แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pongnarut เมื่อ 2014-3-11 09:56
The Assassin Moral 7
“พี่ชายค่ะ......เรามาเป็นหนึ่งเดียวกันเถอะค่ะ”
บาเทเรียมอนเตอร์ของตระ:Xลบบาโฟเมทที่แข็งแกร่งมากๆในเทพนิยายซึ่งสามารถชนะเทพโลกกิมาแล้วตอนนี้......กำลังจับตัว-ไม่สิเรียกว่ากดตัวผมเลยดีกว่าขนาดว่าผมพยายามขัดขืนแล้วนะแต่ทำไมยัยนี่มันแรงเยอะจังเลยฟะขยับแทบไม่ได้
“ไม่ต้องกังวลนะค่ะพี่ชายนับดาวบนท้องฟ้าแปปเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ”
เธอพูดออกมาด้วยเสียงโลลิอันไพเราะพร้อมเลือนมือไปยังกางเกงขาสั้นที่คล้ายๆกับกางเกงในของผู้หญิงที่นิยมใส่กันขณะที่เธอเลือนมือไปถอดกางเกงในนั้นผมกลับได้ยินเสียงกรงที่คล้ายๆกรงเหล็กกระทบกันพร้อมมีเสียงของผู้ชายที่ดูเสียงออกจะโรคจิตไปนิดหน่อยว่า
‘มามะ มาอยู่ที่ฮ่องกงด้วยกันเถอะ’
“ว๊ากกกกกกกกกกผมไม่ใช่สาวกโลลิแล้วไม่อยากไปเทียวฮ่องกงด้วยเพราะฉะนั้นปล่อยผมทีบาเทเรีย!!!!”
“แหมอย่าอายไปเลยค่ะพี่ชายหนูจะทำอย่างอ่อนโยนเองค่ะ”
รูปร่างจิ๋วแบบนี้ทำไมพูดเหมือนกับเจนศึกมาบ่อยจังฟระแบบนี้สินะที่เขาว่าจิ๋วแต่แจ๋วไม่ดิก่อนหน้านั้นปล่อยผมก่อนสิเฮ้ย
ผมพยายามออกแรงแขนจะขัดขืนเธอแต่เธอก็ใช้แรงที่เหนือกว่าจับกดผมไว้แบบนั้นขณะนั้นเธอใช้มือที่เหมือนอุ้งเท้าแมวเลือนลงไปยังกางเกงของผม
ท่าจะไม่ดีแล้วขืนเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงต้องเสียความบริสุทธ์ให้กับเด็กพร้อมไปเที่ยวฮ่องกงแน่ๆคิดสิคิดถึงคำพูดที่จะรอดจากสถานการณ์นี้
“เดี้ยว!!!! เดี้ยวก่อนบาเทเรีย!!!”
ผมส่งเสียงเรียกเธอออกไปแม้ว่าในหัวของผมจะนึกคำพูดดีๆไม่ออกปัดโธ่รู้แบบนี้เรียกวิชาแมงดาในการล่อลวงผู้หญิงในการทหารมาคงจะดีซะกว่าผมได้แต่สาปแช่งตัวเองแต่ทว่าก็บาเทเรียเธอหยุดมือทีเธอเลือนจะไปจับจุ๊กกรู๊ของผมตามความต้องการในใจลึก
“อะไรเหรอคะพี่ชาย?”
เธอถามกลับมาด้วยรอยยิ้มที่ใสซื่อสมกับที่เป็นเด็กผมอาจจะยิ้มตามเธอไปแล้วก็ได้นะ..........ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้อะนะ
“คือ.......แบบว่านะบาเทเรียเธอมาทำแบบนี้เดียวพ่อกับแม่เธอก็เสียใจหรอกเรื่องแบบนี้รอให้โตกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ? วัย10-12ปีแล้วมาทำเรื่องแบบนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับเธอเท่าไหร่หรอกนะ”
ผมพูดออกไปด้วยความหวังดีตามความเป็นจริง ใช่แล้วเด็กอายุแบบนี้ส่วนใหญ่น่ะกลัวพ่อกับแม่ตัวเองเสียใจเกือบทั้งนั้นเดียวเธอก็คงจะบอกว่านั่นสินะค่ะ แล้วก็เลิกทำอย่างแน่นอน
“คือว่า พี่ชายค่ะ”
มาแล้วสินะจะพูดว่าขอโทษที่ทำแบบนี้นะค่ะแล้วสินะ
“อืม คงคิดได้แล้วสินะ ไม่เป็นไรๆ”
ผมเอ่ยออกไปโดยไม่รอเธอพูดให้จบ
“หนูอายุ89ปีแล้วค่ะ”
…………………………………………………………………………………..หะ
“เอ่อ.....คือเมือกี้หูผมคงแว่วไปเองช่วยพูดใหม่อีกทีได้ไหม?”
“หนูอายุ89ปีแล้วนะคะพี่ชาย”
……………………………………………………………………จริงดิ?
“เพราะแบบนี้แล้วขอ-รับ-ประ-ทาน-ละ-นะ-คะ-พี่ชาย”
‘ไม่อนุญาตเฟ้ย!!!’
แม้จะคิดแบบนั้นแต่เธอก็จูบผมลงในทันที โอ้มายก็อด!!!!! จูบแรกของผม ลาโลกไปซะแล้วนี่ตรูเสียจูบแรกให้กับเด็กที่อายุ89ปีเหรอวะเนี้ย!!!
หลังจากที่เธอจูบไปได้ซักพักเธอค่อยๆเลือนมือที่หยุดค้างไว้ตรงท้องของผมไปยังตรงนั้นของผมอย่างช้าๆ
มันเริ่มจะไม่ตลกแล้วสิผมเบือนหน้าหนีริมฝีปากของเธอไปทางด้านข้างพร้อมตะโกนบอกคำพูดที่ผมเกลียดที่สุดว่า
“คะ คะ ความจริงแล้วผมเป็นผู้หญิง!!!!!”
เหตุที่ผมไม่อยากพูดแบบนี้เพราะศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันจะเลือนหายไปยังไงก็ไม่รู้บวกกับผมเกลียดใบหน้าที่เหมือนผู้หญิงของตัวเองผมเลยไม่ค่อยต้องการพูดคำๆนี้ผมพยายามฝึกฝนตัวเองให้เก่งแทบตายเพื่อที่จะไม่ให้ใครมาดูถูกหรือล้อเลียนผมที่บอกว่าหน้าเหมือนกับผู้หญิงแต่นี่ผมกลับต้องมาพูดเอาตัวรอดในสถานการณ์แบบนี้เนี้ยนะสมเพชตัวเองยังไงก็ไม่รู้
หลังจากที่ผมพูดไปบาเทเรียกลับโต้กลับคือมาว่า-
“งั้นเหรอค่ะพี่ชายแต่ว่าตรงที่หนูจับนี่เหมือนมันมีอะไรแข็งๆสักอย่างอยู่นะค่ะ”
หะอะไรแข็งๆอย่าบอกนะว่า ทันทีที่ผมคิดเธอก็บีบมันครั้งหนึ่ง
“อืออออออออออ~~~~!!!!”
“ว้าว~ พี่ชายครางออกมาได้น่าจังเลยค่ะ”
เธอพูดแล้วก็บีบอีกครั้งเมื่อเธอบีบอีกครั้งเธอก็ติดใจบีบไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวผมได้แต่ยกมือปิดปากป้องกันไม่ให้เสียงครางของผมดังออกไปแต่ก็ปิดไว้ไม่มิดจนทำให้บาเทเรียฟังแล้วบีบมากขึ้นไปอีกจน
“ดะ เดียวก่อน อึก! บาเทเรีย ยะหยุด อือ~!! ก่อน ตะ ตรงนั้น ขะ ของผมมันรู้สึกแปลกๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะชายปล่อยตามสบายเลยค่ะเดียวที่เหลือหนูจัดการเอง”
แม้ผมอยากพูดโต้ตอบออกไปแต่ว่าทำไม่ได้เลยตอนนี้สิ่งผมทำได้มีเพียงปิดปากไม่ให้เสียงครางดังออกไปก็แค่นั้นแต่ตอนนี้ผมพยายามขัดขืนอย่างสุดกำลังลังที่มีเพราะตรงนั้นของผมมันรู้สึกแปลกๆจนในที่สุดผมก็ต้องตัดสินใจสิ่งที่ผมไม่ค่อยอยากใช้ซักเท่าไหร่
“เอาละพี่ชาย ขอใส่เข้าไปเลยนะ---เอ๊ะพี่ชายหายไปไหนแล้ว”
ในกองทัพทหารบกโลกก่อนของผมนั้นทหารทุกคนจะต้องฉีดสารที่เรียกว่า’โนวาลตี้ เอนทรีเรีย’ซึ่งมันคือสารกระตุ้นชนิดหนึ่งที่ทางกองทัพคิดค้นขึ้นคนที่ฉีดสารนี้จะมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมาตามแต่ละคนซึ่งความสามารถที่ผมเพิ่มขึ้นมาก็คือ ‘การก้าวข้ามขีดจำกัดทุกอย่างของมนุษย์ในเวลาสั้นๆนั่นเอง’
ผมก็ภูมิใจอยู่ละนะที่ตัวเองมีความสามารถดีๆแบบนี้แต่มันกลับต้องมาใช้ในการหนีในสถานการณ์แบบนี้มันทำให้รู้สึกเสียของยังไงยังงั้นเลยอ่ะ
ตอนนี้ผมแอบอยู่หลังต้นไม้และแอบมองบาเทเรียในเปลือยท่อนบนที่พยายามส่งเสียงเรียกหาผมอย่างกระวนกระวาย
“ออกมาเถอะค่ะ ถ้าพี่ชายไม่ออกมาล่ะก็หนูจะหาพี่ชายแล้วจะเล่นจนพี่ชายหมดแรงนะค่ะ”
‘แล้วถ้าผมออกไปล่ะ’
“ถ้าพี่ชายออกมาหนูจะเซอรวิสพี่ชายด้วยกระบวนท่า108ที่แอบดูมาจากพ่อกับแม่เองค่ะ”
สรุปทางเลือกที่สามหนีเท่านั้นที่ครองโลกสินะ
“ถ้าพี่ชายคิดจะหนีละก็เลิกคิดจะดีกว่านะค่ะเพราะหนูจะตามหาพี่ชายแล้วชิงความบริสุทธิของพี่ชายมาเองค่ะ”
เธออ่านใจผมได้หรือไงกันวะครับแล้วสรุปไม่มีทางดีๆให้ผมเลือกเลยรึไงกันออกไปก็108ไม่ออกไปก็ฟ้าเหลืองหนีก็โดนตาม เจริญพรเถิดโยม ฮ่าฮ่าฮ่าอะไรวะเนี้ยผมพึมพำออกมาเบาๆส่งผลให้บาเทเรียหันมามองยังต้นไม้ที่ผมซ่อนตัวอยู่จึงทำให้ผมรีบยกมือปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็วแต่ก็คงไม่ทันแล้วสินะ
งานเข้าแล้วไหมล่ะลูน่าเอ๋ยหัวเราะเบาๆจนโดนเจอ ฮ่าฮ่า มันใช่เวลามาหัวเราะไหมวะตัวข้า!!
“อยู่ตรงนั้นสินะค่ะพี่ชาย~”
เธอพูดพร้อมเสยะยิ้มรอยยิ้มที่เธอส่งออกมานั้นมันเหมือนกับสิงโตที่เจอลูกกวางตัวน้อยๆที่ไร้ซึ่งทางหนีจากนั้นเธอก็ค่อยย่างเท้าเดินมาทางผมพร้อมกับเคียวที่อยู่ในมือของเธอ
ตัวผมที่แอบอยู่ทางหลังต้นไม้นั้นพยายามคิดถึงแผนการหนีจากการโดนเด็กอายุ89ชิงความบริสุทธิ์(--*) ผมเลือนมือไปหยิบของบางอย่างในเสื้อของตัวเองออกมาพร้อมดึงสลักสิ่งของส่งที่ผมนำออกมาแต่ก่อนที่ผมจะทำอะไรผมก็ได้ยินเสียงคำพูดๆหนึ่งจากทางด้านหลัง
“เจอตัวแล้วนะคะพี่ชาย”
ทันทีที่ผมได้ยินเสียงผมก็รีบหันไปทางด้านหลังก็เป็นไปตามคาดบาเทเรียเธออยู่ตรงหน้าของผมพร้อมกับส่งรอยยิ้มออกมาด้วยท่าทางซุกซนพริบตานั้นเองบาเทเรียก็ใช้สองมือของเธอกับแรงมหาศาลหมายจะจับกดตัวผมอีกครั้งแต่มีหรือที่ตัวผมจะยอม ความบริสุทธ์ที่ตัวผมอุสาหรักษามาตลอด14ปี ใครจะมายอมเสียให้กับยัยเด็กที่อายุมากกว่าเรากันล่ะ!!!
ขณะที่ผมกำลังถอยออกมาจากมือมารของบาเทเรียนั้นเองสิ่งที่ผมดึงสลักค้างไว้ก็ตกลงกระทบกับพื้น
ซูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!
เกิดประกายแสงสว่างพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่นขึ้นมาส่งผลให้บาเทเรียต้องยกมือขึ้นปิดตาตามสัญชาตญาณของตนเองส่วนตัวผมก็หลับตาแน่นพร้อมกับยกมือปิดหูของตัวเอง
เมื่อสิ้นเสียงแล้วแล้วผมก็ลืมตาของตัวเองพร้อมกับมองไปทางด้านหน้า
ดูเหมือนว่าการเดิมพันของผมจะไปได้ด้วยดีเมื่อภาพด้านหน้าคือสภาพของบาเทเรียที่พยายามจะยันตัวเองลุกขึ้นมาแต่ดูเหมือนจะลุกขึ้นมาไม่ได้เธอจึงเลิกพยายามพร้อมกับส่งสายตามาทางผมด้วยความส่งสัยก่อนจะถามคำถามมายังผมว่า
“มะเมื่อกร้นี้มันคืออะไรงั้นเหรอค่ะพี่ชายมันทำเอาหูของหนูอือไปหมดแถมร่างกายของหนูเหมือนโดนอะไรก็ไม่รู้สั่นไปมา”
“ก็นะมันเป็นหนึ่งในอาวุธของผมเองแต่ผมไม่ขอเปิดเผยก็แล้วกัน”
สิ่งของที่ผมใช้เมือกี้นี้คือระเบิดแสง[Flashbang] นั่นเอง ตอนที่ผมจะใช้ผมก็กังวลนิดหน่อยว่าจะใช้ได้ผลกับปีศาจหรือไม่ก็ปรากฏว่ามันใช้ได้ผลแฮะจริงๆการใช้ระยะประชิดแบบนี้ควรจะทำให้แก้วหูของเธอแตกหรือร้าวเพราะเสียงดังในระยะเผาขนแบบนี้แต่ดูท่าเธอจะไหวตัวทันนิดหน่อยประสาทการได้ยินของเธอเลยไม่เป็นศูนย์ซะทีเดียว
เอาละ เผ่นดีกว่าคิดได้ดังนั้นผมก็ลุกขึ้นจะเดินไปปลุกไอ้พวกทหารไร้ความนั่นซักหน่อยแต่เสียงของบาเทเรียก็เรียกผมเอาไว้ก่อน
“ไม่ว่าพี่ชายจะอยู่ที่ไหนหนูก็จะตามหาพี่ชายนะค่ะ ฮิฮิฮิ”
ช่างเป็นเสียงที่ยันได้ใจจริงๆ
“ถ้าหนูเจอพี่ชายที่ไหนล่ะก็หึหึหึ”
ปล่อยผมไปเถอะคร๊าบบบบบบบบบแม้อยากตอบโต้ไปแบบนั้นแต่ก็ไม่คิดจะเสียเวลาพูดอีกผมจึงเดินแล้วมองบาเทเรียที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าแล้วก็
จุ๊บ!
จูบที่แก้มของเธอเบาๆแล้วถอนริมฝีปากออกมาจากแก้มของเธอ
“ผมคงให้ได้แค่นี้ละนะ”
ผมพูดออกไปพร้อมยิ้มแก้เก้อจากนั้นก็รีบเผ่นออกมาทันที
................................
พริบตาที่ลูน่าวิ่งหนีออกไปจากสาวน้อยที่หมายจะชิงจิ้นของเขาเขาก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าใบหน้าของสาวน้อยในตอนนี้แดงจนเหมือนกับลูกแอปเปิลอาจจะเป็นเพราะชายในหน้าสาวก้มลงไปหอมแก้มเธอก็เป็นได้
“ขี้โกงจังเลยนะค่ะพี่ชาย”
สาวน้อยอมนุษย์กล่าวเสียงเบาในขณะที่ใบหน้าของเธอนั้นแย้มยิ้มออกมาอย่างน่าเอ็นดู
“มาทำกับหนูแบบนี้ มันทำให้หนูหลงรักมากขึ้นกว่าเดิมนะค่ะ”
เผ่าบาโฟเมทในโลกนี้นั้นลักษณะนิสัยของเธอส่วนใหญ่ก็คือจะยอมรับคนที่เก่งกว่าเธอแม้ว่าลูน่าจะไม่ค่อยเก่งในการต่อสู้แต่เขาก็มีไหวพริบกับเลห์ต่างๆไล่ต้อนจนเธอเป็นฝ่ายแพ้ได้แม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้พลังอะไรเลยก็ตามแต่แพ้ก็คือแพ้ส่งผลให้หนูน้อยอมนุษย์ในตอนนี้จินตนาการถึงภาพที่ตนเองจะถูกเขากอดอย่างอ่อนโยน
“แล้วสักวันเราจะได้เจอกันอีกนะค่ะพี่ชาย”
ว่าจบเธอก็สลายหายไปในความมืดทิ้งไว้แค่เสียงสายลมในยามค่ำคืน
............................................
“เฮ้ยตื่นได้แล้วเว้ยไอ้อัศวินไม่ได้ความ”
ภายในป่าในยามค่ำคืนนั้นปรากฏภาพของลูน่ากำลังปลุกทหารที่มาสำรวจป่าด้วยกันกับเขาแม้ว่าลูน่าจะตบแก้มไปมากแล้วก็ยังไม่มีวี่แววที่จะตื่นเลย
‘โอ้ยเนี้ยเหรอทหารที่คัดเลือกมาลาดตะเวน ทำไมฝีไม้ลายมือห่วยแตกจังฟระ’
ลูน่าได้แต่บ่นในใจขณะที่เริ่มเหนื่อยกับการปลุกพวกทหารที่หลับอยู่แม้ว่าจะลงมือมากขนาดไหนแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะตื่นเลยซักที แม้จะสั่นตัวก็แล้วตบแก้มก็แล้วจะจับแก้ผ้าก็แล้วยังไม่มีวี่แววตื่นอีกช่างนอนได้กินบ้านกินเมืองจริงๆ
แม้ลูน่าจะบ่นสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่หยุดมือเพราะว่าถ้าเจ้าพวกนี้สลบอยู่เขาก็ไม่สามารถกลับไปหาสการ์เล็ตได้เหตุที่กลับไปหาไม่ได้เพราะเขาไม่มีคนนำทางนั่นเองเมื่อเห็นว่าปลุกยังไงก็ตื่นก็ส่งผลให้ชายหนุ่มเริ่มเหนื่อยกับการปลุกแล้วหยุดมือเลือนมือไปยังหน้าอกของคนที่สลบอยู่
หมับ!!!
“หมับ?”
เสียงปริศนาดังขึ้นมาจากมือของลูน่าจนทำให้ลูน่าต้องออกเสียงพูดตามแม้ว่าเสียงนี้จะเป็นเสียงที่เขาเคยได้ยินมาจากหนังAVที่พวกลูกน้องในหน่วยของตนแอบดูกันในค่ายทหารก่อนออกรบโดยอ้างว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ดูของแบบนี้มาดูกันให้สนุกกันเลยดีกว่าส่งผลให้ลูน่าเงิบไปไม่เป็นเลยทีเดียว
หนุบ หนับหนุบ หนับ
แม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่าเสียงนี่ดังมาจากมือของเขาเขาก็ยังไม่หยุดมือโดยอ้างเหตุผลในสมองว่าตรวจสอบสภาพร่างกาย?พลางคิดว่านุ่มอย่างกับมาชเมโล่แล้วบีบมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้คนที่โดนจับนั้นส่งเสียง“อืออ” ออกมาเบาๆ จนในที่สุดเธอก็ลืมตา
“อะ ตื่นแล้วเหรอ”
หนุบ หนับหนุบ หนับ หนุบ หนับ
เมื่อเห็นว่าบุคคลที่เขาพยายามปลุกยังไงก็ไม่ตื่นลืมตาตื่นขึ้นมาเขาก็ส่งเสียงทักออกมาโดยที่ยังไม่ปล่อยมือออกจากหน้าอกของเธอแถมยังขย้ำมากขึ้นไปอีกต่างหากส่วนเจ้าของหน้าอกก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆด้วยสายจาง่วงเงียของคนที่พึ่งจะตื่น จากนั้นก็ก้มมองที่หน้าอกของตัวเองที่โดนล่วงเกินแล้วจึงเงยหน้ามองใบหน้าของชายที่จับหน้าอกของเธอ
“เป็นอะไรไปสมองกระทบกระเทือนจนทำให้ประสาทการรับรู้ทำงานช้ากว่าปกติเหรอ?”
ดูท่าทางเจ้าตัวจะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็น’ผู้หญิง’จึงเอ่ยถามออกมาในขณะที่มือยังอยู่ที่เดิมส่งผลให้สาวเจ้าที่อยู่ด้านหน้าใบหน้าขึ้นสีไปจนถึงใบหู
“กะ”
“กะ?”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~~~~~~!!!!”
“เอ๊ะเดี้ยวไหงจู่ถึงได้ร้องเสียงหลงขึ้นมาละเนี้ย?”
ดูท่าทางตัวการจะยังไม่รู้ตัวเองว่าทำอะไรผิดจึงได้แต่งงกับสถานการณ์แบบนี้ส่วนผู้ที่ถูกกระทำก็ปัดมือลูน่าอย่างแรงแล้วถีบไสส่งลูน่าแต่มีรึที่ตัวเขานั้นจะยอมเขาเพียงแค่เอนตัวหลบไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะจับขาที่เธอถีบออกมานั้นโยกขึ้น
เคว๊กก
พริบตาที่ลูน่าจับขาของผู้ที่โจมตีมานั้นก็เกิดเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาส่งผลให้ลูน่าต้องมองไปทางต้นเสียงที่เกิดขึ้นตรงหว่างขาของเธออย่างเลี่ยงไม่ได้สิ่งแรกที่เขามาให้ด้วงตาของลูน่านั้นคือเนื้อผ้าที่บางสีดำมีลูกไม้ประดับอยู่เล็กน้อยส่งผลให้เด็กหนุ่มต้องพึมพำออกมาว่า”สีดำลายลูกไม้”
ทันทีที่ลูน่าพูดออกมาส่งผลให้เธอต้องเบิกตากว้างกับมุมที่ลูน่าเห็นจึงรีบกลับตัวแต่ท่าทางสิ่งที่เธอทำนั้นมันคงจะผิดเพราะขณะที่เธอกลับตัวนั้นมันทำให้กางเกงสีดำของเธอต้องขาดไปจนเหลือแต่ช่วงขาเท่านั้นที่ยังคงมีอยู่ส่งผลให้ตอนนี้จะเรียกว่าเธอเปลือท่อนล่างอยู่ก็ว่าได้แต่เธอก็ยังคงไม่รู้ตัวตั้งท่าตั่งท่าจับดาบหมายจะฟันลูน่า แต่ขณะนั้นตาของเธอก็จับจ้องไปทางมือของเจ้าตัวการ
ส่วนตัวการน่ะเหรอได้แต่มองกางเกงที่ตัวเองจับขาดไว้ได้สายตาเหมือนคนสงสัยแล้วจ้องมองผู้หญิงคนด้านหน้า
“จะขยับทำไมเห็นไหมกางเกงของนายขาดหมดแล้ว”
พริบตาที่ลูน่าเอ่ยออกมาก็ส่งผลให้เธอล้มตัวลงนั่งในทันทีจากนั้นก็ใช้มือปิดตรงส่วนล่างของเธอไว้ไม่ให้ลูน่าเห็นอย่างเอาเป็นเอาตาย
เมื่อลูน่าเห็นเธอนั่งลงกับพื้นก็คลายความระแวงลงแล้วมองไปยังคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าที่เขายังไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงเธอมีผมยาวสีดำมัดเก็บเป็นทางม้ายาวไปถึงช่วงกลางหลัง ดวงตาสีม่วงที่คล้ายอัญมณีผิวขาวที่นวลไร้ตำหนิส่งผลให้ลูน่าต้องมองไปยังท่อนล่างที่เธอพยายามปิดไว้จนลูน่าเห็น....
“นี่นาย.................เป็นผู้หญิงงั้นเหรอ?”
พริบตาที่ลูน่าพูดออกมาก็ส่งผลให้สาวน้อยข้างหน้าร้องโฮขึ้นเลยทันที
The Assassin Moral 7