จู่ๆผมก็ได้สติกลับคืนมา...
ว่ากันตามจริงผมรู้สึกเหมือนเกิดใหม่มากกว่า
...ไม่สิ...ต้องบอกว่าตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งจะตรง
ที่สุด
"เฮ้อ!....แค่ฝันไปหรอกงั้นเรอะ"
...ก็อยากจะพูดอะไรเทือกนั้นอยู่หรอกนะ
แต่นี่มันไม่ใช่ความฝันนี่สิ............ถ้าเป็นความฝันจริงๆสถานที่ที่ผม
ควรจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ควรจะเป็นที่นอนในห้องของผม
แต่ที่นี่ไม่ใช่ห้องของผม
มันเป็นสถานที่ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ
อีกทั้งเหล่าน้องสาวที่คอยมากระทืบปลุกผมทุกเช้าก็ไม่อยู่ที่นี่ด้วย
"..........."
เอ่อ....
ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าพึ่งตื่นจากฝัน...เหมือนกับว่าผมพึ่งตื่นจากการ
หลับแล้วหลับอีกยังใงยังงั้น
แล้ว....ที่นี่...ที่ใหน?
อาคารร้างเรอะ?
ผมเข้าใจว่าตอนนี้ผมอยู่ในสิ่งก่อสร้างแน่นอน...
หน้าต่างรอบๆถูกปิดด้วยแผ่นกระดานตอกตะปู...หลอดไฟบนเพดานทุกหลอดเสียทั้ง
หมด...
อีกอย่างหนึ่งที่ผมรับรู้ด้วยตัวเองตอนนี้...
ผมกำลังนอนอยู่บนพื้น...
พื้นที่นี่ถูกปูด้วยเสื่อน้ำมัน
รอยแตกลายงามีให้เห็นอยู่นับไม่ถ้วน
ผมผงกหัวขึ้นมาเพื่อที่จะดูสภาพรอบๆตัวตอนนี้...........ไอ้ที่แขวนอยู่บนกำแพงนั่นมันอะไรล่ะนั่น?
กระดานดำ?
แล้วก็....โต๊ะ?
เก้าอี้?
....นี่มันห้องเรียนรึใง?
แล้วก็......ถึงจะบอกว่าห้องเรียนก็เถอะ.....แต่นี่ไม่ใช่ที่โรงเรียนเอกชนนาโอเอ็ตสึแน่ๆ....ผมพูดได้เต็มปากเลย
ถึงงั้นก็เถอะ............ที่แบบนี้มันให้ความรู้สึกอย่างอื่นไม่ได้นอกจากห้องเรียนนี่นา
...ถึงคนพูดมันจะเป็นนักเรียนที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าใหร่ก็เถอะนะ
และแม้ว่ามันจะไม่ใช่โรงเรียนแต่มันก็น่าจะเป็นอะไรซักอย่างที่มีความคล้ายกันมาก...จนทำให้ผมสามารถเข้าใจและตัดสินได้ว่าที่นี่คือโรงเรียนหรืออะไร
ทำนองนั้น
แต่ถ้าเกิดไม่ใช่โรงเรียน...แต่ทำไมที่นี่ถึงมีกระดานดำอีกทั้งยังมีโต๊ะกับเก้าอี้เยอะขนาดนี้กันล่ะเนี่ย
...อาเระ...
นี่มันบรรยากาศของโรงเรียนกวดวิชาชัดๆ
ที่นี่คงเป็นโรงเรียนกวดวิชาสินะ
...แต่ก็อย่างที่พูดไป...ไม่ว่าจะมองไปทางใหน
นี่ก็คงเป็นแค่โรงเรียนกวดวิชาที่ปิดตัวไปแล้ว
ทั้งหน้าต่างทั้งหลอดไฟ...ดูยังใงก็โรงเรียนกวดวิชาร้าง
คงจะเพราะมันมืดมากละมังผมเลยมองว่ามันเป็นแบบนั้นด้วย.............
หืม....มืดมาก?
เฮ้ย...?
ก็แล้วทำไม..........ในห้องที่หน้าต่างทุกบานถูกปิดอย่างแน่นหนาจนไม่มีแสงลอดผ่านมาได้ซักแอะแบบนี้....ทำไมผมถึงมองเห็นล่ะ?
ผมรู้ว่ามันมืดมากๆ
บอกได้เลยว่าไม่มีแสงอะไรเล็ดลอดผ่านมาได้เลย
ตามปรกติในสถานการณ์แบบนี้แค่มองมือตัวเองก็คงแทบไม่เห็นแล้วด้วยซ้ำ....แต่
...ผมมองเห็น
แถมยังมองเห็นแบบชัดแจ๋วด้วย
...ไม่จริงน่า....นี่มันเรื่องอะไรกัน?
อาจจะเป็นเพราะว่าผมพึ่งลืมตาขึ้นมาละมังความรู้สึกตอนนี้มันก็เลยยังเบลอๆ
อยู่...
เอาล่ะ...เอาเป็นแบบนั้นละกันเพราะงั้นตอนนี้ผมควรที่จะลุกขึ้น...........
"....โอ๊ย"
เหมือนกับว่าผมกัดโดนอะไรซักอย่างในปากผม...
หืม....?
แล้วทำไมฟันเขี้ยวของผมมันยาวๆชอบกลล่ะเนี่ย?
ผมตั้งใจจะสอดนิ้วเข้าไปในปากเพื่อตรวจดูฟันของผม....
ซึ่งหมายความว่าถ้าผมจะเอานิ้วเข้าไปในปากผมก็ต้องขยับแขนตามด้วย....ตอนนั้นเองที่ผมพึ่งจะรู้สึกตัว....
บางอย่างที่กำลังนอนหลับทับแขนของผมจนทำให้ขยับแขนไม่ได้....นั่นก็คือเด็กผู้หญิง....
"..............."
เอ๋....
เด็กผู้หญิง?
"....เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย!?"
เด็กผู้หญิงตัวเป็นๆด้วย
อายุของเธอน่าจะราวๆสิบขวบ....มั๊ง?
เด็กผู้หญิงผมสีทองในชุดที่ดูเข้ากับตัวเธอดี............แล้วก็มีผิวที่ขาวละมุนราวกับโปร่งแสง....
หายใจเบาๆดัง ชูว.........ชูว...........
กำลังหลับอยู่แฮะ....
แถมดูท่าจะหลับยาวด้วยซะงั้น
"............"
แต่ตอนนี้ต่อให้รู้สถานการณ์ทั้งหมดแล้วก็ยังไม่เข้าใจอีกอยู่ดี
ทำไมผมถึงอยู่ที่นี่...แล้วที่นี่ที่ใหน....แล้วยัยเด็กหัวทองนี่เป็นใครผมไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้ซักนิด...แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้ว่าควรทำในตอนนี้ก็
คือ...
ปลุกยัยเด็กนี่ขึ้นมาก่อน
กับยัยเด็กที่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนในสถานการณ์ที่ชวนผิดกฏหมายแบบนี้ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น!
"อะ...เฮ้....นี่...ตื่นสิ"
ผมเลือกที่จะจับร่างของยัยเด็กผมทองคนนี้ในส่วนที่ไม่น่าจะผิดกฏหมาย(อย่างแขนเป็นต้น)แล้วเริ่มเขย่าตัวเธอ
"งุ.....เงียมมมมม"
ตอนนั้นเองที่เด็กผมทองคนนี้พูดออกมา...
"ขออีกห้า.......นา....ที...."
เด็กสาวผมทองพูดมาแบบนั้น
จากนั้นเธอก็หลับไปอีกรอบนึง....................
"อะ....ตื่นเซ่...บอกว่าให้ตื่นใง!!!!"
ตอนนี้ผมไม่สนหรอกว่าเธอจะว่ายังใง....ผมยังคงเขย่าตัวเธอต่อไป
".....งุ....อีก....แป๊ป.....นึง...."
"คิดจะนอนไปถึงใหนฟะหล่อนน่ะ?"
"........สี่...พาน...โหก...ร้อย....ล้าน....ปี.................แง่ม...."
"นั่นมันนานพอจะสร้างโลกใหม่ได้เลยนะว้อยนั่น!!!"
ผมแหกปากด่าไปแบบนั้นก่อนจะหุบลงเพราะนึกถึงบางเรื่องได้...
แล้ว...เวลาตอนนี้ล่ะ
เวลาตอนนี้คือ...................... 4.30 น.
ไม่สิ...ถ้าเป็นนาฬิกาแบบนั้นผมจะไม่รู้เลยว่านี่มันช่วงเช้ารึว่าช่วงบ่ายกันแน่
โทรศัพท์....ใช่แล้วโทรศัพท์...เอาล่ะเจอละ
เวลาที่หน้าจอตอนนี้คือ 16.36...
ส่วนวันที่ก็... 28 มีนาคม !?
ผมจำได้ค่อนข้างจะแน่นอนเลยว่าครั้งสุดท้ายที่ผมดูโทรศัพท์มือถือกับเวลามันพึ่งจะเปลี่ยนเป็นวันที่
26 มีนาเองนี่
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า...ผ่านไปสองวันแล้วงั้นเรอะ?
"......ไม่จริงน่า"
ถ้านี่ไม่ใช่ความฝัน...แล้วมันเป็นความจริงซักกี่เปอร์เซนต์กันล่ะ?
นี่คงยังไม่ใช่เวลาที่จะปลุกยัยเด็กหัวทองนี่หรอก...ผมค่อยๆดึงแขนตัวเองออกจากหัวของเธออย่างเบาๆ
ขั้นแรกคงต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าที่นี่คือที่ใหน....
ผมเดินไปที่ประตูห้อง(ที่น่าจะเป็นห้องเรียน)โดยพยายามไม่ทำเสียงดัง.......ประตูไม่ได้ล็อค...ด้านหนึ่งของมันเปิดอยู่แล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีกับดักอะไรอยู่บนประตูด้วย
เป็นไปได้รึเปล่าว่าผมกำลังถูกขังอยู่ในที่ลึกลับเนี่ย(....ก็รู้นะว่ามันฟังดูงี่เง่า...แต่มันน่ากลัวจริงๆนี่)
ก็นะ...ก่อนที่จะไปพูดถึงเด็กสาวน่ารักผมทองที่ลักพาตัวผู้ชายอย่างผมมาโดย
ไม่มีอะไรให้เธอแน่นอนแล้ว ก่อนอื่น...
หลังจากก้าวพ้นประตูมาก็จะมองเห็นช่องบันได
มันเขียนใว้ที่ผนังว่า [2F]
ชั้นสองสินะ?
ที่บันไดนั้นมีทั้งทางขึ้นและทางลง...
ผมคิดนิดหน่อยว่าผมควรจะขึ้นหรือลงดี....ก็นะ...ตามปรกติมันก็ต้องลงไปอยู่แล้ว
ถ้าไม่ทำแบบนี้จะออกไปจากตึกนี่ได้ยังใงกันล่ะ
ผมเห็นว่ามีลิฟท์อยู่ระหว่างบันไดด้วยเหมือนกันแต่ถึงไม่ต้องลองดูผมก็
รู้....ลิฟท์มันเจ๊งไปแล้วแหงๆ
ผมก้าวเท้าลงบันไดไป
"...เอ....โตะ...
บันทึกสมุดโทรศัพท์ในโทรศัพท์ยังมีเบอร์โทรกับอีเมลของฮาเนคาว่าอยู่...นั่นหมายความว่าการได้พูดคุยกับฮาเนคาว่าตอนพิธีปัจฉิมนั่นเป็นเรื่องจริง....แล้วความทรงจำที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องจริงด้วยเหมือนกัน...แจ่มมาก"
....เพราะงั้นกางเกงในที่ผมเห็นก็ไม่ใช่ความฝัน...
ถึงผมจะรู้สึกเหมือนฝันไปก็เถอะ
"เงินในกระเป๋าเงินร่อยหรอ
แล้วก็ใบเสร็จที่อยู่ในนี้.....หมายความว่าเรื่องที่ไปซื้อหนังสือโป๊มาก็เป็นเรื่องจริงด้วยสินะ.."
ผมพยายามที่จะไม่ใส่ใจกับมันก่อนจะพูดต่อ...
"แต่....ไอ้เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเนี่ย.........ดูยังใงก็ไม่ใช่ความจริงซักนิดนี่หว่า!!!!"
....ผมฝันร้ายรึใง?
รึผมเข้าใจอะไรผิดไป?
บางที...............อาจจะมีผู้หญิงโดนรถชน....แล้วผมเกิดไปเห็นเข้า...เลย
หน้ามืดเป็นลมไป?
เหอ....
มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังใงเล่า....แต่ก็นะ
ผมพึ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้ครั้งแรกด้วยสิ
แล้ว...ระหว่างที่ผมไม่ได้สติ ก็มีใครบางคนพาผมมาที่นี่....
ไม่น่าเป็นไปได้...ตามหลักแล้วถ้าเจอหมดสติแล้วจะช่วยจริงๆก็น่าจะเรียกรถพยาบาลมาไม่ใช่เรอะ
แต่เวลาที่โชว์บนหน้าจอมือถือของผมตอนนี้ไม่ผิดแน่นอน
เฮ้อ.........ไม่ได้กลับบ้านมาสองวัน...ไม่สิตามความรู้สึกคงต้องบอกว่าสามวันแล้วสินะ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมออกมาค้างข้างนอกโดยไม่บอกกล่าวกับที่บ้าน
แถมระยะเวลาสามวันนี่มันเกือบจะแหกกฏที่บ้านผมวางใว้ให้ด้วยสิ
ถ้าเกิดว่าคนที่ทำเรื่องนี้เป็นน้องสาวทั้งสองของผมตอนกลับมาเธออาจจะดูสมกับเป็นผู้หญิงขึ้นมาบ้างก็ได้...แต่ยังใงซะตอนนี้ผมก็คงต้องกลับไปบอกที่บ้านก่อน
ต้องกลับไปตอนนี้เลย....
ตามปกติในเวลาแบบนั้นผมมักจะคิดเรื่อยเปื่อยลอยชาย.....
แต่ไม่ใช่ตอนนี้...ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากอาคารนี่...ไปในทางที่อากาศปลอดโปร่ง
ผมกระโดดข้ามเศษปูนใกล้ๆเท้า เดินหลบเศษเหล็ก เศษแก้ว
แผ่นไม้แล้วก็กระป๋องที่ผมไม่รู้ว่าฉลากของมันอ่านว่าอะไร(แล้วทำไมผมถึงมองในความมืดได้ชัดขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน)
นอกตัวอาคารนี้ปรากฏทิวทัศน์ของหญ้าที่ขึ้นรกเป็นช่วงๆจากนั้นผมก็ก้าวออกนอกตัวตึก................ตอนนั้นเอง...
ร่างกาย.......
ร่างกายของผม............ราวกับโดนแผดเผา
น่าจะรู้....ผมน่าจะรู้อยู่แล้วแท้ๆ....
ตะวันยามเย็นที่เห็นอยู่ทุกวัน............ราวกับมืดลง
ทุกอย่างสายเกินการ.........ร่างกายของผมกำลังใหม้
"อว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!"
ผมกรีดร้องราวกับเสียสติ
มันเจ็บปวดเกินกว่าจะบอกได้
เส้นผม , ผิวหนัง , เนื้อใน , กระดูก , ทุกๆอย่าง.............ถูกแผดเผา
มันกำลังใหม้
.....ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ....มันลุกลาม
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!"
แวมไพร์...
อ่อนแอต่อแสงแดดสินะ?
ราตรีคือศาสตราของแวมไพร์.....แต่มันไม่อาจทำลายดวงตะวัน
นั่นคือเหตุผล.....ที่ไร้ซึ่งเงา
แต่ตอนนี้ผมควรจะทำยังใงกับสภาพที่เกิดขึ้นกับผมดี --------
"เขลายิ่งนัก!"
เสียงนั้นดังก้องมาจากในตัวอาคารในระหว่างที่ผมกำลังพยายามกลิ้งตัวลงกับพื้นเพื่อดับไฟโดยการใช้ความรู้เท่าที่พอจะมีอยู่บ้าง
(ถ้าจำไม่ผิดผมเคยอ่านมาจากในหนังสือเล่มใหนสักเล่มว่าถ้าโดนไฟคลอกจะต้องทำแบบนี้)
ผมมองไปยังต้นเสียงนั้น...
ในขณะที่ผมกำลังใหม้...ความชื้นในร่างของผมหายไปอย่างมาก
และด้วยสภาพแบบนี้เมื่อมองไปทางต้นเสียง...............ที่อยู่ต่อหน้าผมคงจะเป็นเด็กสาวผมทองขี้เซาคนนั้น
เด็กสาวคนนั้นมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่งดงาม....
"เข้ามาข้างในนี้ เร็วๆเข้า!"
เธอร้องบอกแบบนั้น
แต่ถึงจะบอกแบบนั้นก็เถอะ....แต่เพราะความเจ็บมันมากเกินไปจนผมไม่สามารถเคลื่อนใหวได้ตามใจนึกร่างกายผมมันไม่ยอมรับคำสั่งอะไรอีกแล้ว
.......เมื่อเห็นผมเป็นแบบนี้....เด็กสาวราวกับตัดสินใจทันที
เธอพุ่งตัวออกมานอกอาคาร
ทันทีที่พ้นตัวอาคาร ตอนนั้นเอง
เช่นเดียวกับผม........ร่างของเด็กสาวผู้มีผมสีทองก็ถูกแผดเผา
แต่ดูเหมือนเธอจะไม่แยแสเลยที่มันเป็นแบบนั้น
เธอวิ่งมาที่ผมจากนั้นก็จับตัวผมที่กำลังจะกลายเป็นซาก....แล้วลากทันที
ไฟเริ่มขยายตัวลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับความเร็วที่เธอลากผมด้วยเช่นกัน
ผมสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเธอ....
พลังอันมหาศาลในร่างกายที่ดูราวกับเด็กๆ
เรียวแขนที่ผอมบางแต่เปี่ยมด้วยกำลังที่เหลือล้น........แต่ไม่มากพอที่จะอุ้มผมไป(ที่จริงคงได้แค่แบกล่ะนะ)
ทำได้เพียงแค่ลาก
ลากไปทั้งๆที่กำลังใหม้อยู่....
ราวกับว่าแม้กำลังจะถูกไฟเผาอยู่มันก็ไม่ส่งผลอะไรใดๆกับเธอเลย...........แต่หลังจากที่เด็กสาวลากผมที่กำลังลุกเป็นไฟเข้าไปในตัวอาคารที่แสงแดดส่องไปไม่ถึงซึ่งมันก็กินเวลาชั่วระยะหนึ่งเหมือนกัน
เรื่องที่น่าแปลกใจอีกเรื่องก็เกิดขึ้นกับผม...
ร่างกายของผม....
แล้วก็ร่างกายของเด็กสาวผมทองที่เคยถูกหุ้มด้วยเปลวไฟ ทันทีที่เข้ามาข้างในนี้เปลวไฟกลับอันตรธานไปจนหมด....ราวกับเวทย์มนต์ยังใงยังงั้น....
ไม่ใช่แค่นั้น..........แม้แต่รอยแผลไฟใหม้ก็ไม่มี
อีกทั้งเสื้อผ้าเองก็ไม่มีซักที่ที่ดูเหมือนโดนเผา
อย่างกับว่ากำลังใส่ชุดพรางตัวอยู่ทำนองนั้นเลย
เด็กสาวผมทองในชุดวันพีชบางเบาเองก็อยู่ในสภาพเดียวกันกับผม....
"เอ๋...เอ๋....เอ๋!!!!!!!!!!!"
"ให้ตายสิ"
ท่ามกลางดวงตาที่กำลังฟ้าฟาง....เด็กสาวเริ่มกล่าวคำพูด
"เจ้านึกบ้าอะไรจึงออกไปเดินท่ามกลางดวงตะวันเช่นนั้น......เราเพียงแค่นอนหลับไปชั่วครู่แต่เจ้ากลับทำเช่นนี้
เจ้าอยากจะตายมากนักหรือไร? หากว่าเป็นแวมไพร์ปรกติเจ้าคงจะสลายไปก่อนที่จะรู้สึกตัวแล้วด้วยซ้ำ!"
"เอ๋"
"คราวหลังอย่าแม้แต่จะออกไปข้างนอกหากว่าดวงตะวันยังส่องแสงอยู่
แม้เจ้าจะดูเหมือนเป็นอมตะแต่เจ้าก็ยังจะถูกมันผลาญเผา เจ้าจะคืนชีพ ถูกเผา
คืนชีพ ถูกเผา เป็นล้านๆรอบ ตราบจนกว่าพลังในการคืนชีพของเจ้าจะหมดลงหรือดวงตะวันจะลับตาเจ้าจักต้องพบกับนรกเช่นนั้นไปเรื่อยๆ
เพราะเจ้าในตอนนี้คือผู้มีพลังแห่งแวมไพร์แล้ว......"
"เอ๋ --------------------!!!!!"
แวมไพร์!?
เอ่อ...เดี๋ยวสิ....นี่ไม่ใช่ความฝันรึการเข้าใจผิดใช่มั๊ย?
"เอ่อ....อ่าโน....แล้ว....คุณ....คุณคือ?"
เรือนผมสีทอง...ชุดขาวบางเบา
และดวงตาที่แสนจะเย็นชา....
ไม่ใช่...อายุต่างกันมากเกินไป.........................เธอที่กำลังจะตายคนนั้นที่ผมเห็น
แม้จะกะคะเนอายุไม่ตรงมากซักเท่าไหร่แต่ไม่ว่าจะดูยังใงเธอก็น่าจะอายุยี่สิบเจ็ดปีเป็นอย่างน้อย...
ทั้งหมดมันห่างจากเด็กผู้หญิงอายุสิบขวบคนนี้มากเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้น...อวัยวะ
แขนขวา , แขนซ้าย , ขาขวา , ขาซ้าย...เด็กสาวผมทองคนนี้มีครบถ้วน
ยัยเด็กสิบขวบคนนี้มีอวัยวะพวกนี้เหมือนปรกติ
เทียบกับเธอที่แขนขาถูกสะบั้น......................มันต่างกันโดยสิ้นเชิง...
แต่...
มันมีความคล้ายกันอยู่มาก
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็ตอนที่คุณมองไปในปากของเธอเวลาเธอพูดคุณจะมองเห็นเขี้ยวเล็กๆที่ขาวสะอาด.........แล้วก็ยังมี.......
"อา....แฮ่ม..."
เธอพยักหน้าเล็กน้อย...
จากนั้นด้วยความมั่นใจอะไรซักอย่าง
เด็กสาวเชิดอก(ที่ไม่ค่อยจะมี)ขึ้นแล้วกล่าวว่า....
"นี่เราเอง...คิสช็อท - อาเซโรร่าโอไรออน -
ฮาร์ทอันเดอร์เบลด อ้อ...เจ้าจะเรียกเราว่าฮาร์ทอันเดอร์เบลดก็ได้"
จากนั้นเธอก็พูดเรื่องที่ชวนอึ้งต่อมาอีกเรื่องหน้าตาเฉย
"ชั่วระยะเวลาสี่ร้อยปีเราเคยสร้างผู้รับใช้เพียงสองตนเท่านั้น....หืม?...หากจะวัดกันที่พลังในการคืนชีพของเจ้านับว่าเจ้าลืมตาตื่นขึ้นมาได้อย่างงดงาม
และดูไปแล้วเราก็ไม่เห็นวี่แววว่าเจ้าจะบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน
ที่จริงตอนแรกเราก็ค่อนข้างเป็นห่วงเล็กน้อยที่เจ้าไม่ยอมลืมตาขึ้นมาสักทีล่ะนะ"
"ผะ.....ผู้รับใช้เรอะ?"
"ใช่แล้ว เจ้า....อืม จะว่าไปเราก็กำลังนึกได้
เรายังไม่รู้ชื่อของเจ้าเลย...อืม แต่ก็นะ
ชื่อของเจ้าที่เคยใช้มาตราบจนบัดนี้มันคงไม่มีความหมายอะไรสำหรับเจ้าอีกแล้ว
ใช่ใหมล่ะ ผู้รับใช้แห่งเรา"
เธอหัวเราะน้อยๆ
แต่เป็นการหัวเราะที่แฝงใว้ซึ่งความชั่วร้าย...
"ยินดีต้อนรับ.........สู่โลกายามราตรี
|