ก่อนอ่านขอบอกก่อนว่าผมลงที่ละไม่ยาวมากนะเพื่อความไม่คี่เกียด55
ความเดิมตอนที่แล้ว: เซโร่และลิซ่าได้เผยความในใจของตนก่อนจากลา และเซโร่ต้องมาใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
เนื้อหาช่วงๆนี้จะเร่งๆเพราะเนื้อหาหลักไม่ใช่ส่วนนี้นะครับ
ครึ่งเดือนผ่านไปหลังจากการเดินทางอันไร้จุดหมายของเซโร่เซโร่ได้ประทังชีวิตด้วยการล่าสัตว์ตามป่าตามเขากินเป็นอาหารโดยใช้ร่างของปีศาจซึ่งสะดวกต่อการใช้งาน จนเซโร่เดินมาถึงเมืองๆหนึ่งเขาพยายามหลีกเลี่ยงย่านชุมชนเพราะอาจจะถูกพวกอาชญากรทำร้ายเอาได้และเขาไม่อยากใช้พลังของตนเซโร่จึงเดินไปหาที่พักที่ป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ไกลมาก พอพลบค่ำเซโร่ก็ไปหาอาหารมาประทังชีวิตซึ่งพบแต่พวกผลไม้ป่าเท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีกินสินะ’ เซโร่คิดเพราะสำหรับเซโร่ตอนนี้แค่มีอะไรกินก็ดีแล้วจากนั้นเซโร่ก็เดินเข้าไปในป่าให้ลึกกว่าเดิมเพื่อจะหาเนื้อสัตว์มาย่างกินเพราะเขาไม่ได้กินเนื้อมาหลายมื้อแล้ว แต่ในระหว่างเดินล่าสัตว์อยู่นั้นเซโร่ก็ได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนร้องว่า “ช่วยด้วยใครก็ได้ ช่วยข้า-” แล้วเสียงก็เงียบไปเหมือนโดนอะไรซักอย่างอุดปากไว้เซโร่เห็นว่าลางไม่ดีจึงคิดที่จะไปช่วยเซโร่จึงเปลี่ยนตาของตนเป็นดวงตาปีศาจและกวาดสายตา:Xส่องไปรอบๆตัวถึงทางต้นเสียงซึ่งดวงตาปีศาจนั้น นอกจากจะมองเห็นในที่มืดได้ดีแล้ว มันยังสามารถมองได้ไกลอีกด้วยเมื่อเซโร่มองไปจนทั่วแล้วเขาก็ย้อนสายตากลับมายังจุดๆหนึ่งซึ่งมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเซโร่จึงย่องตามพวกมันไปเพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่าเสียงเด็กผู้หญิงเมื่อกี้เป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือจริงๆหรือไม่เมื่อเซโร่มาถึงกลุ่มของพวกมันแล้ว เขาจึงทำการหลบหลังต้นไม้โดยที่ไม่ให้พวกมันรู้ตัวและแอบฟังพวกมันคุยกันโดยเปลี่ยนตากลับคืนเป็นเหมือนเดิมก่อนเพราะหากพวกมันเห็นจะตกใจไปเปล่าๆ และเซโร่ก็ได้แปลงหูตนเองเป็นหูปีศาจเพื่อฟังเสียงพวกนั้นเพราะเขาแทบไม่ได้ยินพวกมันคุยกันเลย เมื่อแปลงหูเรียบร้อยแล้ว เซโร่ก็จับใจความถึงเรื่องที่พวกมันคุยกันได้ว่าพวกนี้มันจับลูกสาวของตระ:Xลขุนนางในเมืองท่านหนึ่งเพื่อมาเรียกค่าไถ่เมื่อเซโร่ได้ยินดังนั้นจึงไม่รอช้า และหาจังหวะช่วยลูกสาวขุนนางให้ได้เซโร่จึงต้องเปลี่ยนหูตัวเองกลับเป็นหูมนุษย์เหมือนเดิมโดยใช้มือทั้ง2ข้างลูบที่ใบหูพลันหูของเซโร่ก็กลับกลายเป็นหุมนุษย์ดั่งเดิมเซโร่แอบสะกดรอยตามพวกมันจนไปถึงที่ๆพวกมันจับลูกขุนนางขังไว้เซโร่จึงปีนขึ้นไปบนต้นไม้ข้างบนกระท่อมที่มันใช้เป็นที่คุมขังและหาดูว่ามีพวกมันกี่คน“3 คน..งั้นเหรอ” เซโร่นับจำนวนของพวกมันและหายวับจากต้นไม้ต้นนั้นทันทีเพื่อไปดำเนินการตามแผน
“เฮ้ย เดี๋ยวข้าไปยิงกระต่ายก่อนนะ เดี๋ยวมาเฝ้าเหยื่อดีๆล่ะ” หนึ่งในคนร้ายพูดกับเพื่อนของตน
จากนั้น พอมันออกมาจากกระท่อมแล้วและเลื่อนกงเกงลงเพื่อเตรียมจะทำธุระส่วนตัว เซโร่เมื่อเห็นเหยื่อรายแรกก็ไม่รอช้าเขาออกมาจากที่ซ่อนแล้วใช้พลังเวทย์เบาๆอัดไปที่ท้ายทอยซึ่งอาจจะยากเย็นไปหน่อยสำหรับเด็ก12ขวบ
เมื่อคนร้ายคนนั้นโดนพลังเวทย์ของเซโร่ มันก็สลบทันทีเซโร่จึงพยายามลากคนร้ายที่สลบคนนั้นไปซ่อน แต่เจ้ากรรม เพื่อนของคนร้ายคนนั้นมันผิดสังเกตว่าเพื่อนไปทำธุระนานเกินไปจึงออกมาตามและมันเลยเห็นว่าเพื่อนคนนั้นสลบอยู่ มันกำลังจะตะโกนบอกเพื่อนแต่ถูกเซโร่ที่แอบซ่อนตัวมาปิดปากไว้และอัดพลังเวทย์เข้าไปที่ท้อง “เสร็จไปอีกหนึ่งทีนี้ก็เหลืออีกหนึ่ง” พอเซโร่พูดจบ คมดาบจ้างข้างหลังก็ตรงเข้ามาหวังแทงเซโร่แต่ดีที่มันเพียงแค่แฉลบแขนไปเท่านั้น เลือดของเซโร่จึงไหลออกมาเซโร่รู้สึกเจ็บมากเนื่องจากยังเด็ก จึงได้ใช้พลังเวทย์และเพิ่มแรงเข้าไปนิดหน่อยแล้วจึงอัดไปที่คนร้ายคนสุดท้าย “อ๊ากกก!” เจ้าคนร้ายเมื่อโดนพลังของเซโร่มันถึงกับกระเด็นไปกระแทกกับกระท่อมคุมขังจนพังลงมา
เซโร่เห็นว่ากระท่อมที่ใช้คุมขังลูกขุนนางกำลังพังลงมาและกลัวว่านางจะได้รับอันตรายจึงเปลี่ยนขาและแผ่นหลังตนเองเป็นปีศาจและใช้ความเร็วของขากระโจนเขาไปในกระท่อมด้วยความเร็วสูงเมื่อถึงตัวลูกขุนนางแล้ว
เซโร่ก็กอดลูกขุนนางไว้อย่างแนบแน่นเพื่อกันอันตรายจากกระท่อมที่กำลังพังเมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว เซโร่จึงหันมามองหน้าลูกขุนนางคนนั้น นางมีผมและดวงตาสีดำผมมันวาวหน้าตากลมเรียว ผิวขาว ดูๆแล้วไม่แพ้ลิซ่าทีเดียวล่ะ..
ลูกขุนนางคนนั้นก็ได้แต่ร้องอู้อี้ๆเพราะถูกปิดปากไว้อยู่เซโร่ก็งงว่าเธอต้องการจะสื่ออะไร เมื่อรู้ตัวว่าเซโร่ยังไม่คลายกอดเธอ เซโร่จึงรีบผละร่างเธอออกไปทันทีทำให้เก้าอี้ที่เธอถูกมัดจับไว้อยู่นั้น เอนหลังล้มลงไปและเธอก็สลบทันทีเมื่อรู้สึกตัว เธอก็มองไปรอบๆแล้วจึงเห็นว่าเซโร่กำลังก้มลงมองเธออยู่เธอก็ร้องอู้อี้ๆเหมือนเดิม พลางคิดในใจว่า ไอ้เจ้านี่มันโง่แท้เพราะตัวเธอสลบไปแล้วแทนที่จะมาแก้มัดและคลายปากเธอแต่ไอ้หมอนี่มันดั๊นนั่งจ้องอย่างเดียว
“อู้อี้ๆอื้อๆอี้” เธอพยายามจะบอกเซโร่ให้มาช่วยแต่เซโร่ก็ยังนั่งจ้องเหมือนเดิม ซักพักเซโร่จึงนึกขึ้นได้ว่าลืมคลายเชือกให้เธอเมื่อลูกขุนนางถูกแก้มัดแก้อะไรแล้ว เธอก้ด่าเซโร่ต่างๆนานา “นี่เจ้าตั้งใจจะมาช่วยข้าจริงๆรึเปล่าเนี่ยทำให้ข้าสลบไม่พอยังไม่แก้เชือกให้อีก คอยดูนะถ้าข้ากลับบ้านได้เมื่อไหร่จะฟ้องท่านพ่อให้ดูท่านพ่อนี่ก็อะไรไม่รู้ จ้างคนมาช่วยลูกสาวแท้ๆ ดันจ้างเด้กมาช่วยซะนี่” เธอบ่นเป็นชุดและว่าใส่เซโร่ เมื่อเซโร่เห็นว่าตัวเองถูกคนที่ได้ช่วยไว้ต่อว่าจึงโกรธและย้อนกลับไปว่า
“หนอยแน่เจ้า ข้ามาช่วยเจ้าแท้ๆดันมาว่ากันซะนี่ ดูซิถ้าข้าไม่มาช่วยเจ้าเจ้าจะเป็นยังไง และอีกอย่าง ข้ามาช่วยเจ้าเอง ไม่มีใครจ้าง!” เมื่อลูกขุนนางได้ยินว่าพ่อของตนไม่ได้จ้างชายคนนี้จึงรู้สึกแปลกใจและถามกลับไปว่า“ท่านพ่อของข้าไม่ได้จ้างเจ้าจริงๆเหรอ” เซโร่พยักหน้าตอบแทนคำพูด “งั้นข้า...ต้องขอบคุณเจ้าสินะ”นางแอบเขินอายเล็กน้อย
“ข..ขอบคุณนะ” นางขอบคุณเซโร่พร้อมทั้งอาการแก้มแดงและก้มหน้าลงหลบสายตาของเซโร่“อ่า-อืม” เซโร่ตอบ
“งั้น เจ้ามีที่ไปมั้ย จะไปบ้านข้าก่อนมั้ยล่ะ” นางถามเซโร่จึงบอกว่า “ข้าไม่มีที่ไปหรอก วันๆก็ต้องหาล่าสัตว์ประทังชีวิตนี่ล่ะ” “งั้นเหรองั้นเจ้าก็โชคดีแล้วล่ะที่มาเจอข้า เดี๋ยวข้าจะพาไปหาท่านพ่อของข้าเองท่านเป็นคนใจดีนา บางทีอาจจะช่วยดูแลเจ้าได้ อ๊ะ..ลืมไปๆข้าชื่ออลิสนะ” นางแนะนำให้เซโร่ไปหาพ่อของตนพร้อมทั้งแนะนำตัว
“อ่าก็ได้ ข้าจะไปกับเจ้า ส่วนข้าชื่อ เซโร่นะ” เซโร่ตอบรับความหวังดีและแนะนำตนเองบ้าง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ganauou เมื่อ 2013-1-16 21:16
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-1-17 15:22
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-07]