ช่วงนี้กระแสเกม MOBA กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมในไทยกันพอสมควร ไม่ว่าDotA, Heroes of Newerth (HoN), League of Legends (LoL) หรือแม้แต่ Dota2 ซึ่งตอนนี้ยังมีเพื่อนๆ หลายคนที่ยังเข้าใจแนวเกมและเรียกเกมทั้ง 4 เกมนี้ว่า (A)RTS ซึ่งจริงๆ แล้วทั้ง 4 เกมด้านจัดเป็นเกมประเภท MOBA ซึ่งเป็นประเภทของเกมชนิดใหม่ที่แยกแนวออกมาจาก RTS และถูกตั้งขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งอาจจะยังไม่คุ้นหูคนไทยเท่าใดนัก วันนี้บีเลยจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเกมแนว MOBA ให้มากขึ้นค่ะ
อะไรคือ MOBA ?
ปัจจุบันตลาดเกมได้แตกสายสารพัดแนวเกมออกมามากมาย จนทำให้เกมที่เกิดใหม่ๆ บางเกมไม่ปรากฏแนวทางเกมเป็นที่แน่ชัด ทำให้มีการเรียกแนวเกมบางเกมแบบมั่วปนไปมา หรือไม่ค่อยเคลียร์ในแนวเกมสักเท่าไร ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ก็มีแนวเกมใหม่เกิดขึ้นมา นั่นคือเกมแนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) ซึ่งเป็นแนวเกมที่ถูกอ้างอิงจาก Multiplayer Map ในตำนานของ Warcraft III ที่ชื่อว่า Defense of the Ancients หรือ DotA นั่นเอง และนอกจากคำว่า MOBA แล้ว เกมในแนว DotA ยังถูกเรียกในชื่ออื่นๆ อีกมากมายเช่น TTRPG (Tactical Team-based Role Playing Game ) หรือบางทีก็เรียกว่า ARTS (Action Real Time Strategy) โดยชื่อเหล่านี้ถูกอ้างอิงจาก Multiplayer Map ที่ชื่อ Aeon of Strife หรือ AoS ของ StarCraft นั่นเอง
เพื่อนๆ หลายคนที่อาจจะไม่เคยสัมผัสกับเกมแนว MOBA มาก่อน อาจจะเคยได้ยินชื่อเกมแนวนี้มาบ้าง เช่น Demigod, League of Legends (LoL) หรือ Heroes of Newerth (HoN) ซึ่งเป็นเกม MOBA รุ่นใหม่ที่แตกไอเดียมากจากรุ่นใหญ่อย่าง DotA ซึ่งถือได้ว่าเป็นแม่แบบของเกมแนว MOBA และแต่ละเกมนั้นก็มีกลุ่มฐานผู้เล่นที่เหนียวแน่นอยู่ไม่น้อยเลยเช่นกัน โดยหลักการแล้ว การจัดประเภทของเกมว่าจะเป็น MOBA หรือไม่นั้นจะต้องมีองค์ประกอบของฟีเจอร์ที่แสดงความเป็น MOBA อยู่ดังนี้
1. ผู้เล่นแต่ละคนจะควบคุมเพียงแค่ 1 Unit (ตัวละคร) เท่านั้น โดยที่ตัวละครนั้นๆ จะมีสกิลให้ใช้ที่หลากหลายมากมาย รวมถึงจะมีการแบ่งฝั่งในการเล่นอย่างชัดเจน โดยจะต้องอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น
2. แต่ละทีมจะต้องมีฐานที่จะต้องคอยป้องกัน แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องบุกไปทำลายฐานฝ่ายตรงข้ามด้วย
3. ภายในทีมจะมีสมาชิก 5 คน และแต่ละคนจะควบคุมเพียงแค่ตัวละครของตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถควบคุมตัวละครของสมาชิกอื่นๆ ภายในทีมเดียวกันได้
โดยทั่วไปนั้นฐานของผู้เล่นมักจะอยู่สุดขอบของแผนที่แต่ละฝั่ง (ซ้าย-ขวา) และมี 3 เลนที่เชื่อมต่อ 2 ฐานไว้ด้วยกัน โดยที่ Creep หรือ Minion (ทหารอัตโนมัติภายในเกม) จะวิ่งออกไปในแต่ละเลนและมุ่งหน้าไปยังฐานของฝ่ายตรงข้าม และเป้าหมายในการเล่นเกมแนว MOBA คือการที่แต่ละฝ่ายสามารถที่จะดันเลนของฝ่ายตรงกันข้ามและมุ่งหน้าไปทำลายฐานของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ก่อนที่จะโดนทำลายฐานของตัวเอง และแก่นแท้ของรูปแบบการเล่นเกมแนว MOBA ก็คือการปะทะกันระหว่างผู้เล่น (PvP) ซึ่งทำให้ธรรมชาติในการเล่นเกมแนวนี้ ค่อนข้างจะท้าทายฝีมือผู้เล่นพอสมควร รวมถึงระบบ AI หรือ Bot ที่ไว้ให้ผู้เล่นได้ทดสอบฝีมือและลองออกไอเทม ก็ช่วยฝึกฝีมือผู้เล่นได้เช่นกัน (แต่จะน้อยกว่าการสู้กับคนจริงๆ เนื่องจาก Bot จะถูกโปรแกรมมาทำให้มีรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างจำกัด แตกต่างกับคนที่ไม่สามารถคาดเดารูปแบบในการเล่นได้ จึงต้องรับมือเป็นสถานการณ์ๆ ไป)
ใครเป็นต้นคิดคำว่า MOBA ?
ไม่มีใครทราบที่มาที่แน่ชัดถึงต้นกำเนิดหรือผู้ให้กำเนิดคำว่า MOBA ขึ้นมา แต่ก็เริ่มเป็นที่คุ้นหูเมื่อเกมแนวนี้เริ่มติดตลาด โดยอาจกล่าวได้ว่า MOBA ถือกำเนิดจากค่ายที่ได้ฉายาว่าพ่อมดน้ำแข็งอย่าง Blizzard ก็ได้ เพราะตั้งแต่ Blizzard วางจำหน่าย Warcraft 3 : Reign of Chaos และภาคต่ออย่าง The Frozen Throne จนเป็นที่นิยมสำหรับเกมเมอร์ทั่วโลก ก็มีจุดที่ทำให้เกิดความนิยมในเกมนี้นั่นก็คือการที่ผู้เล่นสามารถแก้ไขแผนที่ได้นั่นเอง (Map Editor) ด้วยพื้นฐาน Engine ของ Warcraft 3 ทำให้ Map Editor นั้นเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาเพิ่มเติมได้ และด้วยเสียงตอบรับที่ดีจาก Map Editor ทำให้มีการเปิดขายแผนที่ที่ผู้เล่นทำเอง (Custom Map) รวมถึงฉากเพิ่มเติมต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย และทำให้อายุของเกมนั้นยืดออกไปได้อีกนาน
ในบรรดาเหล่า Custom Map ของ Warcraft นั้นได้มีแผนที่ดั้งเดิมของ DotA อยู่ด้วย ถึงแม้มันจะใหม่สำหรับ Warcraft 3 แต่ก็เกิดจากแรงบันดาลใจของ Custom Map ที่ชื่อ Aeon of Strife ที่ถือกำเนิดจาก Map Editor ที่มีอยู่ใน StarCraft เกม RTS จาก Blizzard ในยุคแรกๆ รวมถึงองค์ประกอบของการสร้างสรรค์เหล่าฮีโร่ ซึ่งก็ได้ถูกนำไปใช้ใน DotA ต่อ ซึ่งช่วงยุคแรกของ DotA นั้น มีคนให้ความสนใจในเกมนี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับฐานผู้เล่นในปัจจุบัน โดยตัว Map เองก็ได้ผ่านการปรับปรุงแก้ไขในหลายๆ จุด นอกจากนั้นยังมีผู้เล่นอีกหลายกลุ่มที่รวมตัวกันแก้ไข Map ที่น่าเบื่อและเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ของ DotA แล้วทำเป็น Custom Map ออกมามากมาย ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง Map ของ DotA ออกมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง Custom Map ที่เป็นที่นิยมก็คือคือ DotA-Allstars ซึ่งถูกแก้ไขโดย Steve "Guinsoo" Feak (ปัจจุบันอยู่กับ Riot Games และเป็นหนึ่งในทีมพัฒนา League of Legends) ซึ่งเวอร์ชั่นของ Guinsoo นั้นประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเนื่องจากได้ผสมผสานและดึงจุดที่แสดงความเป็น DotA ออกมาได้อย่างไร้ที่ติ นอกจากนั้นยังทำให้สามารถสนุกกับ DotA ได้อย่างถ่องแท้และได้ประสบการณ์ในการวางแผนในรูปแบบต่างๆ ทำให้มีแฟนๆ เล่นอยู่จวบจนปัจจุบัน ในขณะที่ Custom Map ของคนอื่นๆ นั้นไม่ค่อยได้รับความนิยม และค่อยๆ หายไปในที่สุด
ปัจจุบันแผนที่ของ DotA ที่มีการแพร่หลายอยู่ในโลกออนไลน์นั้นก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามด้วยเนื้อหา, Engine ของเกม และระบบต่างๆ ภายในเกมที่มีอายุมากกว่า 10 ปีก็ทำให้ DotA มีขีดจำกัดที่จะต่อกรกับเกม MOBA รุ่นใหม่ๆ อย่าง League of Legends (LoL) และ Heroes of Newerth (HoN) ซึ่งบีจะกล่าวถึงในภายหลัง
ขอขอบคุณ online-station.net
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย KungTon_KC เมื่อ 2012-6-11 11:06
MOBA