@27422

เราวิ่งตามอะไรกันในชีวิต

bravenut View 417

วิ่งตามอะไรกันในชีวิต

มีเรื่องเล่าว่ามีพระองค์หนึ่งชอบทำอะไรแปลกๆ
วันหนึ่งพวกกรุงเทพฯเอากฐินไปทอดที่วัด
จัดงานกันใหญ่โตมีหนังมีลิเกมีดนตรีผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน
ก่อนทอดกฐิน..ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่งแล้วเอาเชือกมาด้วย
หลวงพ่อจัดการเอาเนื้อผูกติดกับหลังหมา
ผูกเสร็จก็ปล่อยหมา
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลังก็ไล่งับ
พอหัวโดดงับตัวก็ขยับหนี
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง
ยิ่งโดดงับเร็วก้อนเนื้อก็หนีเร็ว
โดดไม่หยุดเนื้อก็หนีไม่หยุดน่าสงสารหมามาก
หมาโดดอยู่นานงับเท่าไหร่เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที
ผู้คนบนศาลาพากันหัวเราะชอบใจ
หัวเราะเยาะหมาว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้
ไล่งับจะกินเนื้อที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทันตลอดชีวิต
หลวงพ่อมองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว
ก็แก้เชือกออกมากหลังหมา
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า
มนุษย์เรามีความรู้สึกว่าตัวเองพร่องตัวเองยังไม่เต็ม
ต้องเติมตลอดเวลาเติมไม่หยุดเพื่อให้ตัวเองเต็ม
เราอยากสวยอยากทันสมัย
ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุดทันสมัยที่สุดใส่
ดีใจได้เดือนเดียวมีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้วสวยกว่าทันสมัยกว่า
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่
ซื้อเสร็จ๓ เดือนรุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว
ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด
เดือนต่อมามีรุ่นใหม่กว่าออกมาของเราตกรุ่น
ซื้อรถเบนซ์ทันสมัยที่สุดแพงมาก
ขับได้ ๖เดือนมีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว
ทันสมัยกว่าแพงกว่าของเรากลายเป็นเชย
เราต้องก้มหน้าก้มตาทำงานทั้งวันทั้งคืนหาเงินมา
เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย
ซื้อเสื้อผ้าใหม่มือถือใหม่คอมพิวเตอร์ใหม่รถยนต์คันใหม่
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น
ปัจจุบัน
เรากำลังไล่งับความทันสมัยเหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน
ทั้งที่รู้ว่าต่อให้ไล่งับทั้งชีวิตก็ไม่มีทางตามทัน
น่าสงสารไหมโยม
คนเต็มศาลาเมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น
ด่าว่าหมามันโง่
ตอนนี้เงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่
ไม่รู้ว่ากำลังสงสารหมา
หรือกำลังทบทวนความโง่ตัวเอง


Credit : forward mail