"ปัญญาและพลังนั้นมันไม่มีขีดจำกัด
เราจึงไม่อาจถือครองทั้งหมดได้
บุคคลผู้มีปัญญาจึงไขว่คว้าหาแต่เพียง
พลังที่เพียงพอต่อการฟันฝ่าอุปสรรค
ตรงข้ามกับคนอ่อนแอ
ที่บอกแต่ว่าอยากเก่ง
แต่กลับไร้เป้าหมาย
จนสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมา"
ข้าพเจ้าเป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่ง
ซึ่งเพิ่งจบจากโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงนัก
เกือบตลอดชีวิตการเรียนที่ผ่านมาของข้าพเจ้า
ไม่เคยรู้จักคำว่าสอบตก
ไม่มีใครเคยว่าข้าพเจ้าโง่
มีแต่คนชมว่าเรียนเก่ง
แต่แล้ววันหนึ่ง
มีเพื่อนนักเรียนย้ายมาใหม่จากโรงเรียนในกรุงเทพฯ
พริบตานั้นเขาแทนที่ข้าพเจ้าอย่างน่าใจหาย
เขาทั้งเก่งทั้งขยัน
รอบรู้ จนได้เป็นที่ 1 ของห้อง
ในใจลึกๆข้าพเจ้ารู้ว่าตนเองอิจฉา
แต่เขานั้นเองที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้ซึ้งถึงความอ่อนของตัวเอง
เขากลายมาเป็นเพื่อนข้าพเจ้าในเวลาไม่นาน
แต่ถึงอย่างนั้นข้าพเจ้าก็พยายามไล่ตามเขาอยู่ทุกตลอด
ข้าพเจ้านึกย้อนไปถึงอดีต
เคยมีคนถามข้าพเจ้าว่าทำยังไงถึงเรียนเก่ง
ข้าพเจ้าก็ได้แต่บอกเขาว่า
เราก็ต้องอ่านหนังสือช่างสังเกต
ที่สำคัญ ต้องคิดมากๆ
มาจนบัดนี้
ข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่
ข้าพเจ้าพยายามอย่างไรก็ไม่เคยเก่งไปกว่าเขา
ยังคงไล่ตามเขาตลอดเวลา
วันหนึ่งข้าพเจ้าจึงได้ถามเขา
ว่าเขาทำอย่างไรถึงได้เรียนเก่ง
"เราไม่ได้ทำอะไรเลย"เขาบอก
"และเราก็ไม่ใช่คนขยันอะไรเลยนะ
หนังสือเราก็อ่านเวลาที่อยากอ่านและส่วนใหญ่ก็มีแต่นิยายแฟนตาซี"
'ถ้างั้นไม่ก็ไม่ได้ต่างจากกูซะเท่าไหร่' ข้าพเจ้าคิด
"แต่เรามีความฝันนะ" เขาพูดต่อ
"เราอยากจะเล่นการเมือง
ถึงใครเขาจะบอกว่านักการเมืองไม่มีดีก็เถอะ แต่เราอยากจะพัฒนาชาติ
และไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำให้ได้"
"ปัญญาและพลังนั้นมันไม่มีขีดจำกัด
เราจึงไม่อาจถือครองทั้งหมดได้
บุคคลผู้มีปัญญาจึงไขว่คว้าหาแต่เพียง
พลังที่เพียงพอต่อการฟันฝ่าอุปสรรค
ตรงข้ามกับคนอ่อนแอ
ที่บอกแต่ว่าอยากเก่ง
แต่กลับไร้เป้าหมาย
จนสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมา"
ข้าพเจ้าจึงได้รู้
ข้าพเจ้าเป็นเพียงแค่เด็กอ่อนหัด
ที่อยากจะดูเก่งในสายตาของคนอื่น
จึงได้พยายามไขว่คว้าหา "พลัง"
ต่างกับเขา ซึ่งไม่ได้ทำอะไรเลย
ไม่ได้อวดอ้างความเก่งไม่ได้ต้องการให้ใครมาสรรเสริญ
แต่เขามี "เป้าหมาย"
และสิ่งที่ทำให้เขาเก่งไม่ใช่การหาความรู้เพียงอย่างเดียว
แต่คือการ"ก้าวข้ามอุปสรรค"
เพื่อที่จะไปสู่เป้าหมายอย่างมุ่งมั่นนั่นเอง
แล้วคุณละอยากเก่งไปเพื่ออะไร