@17660
hohenhai
เต๋าไม่ใช่ทั้งลัทธิ และไม่ใช่ทั้งศาสนา เพราะเต๋าปราศจากพิธีกรรม ปราศจากความเชื่อให้ยึดมั่นถือมั่น หากมุ่งเข้าสู่เนื้อหาสาระโดยตรง หากเต๋าเป็นลัทธิความเชื่อหรือเป็นศาสนา เต๋าก็แยกอยู่ต่างหากจากชีวิตจริง เพราะสิ่งทั้งสองเป็นสิ่งอยู่ภายนอก เป็นของเทียม ศาสนาและลัทธิความเชื่อใดๆ ตราบใดที่ยังเป็นความเชื่อ เป็นศาสนาอยู่ ก็เป็นของเทียม จนกว่าศาสนาและความเชื่อนั้นจะละลายไหลเข้ามารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวเราเท่านั้น นั่นคือชีวิต และชีวิตเป็นของจริง เป็นส่วนที่หนักแน่นและสมเหตุสมผล เต๋าจึงไม่ใช่ทั้งศาสนาและลัทธิความเชื่อ หากเต๋าคือ “วิถีชีวิต” นั่นเอง เมื่อคนได้ “แลเห็น” ใจของเขาย่อมสว่าง หนทางอันยิ่งใหญ่ย่อมเปิดออกเป็นหนทางอันยิ่งใหญ่ที่รวมทางเล็กทางน้อยทุกสายไว้ภายใน เราเพียงแต่เดินไปโดยมิต้องกังวล เราเดินตามทางไปโดยมิต้องตั้งจุดมุ่งหมายหรือวางแผนการ ชีวิตของเราจะเป็นไปเอง เรียบง่ายดังการไหลของน้ำ ดังนกที่บินอยู่บนอากาศ และดังปลาที่แหวกว่ายอยู่ในสายธาร เราจะดำรงชีวิตอยู่ในโลกอย่างเหมาะสมกลมกลืน เราจะอยู่ในสังคมที่สับสนด้วยใจที่สว่าง โดยมิต้องหลบเข้าป่าบวช หรือหนีหน้าออกจากสังคม เราจะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลกและธรรมชาติ ลีลาจังหวะชีวิตของเราจะดำเนินไปอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอ พร้อมๆ กับการหมุนของโลก ดังการเปลี่ยนฤดู หรือดังใบไม้ที่พริ้วไหวกับสายลม นี่คือความเป็นไปของมนุษย์ที่แท้ นี่คือหนทางอันยิ่งใหญ่ นี่คือวิถีแห่งเต๋า