@51394

[Yuri] Sachi x Rima Ep.1 [SideStory]

aloha-tk View 336

Sachi's Part

 

"ซาจิ..ฉันน่ะ ชอบซาจิมากเลยนะ" เมื่อสิ้นประโยคมันทำให้ฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะคนที่พูดคำนี้กับฉันก็คือเพื่อนสมัยเด็กของฉัน ริมะจัง..

 

"ห...หมายความว่ายังไงน่ะ ริมะ..." ฉันถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ ไม่มีทางหรอกที่จะหมายความว่าแบบนั้น ฉันเองก็ชอบริมะเหมือนกัน ใช่..เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน

 

"ฉันชอบซาจิ มันหมายถึงฉันชอบซาจิจริงๆ ฉันอยากจะคบกับซาจิ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

 

"น..นี่มันอะไรกัน เราเป็นผู้หญิงทั้งคู่นะริมะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอ 

 

ในขณะที่ฉันกำลังจะหันเพื่อวิ่งหนีจากความเป็นจริงนั้น ฉันก็รู้สึกถึงอ้อมกอดของริมะ เธอพยายามดึงฉันไว้ก่อนจะได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากด้านหลัง

 

"ขอร้องล่ะ.. ซาจิ ฉัน..ทนเก็บมันไว้ไม่ไหวอีกแล้-"

 

"มันเป็นไปไม่ได้หรอก!! เรื่องระหว่างเราน่ะ!!" ยังไม่ทันที่ริมะจะพูดจบ ฉันก็ตะโกนออกมาอย่างเหลืออด ฉันเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน.. ริมะ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แต่ทำไมเธอถึง..

 

ฉันสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของเธอและวิ่งออกไปอย่างไร้จุดหมาย.. ขอเพียงซักที่หนึ่ง ที่ให้ฉันได้หลุดจากฝันร้ายนี้เสียที..

 

==============================================================

 

Rima's Part

 

ฉันมองแผ่นหลังของซาจิที่ค่อยๆไกลออกไป นี่ฉันทำอะไรลงไปกันนะ.. ฉันกำลังทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับคนที่ฉันรักมากที่สุดลงไปใช่มั้ย.. ฉันทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับปล่อยโฮออกมา จนเวลาผ่านไปจากท้องฟ้าสีคราวกลายเป็นความมืดมิดในยามค่ำคืน

 

หวืดดดด~~ โทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้น เวลาผ่านไปเท่าไหร่กันแล้วนะ ทางบ้านต้องโทรตามแหงๆ

 

"เห้อ~" ฉันถอนหายใจก่อนจะรับสาย "ค่า~"

 

"โฮ้ยย กลับบ้านได้แล้ว~ ข้าวเย็นน~" เสียงของชินยะพี่ชายลอดออกมาจากปลายสาย วันนี้เป็นเวรทำมื้อเย็นนี่นา

 

"อื้อ จะกลับแล้ว รอหน่อยและกันนะ" ฉันตัดสายไปก่อนที่เจ้าพี่ชายจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

 

ฉันรีบเก็บของใส่กระเป๋า แต่สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับสายคล้องโทรศัพท์ลายเดียวกับของซาจิ ฉันยิ้มนิดนึงก่อนจะยัดมันใส่ลงในกระเป๋านักเรียนและเดินออกจากห้องไป

 

18.23 น.

 

"กลับมาแล้วค่ะ.." ฉันพูดขึ้นเมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน บ้านหลังนี้มีแค่ฉันกับพี่ชายสองคน พ่อกับแม่ของฉันเสียไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก มีเพียงพี่ชินยะที่่คอยเลี้ยงดูฉัน

 

"อื้อ..กลับมาแล้วเหรอ" พี่ชินยะตอบกลับมาขณะที่กำลังนั่งกินขนมและดูรายการตลกอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ

 

"วันนี้ไม่มีงานรึไง?" ฉันโยนกระเป๋าไว้ข้างโซฟาก่อนจะเอื้อมไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่เพื่อเตรียมมื้อเย็น

 

"อื้อ กินข้าวเสร็จเดี๋ยวออกไป" ฉันพยักหน้ารับพร้อมกับลงมือทำมื้อเย็น ฉันใช้เวลาไม่นานก็จัดโต๊ะเสร็จ พี่ชินยะทำหน้าแปลกใจนิดนึงเมื่อเห็นชุดอาหารแค่ชุดเดียว

 

"อ้าว ไม่กินเหรอ" พี่ชินยะถาม

 

"อื้อ ไม่ค่อยหิวอ่ะ" ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นห้อง

 

เมื่อประตูห้องปิดลง มีเพียงฉันที่ยืนอยู่ในความมืดมิด.. ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู เบอร์ของซาจิ.. ฉันพิมพ์เมลเพื่อขอโทษซาจิแต่ฉันก็กดลบมัน ครั้งแล้วครั้งเล่า.. ตัวของฉันในตอนนี้..ไม่มีความกล้าแม้แต่จะเมลขอโทษเธอด้วยซ้ำ.. ขอโทษนะ..ซาจิ...

 

==============================================================

 

Rima's Part

 

"โฮ้ยย!! ริมะ!! จะสายแล้วนะ!!" เสียงของพี่ชินยะดังลอดเข้ามาจากประตูมันดังมากพอที่จะทำให้ฉันตื่นจากความฝัน ฉันใช้เวลาในการเตรียมตัวไม่นานก่อนที่จะเดินทางไปโรงเรียน

 

"ไม่กินมื้อเช้าเหรอ?" พี่ชินยะถามเมื่อเห็นฉันเดินตรงไปยังประตูบ้านโดยไม่ได้แตะมื้อเช้า ฉันพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบ

 

"ไปแล้วนะคะ.." ฉันเดินออกจากบ้านมาโดยไม่สนใจเสียงพี่ชินยะที่ดังไล่หลังมา ในใจของฉันตอนนี้คิดเพียงแค่ว่าถ้าเจอกับซาจิเข้าจะทำหน้ายังไงดี ฉันควรจะขอโทษเธอยังไงดี..

 

08.03 น.

 

ภายในชั้นเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ร่าเริงเหมือนเช่นทุกวัน คงมีแค่ฉันคนเดียวแล้วล่ะมั้งที่ไม่ได้หัวเราะกับมุกตลกฝืดๆของเจ้า2แฝดจอมเพี้ยน ไม่ได้รู้สึกอิจฉากับของแบรนด์ชิ้นใหม่ของพวกลูกคุณหนู ไม่ได้รู้สึกกระตือรือร้นเหมือนพวกหัวหน้าห้อง คงมีแค่ฉันคนเดียวนั่นแหละ..ที่ว่างเปล่าแบบนี้

 

"ครืดด~" เสียงประตูห้องดังขึ้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความคิดของฉันหยุดลง ถ้าหากคนที่เปิดมาไม่ได้ใครที่ไหน.. ซาจิ..

 

"อ..เอ่อ.. ค..คือ.." มีหลากหลายความคิดฉุดขึ้นมาในหัวของฉัน แต่ปากของฉันดันไม่ขยับ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด..

 

ซาจิเดินผ่านฉันไป..

 

ฉันเห็นเธอเหลือบมามองฉันแว๊บหนึ่งก่อนจะหันกลับไป ในแววตาของเธอมันว่างเปล่า... ไม่มีฉันอยู่ในนั้นเลย.. ไม่มี..

 

ทุกคนในชั้นเรียนพากันเงียบลงทันทีเมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉันกับซาจิ มันแน่อยู่แล้วล่ะนะ.. ก็ฉันกับซาจิไม่เคยที่จะทะเลาะกันเลยซักครั้ง ฉันรู้สึกถึงของเหลวสีใสที่ค่อยๆไหลลงอาบแก้มของฉัน อ..อาเร๊ะ? นี่ฉัน..กำลังร้องไห้.. ฉันรีบยกมือปาดน้ำตาที่เริ่มจะไหลออกมามากขึ้นทุกที แล้วชั้นเรียนก็ดำเนินต่อไป..

 

11.57 น.

 

"นี่ๆ ริมะ เธอทะเลาะอะไรกับซาจิรึเปล่า?" มัจจังเดินมานั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าฉัน เธอเป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของฉันเราสนิทกันตอนเปิดภาคเรียน ถึงจะไม่เท่ากับซาจิ แต่เธอก็เป็นเพื่อนที่ดีอีกคนหนึ่ง

 

"ก..ก็.." ฉันพยักหน้าแทนการตอบ สายตามัจจังฉายแววเป็นห่วงชัดเจน

 

"มัจจัง เป็นอะไรกันเหรอ?" เสียงเรียกมัจจังดังมาจากหน้าห้อง ฉันกับมัจจังหันไปตามต้นเสียงพร้อมกัน ประธานนักเรียนเดินตรงเข้ามาทางฉันกับมัจจังเมื่อเห็นสีหน้าของมัจจัง

 

"ดูเหมือนว่าริมะจะทะเลาะกับซาจิน่ะ" มัจจังพูดกับประธาน ก่อนจะหันมาถามฉัน

 

"เล่าให้พวกเราฟังได้รึเปล่า?" ในตอนนี้มัจจังกับประธานคงจะเข้าใจฉันมากที่สุดแล้วล่ะนะ เพราะทั้งคู่คือคู่รักกันนี่นะ ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกันก็ตาม..

 

ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้มัจจังกับประธานฟัง ทั้งคู่มองหน้าเชิงขอความเห็นกัน แล้วมัจจังก็เริ่มพูดขึ้น

 

"ริมะ.. ถ้าริมะรักซาจิจริงล่ะก็ ริมะเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหนีซาจิไม่ใช่เหรอ?" เธอพูด นั่นสินะ.. ทำไมฉันถึงไม่กล้าเข้าไปพูดกับซาจิ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ยังมีความกล้าพอที่จะสารภาพรักกับซาจิแท้ๆ ทำไมตอนนี้ฉันถึงได้อ่อนแอแบบนี้..

 

"ถ้าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กล่ะก็ เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ตัดความสัมพันธ์ขาดหรอกนะ ตอนนี้ซาจิซังอาจจะแค่สับสน ถ้าไม่ลองคุยกันซาจิซังจะเข้าใจความรู้สึกของริมะซัง ได้ยังไงกันคะ?" ประธานพูดต่อ ทั้งคู่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากฉันต้องเข้มแข็งกว่านี้..

 

"ฉันจะไปคุยกับซาจิ.."

 

==============================================================

 

Sachi's Part

 

08.10

 

ฉันเข้ามาในชั้นเรียนกับความรู้สึกที่ว่างเปล่า ฉันไม่อยากคิดถึงอะไรทั้งนั้น ทั้งเรื่องเมื่อวานนี้ และเรื่องต่อจากนี้.. ริมะเป็นคนแรกที่ฉันเห็นเธอเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างกับฉัน แต่..ฉันยังไม่พร้อม.. เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้ฉันสับสน ฉันรีบสาวเท้าเดินไปที่นั่งของตัวเองและมองออกไปในที่ๆไกลแสนไกล.. 

 

11.53 น.

 

"ซาจิ~ ไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันมั้ย?" ฉันรู้สึกถึงที่พุ่งเข้ามาโอบจากด้านหลัง

 

"ยูเมะ.. ซาเอะ.." พวกเธอเป็นเพื่อนในชมรมของฉัน ถึงแม้พวกเราจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแต่พวกเธอก็คอยช่วยเหลือฉันหลายๆอย่าง บางครั้งพวกเราจะไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันที่ดาดฟ้าของตึก ฉันหยิบข้าวกล่องเดินตามยูเมะกับซาเอะโดยที่ไม่ได้ชวนริมะเหมือนทุกที...

 

พวกเราเดินมาถึงบนดาดฟ้า แล้วซาเอะก็พูดขึ้น..

 

"วันนี้ไม่ได้ชวนริมะมาด้วยสินะ ปกติจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแท้ๆ" ยูเมะเองก็ดูเหมือนจะอยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

 

"อื้ม นิดหน่อยน่ะ" ฉันพยายามพูดตัดบทก่อนจะนั่งลงกินมื้อเที่ยงกับทั้งสอง

 

"ทะเลาะกันแบบนี้.. พี่ชินยะจะไม่เป็นห่วงเหรอ" พี่ชินยะ.. ชื่อนี้ดังในหัวฉันซ้ำไปมา มือที่เคยมีแรงในตอนนี้แม้แต่ตะเกียบฉันยังถือไว้ไม่ไหว.. มันหนักเหลือเกิน.. ความรู้สึกแบบนี้.. ฉันทนไม่ไหวแล้ว..

 

ฉันปล่อยโฮออกมาพร้อมๆกับความรู้สึกที่อดกลั้นมานาน ซาเอะกับยูเมะเองคงตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆฉันก็ร้องไห้ออกมาแบบนี้ พวกเธอรีบเข้ามากอดปลอบ ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้ริมะจะคอยปลอบฉันเสมอ แต่ว่าครั้งนี้มัน...

 

"ฉันรักพี่ชินยะ.." ตอนนี้ฉันเริ่มจะตั้งสติได้แล้ว ฉันเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนทั้งสองฟัง สีหน้าของซาเอะเริ่มเปลี่ยนไปมันไม่ใช่ความโกรธ มันไม่ใช่ความรำคาญ แต่ในแววตาของเธอตอนนี้มันดูเศร้า.. ยูเมะเองก็เหมือนจะอึ้งกับเรื่องที่หลุดออกมาจากปากของฉัน

 

"เลือกสิ่งที่เธอคิดว่าทำแล้วมันถูกต้องดีกว่านะ.." ยูเมะกอดปลอดฉัน น้ำเสียงที่อ่อนโยน.. สัมผัสที่อ่อนโยน.. ทำให้ฉันสบายใจขึ้น ซาเอะยิ้มให้ฉันโดยไม่พูดอะไรอีก ฉันตัดสินใจแล้ว.. ฉันจะบอกคำนั้นกับเค้า..

 

==============================================================

 

Sachi's Part

 

ฉันเดินไปตามทางที่คุ้นเคย ผ่านสถานที่ที่คุ้นเคย แต่ทว่า..

 

"อ้าว ซาจิจัง" น้ำเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้.. พี่ชินยะ.. ฉันหันไปตามต้นเสียงก็เห็นพี่ชินยะโบกมือให้พร้อมกับรอยยิ้ม

 

พี่ชินยะอยู่ตรงหน้าแล้ว.. ฉันต้องบอกเค้า ความรู้สึกที่เก็บไว้มานานนี้ ฉันต้องบอกเค้า.. ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความกล้าก่อนจะเดินเข้าไปหา

 

"คือ.." ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร พี่ชินยะก็ชิงพูดขึ้นก่อน

 

"ซาจิจัง กับริมะทะเลาะอะไรกันรึเปล่า? พี่รู้สึกช่วงนี้ริมะไม่ค่อยจะร่าเริงเลยน่ะ ทุกทีจะพูดแต่เรื่องของซาจิจังแท้ๆ" ริมะอีกแล้ว.. พี่ชินยะมักจะพูดถึงเรื่องของริมะเสมอ แล้วฉันล่ะ..

 

ฉันกัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา ฉันไม่อยากให้พี่ชินยะมองเห็นความอ่อนแอของฉัน..

 

"จริงสิ แล้วริมะไปไหน ปกติจะกลับบ้านพร้อมกันนี่-" ยังไม่ทันที่พี่ชินยะจะพูดจบ ฉันจูบพี่ชินยะ.. พี่ชินยะคงตกใจมากสินะ.. ฉันไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ฉันจูบพี่ชินยะ

 

"ตุบ!" ฉันได้ยินเสียงของหนักๆตกลงพื้นก่อนจะรู้สึกถึงแรงดึงที่ข้อมือของฉัน 

 

"ร..ริมะ.." พี่ชินยะตกใจเมื่อเห็นริมะ ฉันเองก็เหมือนกัน ริมะไม่ได้พูดอะไรเธอพาฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้น

 

"ริมะ.." ฉันเรียกเมื่อเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีที่จะหยุดวิ่ง

 

"ริมะ!!" ฉันตะโกนลั่นก่อนจะสะบัดข้อมือออกจากเธออย่างแรง

 

"ทำไมกัน.. ทั้งๆที่ฉันเพิ่งจะ.. ทำไมกันซาจิ!!" ทันทีที่จบประโยค ฉันง้างมือตบลงบนใบหน้าของซาจิเต็มแรงจนใบหน้าของเธอสะบัดไปตามแรง หยดน้ำฝนจากฟากฟ้าค่อยๆตกลงมาชะล้างน้ำตาของเราทั้งคู่ ทำไมกัน.. ฉันถึงรู้สึกเจ็บปวด

 

ฉันวิ่งฝ่าสายฝนไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่สนใจเสียงของซาจิที่ตะโกนไล่หลัง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันกำลังจะวิ่งไปที่ไหน..

 

==============================================================

 

Rima's Part

 

ฉันทรุดตัวลงกับพื้น ความเจ็บเริ่มกระจายไปทั่วใบหน้า แต่ว่านั่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บเท่าตอนที่ฉันมองเห็นแผ่นหลังของซาจิวิ่งห่างออกไป..

 

"กรี๊ดดดด!!" ซะ..ซาจิ เสียงของซาจิ.. ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องของซาจิ เธอ..อยู่ที่ไหนกันนะ!! ขอร้องล่ะ..อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเลย ฉันวิ่งไปตามเสียงจนกระทั่งถึงต้นเสียง ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้ฉันแทบบ้า

 

ชายร่างใหญ่สองคนกำลังพยายามลวนลามซาจิ!! ในตอนนั้นฉันไม่มีสติหลงเหลืออยู่อีกแล้ว มีความคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ ฉันต้องปกป้องซาจิ

 

"เฮ้ๆ อย่างนี้ก็พอดีเลยสิมีสาวน้อยน่ารักตั้งสอ- อั้ก!!" ฉันถีบเข้าไปที่ท้องของคนนึงเต็มแรง แรงมากพอที่จะทรุดลงไปกองกับพื้นได้

 

"หนอย!! ยัยเด็กบ้า!!" ชายอีกคนนึงกระโจนมาทางฉันพร้อมกับชกมาที่หน้าของฉันเต็มแรง ม..ไม่ไหวแน่ๆ.. ถ้าเป็นแบบนี้.. ภายในหัวของฉันมึนไปหมด ตาของฉันเริ่มจะพล่า โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ชายร่างใหญ่คนนั้นเหวี่ยงตัวของฉันกระแทกเข้ากับต้นไม้

 

"อึก!!" มันเจ็บไปหมด.. สติของฉันเริ่มจะเลือนลางเต็มที่ สายตาของฉันไปหยุดอยู่ที่ซาจิ เธอดูหวาดกลัว.. มีเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นมาพอดี..

 

"ท..โทรศัพท์" ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลือยื่นโทรศัพท์ไปให้ซาจิ เธอรีบกดรับทันที

 

"แก!!" ชายร่างใหญ่ที่ถูกฉันถีบที่ท้องยันตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง ในมือถือมีดพกขนาดเล็กสีเงินวาววับ พุ่งไปทางซาจิ ถ้าเป็นอย่างนี้..ซาจิต้อง.. ฉันกัดฟันพลิกตัวคร่อมซาจิที่นั่งพิงต้นไม้นิ่งด้วยความตกใจ

 

"ลูกพี่ เดี๋ยวก่อน!!" อีกคนร้องห้าม แต่ทว่า..

 

"ฉึก!!!" ฉันรู้สึกถึงโลหะคมพุ่งทะลุเข้ามาในร่างกายของฉัน เลือดสีแดงฉานเริ่มไหลออกมาจากปากแผล ก่อนที่ฉัน.. จะไม่รู้สึกถึงอะไรอีกเลย..

 

==============================================================

 

Sachi's Part

 

"ย..แย่แล้ว.. หนีกันเถอะลูกพี่" หนึ่งในชายร่างใหญ่สบถขึ้นมาพลางประคองตัวของอีกคนวิ่งหนีไป

 

"ร..ริมะ.." ร่างของริมะค่อยๆทรุดลงตรงหน้าฉัน ฝนที่ยังคงตกอยู่ทำให้เลือดของริมะไหลออกมามากขึ้น ฉันกดแผลของริมะไว้ ตอนนี้เธอไม่ได้สติแล้ว

 

"ช่วยด้วย!!!" ฉันกรีดร้องออกมา ใครก็ได้ ช่วยริมะที!!.. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมากเกินกว่าที่ฉันจะรับไหวแล้ว ทั้งๆที่ฉันเอาแต่ทำร้ายเธอ มันควรเป็นฉันไม่ใช่เหรอที่ต้องนอนอยู่ตรงนั้นน่ะ

 

"ริมะ!! ซาจิ!!" พี่ชินยะรีบวิ่งฝ่าฝนมาหาพร้อมกับตำรวจอีก2คน ฉันจะบอกกับพี่ชินยะยังไงดี.. ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ริมะเป็นแบบนี้ ฉันจะบอกกับพี่ชินยะยังไงดี..

 

==============================================================

 

Sachi's Part

 

"ริ..มะ.." ฉันพูดชื่อเธอขึ้น ร่างกายของฉันแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงเหลือ เสื้อนักเรียนสีขาวที่ตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือด กว่าสองชั่วโมงที่ริมะถูกพาตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เธอเสียเลือดมากเกินไป..

 

"ริมะจะต้องไม่เป็นอะไรแน่.. เพราะได้เลือดของซาจิช่วยไว้ ริมะจะต้องไม่เป็นไรแน่ๆ" พี่ชินยะพูดปลอบ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น นั่นก็เพราะ..

 

"เพราะฉัน..ริมะถึงได้.." น้ำตาของฉันไหลออกมาอีกครั้ง ภาพทุกอย่างฉันยังจำได้ดี เธอเอาร่างบังฉันไว้.. เธอยิ้มให้กับฉัน.. รอยยิ้มที่พยายามจะสื่อกับฉันว่า.."ขอโทษ"

 

หลังจากนั้นฉันถูกตำรวจสอบสวนอีกหลายครั้ง คุณพ่อกับคุณแม่ของฉันรีบมาหาที่โรงพยาบาล ฉันเล่าทุกอย่างให้พวกท่านฟัง ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว ตำรวจจับชายสองคนนั้นได้ ฉันเลยถือโอกาสขอคุณพ่อกับคุณแม่ค้างที่โรงพยาบาลหลังจากที่ริมะพ้นขีดอันตรายแล้ว..

 

"จริงๆแล้ว ซาจิจังไม่ต้องเฝ้าริมะก็ได้นะ พี่เฝ้าเอง" พี่ชินยะบอกกับฉันหลังจากที่ริมะถูกย้ายตัวมาที่ห้องพัก

 

"ฉัน..อยากเป็นคนเฝ้าริมะเองค่ะ พี่ชินยะเองก็มีงานต้องทำไม่ใช่เหรอ" ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะเฝ้าริมะจริงๆ ขอเพียงแค่เธอตื่นขึ้นมามองฉัน คุยกับฉันเหมือนอย่างเดิม ฉันขอเพียงเท่านั้น.. พี่ชินยะพยักหน้าก่อนจะเดินออกห้องไป

 

ภายในห้องสีเหลี่ยมที่มีแค่ฉันกับริมะ.. ฉันเดินไปปิดไฟแล้วกลับมานั่งลงข้างเตียงพยาบาลที่มีริมะนอนอยู่พลางมองใบหน้าขาวที่อาบแสงจันทร์ ริมะในตอนนี้เหมือนกับเจ้าหญิงนิทรา ฉันยื่นใบหน้าเข้าไปจูบริมะเบาๆก่อนจะผล่อยหลับไป.. จบซักทีสินะ..วันที่แสนยาวนาน

 

==============================================================

 

Rima's Part

 

ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา ความเจ็บปวดตามร่างกายยังคงอยู่ ฉันหันไปมองรอบๆห้องแล้วสายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับซาจิที่นอนฟุบอยู่ข้างๆฉัน เธอกุมมือฉันแน่นเหมือนกับกลัวจะเสียฉันไป เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดนั่นบ่งบอกว่าเธออยู่เฝ้าฉันมาทั้งคืนโดยไม่ไปไหน..

 

"ซาจิ.." ฉันเรียกชื่อเธอเบาๆ เธอขยับตัวนิดนึง ก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ฉันพยายามจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่แผลที่ช่องท้องมันทำให้ฉันเจ็บปวด ซาจิรีบช่วยประคองตัวฉันขึ้นนั่ง

 

"ร..ริมะ.." ทันทีที่ฉันส่งยิ้มให้กับเธอ เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้งและโผเข้ากอดฉัน

 

"ริมะ.. ริมะ.. อย่าทำอย่างนี้อีกนะ อย่าเป็นอะไรอีกนะ.." เธอเรียกชื่อของฉันซ้ำไปซ้ำมา

 

"ฉันไม่เป็นอะไรแล้วซะหน่อย" ฉันลูบหัวปลอบพยายามให้เธอใจเย็นลง

 

"ซาจิ.. ฉันขอโทษกับเรื่องนั้นด้วยนะ.." ฉันเริ่มเปิดประเด็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดนี่ ซาจิเองก็ดูเหมือนจะยอมรับฟังแต่โดยดี

 

"ฉันคิดว่าตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมากมาย.. แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังชอบซาจิอยู่ดี.." แววตาของซาจิยังคงฉายแววสับสน แต่ทว่ามันไม่เหมือนเดิม

 

"ทั้งๆที่ฉันทำให้ริมะเดือดร้อนขนาดนี้ ทำไมถึงได้.." ฉันเอื้อมมือไปปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเธอ ฉันจูบหน้าผากของซาจิเบาๆ แล้วพูดว่า...

 

"ไม่เป็นไรนะ.. ในตอนนี้เธอยังอาจจะสับสน แต่เมื่อไหร่ที่เธอพร้อม.. ฉันจะรอเธอเสมอ.."

 

====================== To Be Continued ======================