง

"มีอะไรเหรอปิโยะ]]เคทถามขึ้นมาอย่างสงสัย

"พอดีผมเจอไอเทมชิ้นนึงในกระเป๋าไอเทมของคุณเคียวยะเป็นม้วนทักษะที่มีชื่อว่า ??? น่ะค่ะ แต่ทักษะการตรวจสอบของฉันมันระดับต่ำเกินไป]]

"อ๋อ...]]เสียงของเคทลากยาวไปสักพักก่อนที่เธอจะเงียบไป ดูถ้าเรื่องของเคียวยะจะเป็นอะไรที่ยังทำร้ายจิตใจเธออยู่

"ครับ คุณแบล็ค ทักษะตรวจสอบของผมระดับ 14 ครับ]]

"งั้นเดี๋ยวผมจะฝากไอเทมส่งไปให้คุณฟรอแล้วให้คุณทำการตรวจสอบนะคะ]]

"ทำไมต้องฉันด้วยอ่ะ!!! ฉันเองก็อยากจะไปเก็บระดับเหมือนกันนะ]]ฟรอโวยวาย

"นะคะ ขอร้องล่ะ ฉันหวังพึ่งเธอได้คนเดียวแล้วนะ"แบล็คเผลอส่งเสียงพูดออกมาระหว่างที่จับไหล่ของฟรอเซ็นไว้ ทำเอาอีกสามคนหันมามองทั้งสองเป็นตาเดียวในหลากหลายอารมณ์ที่แตกต่างกัน

"หวังพึ่งเธอได้คนเดียวงั้นเหรอ หึๆๆ"อมาร็อคหัวเราะในลำคอ ดวงตามองมาที่ทั้งสองแบบแปลกๆ

"เหอะๆๆ มีอะไรก็บอกๆกันบ้างก็ได้นะครับ"คราวนี้เป็นไมดัสที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่

"ฉันจะฟ้องเวสต้า!!!!"มายุส่งเสียงโวยวาย ซึ่งก็น่าแปลกทั้งๆที่เธอก็บอกเองว่าเวสต้าไม่มีอะไรกับแบล็ค แล้วทำไมพอแบล็คทำอะไรที่น่าสงสัยเด็กหญิงต้องไปฟ้องเวสต้าด้วย

"..."หญิงสาวในชุดนินจาทำเพียงจ้องมองมาด้วยสายตาสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

"เข้าใจแล้วค่ะ...ถ้าพูดถึงขนาดนี้แล้วล่ะก็"ฟรอเซ็นหน้าแดงฉ่า เธอก้มหน้ามองพื้นพลางเอาเท้าเขี่ยหินไปมาดูเธอเองกำลังอายสุดๆ แต่เชื่อเถอะแบล็คเองก็อายไม่แพ้กัน แต่ในจังหวะนั้นไอเทมชื่อ ??? ก็ถูกส่งให้ฟรอเซ็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ฝากด้วยนะคะ"แบล็คเอ่ยเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบ ฟรอเซ็นก็ทำเพียงพยักหน้าน้อยๆโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองดูเธอจะยังเขินไม่หาย

"ฉันนึกได้ว่ามีธุระ คงจะไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ"ฟรอเซ็นหันไปบอกกับคนอื่นๆในกลุ่ม ซึ่งคนอื่นๆก็พากันโวยวายใหญ่โดยเฉพาะมายุ เพราะว่าเธอจะไม่มีคนคอยช่วยเวลาจะโดนไมดัสแกล้ง แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจและยอมให้ฟรอเซ็นไป เด็กสาวรีบกลับเข้าไปในฐานบัญชาการทันที

'เอายังไงต่อดีล่ะเนี่ย...'แบล็คมองคนทั้งสามที่กำลังมองมาที่เธออย่างนึกสงสัย แต่ทว่าไม่ทันไรทั้งอมาร็อคกับไมดัสก็เหมือนจะเปิดหน้าต่างของตัวเองขึ้นมาแล้วกดเรียกช่องเพื่อนทำเอาแบล็คหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ทั้งสองหันมามองหญิงสาวที่กำลังเหงื่อแตก โดยมีมายุมองอมาร็อคและไมดัสสลับไปมาอย่างงงๆ

ทำไมต้องเป็นเจ้าพวกนี้ด้วยเนี่ย....