@92181

2013-05-28

panakory View 450
ในวันที่ฉันสับสนกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต 
ฉันก็ได้หนีทุกสิ่งทุกอย่างไปยังสถานที่ที่ฉันชอบไป 
มากที่สุดนั่นก็คือ"ทะเล"ฉันเดินทางไปอย่างเรื่อยเปื่อย 
ไม่มีจุดหมายเดินไปตามหาดทรายสีขาว นั่งฟังเสียงลมและ 
เสียงคลื่นซัดมาไปซัดมา ผ่านหูแล้วไม่รู้กี่ครั้งแต่ฉันก็ยังไม่รู้ 
ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ตอนนี้ฉันได้แต่นั่งเงียบๆคนเดียว 
จนกระทั่งตอนเย็นๆได้มีแสงสี จากบาร์ริมทะเลหรือร้านอาหาร 
ที่เปิดตอนเย็นบวกกับคู่รักมากมายที่เดินกอดกันเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน 
ฉันก็ดูแล้วก็ยิ้มดีใจ ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา ฉันก็จะมายังสถานที่แห่งนี้ 
ทุกคนมักคิดเสมอว่าฉันเป็นคนเข็มแข็ง แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย 
ฉันก็เป็นเหมือนคนอื่นๆทั่วไป ท้อบ้างเหนื่อยบ้างล้าบ้าง แต่ฉันก็ไม่เคย 
ที่จะเผยให้คนอื่นเห็นเลย ถ้าหากมันไม่เกินกำลังของฉันจริงๆ. 

ฉันได้ใช้เวลาทบทวนทุกสิ่ง ที่ผ่านมา กับเรื่องราวทุกอย่าง ที่เข้ามาทำให้ 
ฉันรู้สึกดีหรือแย่หรือหวั่นไหวหรือวิตกกังวลต่างๆ ฉันรุ้สึกดีที่ได้นั่งที่ริมหาดตอนกลางคืน 
ดูพระจันทร์เต็มดวงสีนวลกระทบกับน้ำทะเลเป็นสีเหลือง เสียงคลื่นที่ดังเป็นระลอกๆ 
ให้ฉันได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่อ้างว้างและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ฉันมองออกไปก็เห็นเพียงแต่ 
แสงจากพระจันทร์กับคลื่นที่ซัดไปมาแล้วก็เห็นเงาตัวเองบนพื้นทรายขาวสีนวลยามค่ำคืน 

พอยิ่งดึกมากเท่าไหร่ แสงสีจากร้านต่างๆก็เริ่มจางหายไปทำให้ฉันได้เห็นแสงของพระจันทร์ที่ 
กำลังยิ้ม ราวกับว่าเหมือนเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉัน ฉันนั่งอยู่กับตัวเองและเบียร์กระป๋องเย็นๆ 
กับความรู้สึกที่หนักอึ้ง จากภาระหน้าที่ต่างๆ และฉันก็พร้อมที่จะปล่อยความรู้สึกที่แย่ๆและความอ่อนล้า 
ให้หายไปกับทะเล อากาศที่หนาวเย็น กับสาวลมที่โชยมาเมื่อกระทบที่ผิวฉันทำให้ฉันรู้สึกดี ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง 
ที่อยู่เคียงข้างกัน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เคยอยู่กับฉัน เพื่อให้ฉันก้าวไปในวันพรุ่งนี้อย่างมั่นคงและแข็งแรง 
และฉันจะเก็บความรู้สึกดีๆเอาไว้ในใจ ตลอดไป.