Legends of world war two
ปฐมบท ค่ำคืนแห่งการเริ่มต้น
War of the Worlds
หนึ่งความหวังร่วงหล่นจากสวรรค์
ผู้ถือครอง สายน้ำ และ ราตรี
ทั้งสงบ เยือกเย็น และแข็งแกร่ง
ดั่งสายน้ำที่ไหลรินเป็นนิจเอย...
คำทำนายที่ 1 Very
หนึ่งความมืดมุ่งตรงจากนรก
ผู้ถือครอง เปลวเพลิง และ ความมืด
ทั้งดุเดือด เลือดร้อน และแข็งกร้าว
ดั่งเปลวเพลิงที่ลุกโชนเป็นนิจเอย...
คำทำนายที่ 2 Flame
หนึ่งวิญญาณมุ่งตรงจากผืนดิน
ผู้ถือครอง สายลม และ อัสนี
ทั้งรุนแรง เอาแต่ใจ และแข็งแกร่ง
ดั่งสายลมกรรโชกเป็นนิจเอย...
คำทำนายที่ 3 Breeze
หนึ่งชีวิตมุ่งกล้าจากแดนไกล
ผู้ถือครอง ปฐพี และ พฤกษา
ทั้งอ่อนหวาน แข็งกระด่าง และแข็งกร้าว
ดั่งปฐพี ภูผาเป็นนิจเอย...
คำทำนายที่ 4 Earth
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ท่านไนท์เจ้าค่ะ” เสียงหญิงสาวผมสีทองสุกปลั่งยาวระพื้นที่ถูกปล่อยสยายลงมากับดวงตาสีฟ้าสดใสเอ่ยเรียกเด็กสาวผมสีน้ำเงินเข้มยาวถึงต้นขาที่ถูกรวบเป็นหางม้ากับดวงตาสีน้ำเงินอ่อนจนเกือบฟ้าที่กำลังมองออกไปข้างนอกหน้าต่างที่มีดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสีทองอ่อนๆเจิดจ้าให้หันหน้ามามองผู้ที่เอ่ยเรียกตนด้วยสายตาว่างเปล่าและน่าหลงใหลจนหลายคนต่างเกรงกลัวซึ่งภายในห้องที่เธอและหญิงสาวผมสีทองยืนอยู่นั้นเป็นสีขาวตัดกับของตกแต่งห้องและเครื่องเรือนสีทองที่กระทบกับแสงจันทร์นั้นเจิดจ้าและสวยงามมากเลยทีเดียว
“ท่านคิดดีแล้วหรือเจ้าค่ะ” หญิงสาวคนเดิมยังคงเอ่ยถามเจ้าของนาม ไนท์ ด้วยสีหน้าที่ลำบากใจและร้อนรนยิ่งกว่าคนถูกถามเสียอีก
“...” ไนท์ยังคงเงียบไม่ตอบคำถามของหญิงสาวผมสีทองสุกปลั่งเลยแม้แต่นิดนั้นจึงทำให้หญิงสาวแปลกใจและเงยหน้าขึ้นเพื่อดูปฏิกิริยาของไนท์ที่แปลกไปแต่พอหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอก็ผสานเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินอ่อนเกือบฟ้านั้นอย่างจังและดูเหมือนว่าคำตอบของคนตรงหน้านั้นจะปรากฏอยู่ในแววตาที่สวยงดงามคู่นั้นเรียบร้อยแล้วเป็นเชิงว่า “ข้าคิดดีแล้วที่จะกระทำในสิ่งที่ควรอย่าห่วงเลย...เวียน่า”
คำตอบในดวงตาคู่นั้นก็ถึงกับทำให้คนถามอย่างเวียน่าต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานและน่ามองมากกว่าตอนที่เธอนั้นทำหน้าลำบากใจที่ไนท์จะต้องไปจุติยังโลกมนุษย์เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายอันน่าเศร้าใจขึ้นแต่ถึงยังไงคนของตำหนักแห่งคำพิพากษาส่วนใหญ่ก็คัดค้านในสิ่งที่เธอจะกระทำรวมไปถึงตำหนักและวิหารอื่นๆด้วยเช่นกันที่คัดค้านในสิ่งที่ไนท์นั้นต้องทำแต่จะมีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้เหตุผลทั้งหมดที่ไนท์นั้นตัดสินใจนั้นก็คือ เทพีแห่งแสง โคริสย่า วาเลนเยีย มารดาของ เทพธิดาแห่งคำพิพากษา ไนท์ วาเลนเยีย ถึงท่านโคริสย่าจะรู้และเจ็บปวดเพียงใดที่จะต้องส่งลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอลงไปจุติยังภพมนุษย์แต่ก็มิอาจที่จะขัดคำทำนายที่กระจกชี้ซะตาได้ทำนายไว้ได้ก็ตามแต่ถ้าหากเป็นไปได้เธออยากจะไปแทนเสียมากกว่าแต่ก็ยั่งที่ว่าเธอทำอะไรไม่ได้เพราะนั้นคือโชคซะตาที่ไนท์จะต้องเจอไม่ช้าก็เร็ว
“นี่...เวียน่าข้าสามารถฝากท่านแม่กับภพสวรรค์นี้ให้เจ้าดูแลได้หรือไม่” ไนท์ถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบแต่กลับอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและใบหน้าที่เปื้อนยิ้มบางๆแต่กลับดูแปลกในสายตาของเวียน่าเพราะใครๆก็รู้ดีว่า ไนท์นั้นไม่เคยยิ้มให้ใครเห็นแม้แต่เธอเองก็เช่นกัน
“ด...ได้...จะ...เจ้าค่ะทะ...ท่านไนท์”เวียน่าตอบด้วยเสียงที่ประหม่าและตะกุกตะกักเป็นอย่างมากด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่ออ่อนก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
“งั้นฝากด้วยนะ...บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกก็ได้ใครจะไปรู้จริงไหม...หึ”ไนท์ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบแต่ปนความขบขันลงไปเล็กน้อยก่อนที่คนพูดจะก้าวเดินออกไปยังข้างนอกเพื่อไปล่ำลาคนอื่นๆในตำหนัก
“ท่านพี่...เจ้าค่ะ”เสียงที่แผ่วเบาดังมาจากคนตรงหน้าของไนท์ที่มีเด็กสาวผมสีเทาอ่อนๆยาวถึงกลางหลังที่ถูกถักเปียไว้กับดวงตาสีเทาเข้มที่บ่งบอกได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่น้องสาวสายเลือดเดียวกันกับเธออย่างแน่นอนเอ่ยเรียกเธอด้วยสีหน้าหงอยๆแต่กลับน่ารักในสายตาของพี่สาวต่างสายเลือดเป็นอย่างมากก่อนจะหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่มีผมสีเทาเข้มที่ยาวจนระต้นคอกับดวงตาสีเทาอ่อนซึ่งบอกได้ชัดเจนว่าชายหนุ่มคนนี้คือพี่ชายที่มีสายเลือดเดียวกันกับเด็กสาวผมสีเทาอ่อนๆได้เป็นอย่างดี
“หึ...เป็นอะไรไปงั้นรึ เฟริส”ไนท์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบและน่าฟังพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มผมสีเทาเข้มที่คาดว่าอายุน่าจะเท่ากับเธอ
“เปล่าซักหน่อยแค่....ไม่อยากให้ไป เนียร์เองก็คิดเหมือนกัน”เฟริสเอ่ยพร้อมกับมองหน้าเธอก่อนจะเลื่อนสายตาลงมามองเด็กสาวผมสีเทาอ่อนๆที่อยู่ในอ้อมกอดของไนท์ตังแต่เมื่อไรไม่อาจทราบได้
“ท่านพี่เฟริสก็ แต่ก็อย่างที่ท่านพี่เฟริสว่าน้องไม่อยากให้ท่านพี่ไป...”ยังไม่ทันที่เนียร์จะพูดจบไนท์ก็พูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า
“ขอโทษด้วยนะแต่...เป็นไปไม่ได้จริงๆ”
“ท่านไนท์เจ้าค่ะ ได้เวลาแล้วเจ้าค่ะ”เสียงของหมาป่าสีเทาพูดขึ้นกับเจ้านายอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะมีแสงสีขาวสว่างจ้าส่องมาจากประตูที่ทุกคนต่างเรียกว่า ประตูแห่งชีวิต กำลังเปิดออกภายในนั้นไม่ปรากฏภาพใดให้เห็นมีแต่เพียงแสงสว่างเท่านั้นก่อนที่ไนท์จะเดินออกมาจากเฟริสและเนียร์แล้วเธอก็ได้ตัดสินใจเดินไปยังประตูที่เปิดกว้างเพื่อรอรับเธอแต่ในขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปในแสงสว่างนั่น
“ท่านไนท์ครับ...เราจะได้พบกันอีกหรือเปล่าครับ”เสียงเด็กหนุ่มผมสีทองสุกปลั่งยาวถึงบ่าที่ปล่อยลงมากับตาสีฟ้าที่หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดูและด้วยเสียงนี้แหละที่ทำให้เธอชะงักฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไป
“ต้องได้เจออยู่แล้วล่ะ”ไนท์หันหน้ามาตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนก่อนจะก้าวหายลับไปจากสายตาที่ตกตะลึงของทุกคนก่อนที่แสงสว่างจะเพิ่มมากขึ้นจนทุกคนต้องหาอะไรมาบังแสงนั้นไว้พอทุกคนลองมองไปยังประตูแห่งชีวิตก็กลับพบเพียงประตูที่ปิดลงเมื่อไรไม่มีใครทราบจนและแน่นอนว่าทุกคนล้วนเสียใจและโล่งอกที่จะไม่มีเหตุการณ์อย่างสงครามสามภพเกิดขึ้นแต่ก็ยังมีคนที่รู้ถึงอนาคตอยู่เช่นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป......
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกคนนี้เป็นนิยายที่เราลองแต่งใหม่ ดู
ถ้ามีอะไรผิดยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะและช่วยติชมกันด้วยนะค่ะ^^
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย skynight เมื่อ 2013-5-23 19:53
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย skynight เมื่อ 2013-5-23 19:57
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย skynight เมื่อ 2013-5-23 19:59
Legends of world war two ปฐมบทค่ำคืนแห่งการเริ่มต้น
คำสัญญาให้แล้วต้องทำได้ไม่ใช่ทำไม่ได้แล้วสัญญา
[IMG]