ว่าด้วยเรื่องซอมบี้ หรือ มนุษย์ที่กินมนุษย์ ด้วยกันเอง
ไม่ได้แต่งขึ้นมาน่ะ ขอให้เชื่อ รองอ่านกันดู
หัวข้อแรก : ตำรวจวิสามัญฯ ชายเปลือยกินใบหน้าเหยื่อริมทางหลวงไมอามีสุดสยอง
ซีบีเอส/เอเจนซีส์ - ตำรวจไมอามีวิสามัญฆาตกรรมชายเปลือยคนหนึ่งในวันเสาร์ (26) ที่ผ่านมา เนื่องจากชายคนดังกล่าวพยายาม “กิน” ใบหน้าของชายอีกคนหนึ่ง และไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ที่ให้เขาหยุดการโจมตีที่น่าสยดสยองดังกล่าว ภาพจากกล้องวงจรปิดของตึกไมอามี เฮอรัลด์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ บนทางหลวงแมคอาร์เธอร์ เผยให้เห็นตำรวจนายหนึ่งมุ่งหน้าตรงไปยังชาย 2 คน ซึ่งตัวเปล่าเล่าปลือยอยู่บนถนน แล้วชักอาวุธของเขาออกมายิงไปที่ 1 ใน 2 คนนั้น แต่คานของรางรถไฟฟ้าทำให้ยากที่จะเห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจนในวิดีโอดังกล่าว เหตุยิงอย่างโหดเหี้ยมนี้เกิดขึ้นไม่นานหลัง 14.00 น. เมื่อตำรวจได้รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เกี่ยวกับชาย 2 คนที่ไม่ใส่เสื้อผ้า บนทางขี่จักรยานของทางหลวง ซึ่งมีรถยนต์สัญจรไปมาคับคั่งเนื่องในวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้านตำรวจไมอามีไม่ได้ยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม แต่แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดการสอบสวนนี้เผยว่า เจ้าหน้าที่พบชายคนหนึ่งกำลังเคี้ยวกินใบหน้าของชายอีกคน ซึ่งตำรวจนายหนึ่งระบุว่า เป็นภาพที่สยดสยองที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา เหตุการณ์ต่อสู้นั้นเกิดขึ้นบริเวณทางออกสู่ถนนใหญ่ ใกล้ตึกไมอามี เฮอรัลด์ และสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่พยายามระงับเหตุ จึงได้สั่งให้ชายที่กำลังกัดกินชายอีกคน หยุดการกระทำดังกล่าว ปรากฏว่าชายผู้ก่อเหตุหันมาคำรามใส่ แล้วกลับไปยังอาหารของเขา อาร์แมนโด อากีลาร์ หัวหน้าตำรวจในท้องที่เผยว่า เขาได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบกรณีดังกล่าวแล้ว และระบุว่า ชายคนนั้นได้กินจมูก และลูกตาของเหยื่อเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธของเขา และยิงใส่ชายกินคนผู้นั้น ทว่ากระสุนนัดแรกไม่ทำให้ชายคนดังกล่าวสะดุ้งสะเทือน และเขาก็ยังไม่หยุดกัดกินเหยื่อแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีทางเลือก นอกจากยิงชายผู้นั้นต่อไปจนกระทั่งเสียชีวิต หลังจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถพาเหยื่อซึ่งเป็นชายเปลือยอีกคน ที่นอนอยู่บนทางเท้าไปยังโรงพยาบาลแจ็คสัน เมโมเรียลได้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ชายคนนี้ไม่เหลือใบหน้าที่สามารถจดจำได้ ส่วนตำรวจก็ไม่เปิดเผยข้อมูลเอกลักษณ์บุคคล หรืออาการใดๆ ของเขาเลย เมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่สอบสวนสั่งปิดทางหลวงแห่งนี้ ตั้งแต่ไมอามีบีช ไปถึงตัวเมืองไมอามี และปิดทางออกทางหลวงตั้งแต่ 1-95 ทำให้การจราจรติดขัดอยู่หลายชั่วโมง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการมากนัก และไม่เผยชื่อของคนร้ายที่กินเพื่อนมนุษย์ด้วยกันรายนี้ด้วย สื่ออเมริกันได้อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรายซึ่งระบุว่า ชายที่กัดกินเพื่อนมนุษย์เหมือน “ซอมบี้” และ “ฮันนิบาล เลคเตอร์” ในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดชื่อดังผู้นี้ อาจกำลังมีอาการของ “โรควิกลจริตจากโคเคน” ซึ่งผู้เสพยาจะรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายสูง จนกระทั่งต้องเปลือยกาย แต่จะทราบแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ตกอยู่ในอิทธิพลยาเสพติดหรือไม่ ก็ต้องรอผลการชันสูตรศพและการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาแล้ว
หัวข้อที่สอง ศูนย์ควบคุมโรคมะกันออกคู่มือเตือนภัยคุกคามซอมบี้ ยันไม่ใช่เรื่องชวนหัว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "ซีดีซี" ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก "ซอมบี้"หรือพวกซากศพที่ถูกปลุกให้มีชีวิต ยืนยันภัยคุกคามจากซอมบี้ไม่ใช่เรื่องตลก... สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "ซีดีซี" ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก "ซอมบี้" หรือพวกซากศพที่ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง รายงานข่าวระบุว่า ซีดีซี สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ หลังมีการออกคู่มือฉบับที่ 101 เตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจากซอมบี้ โดยทางซีดีซียืนยันว่า การจัดทำคู่มือฉบับดังกล่าวมิใช่เรื่องตลกแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ ภายในล้วนมีประโยชน์สำหรับประชาชนหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น อา ลี ข่าน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของซีดีซีที่อยู่เบื้องหลังการจัดทำคู่มือฉบับนี้ระบุว่า ประชาชนชาวอเมริกันควรจัดหาน้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า วิทยุที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาล มาเตรียมไว้ให้เพียงพอ รวมถึงควรรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ข่าวระบุว่า คำแนะนำต่างๆ ถูกจัดทำขึ้นสำหรับช่วยให้ชาวอเมริกันนำไปใช้ในการเอาชีวิตรอดให้ได้ในยาม ที่พวกซอมบี้ออกอาละวาด จนกว่าแต่ละครอบครัวจะสามารถเดินทางออกไปยังค่ายผู้อพยพของรัฐบาลที่เป็น "เขตปลอดซอมบี้" ได้ ด้านเดฟ เดเกิล โฆษกของซีดีซีระบุว่า คู่มือดังกล่าวที่มีการนำไปโพสต์ไว้ในบล็อกของซีดีซี ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก และทางซีดีซีเชื่อว่า การออกคู่มือเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับมือซอมบี้ สามารถเรียกความสนใจจากประชาชนได้มากกว่าการออกคำแนะนำธรรมดาๆ กรณีเกิดภัยพิบัติ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คำแนะนำต่างๆ ในคู่มือฉบับนี้ก็มิได้แตกต่างจากคำแนะนำในการรับมือภัยธรรมชาติทั่วไปแต่อย่างใด.
ยังมีอีกแต่ยังหาไม่เจอ
ไม่ได้แต่งขึ้นมาน่ะ ขอให้เชื่อ รองอ่านกันดู
หัวข้อแรก : ตำรวจวิสามัญฯ ชายเปลือยกินใบหน้าเหยื่อริมทางหลวงไมอามีสุดสยอง
ซีบีเอส/เอเจนซีส์ - ตำรวจไมอามีวิสามัญฆาตกรรมชายเปลือยคนหนึ่งในวันเสาร์ (26) ที่ผ่านมา เนื่องจากชายคนดังกล่าวพยายาม “กิน” ใบหน้าของชายอีกคนหนึ่ง และไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ที่ให้เขาหยุดการโจมตีที่น่าสยดสยองดังกล่าว ภาพจากกล้องวงจรปิดของตึกไมอามี เฮอรัลด์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ บนทางหลวงแมคอาร์เธอร์ เผยให้เห็นตำรวจนายหนึ่งมุ่งหน้าตรงไปยังชาย 2 คน ซึ่งตัวเปล่าเล่าปลือยอยู่บนถนน แล้วชักอาวุธของเขาออกมายิงไปที่ 1 ใน 2 คนนั้น แต่คานของรางรถไฟฟ้าทำให้ยากที่จะเห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจนในวิดีโอดังกล่าว เหตุยิงอย่างโหดเหี้ยมนี้เกิดขึ้นไม่นานหลัง 14.00 น. เมื่อตำรวจได้รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เกี่ยวกับชาย 2 คนที่ไม่ใส่เสื้อผ้า บนทางขี่จักรยานของทางหลวง ซึ่งมีรถยนต์สัญจรไปมาคับคั่งเนื่องในวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้านตำรวจไมอามีไม่ได้ยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม แต่แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดการสอบสวนนี้เผยว่า เจ้าหน้าที่พบชายคนหนึ่งกำลังเคี้ยวกินใบหน้าของชายอีกคน ซึ่งตำรวจนายหนึ่งระบุว่า เป็นภาพที่สยดสยองที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา เหตุการณ์ต่อสู้นั้นเกิดขึ้นบริเวณทางออกสู่ถนนใหญ่ ใกล้ตึกไมอามี เฮอรัลด์ และสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่พยายามระงับเหตุ จึงได้สั่งให้ชายที่กำลังกัดกินชายอีกคน หยุดการกระทำดังกล่าว ปรากฏว่าชายผู้ก่อเหตุหันมาคำรามใส่ แล้วกลับไปยังอาหารของเขา อาร์แมนโด อากีลาร์ หัวหน้าตำรวจในท้องที่เผยว่า เขาได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบกรณีดังกล่าวแล้ว และระบุว่า ชายคนนั้นได้กินจมูก และลูกตาของเหยื่อเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธของเขา และยิงใส่ชายกินคนผู้นั้น ทว่ากระสุนนัดแรกไม่ทำให้ชายคนดังกล่าวสะดุ้งสะเทือน และเขาก็ยังไม่หยุดกัดกินเหยื่อแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีทางเลือก นอกจากยิงชายผู้นั้นต่อไปจนกระทั่งเสียชีวิต หลังจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถพาเหยื่อซึ่งเป็นชายเปลือยอีกคน ที่นอนอยู่บนทางเท้าไปยังโรงพยาบาลแจ็คสัน เมโมเรียลได้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ชายคนนี้ไม่เหลือใบหน้าที่สามารถจดจำได้ ส่วนตำรวจก็ไม่เปิดเผยข้อมูลเอกลักษณ์บุคคล หรืออาการใดๆ ของเขาเลย เมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่สอบสวนสั่งปิดทางหลวงแห่งนี้ ตั้งแต่ไมอามีบีช ไปถึงตัวเมืองไมอามี และปิดทางออกทางหลวงตั้งแต่ 1-95 ทำให้การจราจรติดขัดอยู่หลายชั่วโมง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการมากนัก และไม่เผยชื่อของคนร้ายที่กินเพื่อนมนุษย์ด้วยกันรายนี้ด้วย สื่ออเมริกันได้อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรายซึ่งระบุว่า ชายที่กัดกินเพื่อนมนุษย์เหมือน “ซอมบี้” และ “ฮันนิบาล เลคเตอร์” ในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดชื่อดังผู้นี้ อาจกำลังมีอาการของ “โรควิกลจริตจากโคเคน” ซึ่งผู้เสพยาจะรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายสูง จนกระทั่งต้องเปลือยกาย แต่จะทราบแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ตกอยู่ในอิทธิพลยาเสพติดหรือไม่ ก็ต้องรอผลการชันสูตรศพและการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาแล้ว
หัวข้อที่สอง ศูนย์ควบคุมโรคมะกันออกคู่มือเตือนภัยคุกคามซอมบี้ ยันไม่ใช่เรื่องชวนหัว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "ซีดีซี" ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก "ซอมบี้"หรือพวกซากศพที่ถูกปลุกให้มีชีวิต ยืนยันภัยคุกคามจากซอมบี้ไม่ใช่เรื่องตลก... สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "ซีดีซี" ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก "ซอมบี้" หรือพวกซากศพที่ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง รายงานข่าวระบุว่า ซีดีซี สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ หลังมีการออกคู่มือฉบับที่ 101 เตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจากซอมบี้ โดยทางซีดีซียืนยันว่า การจัดทำคู่มือฉบับดังกล่าวมิใช่เรื่องตลกแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ ภายในล้วนมีประโยชน์สำหรับประชาชนหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น อา ลี ข่าน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของซีดีซีที่อยู่เบื้องหลังการจัดทำคู่มือฉบับนี้ระบุว่า ประชาชนชาวอเมริกันควรจัดหาน้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า วิทยุที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาล มาเตรียมไว้ให้เพียงพอ รวมถึงควรรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ข่าวระบุว่า คำแนะนำต่างๆ ถูกจัดทำขึ้นสำหรับช่วยให้ชาวอเมริกันนำไปใช้ในการเอาชีวิตรอดให้ได้ในยาม ที่พวกซอมบี้ออกอาละวาด จนกว่าแต่ละครอบครัวจะสามารถเดินทางออกไปยังค่ายผู้อพยพของรัฐบาลที่เป็น "เขตปลอดซอมบี้" ได้ ด้านเดฟ เดเกิล โฆษกของซีดีซีระบุว่า คู่มือดังกล่าวที่มีการนำไปโพสต์ไว้ในบล็อกของซีดีซี ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก และทางซีดีซีเชื่อว่า การออกคู่มือเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับมือซอมบี้ สามารถเรียกความสนใจจากประชาชนได้มากกว่าการออกคำแนะนำธรรมดาๆ กรณีเกิดภัยพิบัติ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คำแนะนำต่างๆ ในคู่มือฉบับนี้ก็มิได้แตกต่างจากคำแนะนำในการรับมือภัยธรรมชาติทั่วไปแต่อย่างใด.
ยังมีอีกแต่ยังหาไม่เจอ
