เหรียญตราของนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง เหรียญตราของนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง
จาก http://www.geocities.com/saniroj
โดยพันเอก ศนิโรจน์ ธรรมยศ
--------------------------
เหรียญกางเขนเหล็ก
(The Iron Cross)
เหรียญกางเขนเหล็กเป็นเหรียญกล้าหาญของเยอรมันแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็ก (Iron Cross) ซึ่งมีอยู่ 2 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ชั้นที่ 1 จะสูงกว่าชั้นที่ 2
- เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน (Knight Cross of the Iron Cross) ซึ่งมี 5 ชั้น คือ
1.ชั้นธรรมดา
2. ชั้นประดับใบโอ็ค
3. ชั้นประดับใบโอ็คและดาบ
4. ชั้นประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชร
5. ชั้นประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และ เพชร
-----------------------------
เหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2
(The Iron Cross 2nd Class)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Eisernes Kreuz 2 Klasse เป็นเหรียญที่มอบให้กับทหารชาย หญิง ทุกเหล่า ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติหน้าที่การรบ ด้วยความกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือ หน่วยเอส เอส หรือ หน่วยงานองค์กรที่ร่วมในการรบนั้นๆ นอกจากนั้นยังสามารถมอบให้กับผู้ที่มิใช่ชาวเยอรมัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพเยอรมันโดยตรง หรือร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารเยอรมัน ในฐานะหน่วยทหารของประเทศอักษะ มีสตรี 39 คน ได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 นี้
หลักเกณฑ์ทั่วไป - ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ในหน้าที่หรือนอกเหนือหน้าที่ จำนวน 1 ครั้ง
พิธีมอบครั้งแรก ไม่ทราบวันที่แน่นอน ระบุได้แต่เพียงว่า เป็นการมอบให้กับผู้ที่เข้ารบในประเทศโปแลนด์ ใน ก.ย. 1939
จำนวนที่มอบ มากกว่า 3,000,000 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ ในพิธีประดับเหรียญ ผู้ที่ได้รับเหรียญจะติดสายริบบิ้นไว้ที่รังดุมที่ 2 แล้วปล่อยตัวเหรียญให้ออกมานอกเสื้อ ส่วนในชีวิตประจำวัน จะติดริบบิ้นไว้ที่รังดุมที่ 2 โผล่สายริบบิ้นออกมาก่อนที่ม้วนกลับเข้าไปในตัวเสื้อ ส่วนตัวกางเขนเหล็ก ติดไว้ที่ กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย บริเวณตรงกึ่งกลางของกระเป๋า ส่วนผู้ที่ได้รับเหรียญชนิดนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็สามารถติดเหรียญได้ทั้งสองเหรียญ
ข้อสังเกต ผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 มีอายุ 12 ปี ชื่อ Alfred Zeck จาก Goldenau เมื่อเดือน มี.ค. 1945 ที่แนวหน้าในเมือง Oder เขาได้รับเหรียญเนื่องจาก ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญในการช่วยเหลือทหารเยอรมัน 12 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางห่ากระสุนปืนใหญ่ ของฝ่ายข้าศึก และสามารถช่วยชีวิตไว้ได้หมดทั้ง 12 คน นอกจากนี้ทหารเรือประจำเรือ Admiral Scheer ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นนี้ทุกคน รวม 1,300 คน เมื่อ 1 เม.ย. 1941
การติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 ในพิธีประดับเหรียญ จะเห็นตัวเหรียญกางเขนเหล็กติดกับแพรแถบ หรือริบบิ้นที่สอดผ่านรังดุมที่ 2 แต่การประดับเหรียญในชุดปฏิบัติงานปกติประจำวัน จะเหลือแต่แพรแถบหรือริบบิ้น ไม่มีตัวเหรียญ
เครื่องแบบนายทหารยศร้อยเอก ของกองพล อา:Xมัครภูเขา เอส เอส ที่ 7 ปริ้นซ์ อูเกน (7th SS. Volunteer Mountain Division Prince Eugen) ติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 โดยการใช้แพรแถบสอดออกมาจากรังดุมที่ 2 และไม่ติดตัวเหรียญกางเขนเหล็ก ซึ่งตามปกติในการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นชั้นต่ำสุดของเหรียญกางเขนเหล็กในการปฏิบัติภารกิจประจำวัน จะติดเฉพาะแพรแถบหรือ ริบบิ้นเท่านั้น ไม่ติดตัวเหรียญ
----------------------------------------
เหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1
(The Iron Cross 1st Class)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที 1 มีัชื่อในภาษาเยอรมันว่า Eisernes Kreuz 1 Klasse เป็นเหรียญที่มอบให้กับทหารชาย หญิง ทุกเหล่า ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติหน้าที่การรบ ด้วยความกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือ หน่วยเอส เอส หรือ หน่วยงานองค์กรที่ร่วมในการรบนั้นๆ นอกจากนั้นยังสามารถมอบให้กับผู้ที่มิใช่ชาวเยอรมัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพเยอรมันโดยตรง หรือร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารเยอรมัน ในฐานะหน่วยทหารของประเทศอักษะ หรือในดินแดนที่เยอรมันครอบครอง
หลักเกณฑ์ทั่วไป
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 มาแล้ว
- ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ในหน้าที่หรือนอกเหนือหน้าที่ จำนวน 3-5 ครั้ง
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ (Luftwaffe)
- สามารถทำคะแนนได้ 5 คะแนน เมื่อ 1 คะแนน สำหรับการยิงเครื่องบิน 1 เครื่องยนต์ตก 2 คะแนนสำหรับการยิงเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ตก 3 คะแนนสำหรับการยิงเครื่องบิน 4 เครื่องยนต์ตก คะแนนนี้จะเพิ่มเป็นสองเท่า เมื่อปฏิบัติการรบทางอากาศในเวลากลางคืน
พิธีมอบครั้งแรก ไม่ทราบวันที่แน่นอน
จำนวนที่มอบ มากกว่า 450,000 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ เนื่องจากเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 ไม่มีสายริบบิ้น มีเพียงตัวเหรียญ เพื่อเป็นการแยกระหว่างเหรียญชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2
ดังนั้นการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 ทั้งในพิธีประดับเหรียญและในชีวิตประจำวัน จะติดเหรียญไว้ที่ กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย บริเวณตรงกึ่งกลางของกระเป๋า
ข้อสังเกตุ มีสุภาพสตรีเยอรมัน 2 คน ได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ทหารพลร่มของเยอรมันหรือ ฟอลชริมเจเกอร์ (Fallschirmjager) ติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1
เหรียญที่อยู่ใต้เหรียญกางเขนเหล็กลงมา เป็นเหรียญแสดงความสามารถในการกระโดดร่ม (the parachute qualification badge) เป็นรูปนกอินทรี เกาะอยู่บนเครื่องหมายสวัสดิกะ กำลังพุ่งโฉบลงหาเหยื่อเบื้องล่าง ล้อมรอบด้วยช่อใบโอ็ค ซึ่งผู้ที่จะได้รับเครื่องหมายนี้ จะต้องผ่านการกระโดดร่มมาไม่น้อบกว่า 6 ครั้ง ตัวนกอินทรีทำด้วยทองแดงผสมนิเกล อัลลอย
ส่วนเครื่องหมายที่ประดับอยู่ที่หน้าอกอีกด้าน เป็นเครื่องหมายของกองทัพอากาศเยอรมัน (German Air Force Eagle) เช่นเดียวกับที่ติดอยู่ข้างหมวก
--------------------------------------
เหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน
(Knight Cross of the Iron Cross)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน มีทั้งหมด 5 ชั้น คือ
1. ชั้นธรรมดา
2. ชั้นประดับใบโอ็ค
3. ชั้นประดับใบโอ็คและดาบ
4. ชั้นประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชร
5. ชั้นประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และ เพชร
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินชั้นที่ 1 นี้ มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes เป็นเหรียญที่มอบให้กับทหารชายทุกเหล่า ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติหน้าที่การรบ ด้วยความกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือ หน่วยเอส เอส หรือ หน่วยงานองค์กรที่ร่วมในการรบนั้นๆ
หลักเกณฑ์ทั่วไป
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1(1st Class Iron Cross) มาแล้ว
- ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญอย่างต่อเนื่อง
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ (Luftwaffe)
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 มาแล้ว
- มีคะแนนสะสม 20 คะแนน โดย 1 คะแนนสำหรับการยิงเครื่องบิน เครื่องยนต์เดียวตก 1 ลำ 2 คะแนน สำหรับการยิงเครื่องยนต์ 2 เครื่องยนต์ตก 1 ลำ 3 คะแนน สำหรับการยิงเครื่องบิน 4 เครื่องยนต์ ตก 1 ลำ คะแนนดังกล่าวจะเพิ่มเป็นสองเท่า หากปฏิบัติการรบทางอากาศในเวลากลางคืน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพเรือ (Kriegsmarine)
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 มาแล้ว
- สามารถจมเรือของข้าศึกได้รวมแล้ว 100,000 ตัน
อย่างไรก็ตามกฏเกณฑ์ดังกล่าว มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในระหว่างสงคราม
พิธีมอบครั้งแรก 30 ก.ย. 1939
จำนวนที่มอบ 7,318 เหรียญ มอบให้กับทหารเยอรมัน 43 เหรียญมอบให้กับชาวต่างชาติ รวมทั้งหมด 7,361 เหรียญ ในจำนวนผู้รับเหรียญทั้งหมดนี้ ประมาณ 1,000 คนยังมีชีวิตอยู่ (ข้อมูลปี 1999) และจำนวนนับพันที่หายสาปสูญจากการรบ (Missing in Action - MIA)
วิธีการประดับเหรียญ ประดับไว้ที่คอ โดยมีสายริบบินสีดำ ขาว และแดง เป็นตัวผูกเหรียญกางเขนเหล็กเอาไว้ ให้ตัวเหรียญห้อยออกมาจากคอเสื้อด้านหน้า หากได้รับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ที่มีชั้นสูงขึ้นไป เหรียญชั้นต่ำจะต้องถอดออกไป
ข้อสังเกต เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ของกองทัพเยอรมันนี้ เทียบเท่ากับเหรียญกล้าหาญ Medal of honor ของกองทัพสหรัฐอเมริกา
บันทึก นายทหารประทวน (ชั้นนายสิบ) คนแรกที่ได้รับการประดับเหรียญนี้ คือ Hubert Brinkforth ได้รับการประดับเหรียญ เมื่อ 7 มี.ค. 1941 ในขณะปฏิบัติหน้าที่ในกองร้อยต่อสู้รถถังที่ 14 (14. Panzerjager Kompanie) ของกรมทหารราบที่ 25 ทหารที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเหรียญนี้มี 3 คน คือ Gefreiter, Christian และ Lohrey (ไม่มีข้อมูลอายุขณะนั้น) ได้รับการประดับเหรียญเมื่อ 11 มี.ค. 1945 ก่อนการสิ้นสุดสงครามไม่นานนัก
ภาพตัวอย่างการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน หรือ Knight's Cross ชั้นธรรมดา จะประดับด้วยการคล้องสายริบบิ้นรอบคอ และปล่อยเหรียญออกมาด้านหน้าระหว่างคอปกเสื้อ ซึ่งต่างจากการประดับเหรียญกางเขนเหล็กทั่วไปที่จะประดับที่กระเป๋าเสื้อเท่านั้น
ภาพนี้เป็นนายทหารชั้นยศร้อยเอก แห่งกองทัพบกเยอรมัน (ดาวทองที่บ่า สองดวง) อินธนูและขอบหมวกหม้อตาล ขลิบสีแดง แสดงให้เห็นว่านายทหารคนนี้ สังกัด เหล่าทหารปืนใหญ่ (สีแดงแสดงถึงเหล่าทหารปืนใหญ่) ประดับทั้งเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน (ที่คอเสื้อ) และเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 (ที่กระเป๋าเสื้อ)
-------------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็ค
(Knight's Cross of the Iron Cross with Oak Leaves)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คนี้มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes mit Eichenlaub จะประดับให้กับทหารที่ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือหน่วยเอส เอส หรือหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการรบนั้น
หลักเกณฑ์
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน มาแล้ว
- ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญต่อเนื่องกัน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินมาแล้ว
- คะแนนสะสมของการยิงเครื่องบินข้าศึกตก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ในระดับกางเขนเหล็กประดับใบโอ็ค
พิธีมอบครั้งแรก วันที่ 19 มิ.ย. 1940 มอบให้กับ Eduard Dietl
จำนวนที่มอบ 882 เหรียญมอบให้คนเยอรมัน 8 เหรียญมอบให้กับชาวต่างชาติ รวมทั้งหมด 890 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ วิธีการประดับเหมือนกับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน คือประดับที่คอเสื้อ โดยใช้ริบบิ้นพันรอบคอ และห้อยตัวเหรียญออกมาด้านหน้าของคอเสื้อ โดยตัวเหรียญจะมีใบโอ็คอยู่ด้านบนของเหรียญ
ข้อสังเกตุ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คนี้ เป็นเหรียญกล้าหาญที่สูงกว่า เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน และมีเกียรติยศสูงกว่า ต้องใช้ความสามารถอย่างสูง ต้องมีความกล้าหาญที่เห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ที่ได้รับมอบเหรียญมีจำนวนลดน้อยลงเหลือเพียง 890 คนเท่านั้น เหรียญนี้ยังสามารถมอบให้กับผู้บัญชาการของหน่วยที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ทหารเยอรมัน 882 คนที่ได้รับเหรียญ 96 คน ยังมีชีวิตอยู่ (ข้อมูลเมื่อปี 1999) และ 237 คน มีข้อมูลชัดเจนว่า เสียชีวิตในสนามรบ (killed in action - KIA)
--------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน
ประดับใบโอ็คและดาบ
(Knight's Cross of the Iron Cross with Oak Leaves and Swords)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คและดาบนี้มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes mit Eichenlaub und Schwertern จะประดับให้กับทหารที่ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือหน่วยเอส เอส หรือหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการรบนั้น
หลักเกณฑ์
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คมาแล้ว
- ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญต่อเนื่องกัน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คมาแล้ว
- คะแนนสะสมของการยิงเครื่องบินข้าศึกตก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ในระดับกางเขนเหล็กประดับใบโอ็คและดาบ
พิธีมอบครั้งแรก วันที่ 21 มิ.ย. 1941 มอบให้กับอดอล์ฟ กัลลันด์ (Adolf Galland) เสืออากาศของเยอรมัน
จำนวนที่มอบ 159 เหรียญมอบให้คนเยอรมัน 1 เหรียญมอบให้กับชาวต่างชาติ รวมทั้งหมด 160 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ วิธีการประดับเหมือนกับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค คือประดับที่คอเสื้อ โดยใช้ริบบิ้นพันรอบคอ และห้อยตัวเหรียญออกมาด้านหน้าของคอเสื้อ โดยตัวเหรียญจะมีใบโอ็คและดาบอยู่ด้านบนของเหรียญ
ข้อสังเกตุ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คและดาบนี้ เป็นเหรียญกล้าหาญที่สูงกว่า เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค และมีเกียรติยศสูงกว่า ต้องใช้ความสามารถอย่างสูง ต้องมีความกล้าหาญที่เห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ที่ได้รับมอบเหรียญมีจำนวนลดน้อยลงเหลือเพียง 160 คนเท่านั้น เหรียญนี้ยังสามารถมอบให้กับผู้บัญชาการของหน่วยที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ทหารเยอรมัน 159 คนที่ได้รับเหรียญ 14 คน ยังมีชีวิตอยู่ (ข้อมูลเมื่อปี 1999) และ 38 คน มีข้อมูลชัดเจนว่า เสียชีวิตในสนามรบ (killed in action - KIA)
-----------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน
ประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชร
(Knight's Cross of the Iron Cross with Oakleaves, Swords and Diamonds)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชรนี้มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes mit Eichenlaub, Schwertern und Brillianten จะประดับให้กับทหารที่ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือหน่วยเอส เอส หรือหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการรบนั้น
หลักเกณฑ์
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คและดาบมาแล้ว
- ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญต่อเนื่องกัน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คและดาบมาแล้ว
- คะแนนสะสมของการยิงเครื่องบินข้าศึกตก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ในระดับกางเขนเหล็กประดับใบโอ็คและดาบ
พิธีมอบครั้งแรก วันที่ 15 ก.ค. 1941 มอบให้กับแวร์เนอร์ โมลเดอร์ (Werner Mölders)
จำนวนที่มอบ 27 เหรียญมอบให้คนเยอรมัน ไม่มีชาวต่างชาติได้รับเหรียญนี้
วิธีการประดับเหรียญ วิธีการประดับเหมือนกับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค ดาบและเพชร คือประดับที่คอเสื้อ โดยใช้ริบบิ้นพันรอบคอ และห้อยตัวเหรียญออกมาด้านหน้าของคอเสื้อ โดยตัวเหรียญจะมีใบโอ็ค ดาบและเพชรอยู่ด้านบนของเหรียญ
ข้อสังเกตุ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็ค ดาบและเพชรนี้ เป็นเหรียญกล้าหาญที่สูงกว่า เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค และดาบ และมีเกียรติยศสูงกว่า ต้องใช้ความสามารถอย่างสูง ต้องมีความกล้าหาญที่เห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ที่ได้รับมอบเหรียญมีจำนวนลดน้อยลงเหลือเพียง 27 คนเท่านั้น เหรียญนี้ยังสามารถมอบให้กับผู้บัญชาการของหน่วยที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ทหารเยอรมัน 27 คนที่ได้รับเหรียญ ในปัจจุบันต่างเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว (ข้อมูลเมื่อปี 1999) และ 9 คน มีข้อมูลชัดเจนว่า เสียชีวิตในสนามรบ (killed in action - KIA)
จอมพลเออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) ในเครื่องแต่งกายชุดจอมพล ของกองทัพเยอรมัน พร้อมด้วยคธาประจำตำแหน่ง ที่คอมีเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ประดับใบโอ็ค ดาบและเพชร (Knight Cross with Oakleaves, Swords and Diamonds) ซึ่งเป็นเหรียญตรากางเขนเหล็กชั้นรองสูงสุด จากเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คทองคำ ดาบและเพชร (Knight Cross with gold oakleaves, Swords and Diamonds) นอกจากนี้ที่กระเป๋าด้านขวาของภาพ หรือด้านซ้ายของเขา ยังติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 อีกหนึ่งเหรียญ (the 1st Class Iron Cross
-------------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และเพชร
(Knight's Cross of the Iron Cross with Golden Oakleaves, Swords and Diamonds)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอ้ศวิน ประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และเพชร เป็นเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุดของนาซีเยอรมัน ตัวกางเขนเหล็กทำด้วยทองคำ มีผู้ได้รับเหรียญนี้เพียงคนเดียว คือ Hans Ulrich Rudel นักบินแห่งกองทัพอากาศลุฟวาฟ (Luftwaffe) ซึ่งเป็นนักบินเครื่องบิน เจ ยู 87 สตูก้า (Ju 87 Stuka)
หลักเกณฑ์ ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นก่อนหน้านี้มาแล้ว และยังคงปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญอยู่อย่างต่อเนื่อง
พิธีมอบครั้งแรก ประกาศเมื่อ 29 ธันวาคม ปี 1944 และทำพิธีมอบใน 1 มกราคม ปี 1945
จำนวนผู้ที่ได้รับมอบ 1 คน
วิธีประดับเหรียญ ประดับที่คอเสื้อ โดยใช้สายริบบิ้นพันรอบคอเสื้อ เหมือนการประดับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็ก ชั้นอัศวินอื่นๆ โดยตัวกางเขนเหล็กจะห้อยติดกับใบโอ็คทองคำ ดาบไขว้และเพชร ตัวกางเขนเหล็กจะทำด้วยทองคำ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ได้รับมอบ
ข้อสังเกตุ Hans Ulrich Rudel ซึ่งเป็นบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ได้รับมอบเหรียญกล้าหาญกางเขนชั้นอัศวิน ที่สูงที่สุดนี้ จากการปฏิบัติงานในหน้าที่นักบินประจำเครื่องบิน เจ ยู 87 สตูก้า ซึ่งเป็นเครื่องบินทำลายรถถัง โดยติดปืนใหญ่อากาศขนาด 37 มม. ไว้ที่ใต้ปีกทั้งสองข้าง ข้างละหนึ่งกระบอก
Rudel สามารถทำลายรถถังรัสเซียได้ทั้งหมด 530 คัน ปืนต่อสู้อากาศยานและปืนใหญ่ต่อสู้รถถังของรัสเซียอีก 150 กระบอก ยานยนต์ทั่วไปประเภทต่างๆอีก 800 คัน จมเรือรบชื่อ Marat ของรัสเซียได้ 1 ลำ เรือชั้นครุยเซอร์ 1 ลำ เรือ Destroyer 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก (Landing Craft) 70 ลำ สะพานและบังเกอร์ ป้อมปืนต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน
เขาขึ้นบินทั้งหมด 2,530 ครั้ง และถูกยิงตกทั้งหมด 30 ครั้ง
------------------------------------
เหรียญตราสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง
(Tank Battle Badge)
เหรียญตราสำหรับผู้ที่ทำการรบด้วยรถถัง (Tank Battle Badge) หรือ Panzerkampfwagenabzeichen นี้ มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 1939 จะมอบให้กับผู้ที่ทำการรบด้วยรถถัง สำหรับเหรียญที่เห็นในภาพ เป็นเหรียญชั้นแรก ตอนล่างมีขีดสามขีด หมายถึงผู้ที่ได้รับเหรียญ ได้เข้าทำการรบด้วยรถถัง 3 ครั้ง ในวันที่ต่างกัน (three tank engagement on three different days)
ต่อมาในปี 1940 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Panzerkampfabzeichen เนื่องจากแรกเริ่มนั้น มุ่งที่มอบเหรียญตรานี้ให้กับพลประจำรถถังเท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้มีการขยายสิทธิผู้ที่ได้รับเหรีญญไปถึง พลมอเตอร์ไซค์ ของกองพลยานเกราะ รวมไปถึงชุด:X้ (recovery team) ซึ่งมักจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า ไม่แตกต่างไปจากพลประจำรถถัง ขั้นตอนการพิจารณาว่าสมควรจะได้รับเหรียญหรือไม่ ก็ใช้หลักเดียวกับพลประจำรถถัง
สำหรับเหรียญชั้นต่อไป จะเปลี่ยนขีด 3 ขีดเป็นตัวเลขของการรบด้วยรถถัง เช่น ตัวเลข 25 ซึ่งหมายถึงทำการรบด้วยรถถัง 25 ครั้ง หรือ ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าต่อเนื่องกันเป็นเวลา 15 เดือน เหรียญนี้ยังอาจจะมอบให้กับผู้ที่ได้บาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบก็ได้ โดยเหรียญทำการรบ 25 ครั้งนี้ เริ่มมีใช้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 1943
เหรียญนี้มี 3 แบบ คือ รมดำ ชุบเงิน และชุบทอง ตัวเหรียญออกแบบโดย Ernest Peekhaus เป็นรูปรถถัง ล้อมรอบด้วยใบโอ็ครูปทรงรี ตอนบนสุดของเหรียญ เป็นรูปนกอินทรี กางปีกเพียงครึ่งเดียว เกาะอยู่บนเครื่องหมายสวัสดิกะ อันเป็นสัญญลักษณ์ของพรรคนาซีเยอรมัน ตัวรถถังกำลังแล่นผ่านใบโอ็ค จากทางซ้ายไปขวา
เหรียญที่เห็นอยู่ด้านบนเป็นเงินทั้งเหรียญ เหรียญที่มอบให้ผู้ทำการรบ 25 ครั้ง จะแตกต่างกับเหรียญทำการรบ 3 ครั้งคือ ตัวรถถังของเหรียญทำการรบ 25 ครั้งจะเป็นสีเทาดำ ตัวเลข 25 ที่ปรากฎแทนขีด 3 ขีดทางตอนล่าง จะเป็นสีทอง ส่วนนกอินทรีและใบโอ็คยังคงเป็นสีเงินเช่นเดียวกับเหรียญทำการรบ 3ครั้ง
ต่อมาเมื่อการรบยังคงดำเนินต่อไป จำนวนครั้งในการรบของกำลังพลก็เพิ่มมากขึ้น จึงมีการเพิ่มตัวเลขจาก 25 ครั้ง เป็น 50 และ 75 ครั้งอีกด้วย
เหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง 50 ครั้ง
เหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง 75 ครั้ง
ภาพบนเป็นตัวอย่างการติดเหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง ตัวเหรียญจะติดที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของผู้ที่ได้รับเหรียญ โดยติดให้ต่ำกว่าเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 และเสมอกับเหรียญอื่นๆ ในภาพจะอยู่เสมอกับเหรียญสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ ที่อยู่ค่อนไปข้างหลัง
เหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถังในภาพนี้ เป็นเหรียญสีทอง ผู้ได้รับเหรียญเป็นนายทหารยศ พันตรีของหน่วยเอสเอส (SS หรือ SchutzStaffel) จากกองพล ดาส ไรซ์ (Das Reich) สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นหน่วยเอส เอส คือ
1. ที่ปกเสื้อด้านขวาของเครื่องแบบ มีเครื่องหมายอักษร เอส เอส
2. ที่หน้าหมวกแก็ป ใต้สัญญลักษณ์นกอินทรีกางปีกเต็ม เท้าเกาะเครื่องหมายสวัสดิกะ จะเป็นเครื่องหมาย หัวกระโหลกไขว้ (Death head) ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ ของหน่วย เอส เอส
3. ที่แขนเสื้อด้านซ้ายของเครื่องแบบ ตอนบน มีตรานกอินทรีเหยียดปีกตรงเกาะบนเครื่องหมายสวัสดิกะติดอยู่ ในภาพจะเห็นเพียงปลายปีกเหยียดตรงโผล่ออกมาเท่านั้น
4. เครื่องหมายยศของ เอส เอส ที่ติดอยู่ที่ปกเสื้อ จะแตกต่างจากเครื่องหมายของกองทัพบกเยอรมัน ดุมเงิน 4 เม็ดหมายถึงพันตรี
ส่วนแถบที่แขนเสื้อซ้าย ด้านล่าง เป็นแถบบอกนามหน่วย จะเห็นดัวอักษร Das Reich ติดอยู่
---------------------------------------
เหรียญสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ
(Wound Badge)
เหรียญสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ มีสามระดับ คือ รมดำ เงิน และทอง ในภาพเป็นเหรียญเงิน มอบให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ 3 - 4 ครั้ง หรือ สูญเสียแขนขา บาดเจ็บทางสมอง บาดเจ็บที่ตา ระบบการได้ยิน จากการรบ
เหรียญชนิดนี้จะมอบให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ ทั้งที่เป็นทหาร หรือข้าราชการของกองทัพเยอรมัน และหน่วยเอส เอส ต่อมาในปี 1943 เมื่อสงครามขยายเข้ามาถึงประเทศเยอรมัน ทั้งจากการทิ้งระเบิด และการรุกเข้ามาทางพื้นดิน ก็ได้มีการมอบเหรียญชนิดนี้ให้กับพลเรือน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศด้วย
หลักเกณฑ์ เหรียญนี้มี 3 ระดับ คือ
1. รมดำ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 - 2 ครั้ง
2. เหรียญเงิน สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 3 - 4 ครั้ง หรือ สูญเสียแขนขาจากการสู้รบ ได้รับบาดเจ็บที่ตา ระบบการได้ยิน สมอง หรือบาดเจ็บที่ใบหน้าจนเสียโฉม
3. เหรียญทอง สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 5 ครั้ง หรือพิการตาบอด สมองได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หรือเสียชีวิตในการรบ
พิธีมอบครั้งแรก พิธีมอบครั้งแรกใน 1 กันยายน ปี 1939
จำนวนผู้ที่ได้รับมอบ กว่า 5,000,000 คน
วิธีประดับเหรียญ ประดับที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย โดยติดต่ำกว่าหรือเสมอกับเหรียญอื่นๆ
ภาพบนเป็นตัวอย่างของการประดับเหรียญผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ (Wound Badge) จะติดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อซ้ายของผู้ที่ได้รับมอบ ในภาพนี้จะติดเฉียงค่อนไปทางสีข้าง
ส่วนอีกเหรียญที่อยู่ระดับเดียวกัน ใกล้กับกระดุมเสื้อ เป็นเหรียญทำการรบด้วยรถถัง สำหรับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กที่อยู่เหนือขึ้นไป เป็นกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 เนื่องจากไม่มีแพรริบบิ้นที่รังดุมที่สองของเสื้อ และหากเป็นเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ก็จะประดับที่คอเสื้อ แทนการประดับที่กระเป๋าเสื้อ
ภาพนี้เป็นภาพการแต่งกายของนายทหารเอส เอส ยศพันตรี หรือ เอส เอส สตรุมบาน ฟือเรอห์ (SS. Sturmbannfuhrer) ที่แขนเสื้อด้านซ้ายมีสัญญลักษณ์ นกอินทรีเกาะเครื่องหมายสวัสดิกะติดอยู่ ปักด้วยไหมสีเงิน เป็นสัญญลักษณ์ที่ทหาร เอส เอส ทุกคนจะต้องติดไว้ที่แขนเสื้อ
ส่วนที่ปลายแขนเสื้อมีป้ายบอกนามหน่วยว่า แดร์ ฟือเร่อห์ (Der Fuhrer) แสดงว่าเป็นกำลังพลของกรมทหารราบยานเกราะ เอส เอส ที่ 4 แดร์ ฟือเร่อห์ (4th SS. Panzer Granadier Regiment "Der Fuhrer") ซึ่งกรมนี้สังกัดอยู่กับ กองพลยานเกราะ เอส เอส ที่ 2 ดาส ไรซ์ (2nd SS. Panzer Division Das Reich)
เหรียญผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบรุ่นสั่งทำเป็นพิเศษ ลงวันที่ 20 มิถุนายน 1944 ซึ่งเป็นเหรียญที่มอบให้เฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการลอบสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่รังหมาป่าโดยพันเอก เคล้าซ์ ฟอน สตอฟเฟนเบอร์ก
-------------------------------------------
เหรียญสำหรับการสู้รบทั่วไป
(General Assault Badge)
เหรียญสำหรับการสู้รบทั่วไป เป็นเหรียญตราที่มอบให้กับกำลังพลของกองทัพนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มิได้เป็นทหารราบและทหารยานเกราะ (เนื่องจากทหารราบและทหารยานเกราะ มีเหรียญตราสำหรับความกล้าหาญในการสู้รบของหน่วยต่างหากอยู่แล้ว)
พิธีมอบครั้งแรกใน 1 มิถุนายน 1940 โดยมุ่งหวังที่จะมอบเป็นเหรียญตราแห่งความกล้าหาญในการรบให้กับกำลังพลเหล่าทหารช่าง แต่ต่อมาได้ขยายไปยังกำลังพลในเหล่าอื่นๆ เช่น ทหารปืนใหญ่ อีกด้วย
หลักเกณฑ์
เหรียญการสู้รบทั่วไป มี 5 ระดับ คือ
1. ชั้นที่ 1 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 3 ครั้ง ใน 3 วันที่แตกต่างกัน
2. ชั้นที่ 2 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 25 ครั้ง ใน 25 วันที่แตกต่างกัน หรือปฏิบัติการรบอยู่ในแนวหน้าเป็นเวลานานถึง 15 เดือน
3. ชั้นที่ 3 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 50 ครั้ง ใน 50 วันที่แตกต่างกัน
4. ชั้นที่ 4 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 75 ครั้ง ใน 75 วันที่แตกต่างกัน
5. ชั้นที่ 5 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน มกกวก่า 100 ครั้ง ใน 100 วันที่แตกต่างกัน
เหรียญสำหรับทำการรบทั่วไปจำนวน 75 ครั้ง
ภาพการประดับเหรียญตราสำหรับผู้ทำการรบทั่วไป (General Assault medal)
จาก http://www.geocities.com/saniroj
โดยพันเอก ศนิโรจน์ ธรรมยศ
--------------------------
เหรียญกางเขนเหล็ก
(The Iron Cross)
เหรียญกางเขนเหล็กเป็นเหรียญกล้าหาญของเยอรมันแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็ก (Iron Cross) ซึ่งมีอยู่ 2 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ชั้นที่ 1 จะสูงกว่าชั้นที่ 2
- เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน (Knight Cross of the Iron Cross) ซึ่งมี 5 ชั้น คือ
1.ชั้นธรรมดา
2. ชั้นประดับใบโอ็ค
3. ชั้นประดับใบโอ็คและดาบ
4. ชั้นประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชร
5. ชั้นประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และ เพชร
-----------------------------
เหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2
(The Iron Cross 2nd Class)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Eisernes Kreuz 2 Klasse เป็นเหรียญที่มอบให้กับทหารชาย หญิง ทุกเหล่า ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติหน้าที่การรบ ด้วยความกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือ หน่วยเอส เอส หรือ หน่วยงานองค์กรที่ร่วมในการรบนั้นๆ นอกจากนั้นยังสามารถมอบให้กับผู้ที่มิใช่ชาวเยอรมัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพเยอรมันโดยตรง หรือร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารเยอรมัน ในฐานะหน่วยทหารของประเทศอักษะ มีสตรี 39 คน ได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 นี้
หลักเกณฑ์ทั่วไป - ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ในหน้าที่หรือนอกเหนือหน้าที่ จำนวน 1 ครั้ง
พิธีมอบครั้งแรก ไม่ทราบวันที่แน่นอน ระบุได้แต่เพียงว่า เป็นการมอบให้กับผู้ที่เข้ารบในประเทศโปแลนด์ ใน ก.ย. 1939
จำนวนที่มอบ มากกว่า 3,000,000 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ ในพิธีประดับเหรียญ ผู้ที่ได้รับเหรียญจะติดสายริบบิ้นไว้ที่รังดุมที่ 2 แล้วปล่อยตัวเหรียญให้ออกมานอกเสื้อ ส่วนในชีวิตประจำวัน จะติดริบบิ้นไว้ที่รังดุมที่ 2 โผล่สายริบบิ้นออกมาก่อนที่ม้วนกลับเข้าไปในตัวเสื้อ ส่วนตัวกางเขนเหล็ก ติดไว้ที่ กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย บริเวณตรงกึ่งกลางของกระเป๋า ส่วนผู้ที่ได้รับเหรียญชนิดนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็สามารถติดเหรียญได้ทั้งสองเหรียญ
ข้อสังเกต ผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 มีอายุ 12 ปี ชื่อ Alfred Zeck จาก Goldenau เมื่อเดือน มี.ค. 1945 ที่แนวหน้าในเมือง Oder เขาได้รับเหรียญเนื่องจาก ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญในการช่วยเหลือทหารเยอรมัน 12 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางห่ากระสุนปืนใหญ่ ของฝ่ายข้าศึก และสามารถช่วยชีวิตไว้ได้หมดทั้ง 12 คน นอกจากนี้ทหารเรือประจำเรือ Admiral Scheer ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นนี้ทุกคน รวม 1,300 คน เมื่อ 1 เม.ย. 1941
การติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 ในพิธีประดับเหรียญ จะเห็นตัวเหรียญกางเขนเหล็กติดกับแพรแถบ หรือริบบิ้นที่สอดผ่านรังดุมที่ 2 แต่การประดับเหรียญในชุดปฏิบัติงานปกติประจำวัน จะเหลือแต่แพรแถบหรือริบบิ้น ไม่มีตัวเหรียญ
เครื่องแบบนายทหารยศร้อยเอก ของกองพล อา:Xมัครภูเขา เอส เอส ที่ 7 ปริ้นซ์ อูเกน (7th SS. Volunteer Mountain Division Prince Eugen) ติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 โดยการใช้แพรแถบสอดออกมาจากรังดุมที่ 2 และไม่ติดตัวเหรียญกางเขนเหล็ก ซึ่งตามปกติในการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นชั้นต่ำสุดของเหรียญกางเขนเหล็กในการปฏิบัติภารกิจประจำวัน จะติดเฉพาะแพรแถบหรือ ริบบิ้นเท่านั้น ไม่ติดตัวเหรียญ
----------------------------------------
เหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1
(The Iron Cross 1st Class)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที 1 มีัชื่อในภาษาเยอรมันว่า Eisernes Kreuz 1 Klasse เป็นเหรียญที่มอบให้กับทหารชาย หญิง ทุกเหล่า ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติหน้าที่การรบ ด้วยความกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือ หน่วยเอส เอส หรือ หน่วยงานองค์กรที่ร่วมในการรบนั้นๆ นอกจากนั้นยังสามารถมอบให้กับผู้ที่มิใช่ชาวเยอรมัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพเยอรมันโดยตรง หรือร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารเยอรมัน ในฐานะหน่วยทหารของประเทศอักษะ หรือในดินแดนที่เยอรมันครอบครอง
หลักเกณฑ์ทั่วไป
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 2 มาแล้ว
- ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ในหน้าที่หรือนอกเหนือหน้าที่ จำนวน 3-5 ครั้ง
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ (Luftwaffe)
- สามารถทำคะแนนได้ 5 คะแนน เมื่อ 1 คะแนน สำหรับการยิงเครื่องบิน 1 เครื่องยนต์ตก 2 คะแนนสำหรับการยิงเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ตก 3 คะแนนสำหรับการยิงเครื่องบิน 4 เครื่องยนต์ตก คะแนนนี้จะเพิ่มเป็นสองเท่า เมื่อปฏิบัติการรบทางอากาศในเวลากลางคืน
พิธีมอบครั้งแรก ไม่ทราบวันที่แน่นอน
จำนวนที่มอบ มากกว่า 450,000 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ เนื่องจากเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 ไม่มีสายริบบิ้น มีเพียงตัวเหรียญ เพื่อเป็นการแยกระหว่างเหรียญชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2
ดังนั้นการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 ทั้งในพิธีประดับเหรียญและในชีวิตประจำวัน จะติดเหรียญไว้ที่ กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย บริเวณตรงกึ่งกลางของกระเป๋า
ข้อสังเกตุ มีสุภาพสตรีเยอรมัน 2 คน ได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ทหารพลร่มของเยอรมันหรือ ฟอลชริมเจเกอร์ (Fallschirmjager) ติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1
เหรียญที่อยู่ใต้เหรียญกางเขนเหล็กลงมา เป็นเหรียญแสดงความสามารถในการกระโดดร่ม (the parachute qualification badge) เป็นรูปนกอินทรี เกาะอยู่บนเครื่องหมายสวัสดิกะ กำลังพุ่งโฉบลงหาเหยื่อเบื้องล่าง ล้อมรอบด้วยช่อใบโอ็ค ซึ่งผู้ที่จะได้รับเครื่องหมายนี้ จะต้องผ่านการกระโดดร่มมาไม่น้อบกว่า 6 ครั้ง ตัวนกอินทรีทำด้วยทองแดงผสมนิเกล อัลลอย
ส่วนเครื่องหมายที่ประดับอยู่ที่หน้าอกอีกด้าน เป็นเครื่องหมายของกองทัพอากาศเยอรมัน (German Air Force Eagle) เช่นเดียวกับที่ติดอยู่ข้างหมวก
--------------------------------------
เหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน
(Knight Cross of the Iron Cross)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน มีทั้งหมด 5 ชั้น คือ
1. ชั้นธรรมดา
2. ชั้นประดับใบโอ็ค
3. ชั้นประดับใบโอ็คและดาบ
4. ชั้นประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชร
5. ชั้นประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และ เพชร
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินชั้นที่ 1 นี้ มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes เป็นเหรียญที่มอบให้กับทหารชายทุกเหล่า ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติหน้าที่การรบ ด้วยความกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือ หน่วยเอส เอส หรือ หน่วยงานองค์กรที่ร่วมในการรบนั้นๆ
หลักเกณฑ์ทั่วไป
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1(1st Class Iron Cross) มาแล้ว
- ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญอย่างต่อเนื่อง
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ (Luftwaffe)
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 มาแล้ว
- มีคะแนนสะสม 20 คะแนน โดย 1 คะแนนสำหรับการยิงเครื่องบิน เครื่องยนต์เดียวตก 1 ลำ 2 คะแนน สำหรับการยิงเครื่องยนต์ 2 เครื่องยนต์ตก 1 ลำ 3 คะแนน สำหรับการยิงเครื่องบิน 4 เครื่องยนต์ ตก 1 ลำ คะแนนดังกล่าวจะเพิ่มเป็นสองเท่า หากปฏิบัติการรบทางอากาศในเวลากลางคืน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพเรือ (Kriegsmarine)
- เคยได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 มาแล้ว
- สามารถจมเรือของข้าศึกได้รวมแล้ว 100,000 ตัน
อย่างไรก็ตามกฏเกณฑ์ดังกล่าว มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในระหว่างสงคราม
พิธีมอบครั้งแรก 30 ก.ย. 1939
จำนวนที่มอบ 7,318 เหรียญ มอบให้กับทหารเยอรมัน 43 เหรียญมอบให้กับชาวต่างชาติ รวมทั้งหมด 7,361 เหรียญ ในจำนวนผู้รับเหรียญทั้งหมดนี้ ประมาณ 1,000 คนยังมีชีวิตอยู่ (ข้อมูลปี 1999) และจำนวนนับพันที่หายสาปสูญจากการรบ (Missing in Action - MIA)
วิธีการประดับเหรียญ ประดับไว้ที่คอ โดยมีสายริบบินสีดำ ขาว และแดง เป็นตัวผูกเหรียญกางเขนเหล็กเอาไว้ ให้ตัวเหรียญห้อยออกมาจากคอเสื้อด้านหน้า หากได้รับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ที่มีชั้นสูงขึ้นไป เหรียญชั้นต่ำจะต้องถอดออกไป
ข้อสังเกต เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ของกองทัพเยอรมันนี้ เทียบเท่ากับเหรียญกล้าหาญ Medal of honor ของกองทัพสหรัฐอเมริกา
บันทึก นายทหารประทวน (ชั้นนายสิบ) คนแรกที่ได้รับการประดับเหรียญนี้ คือ Hubert Brinkforth ได้รับการประดับเหรียญ เมื่อ 7 มี.ค. 1941 ในขณะปฏิบัติหน้าที่ในกองร้อยต่อสู้รถถังที่ 14 (14. Panzerjager Kompanie) ของกรมทหารราบที่ 25 ทหารที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเหรียญนี้มี 3 คน คือ Gefreiter, Christian และ Lohrey (ไม่มีข้อมูลอายุขณะนั้น) ได้รับการประดับเหรียญเมื่อ 11 มี.ค. 1945 ก่อนการสิ้นสุดสงครามไม่นานนัก
ภาพตัวอย่างการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน หรือ Knight's Cross ชั้นธรรมดา จะประดับด้วยการคล้องสายริบบิ้นรอบคอ และปล่อยเหรียญออกมาด้านหน้าระหว่างคอปกเสื้อ ซึ่งต่างจากการประดับเหรียญกางเขนเหล็กทั่วไปที่จะประดับที่กระเป๋าเสื้อเท่านั้น
ภาพนี้เป็นนายทหารชั้นยศร้อยเอก แห่งกองทัพบกเยอรมัน (ดาวทองที่บ่า สองดวง) อินธนูและขอบหมวกหม้อตาล ขลิบสีแดง แสดงให้เห็นว่านายทหารคนนี้ สังกัด เหล่าทหารปืนใหญ่ (สีแดงแสดงถึงเหล่าทหารปืนใหญ่) ประดับทั้งเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน (ที่คอเสื้อ) และเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 (ที่กระเป๋าเสื้อ)
-------------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็ค
(Knight's Cross of the Iron Cross with Oak Leaves)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คนี้มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes mit Eichenlaub จะประดับให้กับทหารที่ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือหน่วยเอส เอส หรือหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการรบนั้น
หลักเกณฑ์
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน มาแล้ว
- ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญต่อเนื่องกัน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินมาแล้ว
- คะแนนสะสมของการยิงเครื่องบินข้าศึกตก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ในระดับกางเขนเหล็กประดับใบโอ็ค
พิธีมอบครั้งแรก วันที่ 19 มิ.ย. 1940 มอบให้กับ Eduard Dietl
จำนวนที่มอบ 882 เหรียญมอบให้คนเยอรมัน 8 เหรียญมอบให้กับชาวต่างชาติ รวมทั้งหมด 890 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ วิธีการประดับเหมือนกับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน คือประดับที่คอเสื้อ โดยใช้ริบบิ้นพันรอบคอ และห้อยตัวเหรียญออกมาด้านหน้าของคอเสื้อ โดยตัวเหรียญจะมีใบโอ็คอยู่ด้านบนของเหรียญ
ข้อสังเกตุ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คนี้ เป็นเหรียญกล้าหาญที่สูงกว่า เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน และมีเกียรติยศสูงกว่า ต้องใช้ความสามารถอย่างสูง ต้องมีความกล้าหาญที่เห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ที่ได้รับมอบเหรียญมีจำนวนลดน้อยลงเหลือเพียง 890 คนเท่านั้น เหรียญนี้ยังสามารถมอบให้กับผู้บัญชาการของหน่วยที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ทหารเยอรมัน 882 คนที่ได้รับเหรียญ 96 คน ยังมีชีวิตอยู่ (ข้อมูลเมื่อปี 1999) และ 237 คน มีข้อมูลชัดเจนว่า เสียชีวิตในสนามรบ (killed in action - KIA)
--------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน
ประดับใบโอ็คและดาบ
(Knight's Cross of the Iron Cross with Oak Leaves and Swords)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คและดาบนี้มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes mit Eichenlaub und Schwertern จะประดับให้กับทหารที่ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือหน่วยเอส เอส หรือหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการรบนั้น
หลักเกณฑ์
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คมาแล้ว
- ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญต่อเนื่องกัน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คมาแล้ว
- คะแนนสะสมของการยิงเครื่องบินข้าศึกตก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ในระดับกางเขนเหล็กประดับใบโอ็คและดาบ
พิธีมอบครั้งแรก วันที่ 21 มิ.ย. 1941 มอบให้กับอดอล์ฟ กัลลันด์ (Adolf Galland) เสืออากาศของเยอรมัน
จำนวนที่มอบ 159 เหรียญมอบให้คนเยอรมัน 1 เหรียญมอบให้กับชาวต่างชาติ รวมทั้งหมด 160 เหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ วิธีการประดับเหมือนกับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค คือประดับที่คอเสื้อ โดยใช้ริบบิ้นพันรอบคอ และห้อยตัวเหรียญออกมาด้านหน้าของคอเสื้อ โดยตัวเหรียญจะมีใบโอ็คและดาบอยู่ด้านบนของเหรียญ
ข้อสังเกตุ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คและดาบนี้ เป็นเหรียญกล้าหาญที่สูงกว่า เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค และมีเกียรติยศสูงกว่า ต้องใช้ความสามารถอย่างสูง ต้องมีความกล้าหาญที่เห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ที่ได้รับมอบเหรียญมีจำนวนลดน้อยลงเหลือเพียง 160 คนเท่านั้น เหรียญนี้ยังสามารถมอบให้กับผู้บัญชาการของหน่วยที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ทหารเยอรมัน 159 คนที่ได้รับเหรียญ 14 คน ยังมีชีวิตอยู่ (ข้อมูลเมื่อปี 1999) และ 38 คน มีข้อมูลชัดเจนว่า เสียชีวิตในสนามรบ (killed in action - KIA)
-----------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน
ประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชร
(Knight's Cross of the Iron Cross with Oakleaves, Swords and Diamonds)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็ค ดาบ และเพชรนี้มีชื่อในภาษาเยอรมันว่า Ritterkreuz des Eisernes Kreuzes mit Eichenlaub, Schwertern und Brillianten จะประดับให้กับทหารที่ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญ ในกองทัพเยอรมัน หรือหน่วยเอส เอส หรือหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการรบนั้น
หลักเกณฑ์
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คและดาบมาแล้ว
- ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญต่อเนื่องกัน
หลักเกณฑ์สำหรับกองทัพอากาศ
- ได้รับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊คและดาบมาแล้ว
- คะแนนสะสมของการยิงเครื่องบินข้าศึกตก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ในระดับกางเขนเหล็กประดับใบโอ็คและดาบ
พิธีมอบครั้งแรก วันที่ 15 ก.ค. 1941 มอบให้กับแวร์เนอร์ โมลเดอร์ (Werner Mölders)
จำนวนที่มอบ 27 เหรียญมอบให้คนเยอรมัน ไม่มีชาวต่างชาติได้รับเหรียญนี้
วิธีการประดับเหรียญ วิธีการประดับเหมือนกับการประดับเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค ดาบและเพชร คือประดับที่คอเสื้อ โดยใช้ริบบิ้นพันรอบคอ และห้อยตัวเหรียญออกมาด้านหน้าของคอเสื้อ โดยตัวเหรียญจะมีใบโอ็ค ดาบและเพชรอยู่ด้านบนของเหรียญ
ข้อสังเกตุ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็ค ดาบและเพชรนี้ เป็นเหรียญกล้าหาญที่สูงกว่า เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ๊ค และดาบ และมีเกียรติยศสูงกว่า ต้องใช้ความสามารถอย่างสูง ต้องมีความกล้าหาญที่เห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ที่ได้รับมอบเหรียญมีจำนวนลดน้อยลงเหลือเพียง 27 คนเท่านั้น เหรียญนี้ยังสามารถมอบให้กับผู้บัญชาการของหน่วยที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญ ทหารเยอรมัน 27 คนที่ได้รับเหรียญ ในปัจจุบันต่างเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว (ข้อมูลเมื่อปี 1999) และ 9 คน มีข้อมูลชัดเจนว่า เสียชีวิตในสนามรบ (killed in action - KIA)
จอมพลเออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) ในเครื่องแต่งกายชุดจอมพล ของกองทัพเยอรมัน พร้อมด้วยคธาประจำตำแหน่ง ที่คอมีเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ประดับใบโอ็ค ดาบและเพชร (Knight Cross with Oakleaves, Swords and Diamonds) ซึ่งเป็นเหรียญตรากางเขนเหล็กชั้นรองสูงสุด จากเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวินประดับใบโอ็คทองคำ ดาบและเพชร (Knight Cross with gold oakleaves, Swords and Diamonds) นอกจากนี้ที่กระเป๋าด้านขวาของภาพ หรือด้านซ้ายของเขา ยังติดเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 อีกหนึ่งเหรียญ (the 1st Class Iron Cross
-------------------------------------
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และเพชร
(Knight's Cross of the Iron Cross with Golden Oakleaves, Swords and Diamonds)
เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นอ้ศวิน ประดับใบโอ็คทองคำ ดาบ และเพชร เป็นเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุดของนาซีเยอรมัน ตัวกางเขนเหล็กทำด้วยทองคำ มีผู้ได้รับเหรียญนี้เพียงคนเดียว คือ Hans Ulrich Rudel นักบินแห่งกองทัพอากาศลุฟวาฟ (Luftwaffe) ซึ่งเป็นนักบินเครื่องบิน เจ ยู 87 สตูก้า (Ju 87 Stuka)
หลักเกณฑ์ ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นก่อนหน้านี้มาแล้ว และยังคงปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญอยู่อย่างต่อเนื่อง
พิธีมอบครั้งแรก ประกาศเมื่อ 29 ธันวาคม ปี 1944 และทำพิธีมอบใน 1 มกราคม ปี 1945
จำนวนผู้ที่ได้รับมอบ 1 คน
วิธีประดับเหรียญ ประดับที่คอเสื้อ โดยใช้สายริบบิ้นพันรอบคอเสื้อ เหมือนการประดับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็ก ชั้นอัศวินอื่นๆ โดยตัวกางเขนเหล็กจะห้อยติดกับใบโอ็คทองคำ ดาบไขว้และเพชร ตัวกางเขนเหล็กจะทำด้วยทองคำ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ได้รับมอบ
ข้อสังเกตุ Hans Ulrich Rudel ซึ่งเป็นบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ได้รับมอบเหรียญกล้าหาญกางเขนชั้นอัศวิน ที่สูงที่สุดนี้ จากการปฏิบัติงานในหน้าที่นักบินประจำเครื่องบิน เจ ยู 87 สตูก้า ซึ่งเป็นเครื่องบินทำลายรถถัง โดยติดปืนใหญ่อากาศขนาด 37 มม. ไว้ที่ใต้ปีกทั้งสองข้าง ข้างละหนึ่งกระบอก
Rudel สามารถทำลายรถถังรัสเซียได้ทั้งหมด 530 คัน ปืนต่อสู้อากาศยานและปืนใหญ่ต่อสู้รถถังของรัสเซียอีก 150 กระบอก ยานยนต์ทั่วไปประเภทต่างๆอีก 800 คัน จมเรือรบชื่อ Marat ของรัสเซียได้ 1 ลำ เรือชั้นครุยเซอร์ 1 ลำ เรือ Destroyer 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก (Landing Craft) 70 ลำ สะพานและบังเกอร์ ป้อมปืนต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน
เขาขึ้นบินทั้งหมด 2,530 ครั้ง และถูกยิงตกทั้งหมด 30 ครั้ง
------------------------------------
เหรียญตราสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง
(Tank Battle Badge)
เหรียญตราสำหรับผู้ที่ทำการรบด้วยรถถัง (Tank Battle Badge) หรือ Panzerkampfwagenabzeichen นี้ มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 1939 จะมอบให้กับผู้ที่ทำการรบด้วยรถถัง สำหรับเหรียญที่เห็นในภาพ เป็นเหรียญชั้นแรก ตอนล่างมีขีดสามขีด หมายถึงผู้ที่ได้รับเหรียญ ได้เข้าทำการรบด้วยรถถัง 3 ครั้ง ในวันที่ต่างกัน (three tank engagement on three different days)
ต่อมาในปี 1940 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Panzerkampfabzeichen เนื่องจากแรกเริ่มนั้น มุ่งที่มอบเหรียญตรานี้ให้กับพลประจำรถถังเท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้มีการขยายสิทธิผู้ที่ได้รับเหรีญญไปถึง พลมอเตอร์ไซค์ ของกองพลยานเกราะ รวมไปถึงชุด:X้ (recovery team) ซึ่งมักจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า ไม่แตกต่างไปจากพลประจำรถถัง ขั้นตอนการพิจารณาว่าสมควรจะได้รับเหรียญหรือไม่ ก็ใช้หลักเดียวกับพลประจำรถถัง
สำหรับเหรียญชั้นต่อไป จะเปลี่ยนขีด 3 ขีดเป็นตัวเลขของการรบด้วยรถถัง เช่น ตัวเลข 25 ซึ่งหมายถึงทำการรบด้วยรถถัง 25 ครั้ง หรือ ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าต่อเนื่องกันเป็นเวลา 15 เดือน เหรียญนี้ยังอาจจะมอบให้กับผู้ที่ได้บาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบก็ได้ โดยเหรียญทำการรบ 25 ครั้งนี้ เริ่มมีใช้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 1943
เหรียญนี้มี 3 แบบ คือ รมดำ ชุบเงิน และชุบทอง ตัวเหรียญออกแบบโดย Ernest Peekhaus เป็นรูปรถถัง ล้อมรอบด้วยใบโอ็ครูปทรงรี ตอนบนสุดของเหรียญ เป็นรูปนกอินทรี กางปีกเพียงครึ่งเดียว เกาะอยู่บนเครื่องหมายสวัสดิกะ อันเป็นสัญญลักษณ์ของพรรคนาซีเยอรมัน ตัวรถถังกำลังแล่นผ่านใบโอ็ค จากทางซ้ายไปขวา
เหรียญที่เห็นอยู่ด้านบนเป็นเงินทั้งเหรียญ เหรียญที่มอบให้ผู้ทำการรบ 25 ครั้ง จะแตกต่างกับเหรียญทำการรบ 3 ครั้งคือ ตัวรถถังของเหรียญทำการรบ 25 ครั้งจะเป็นสีเทาดำ ตัวเลข 25 ที่ปรากฎแทนขีด 3 ขีดทางตอนล่าง จะเป็นสีทอง ส่วนนกอินทรีและใบโอ็คยังคงเป็นสีเงินเช่นเดียวกับเหรียญทำการรบ 3ครั้ง
ต่อมาเมื่อการรบยังคงดำเนินต่อไป จำนวนครั้งในการรบของกำลังพลก็เพิ่มมากขึ้น จึงมีการเพิ่มตัวเลขจาก 25 ครั้ง เป็น 50 และ 75 ครั้งอีกด้วย
เหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง 50 ครั้ง
เหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง 75 ครั้ง
ภาพบนเป็นตัวอย่างการติดเหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถัง ตัวเหรียญจะติดที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของผู้ที่ได้รับเหรียญ โดยติดให้ต่ำกว่าเหรียญกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 และเสมอกับเหรียญอื่นๆ ในภาพจะอยู่เสมอกับเหรียญสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ ที่อยู่ค่อนไปข้างหลัง
เหรียญสำหรับผู้ทำการรบด้วยรถถังในภาพนี้ เป็นเหรียญสีทอง ผู้ได้รับเหรียญเป็นนายทหารยศ พันตรีของหน่วยเอสเอส (SS หรือ SchutzStaffel) จากกองพล ดาส ไรซ์ (Das Reich) สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นหน่วยเอส เอส คือ
1. ที่ปกเสื้อด้านขวาของเครื่องแบบ มีเครื่องหมายอักษร เอส เอส
2. ที่หน้าหมวกแก็ป ใต้สัญญลักษณ์นกอินทรีกางปีกเต็ม เท้าเกาะเครื่องหมายสวัสดิกะ จะเป็นเครื่องหมาย หัวกระโหลกไขว้ (Death head) ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ ของหน่วย เอส เอส
3. ที่แขนเสื้อด้านซ้ายของเครื่องแบบ ตอนบน มีตรานกอินทรีเหยียดปีกตรงเกาะบนเครื่องหมายสวัสดิกะติดอยู่ ในภาพจะเห็นเพียงปลายปีกเหยียดตรงโผล่ออกมาเท่านั้น
4. เครื่องหมายยศของ เอส เอส ที่ติดอยู่ที่ปกเสื้อ จะแตกต่างจากเครื่องหมายของกองทัพบกเยอรมัน ดุมเงิน 4 เม็ดหมายถึงพันตรี
ส่วนแถบที่แขนเสื้อซ้าย ด้านล่าง เป็นแถบบอกนามหน่วย จะเห็นดัวอักษร Das Reich ติดอยู่
---------------------------------------
เหรียญสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ
(Wound Badge)
เหรียญสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ มีสามระดับ คือ รมดำ เงิน และทอง ในภาพเป็นเหรียญเงิน มอบให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ 3 - 4 ครั้ง หรือ สูญเสียแขนขา บาดเจ็บทางสมอง บาดเจ็บที่ตา ระบบการได้ยิน จากการรบ
เหรียญชนิดนี้จะมอบให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ ทั้งที่เป็นทหาร หรือข้าราชการของกองทัพเยอรมัน และหน่วยเอส เอส ต่อมาในปี 1943 เมื่อสงครามขยายเข้ามาถึงประเทศเยอรมัน ทั้งจากการทิ้งระเบิด และการรุกเข้ามาทางพื้นดิน ก็ได้มีการมอบเหรียญชนิดนี้ให้กับพลเรือน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศด้วย
หลักเกณฑ์ เหรียญนี้มี 3 ระดับ คือ
1. รมดำ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 - 2 ครั้ง
2. เหรียญเงิน สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 3 - 4 ครั้ง หรือ สูญเสียแขนขาจากการสู้รบ ได้รับบาดเจ็บที่ตา ระบบการได้ยิน สมอง หรือบาดเจ็บที่ใบหน้าจนเสียโฉม
3. เหรียญทอง สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 5 ครั้ง หรือพิการตาบอด สมองได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หรือเสียชีวิตในการรบ
พิธีมอบครั้งแรก พิธีมอบครั้งแรกใน 1 กันยายน ปี 1939
จำนวนผู้ที่ได้รับมอบ กว่า 5,000,000 คน
วิธีประดับเหรียญ ประดับที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย โดยติดต่ำกว่าหรือเสมอกับเหรียญอื่นๆ
ภาพบนเป็นตัวอย่างของการประดับเหรียญผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ (Wound Badge) จะติดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อซ้ายของผู้ที่ได้รับมอบ ในภาพนี้จะติดเฉียงค่อนไปทางสีข้าง
ส่วนอีกเหรียญที่อยู่ระดับเดียวกัน ใกล้กับกระดุมเสื้อ เป็นเหรียญทำการรบด้วยรถถัง สำหรับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กที่อยู่เหนือขึ้นไป เป็นกางเขนเหล็กชั้นที่ 1 เนื่องจากไม่มีแพรริบบิ้นที่รังดุมที่สองของเสื้อ และหากเป็นเหรียญกางเขนเหล็กชั้นอัศวิน ก็จะประดับที่คอเสื้อ แทนการประดับที่กระเป๋าเสื้อ
ภาพนี้เป็นภาพการแต่งกายของนายทหารเอส เอส ยศพันตรี หรือ เอส เอส สตรุมบาน ฟือเรอห์ (SS. Sturmbannfuhrer) ที่แขนเสื้อด้านซ้ายมีสัญญลักษณ์ นกอินทรีเกาะเครื่องหมายสวัสดิกะติดอยู่ ปักด้วยไหมสีเงิน เป็นสัญญลักษณ์ที่ทหาร เอส เอส ทุกคนจะต้องติดไว้ที่แขนเสื้อ
ส่วนที่ปลายแขนเสื้อมีป้ายบอกนามหน่วยว่า แดร์ ฟือเร่อห์ (Der Fuhrer) แสดงว่าเป็นกำลังพลของกรมทหารราบยานเกราะ เอส เอส ที่ 4 แดร์ ฟือเร่อห์ (4th SS. Panzer Granadier Regiment "Der Fuhrer") ซึ่งกรมนี้สังกัดอยู่กับ กองพลยานเกราะ เอส เอส ที่ 2 ดาส ไรซ์ (2nd SS. Panzer Division Das Reich)
เหรียญผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบรุ่นสั่งทำเป็นพิเศษ ลงวันที่ 20 มิถุนายน 1944 ซึ่งเป็นเหรียญที่มอบให้เฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการลอบสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่รังหมาป่าโดยพันเอก เคล้าซ์ ฟอน สตอฟเฟนเบอร์ก
-------------------------------------------
เหรียญสำหรับการสู้รบทั่วไป
(General Assault Badge)
เหรียญสำหรับการสู้รบทั่วไป เป็นเหรียญตราที่มอบให้กับกำลังพลของกองทัพนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มิได้เป็นทหารราบและทหารยานเกราะ (เนื่องจากทหารราบและทหารยานเกราะ มีเหรียญตราสำหรับความกล้าหาญในการสู้รบของหน่วยต่างหากอยู่แล้ว)
พิธีมอบครั้งแรกใน 1 มิถุนายน 1940 โดยมุ่งหวังที่จะมอบเป็นเหรียญตราแห่งความกล้าหาญในการรบให้กับกำลังพลเหล่าทหารช่าง แต่ต่อมาได้ขยายไปยังกำลังพลในเหล่าอื่นๆ เช่น ทหารปืนใหญ่ อีกด้วย
หลักเกณฑ์
เหรียญการสู้รบทั่วไป มี 5 ระดับ คือ
1. ชั้นที่ 1 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 3 ครั้ง ใน 3 วันที่แตกต่างกัน
2. ชั้นที่ 2 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 25 ครั้ง ใน 25 วันที่แตกต่างกัน หรือปฏิบัติการรบอยู่ในแนวหน้าเป็นเวลานานถึง 15 เดือน
3. ชั้นที่ 3 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 50 ครั้ง ใน 50 วันที่แตกต่างกัน
4. ชั้นที่ 4 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน 75 ครั้ง ใน 75 วันที่แตกต่างกัน
5. ชั้นที่ 5 ทำการสู้รบ ด้วยการเข้าตีที่มั่นข้าศึก (assault) ตีตอบโต้ (counter attack) หรือลาดตระเวณจนเกิดการปะทะกับข้าศึก เป็นจำนวน มกกวก่า 100 ครั้ง ใน 100 วันที่แตกต่างกัน
เหรียญสำหรับทำการรบทั่วไปจำนวน 75 ครั้ง
ภาพการประดับเหรียญตราสำหรับผู้ทำการรบทั่วไป (General Assault medal)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vcity007 เมื่อ 2012-7-22 19:31
ผมไปเจอข้อมูลเหรียญยศของทหารนาซีเอามาให้ดูกัน