หลายคนคงสงสัย ว่าVintageคืออะไร?
Vintage ความหมาย คือการหมักบ่มไวน์
หรือ antique ที่แปลว่าเก่านั่นเอง
Vintage ในความเข้าใจของโลกแฟชั่นก็คือการที่นำสิ่งของ
แฟชั่น เครื่องใช้ ที่ในยุคหนึ่งๆ เคยเป็นที่นิยม
แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ในยุคปัจจุบัน
เปรียบกับการหมักบ่มไวน์
ที่ยิ่งเก่าเท่าไหร่ก็ยิ่งรสดี
แฟชั่น Vintage ก็สามารถกลับมาฮิตฮอต
อีกได้แม้จะผ่านระยะเวลามายาวนาน
ก็กลายเป็นของใหม่ได้เสมอ
ดังนั้น แฟชั่น ที่เรียกว่า Vintage จึงดูกว้างมาก
นอกจากนี้ Vintage ยังหมายถึงอไรที่เน้นHigh Quality ด้วยนะจ๊ะ สังเกตที่ลายผ้า,Pattern, Cutting
และปีที่ฮิตอันนี้สำคํญ เหมือนที่เราชอบเรียกเป็นยุค ถ้าเปรียบกับไวน์ก็คือปีที่ผลิตนั่นเองยิ่งเก่ายิ่งแพง
vintage Fashion อาจเป็นได้ทั้งเก่าเก๋( อย่างมีไสต์ )หรือเก่าเก็บ(เก็บลงโลงไปได้แล้ว)
จึงต้องมีการออกแรงกันหน่อย เพราะคุณต้องทั้งค้นทั้งหา…………….
เสื้อผ้าแนวนี้เพราะมันไม่ได้มีขายทั่วไปไม่ใช่ของโหลหรือขายส่ง มีแค่ชิ้นนั้นชิ้นเดียว
ถึงจะมีเงินจะหาอีกชิ้นก็แทบไม่มีโอกาส ถ้าหาเจอก็ต้องเรียกว่าเป็นคู่แท้หรือคู่กรรมแล้ว
ก่อนจะแต่งลุคนี้ขออธิบายเยอะหน่อยเพราะหลายคนเข้าใจว่า วินเทจ fashion หรือ Style
ต้องเป็นแต่ชุดลายดอก, ลูกไม้, เสื้อมี Pad หนุนบ่า และ กระเป๋าหนังขนาดกะทัดรัด
สะพายปล่อยสายยาวเท่านั้น จริงๆแล้วมันมีเยอะมั่กๆ ขึ้นอยู่กับที่คุณเลือกเอามาผสมผสาน
ให้เกิดความหลากหลายและสะดุดตามากกว่า ไม่จำเป็นว่าแต่ง vintage แล้วออกมาเป็นลุคเดียวกันหมด
ลองมาดูยุคสมัยของ vintage สักหน่อยพอเป็น idea ให้คุณได้สนุกกับแนวนี้มากขึ้น
EXTRA FILES
1. Victorian 1900’sเป็นแนวที่นิยมกันมากที่สุด Designersชั้นนำของโลกไม่ว่าจะเป็น
Prada, MIU MIU, Mark Jacobs, Chole, Louis Vuitton และแบรนด์ดังอีกมากมาย
ที่หลงเสนห์กับเสื้อผ้าแนว Victorian นี้ จุดเด่นจะเป็นเสื้อแขนพองเย็บจีบต้นแขน
ลายผ้าทั้งลายดอก ลูกไม้หรือกำมะหยี่และผ้า See Through ส่วนมากคอตั้ง
2. Art Deco 1920’sแนวนี้ให้คุณนึกถึง Madame Coco Chanel
เธอคือตัวแทนของยุคนี้แบบตัวจริงเสียงจริงทั้งตัว ไม่มีFake
3. Art Deco 1930’s เริ่มมี Dress ลายผ้าสวยๆแขนสามส่วน เย็บตีเกล็ดด้านหน้าทั้ง 2ข้าง
(ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Afternoon Dress) แต่ทรงผมยังคงดัดเป็นลอนคลื่นเงาวับอยู่ Highlight ของยุคนี้คือ Pattern ของชุดราตรีที่ ไม่เคยถูกปฏิเสธจากDesigners และดารา Hollywood ซึ่งไม่เคยพลาด
ที่จะมาอวดโฉมบน Red Carpet ของงานใหญ่ทุกงาน และยุคนี้คุณสุภาพสตรีทั้งหลายเริ่มใส่
กางเกงขาบานเอวสูงกันแล่วค่า และอีกแนวที่เราเห็นบน Runway 2009’s ล่าสุดคือ
เสื้อผ้าแนวชุดนอนแบบโก้หรูที่เรียกว่า Lounging Pajamas Deco Pattern
ของ Dolce & Gabbana ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากยุคนี้เช่นกัน
4. World War2 1940’s ขอบอกว่าแนวนี้ In มั่กๆตอนนี้ เสื้อ Cropped Jacket ตัวสั้น
กางเกงทรง Baggy ทั้งขาสั้นและขายาว ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำต้องเป็น Two Pieces เอวสูง หรือแนว Bra Top เหมือนเสื้อในเต็มตัวใส่คู่กับขาสั้นเอวสูง รวมทั้งBow ก็มาแรงเสื้อ Blouse ผูก Bow ก็เริ่มที่ยุคนี้
5. Rockabilly 1950’s ยุคเริ่มต้นของ Designer ชื่อดังที่เป็นตำนาน Christian Dior
เน้นที่ผ้าเรียบและ Pattern ที่โดดเด่น ชุด Halter Dress แบบคล้องคอ ถ้านึกไม่ออก
ให้นึกถึง Marilyn Monroe ต้องบอกว่า Pop มั่กๆ เพราะเชื่อว่าเป็นภาพที่ติดตาของทุกคน
และทรงผมดัดเป็นลอนแต่ด้านหน้ายกสูง เพราะยุคนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ Rock ’n’ Roll
***Playsuit ก็เริ่มจากยุคนี้แต่เป็นชุดว่ายน้ำ One Piece ก่อน
6. Jacqueline O Kennedy 1960’s ยุค Sixties นี้ทุกคนคงนึกภาพได้ง่ายขึ้น Style ที่เป็นเอกลักษณ์คือ Dress ที่ Pattern เนี๊ยบเท่ หรือShirtdress หรือกระโปรงบาน Full Skirt สีเดียวทั้งเซ็ท
เสื้อผ้าหน้าผมต้องครบ ผมพองฟู แว่นตาทรงโต แต่ก็มีอีกลุคที่แอบเปรี้ยวแบบ
Twiggy Mini กับผมซอยสั้นเก๋เท่กับกระโปรงสั้นแต่งหน้าแบบตุ๊กตา
ส่วน Jumpsuit ก็เป็นอีกลุคที่ใส่กันเยอะมากไม่แพ้สมัยนี้เลย
7. Hippie to Disco 1970’s เป็นยุคของผู้คนที่รักอิสระ เสื้อผ้าเป็นแบบหลวมใส่สบายขึ้นแบบ
Boho และ Gypsy ฮอตฮิตเป็นที่สุด ส่วนปลาย 1970’s Disco ก็เข้ามามีอิทธิพล
กางเกงต้องเป็นขาบานหรือขาม้าเท่านั้น
เสน่ห์ของ Vintage Fashion คือแบบที่แต่งแล้วไม่ซ้ำใครแต่จะได้คะแนนเต็ม
ก็ตรงที่การเลือกมาประยุกต์เป็นตัวของเราเอง นี่สิกินขาด แบบ”สวยไม่สน” เพราะไม่มีทางที่ใครจะมาซ้ำกับคุณได้เลย อย่าลืม shopping ทุกครั้ง ลองแนว Old & New มาผสมกันมันล้ำกว่ากันเป็นไหนๆ
การเลือกซื้อเสื้อผ้าของคุณจะไม่เสียเปล่าแถมยังเพิ่ม Value ได้อีกต่างหาก ถ้าคุณสามารถเลือกสรร
และเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เชื่อสิ Fashion หมุนเวียนไปเดี๋ยวก็มา
ตอนนี้คุณก็เดาออกแล้วใช่ไหมคะว่า Trend ของซีซั่นหน้าจะเป็นอะไร
จริงมั๊ยล่ะ?
Fashion is a piece of history
credit : http://www.oknation.net/blog/fonsasami/2009/12/11/entry-1
credit2 : http://vintagethai.wordpress.com/2010/03/10/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99/