และแล้วผมก็พามายด์มาเจอ แบล็กเบรียดคู่ใจวัยโจ๋ พร้อมผายมือพรีเซนต์ด้วยความภาคภูมิใจ
"แต่น แตน แต๊นนนน นี่ไงครับ แบล็กเบรียด ม้าเหล็กคู่ใจของพี่เอง"
เธอจ้องมองไปทางแบล็กเบรียด อย่างข้องใจ หน้าเธอออกประมาณว่า ไอ้นี่มันวิ่งได้ด้วยหรอ??
"หึหึ ทำหน้าอย่างนั้น ข้องใจล่ะซี่ อย่าดูถูกเจ้านี่เชียวนา.. มันวิ่งไวกว่าม้าเซกเธาว์ซะอีกจะบอกให้" ได้ทีผมก็โม้ซะหน่อย
"เห.... เจ้านี่มันวิ่งได้เร็วจริงหรออออ"
มายด์ยังคงทำหน้าไม่เชื่อนัก แถมยังเอาดาบของเธอไปจิ้มๆ เจ้าแบล็กเบรียดของผมด้วย เฮ้ย มอไซด์นะไม่ใช่ขี้ จิ้มซะเห็นภาพเลย...
"เอาหล่ะ เด๋วพี่พิสูจน์ให้ดูเลยละกัน มายด์ก็มานั่งซ้อนพี่นะครับ" ผมสบัดขาขึ้นค่อมเจ้าแบล็กเบรียด ปลดล็อก และสตาร์ทรถ
แก็ก ซื้มมมมม บรื๊นๆ ๆ
เฮือก ฟ่ออออ
เอ่อ... ผมเห็นมายด์สะดุ้งดีดตัวจับดาบขู่ฟ่อเป็นแมวถอยห่างออกไปเกือบ 5 เมตร
"น้องมายด์ครับ มันไม่กัดหรอกนะ มาเถอะพี่อยู่ตรงนี้ทั้งคน...ไม่ต้องกลัวนะครับ"
มายด์น่าแดงแจ๋.. เลิกหลักเก็บดาบแล้วค่อยๆ เดินก้มหน้ามาทางผม แต่ก็ยังไม่ยอมซ้อนผม
เฮอ... ผมถอนหายใจ
เอาเหอะคนมันยังไม่เคยก็ไม่แปลก ผมคิดพรางก้าวลงจากมอไซด์หันมาทางเธอ
"ขอโทษนะคะน้องมายด์" มายด์ทำสงสัย ทำถ้าเหมือนจะถาม... ไม่ทันให้เธอตั้งตัว
"ว๊ายยย"
ผมจับเอวเธอแล้วอุ้มไปซ้อนรถ แล้วผมก็วาดขาตาม ให้เธอซ้อนหน้าซะเลย (ไหนๆ ที่นี่ก็ไม่มีกฏหมายให้สาวซ้อนหน้าอยู่แว้ววว) อันที่จริงตอนผมอยู่โลกเก่าผมเคยฝันว่าอยากให้ผู้หญิงมาซ้อนมอเตอร์ไซด์แล้วพากันทัวร์(ไอ้นี่ชอบสก๊อย) แต่ก็อย่างที่เคยบอกผมไม่เคยมีแฟน พอจะจีบก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากซ้อนมอไซด์ขับข้ามจังหวัด เพื่อไปเที่ยว หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่พวกเธอต้องการรถ ยิ่งหรูยิ่งดี ผมเลยยังแห้วอยู่อย่างนี้ ช่างเหอะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว...
กลับมาที่ปัจจุบัน... บรื้นนนนนนน ๆ
"ว้าวววว สนุกจังเลยค่ะพี่บายย ว้ายยย ฮะๆๆ" สาวน้อย Musketeer ข้างหน้าผมวีดร้องอย่างตื่นเต้นสดใสต่างจากต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ทำเอาผมยิ้มแก้มปริ น้องมายด์เธอเป็นสก๊อยในสเป็กผมอย่างแน่นอน...
"เป็นไงล่ะ พี่บอกแล้ว" ผมบอกเธอ เสียงเธอตอบกลับมา "อารายน้าาค้าา"
"พี่บอกว่าพี่บอกแล้วไง" ผมเพิ่มระดับเสียงเป็นดัง "ม่ายยด้ายยยินนน"
ผมหรี่ตามองหลังเธออย่างเจ้าเล่ห์ โน้มตัวเข้าหา เอาปากไปจ่อแถวริมหูบางของเธอ ผมเพิ่งสังเกตุแหะ หูเธอแหลมหน่อยๆ น่ารักดี เอาหล่ะกลับมาที่ปากริมหู
"พี่บอกว่า พี่บอกแล้วไงคะน้องมายด์ว่าน้องมายด์ต้องชอบ..." คราวนี้ผมไม่ได้พูดเสียงดังอะไรนักแต่มั่นใจว่าเธอได้ยิน ดูจากหูที่แดงแปร๊ดนั่นก็รู้
.................
ผ่านมาซักระยะ
ดูเหมือนมายด์จะเริ่มชินกับการนั่งบนรถมอไซด์แล้ว เธอพิงผมสบายใจเฉิบไปเลยเปิดแผนที่อีกต่างหาก เธอมองทางพร้อมชี้นิ้วไปที่ปราสาทเบื้องหน้าลิบๆ
"โน่นไงคะพี่บาย ดูเหมือนเราจะถึงที่หมายแล้วค่ะ"
"เห... ถึงแล้วอย่างงั้นหรอ อืมมม.. ก็สมเป็นปราสาทแวมไพร์อยู่เหมือนกันแหะ"
เมื่อเห็นที่หมายแล้วผมก็เร่งเครื่องไปที่ปราสาทหลังนั้นทันที
.........................................................................................
อันที่จริงตามที่ผมศึกษามา แวมไพร์จะอาศัยอยู่ในส่วนของแดนปีศาจลึกเข้าไป แต่ที่นี่ไม่ไกลจากแหล่งอาศัยของมนุษย์มากนัก ไม่มีวี่แววแดนปีศาจเลย หากจะมีก็เป็นเพียงแค่บรรยากาศดูน่าขนลุกเท่านั้น ผมได้แต่สงสัยในใจไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะตอนนี้ดูเหมือน มายด์จะเปลี่ยนท่าทีไปเสียแล้ว หันมาบอกบอกผมด้วยสีหน้าจริงจังดูเหยือกเย็นว่า
"พี่บายคะ ตอนนี้พี่บายต้องระวังตัวเต็มที่นะคะ มายด์รู้สึกว่าแวมไพร์ที่นี่ดูแข็งแกร่งผิดปกติ ไม่เหมือนพวกที่มายด์เคยเจอทั่วๆ ไป"
"ครับ พี่จะระวังตัวนะ มายด์ก็เหมือนกันนะครับ ระวังตัวด้วย" ผมก็ตอบกลับไปเพราะเป็นห่วงเธอเหมือนกัน
อันที่จริงตอนนี้ก็เย็นใกล้มืดแล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าบ้าบิ่นบุกถิ่นแวมไพร์ตอนกลางคืนหรอก เพราะรู้ดีว่ากลางคืนพวกแวมไพร์จะแข็งแกร่งมากเพราะถือเป็นมอนส์ระดับสูง แต่ก็นะ ผมมันไม่ชอบเอาเปรียบใคร ถึงใครจะว่าบ้าบอก็เหอะ ถ้าจะให้บุกกลางวันแล้วพวกเธอที่อ่อนแอกว่ามนุษย์ผู้หญิงล่ะก็ ออกจะโหดร้ายเกินไปในความคิดผม จริงอยู่ผมไม่ใช่คนดีนัก แต่ก็ไม่เลวร้ายขนาด ทำร้ายเด็กสตรีได้(หรอฮัฟเพ่ ได้ข่าวจัดหนักไปสองนางระนะ)
เพื่อสวัสดิภาพของตัวผมเอง ผมจึงสงบจิตใจ ระลึกพลังในกายตน แปรสภาพให้กระแสไฟฟ้าภายในร่างปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อลดอาการบาดเจ็บ ล้มตาย ผมตัดสินใจลอกเรียนแบบสายฟ้ารันจวนวิชาประจำกายจากธันเดอร์เบิร์ด สาวพังค์ร็อควัยทีน ที่โดนผมจัดหนักไป....
ที่ใช้วิธีนี้ เพราะรู้ว่าสายฟ้านี้ไม่ทำอันตราย แค่รู้สึกเจ็บนิดๆ seoหน่อยๆ แถมทำให้ชาจนขยับไม่ได้นานพอสมควร เหมาะกับสถานการณ์ดี ไว้เจอใครแข็งแกร่งพอจะป้องกันพลังนี้ ค่อยเพิ่มในส่วนของผมเข้าไป แค่นี้ รับรอง จัด เรียบ....
ระหว่างที่ผมคิดอะไรเพลินๆ นักดาบสาวก็ชักดาบอย่างช้าๆ เปิดประตูปราสาทหลังโต ...
ผิดคลาด นึกว่าจะมีทาสผู้ชายจำนวนมาก กลับไม่เจอซักคน อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย ผู้หญิงหรือแวมไพร์ก็ไม่มีให้เห็นสักกะคน... ชักยังไงๆ แล้วแหะ
ไม่ทันได้คิดอะไร
แฮ่!!!
ผมสะดุ้ง แต่มายด์ไม่แสดงอาการซักนิด สมแล้วที่เป็นมืออาชีพ เธอร่ายคำพึมพัมๆ แล้วผายมือไปทางแวมไพร์สาวตนนั้น เธอก็ทรุดตัวลงฮวบ
เจ๋งแหะ
จากนั้นก็มีแวมไพร์สาวนับไม่ถ้วน พุ่งมาจากทุกสารทิศ ผมขี้เกียจคิดมากแล้ว เลยกะพลังเป็นวงกว้าง แล้ว:Xพลังสายฟ้ารัญจวณใส่แวมไพร์ทุกคนที่เข้ามา
อิย้าาา อ้าาาา ดังระงมเต็มไปหมด ทุกร่างล้วนชักกระตุก หน้าเหยเกด้วยความกระสัน
มายด์มองผมอย่างตะลึง แหมอย่ามองพี่อย่างงั้นสิจ๊ะ พี่เขิลลล์
"ยอดเยี่ยมๆ สามารถจัดการลูกสมุนของข้าในเวลาไม่นาน ว่าแต่นั่นมันพลังของวิหกสายฟ้านี่นา เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำเจ้ามีพลังนี้ได้อย่างไร" เสียงแหบแต่ทรงเสน่ห์ดังก้องทั่วปราสาท
.............................................................................งงง
ตอนนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับ ไม่ไหวแล้วว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสด์ครับ(หรือต้องอรุณหว่า) เอาเป็นว่า สวัสดีครับ