1. รู้จักเครื่องมือ รู้จักใช้มันให้ถูกต้อง
ก่อนจะรับผิดชอบงานใคร ต้องรับผิดชอบงานตัวเองก่อน งานของตัวคุณเองคือ ศึกษาเครื่องมือต่างๆ ว่าใช้งานยังไง ใช้กับงานลักษณะไหน ศึกษาว่าเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ Photoshop, GIMP, Illustrator, CorelDraw, Photoscape, Aperture, Adobe Bridge มันเอาไว้ใช้ทำอะไรบ้าง แต่อย่าลืมว่ามันเป็นแค่เครื่องมือ ที่นั่งหาว รอให้คุณกดให้มันทำงานอยู่ Action ใน Photoshop ใช้ให้เป็นทุนเวลาเป็นอย่างมากในการทำงาน สำหรับขา Adobe คุณจะจัดการระบบสีของคุณยังไงในครั้งเดียว จะจัดการรายละเอียดรูปคุณยังไง คุณจะไม่รู้เลยถ้าคุณไม่เคยใช้ Adobe Bridge ทุกๆ วันที่เปิด Photoshop ขึ้นมาเคยเปิดดู File Info ของรูปหรือไม่ เคยรู้จัก IPTC (international Press Telecommunications Council). หรือไม่ IPTC จำเป็นมากสำหรับเราๆ ไม่ใช่แค่นักถ่ายภาพแค่นั้น บางทีงานของเรามันอาจไปสะดุดตาฝรั่งมังค่า ก็ได้ใครจะไปรู้ ซึ่งเค้าอาจจะไปเอามาจาก เว็บโชว์ผลงานอื่นๆ มาเค้าจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นคนทำ IPTC บอกเค้าได้อย่างแน่นอน
2. ทำความรู้จัก Browser อื่นๆ บ้างนอกจาก IE
Cross Browser จำเป็นต้องรู้อย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นประเภททั้งดีไซน์ทั้งโค๊ดดิ้ง คุณต้องมี Browser อยู่ในมืออย่างน้อย 4-5 ตัวแล้ว หลักๆ ก็ Internet Explorer, Firefox, Opera, Safari, Chrome ในเมื่อพวกเจ้าของมันมีมาตรฐานไม่ตรงกัน (ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำออกมาแต่ละยี่ห้อ โค๊ดตัวเดียวกัน Layout ออกมาคนละอย่างเลย มันก็ไม่จับมือกันพัฒนาไปในทางเดียวกันซักที) เราก็ต้องทำให้มันได้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเราก็ไปบังคับคนมาเข้าชมและเจ้าของงานไม่ได้ด้วยว่าต้องเปิดด้วย Browser อะไร สำหรับคนโค๊ดดิ้งด้วยต้องศึกษาหละครับ ส่วนคนดีไซน์อย่างเดียวก็ไม่ต้องห่วง (แต่ควรรู้ไว้ดีที่สุด)
3. คู่สี จับให้ดี Layout ขี้ๆ ก็สวยได้
ข้อนี้สำคัญมานะครับ การใช้สี การเลือกคู่สี สีบอกอารมณ์ สีบอกรสนิยม สีบอกอะไรๆ อีกมากมาย บางเว็บใช้สีเยอะเกินไป จนดูเละเป็นขี้ไก่ เครื่องมือในการจับคู่สีมีเยอะแยะเลยครับ ใช้ให้เป็น ใช้ให้คล่อง บางคนมาตายเอาตอนเลือกคู่สีก็มี เพราะไม่รู้จะใช้สีอะไร ลองไปดูที่ ColorLovers ก็ได้ครับเค้ามีเทรนสีมาให้เลือกจนตาลายครับ ทั้งงาน Webdesign, Magazine, Cover ศึกษาให้ดีว่าช่วงนี้ปีนี้ เทรนสีไหนกำลังฮิต หรือ ดูให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ หนังสือคู่สีบอกอารมณ์ เหมาะกับงานไหน ก็มีขายครับ แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร se-ed book มีครับลองหาดู แต่แนะนำให้ดูในเว็บที่ผมแนะนำไปครับ สวยโดนทั้งนั้น
4. Simple เข้าไว้
เรียบ ง่าย อะไรที่มันใช้ง่ายๆ เรียบๆ แต่หรู มันดูดีหมด ยกตัวอย่งาเช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ทั้ง iMac, iPhone, iPod สารพัด i ทั้งหลาย การออกแบบดูธรรมดา สีสันพื้นๆ แต่ทำไมมันช่างดูลึกล้ำซะเหลือเกิน แม้แต่กระทั้ง OS ต่างๆ ของเค้าเน้นใช้ง่ายจริงๆ นั่นเพราะเค้าเค้าเน้น Simple “ใช้งานง่าย ดูง่าย อ่านง่าย” บางทีเราออกแบบออกไป เราเน้นทักษะความเป็นศิลปินเกินไปในการออกแบบต่างๆ จนลืมไปว่าบางทีมันเยอะเกินไป จนตาลายก็มี บางทีคนใช้งานเค้าไม่สนหรอกครับ เว็บคุณมันจะเขียนจากโค๊ดระดับเทพแค่ไหน มันจะหวือหวาซะจน ดิ้นไปซ้ายที ขวาที เอาเมาส์จิ้มแล้ว menu หนีคนใช้แทบสุดหน้าจอ บางทีมันน่ารำคาญเหมือนกัน ใช่สิ่งเหล่านั้นมันอาจจะน่าดูเมื่ออยู่ในเว็บที่โชว์ผลงาน เว็บส่วนตัว แต่นี่เรากำลังออกแบบให้ลูกค้า ที่ต้องการใช้งานที่ง่ายๆ หาอะไรง่ายๆ เมนูง่ายๆ ใช้งานแบบเดียวได้สิ่งที่เค้าต้องการ เว็บบางเว็บโหลดมาบางทีเป็น 10 นาที Preloading อยู่ได้ นั่งจนตูดชา มันขึ้นมาแค่ 50%….. คนใช้งานได้เผ่นหนีกันพอดี..
บางคนเถียงว่าก็ลูกค้าเค้าต้องการแบบนั้น แต่ในความคิดผม ผมไม่คิดแบบนั้น ถ้าเค้าต้องการ แต่เราอธิบายในมุมต่างๆ ที่เราเป็นลูกค้าของเค้า ให้เหตุและผลกับเค้า ผมว่า มัน Win Win ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งผมใช้ได้ผลมามากรายแล้ว สุดท้ายมันก็เป็นผลดีแก่ตัวเค้า..
5. รักษาเวลา
“เวลา” เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับทุกๆ สายอาชีพ ยิ่งพวก Freelance แล้วหละก็คุณต้องรักษามาตรฐานเรื่อง “เวลา” มาเป็นลำดับต้นๆ คุณต้องทำได้ในระยะเวลาที่คุณได้บอกกับลูกค้าไป ถ้าเราพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวเรื่องเวลา ลูกค้าคนเดิมไม่กลับมาแน่ เพราะฉะนั้น เวลา ให้ความสำคัญตรงนี้บ้างนะครับ ผมเห็นบางคนรับงานไปหายต๋อม…. ไม่เสร็จบอกลูกค้าไปเลยครับ ว่าไม่เสร็จจะได้ไม่เสียความรู้สึกของทั้ง 2 ฝ่าย และควรคืนอะไรให้กับลูกค้าบางที่เราทำงานไม่เสร็จตามกำหนด อาจจะคืนเงินให้เท่าไหร่ กี่เปอร์เซนต์ ก็ว่ากันไป มันทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวเราและที่สำคัญครับการคืนเงินเมื่องานไม่เสร็จตามเวลามันเป็นการกระตุ้นตัวเองเพื่อให้รับผิดชอบครับ ….
เคดิต..itimdesign
เรื่องพื้นๆ ที่คุณควรรู้
[IMG]
[IMG]