บทที่ 1 สงครามและมิตรภาพ
ณ โลกอสูร ดินแดนที่ อุดมสมบรูณ์ ไปด้วยทรัพยากร อาหาร และพื้นดินเขียวชะอุ่มซึ่งหลบอยู่อีกฟากของโลกมนุษย์ ถึงแม้จะเป็นดินแดนที่ดูงดงามแต่กลับแฝงไปด้วยความป่าเถื่อนและกระหายเลือดอย่างมาก ดินแดนแห่งนี้มีอสูร แบ่งออก เป็น สองฝ่าย คือ คามิโนะสึบาสะ ซึ่งเป็นอสูรที่ขึ้นตรงต่อ เทพพระเจ้า บนสวรรค์ กับ โฮไก เป็นอสูร ขึ้นตรงต่อยมโลก ทั้ง 2 ฝ่าย นี้ได้รบกันมาช้านานแต่อดีตการ เมื่อปี พ.ศ 2539 ฝ่ายคามิโนะสึบาสะ ได้ยกพลไปโจมตีโฮไก เนื่องจากฝ่ายโฮไกจะทำการเปิดประตูมิติที่เชื่อมต่อไปสู่โลกมนุษย์ ฝ่ายคามิโนะสึบาสะ ได้รับคำสั่งจาก ‘ซุส’ ให้ไปหยุดยั้งฝ่ายโฮไก ซึ่งมีหัวหน้านำทัพของฝ่ายคามิโนะสึบาสะ 5 เหล่าทัพ คือ ยูกิ ทำทัพหน้าของเหล่าทหารราบที่มีพละกำลังเทียบเท่ากับ ยักษ์ไททัน และ ทัพที่สองคือ สึนะ ทำทัพของพลทหารกิฟฟิน มีความเร็วและความว่องไว ที่เยี่ยมยอด ทัพที่สาม โดะเซงะ ทำทัพของเหล่าพลธนูที่มีสายตาที่เฉียบแหลมราวกับเหยี่ยว ทัพที่สี่ วาอิซึ ทำทัพจอมเวทย์ ที่มีพลังเวทย์ หลายรูปแบบทั้ง มนตร์ดำและมนตร์ขาว ทัพที่ห้าคือ ทาเคะ ทำทัพปืนใหญ่ มีแสนยานุภาพแกร่งกล้าทำลายล้างครึ่งโลกได้ในชั่วพริบตา ฝ่ายของคามิโนะสึบาสะ ได้ตั้งค่ายห่างจาก โฮไกสามสิบลี้โดยประมาณ พลบค่ำให้เหล่าทหารได้พักผ่อนหลังจากการเดินทางมาหลายวัยหลายคืน พบครั้นรุ้งเช้าจะทำการออกรบทันที
ส่วนฝ่ายของโฮไก ได้ล่วงรู้ว่า เมืองของตนเองนั้นจะถูกโจมตีได้วันรุ่งขึ้น เหล่าจอมเวทย์แห่งโฮไกทั้งหลายจึงพยายามเปิดประตูมิติที่จะเชื่อมไปยังโลกมนุษย์ เจ้าเมืองของโฮไกนามว่า วารุ ได้มีคำสั่งว่า
“พวกเจ้าทั้งหลายจงไปเกณฑ์เหล่าชาวบ้าน เพื่อทำการออกศึกในวันพรุ่งนี้ และจงเตรียมหน้าด่านป้องกันเอาไว้ ด้วยกับดักหลุมพลางเพื่อตัดกำลัง ฝ่ายเจ้าพวกคามิโนะ”
“ท่านวารุถ้าเราเร่งเปิดประตูมิติให้ได้จะไม่ดีกว่าหรือท่าน จะทำให้ฝ่ายของพวกเรานั้นไปยึดครองเมืองของพวกมนุษย์ที่อ่อนแอพวกนั้นได้” เสนาบดีกล่าว
วารุครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ว่าทำการใดจึงจะดี การเปิดประตูมิตินั้นสำคัญพอๆกับการป้องกันเมือง จึงได้กล่าวขึ้นว่า “การจะเปิดประตูมิตินั้น ต้องใช้เวลา จะรีบร้อนอะไรมิได้ เพราะฉะนั้น จงเกณฑ์ทุกหน่วยทัพไปป้องกันเมืองอย่างเต็มกำลัง เมื่อประตูมิติเปิดเมื่อไหร่ ให้ทหารกึ่งหนึ่งทำการบุกโจมตีไปยังโลกมนุษย์ เป้าหมายแรกของเราคือ กรุงโตเกียว”
“รับทราบ”เหล่าเสนาและเหล่าทหาร เห็นพ้องกับแผนการของวารุ ซึ่งคงเป็นหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ ครั้งรุ่งเช้าการนองเลือดคงเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ศึกครั้งนี้คงจะเป็นศึกที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายๆปี และจะเป็นศึกที่ยาวนานเช่นกัน
“เหล่าทหารของเรา ถึงเวลาแล้วที่เราจะสู้ เพื่อความสงบสุขของเราอีกครั้ง จงลุกขึ้นแล้วออกเดินทางไปกำจัดพวกโฮไกให้สิ้นซากกันเถอะ”ยูกิพูดขึ้นเพื่อให้กำลังใจเหล่าพวกทหารที่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาหลายวันและการพักผ่อนอันน้อยนิดหลังจากนั้นพวกเหล่าคามิโนะสึบาสะก็ได้ดินทางมุ่งตรงไปยัง โฮไก การเดินเท้าครั้งนี้ฝุ่นตลบอบอวนลอยเหนือกลุ่มทหารทั้งหลายจนทำให้ฝ่าย โฮไก คำนวนจำนวนเหล่าคามิโนะสึบาสะไม่ได้ว่ามีมากมายมหาสารขนาดไหน และในที่สุดหลังจากการเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ได้ถึงเมืองโฮไกแล้ว ยูกิก็ได้พูดขึ่นว่า “เหล่าพวกพ้องของข้าทั้งหลายถึงเวลาอันสำคัญของพวกเราแล้ว เอาหละได้เวลาที่เราจะสละชีพของเราเพื่อตวาสงบสุขอีกครั้ง มุ่งหน้าโจมตีโฮไกให้สิ้นซากซะ!!” เหล่าทหารโห่ร้องได้ความหึกเหิมอย่างมาก หลังจากนั้นเหล่าคามิโนะสึบาสะ ยกทัพเข้าไปตีหน้าประตูเมืองของ โฮไก แต่โอไกนั้นได้วางกับดักหลุมพลางเอาไว้มากมาย เต็มไปหมดจนทำให้เหล่าทหารหลายพันนายได้เสียชีวิตลงไปอย่างน่าเสียดายแถวยังมีพลธนูของโฮไกที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองคอยสาดฝนธนูลงมาที่เหล่าพลทหารอย่างกับเป็นเป้านิ่ง ทางโดะเซงะเห็นท่าว่าจะไม่ดีจึ่งสั่งเหล่าพลธนูให้ยิงธนูขึ้นไปบนฟ้าให้ตกลงไปในเมืองของโฮไกเพื่อลดจำนวนทหารของโฮไกให้น้อยลงบ้าง “พลธนู เตรียมพร้อมเล็งสูงขึ่นไป 65องศาทาง 12นาฬิกา ความไกล 300หลา ยิง!!!”คำสั่งของโดะเซงะ ที่สั่งให้พลธนูยิงฝนธนูไปยังเมืองของโฮไก ทำให้เหล่าทหารของโฮไกล้มตายไปพอสมควรเหมือนกัน แต่สถานะการยังไม่ดีนักเพราะ เหล่าทหารราบยังวิ่งไปไม่ถึงหน้าประตูเมืองก็ล้มตายกันไปจนเกือบครึ่งแล้ว ส่วนเหล่าทหารกิฟฟินบางส่วนเข้าจู่โจมไปยังในเมืองของโฮไกแต่ ถูกลูกธนูสอนร่วงไปหลายนายเหมือนกัน สึนะนั้นได้หยิบดาบคู่ออกมา มีลายมังกรอยู่ที่ตัวดาบด้ามจับใช้ทองคำแท้บริสุทธ์ซึ่งมีความยาวประมาณหนึ่งเมตรเห็นจะได้ ปลุกเสกด้วยคาถาอาคมที่ซึ่งฟันอะไรก็สามารถทำให้ขาดได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเพรชที่แข็งที่สุดก็ตาม สึนะได้วิ่งตรงไปยังประตูเมืองของโฮไกซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าศพของคามิโนะสึบาสะที่นับไม่ถ้วนพร้อมกับฝนะนูที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าซึ่งแทบจะไม่มีทางหลบพ้นจากลูกธนูเหล่านี้เลยด้วยซ้ำไป และสึนะก็ได้พูดพรึมพรำเบาๆว่า “เท้าวายุ” ซึ่งไม่หน้าเชื่อว่าทำให้สึนะเคลื่อนที่ได้เร็วจนสายตาของอสูรทุกตนจะมองเห็นและหลบลูกธนูของเหล่าโฮไกได้หมดและในไม่นานสึนะก็ได้ไปถึงหน้าประตูเมืองของโฮไก และได้พูดพรึมพรำอย่างเบาๆอีกครั้งว่า “สุริยันต์และจันทรา เพลงดาบผสานคู่” (ชื่อดาบทั้ง 2 เล่ม)มีคลื่นสีเหลืองและขาว ประกรายขึ้นมาหลังจากนั้นประตูก็ถูกทำลาย เป็นจุล แต่แรงระเบิดทำให้ทหารหลังประตูบาดเจ็บไปตามๆกันเหล่าทหารของ คามิโนะสึบาสะ แห่กันเข้าไปยังเมืองโฮไก มีเสียงตะโกนจากทหารคนหนึ่งว่า “ด่านหน้าแตกแล้วววว” ซึ่งไม่รู้ว่าเสียงตระโกนนั้นมาจากไหนทางไหน ส่วนด้านของ วารุกำลังจะเปิดประตูมิติที่เชื่อมต่อไปยังโลกมนุษย์ได้แล้วในไม่ช้าและกำลังจัดเตรียมทัพเพื่อยกพลไปโจมตีโตเกียว เสียงดาบที่ประทะกันดังรั่นจนดังแทบถึงสวรรค์ได้รู้เลยทีเดียว ฝ่ายคามิโนะสึบาสะบุกเข้าไปถึงด้านในของเมืองโฮไก ได้สำเร็จแต่ก็มีเหล่าพวกพ้องต้องสละชีวิตรวมนับถึงตอนนี้แล้วราวๆประมาณ สองหมื่นกว่าคนเห็นจะได้ พอสึนะได้ไปถึงหน้าวังหลังที่ วารุประทับอยู่ หลังคาตกแต่งด้วยหยกขอบหลังคาเป็นรูปปั้นมงกรสีทองประดับอยู่สี่ทิศดูเหมือนว่าเป็นความเชื่อที่มีเทพพระเจ้ามังกรคอยปกป้องพระราชวังเอาไว้อะไรประมาณนั้นผนังทำด้วยปูนธรรมดาสีเขียว ประตูใหญ่จนเดินผ่านไปได้พร้อมกันราวสิบคนสูงประมาณเก้าเมตรเศษมีทางเดินบรรไดมุ่งตรงเข้าสู่ประตูวังมีสิงโตหินประกบอยู่สองข้างทาง ทันไดนั้นประตูมิติเชื่อมสู่โลกมนุษย์ได้เปิดออกมีแสงสีขาวพรุ่งขึ้นจากตรงกลางของพระราชวังขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนเมฆริบรับสุดลุกหูลุดตาสร้างความตะลึงให้เหล่าทหารทั้งสองฝ่ายอย่างมากทุกคนพร้อมกันมองไปที่แสงสีขาวทอดยาวไปสู่บนท้องฟ้า สึนะเมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็จะรีบวิ่งขึ้นบรรไดไปนั้น สิงโตที่เป็นหินกลับมีชีวิตขึ้นมาอย่างไม่หน้าเชื่อซักเท่าไหร่ จนขวางทำให้สึนะเข้าไปในพระราชวังไม่ได้ ทันใดนั้นมีเสียงปืนดังลั่นมากจากข้างหลังผ่านสึนะไปยังที่พื้นของเจ้าสิงโตสองตัวนั้น สึนะหันกลับไปเห็น ยูกิ และ ทาเคะ ที่ฝ่าปราบเหล่าทหารของโฮไกจนหมดสิ้น ยูกิกล่าวขึ้นว่า “สึนะเจ้ารีบไปเถอะ ทางนี้พวกเราสองคนเอาอยู่แน่นอน สบายใจได้” หลังจากนั้นทาเคะหยิบทวนออกมา จากด้านหลัง ทวนสูงกว่าตัวเล็กน้อยด้ามจับของทวนเป็นเสียแดงและมีน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อ ส่วนทางยูกิถือปืน เห็นเขาเล่าว่าได้มาจากโลกมนุษย์และทำการปลุกเสกให้สามารถฆ่าเหล่าพวกปีศาจด้วยกระสุนพลังจิตได้ไม่เหมือนปืนทั่วไป สึนะขยักหน้าให้ทั้งสองคนและรีบวิ่งขึ้นบรรไดไป แต่เจ้าสิงโตสองตัวได้กระโจนเข้ามาหาสึนะ “ท้าววายุ” ทาแคะได้พูดเบาๆและพุ่งเข้าไปหาสิงโตทั้งสองตัวและใช้ปลายทวนกระแทกให้สิงโตทั้งสองตัวกระเด็นออกห่างจากสึนะสิงโตกระเด็นออกไปไกลซัก3เมตรเห็นจะได้ “ไอเจ้าลูกแมว พวกข้าสองคนจะฆ่าพวกเจ้าเอง” ยูกิกระโกนบอกเจ้าสิงโตทั้งสองตัว เจ้าสิงโตหันมามองยุกิด้วยตาเขม๊งราวกับฟังออกว่ายูกิพูดอะไร ทันใดนั้นเจ้าสิงโตก็พุ่งเข้ามาหายูกิและทาเคะด้วยความเร็วประมาณยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วเห็นจะได้ พุ่งเข้ามาชนยูกิล้มลกไปนอนกะพื้นและโดนสิงโตค่อมเอาไว้ ส่วนทางทาเคที่โดดสิงโตพุ่งเข้ามาใส่หลบได้และเหวี่ยด้ามทวนสับเข้าไปที่กลางลับตัวสิงโตอย่างแรง แต่หน้าตกใจที่สิงโตกระเด็นและเป็นแผลเล็กน้อยเท่านั้นแทนที่จะขาดครึ่งไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เป็นเพราะอะไรกันนะ ทาเคะยังไขปริศนาข้อนี้ไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร ยูกิได้ถีบเจ้าสิงโตกระเด็นขึ้นไปบนฟ้าและหยิบปืนขึ่นมายิงกลางลำตัวของเสื้อ ซึ่งเหมือนมีพลังเวทย์อะไรบางอย่างปกครุมเจ้าสิงโตตัวนี้อยู่ ไปที่สึนะได้เจอวารุกำลังเดินเข้าผ่านประตูมิติเข้าไป สึนะจึงเดินตามเข้าไปในประตูมิติด้วย
เอาไปอ่านเรียกน้ำย่อยก่อน ครึ่งเดียว