รู้ทั้งรู้ว่าสู้ไม่ไหว แต่ภายในใจก็ยังแอบหวัง เขาชนะชนะขาดลอยอย่างนั้น นิยายของฉันไม่มีความหมาย
รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีคนอ่านยังจะหน้าด้านแต่งต่อ
รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีคนอ่านยังจะหน้าด้านแต่งต่อ
Chapter 2 :Village
ระหว่างทางไปหมู่บ้านคุณลุงพ่อค้าก็เริ่มแนะนำตัวกับพวกเรา
“ลุงชื่อเฮ็นรี่พวกเจ้าชื่ออะไรกันเหรอเจ้าหนู”
“ผมชื่อฟุกครับ”
“ผมบอยครับ”
“ผมชื่อเกมส์ครับส่วนเจ้านี่ชื่อชาญ”
“พวกเจ้ามาจากไหนกันเหรอ?”
“ผมมาจากประเทศไทยครับ”
“ไทย ชื่อแปลกจริงๆแล้วมันอยู่ส่วนไหนของโลกล่ะ?”
“ลุงพอจะมีแผนที่โลกรึเปล่า”ผมถามแผนที่เพื่ออย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่าเราอยู่ไหน
“มีสิอยู่ในกล่องด้านหลังนั่นไง”
ผมเปิดกล่องแล้วนำแผนที่ออกมาดูมันทำให้พวกเราถึงกับตาค้างเพราะสิ่งที่เห็นเพราะว่าแผนที่นั้นมันไม่เหมือนกับแผนที่ไหนๆที่ผมเคยเห็นมาในชีวิตมันไม่มีส่วนไหนไม่มีทวีปไหนที่ผมรู้จักเลยผมจึงหันไปถามลุงเฮ็นรี่
“ลุง!!นี้มันแผนที่โลกจริงๆเหรอ !?”
“ของแท้ แน่นอนเป็นแผนที่ที่อณาจักรเท็มเรียวใช้มานานแล้วคือมันค่อนข้างจะตกยุคไปหน่อยนะ”
ถึงจะไม่แน่ใจแต่นี่ก็ทำให้พวกเราคิดตรงกันได้อย่างหนึ่งคือเราไม่ได้อยู่บนโลกที่เรารู้จักอีกแล้ว
หลังจากที่นั่งเกวียนมาประมาณชั่วโมงกว่าๆเราก็มาถึงหมู่บ้านที่ชื่อว่าริเวีย ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างใหญ่ที่เดียว มีทั้งโรงแรม โบสถ์ ร้านเหล้าร้านขายอาวุธ ยังกับอยู่ในเกมส์ RPG
ลุงเฮ็นรี่ได้พาเรามาส่งที่หน้าโรงแรม
“เอาล่ะ ถึงแล้ว”ลุงเฮ็นรี่หันมาบอกพวกเรา
“ที่นี่คือ?”ผมถาม
“ก็โรงแรมไง”
“แต่พวกเราไม่มีเงินนะครับ”
“งั้นเอานี่ไปถุงนั้นมีอยู่20สินเหรียญทองสิอย่างน้อยก็พอให้อยู่ได้สักสองสามวันล่ะนะ”ลุงเฮ็นรี่ยืนถุงเงินจำนวนหนึ่งมาให้กับพวกเรา
“แต่ลุงครับ...”
“เออน่า...เอาไปเถอะ”
“เปล่าครับ...คือมันยังขาดอีกสามเหรียญ”
“เอ๊ะ!!เจ้านี่กวนตีนเนอะ”
“ฮ่าๆ ผมล้อเล่นน่ะครับขอบคุณมากน่ะครับแล้วนี่ลุงจะไปไหนต่อครับเนี่ย”
“ก็ว่าขายของเสร็จก็จะขึ้นเหนือนะ”
“งั้นก็ลาก่อนนะครับ”ผมบอกลา
“อืม...ขอเทพอาคาทอชคุมครอง”ลุงบอกลาจากนั้นก็ขี่เกวียนออกไป
หลังจากที่เช่าห้องที่โรงแรมเสร็จแล้วพวกเราก็เริ่มประชุมปรึกษากันเรื่องต่างๆ
“ที่นี่มันอะไรกัน”บอยเริ่มเปิดประเด็น
“ก็โรงแรมไง”เกมส์กวนตีนขึ้นมา
“ที่ชั้นหมายถึงก็คือที่นี่มันไม่ใช่โลกของเราใช่มั้ยพวกแกก็เห็นแผ่นที่แล้วนี่นั้นไม่ใช่แค่แผ่นที่ตกยุคแต่ว่ามันไม่ใช่แผ่นที่โลกเราด้วยซ้ำ”
“ชั้นว่าแกอย่ามัวแต่คิดเรื่องที่ยังหาคำตอบไม่ได้ดีกว่าตอนนี่ชั้นว่าเราควรจะหาทางเอาตัวรอดในโลกนี้ก่อนดีกว่า”ผมเตือนบอย
“แล้วแกจะทำยังไงละ”บอยถามด้วยน้ำเสียงแดกดัน
“ถ้าเราอยู่ในโลกRPGเราก็ทำเหมือนมันเป็นเกมส์RPGสิ”
“แต่นี่มันความจริงนะโว้ย ไม่ใช่เกมส์เราตายได้แค่ครั้งเดียว”บอยท้วงขึ้นมา
“อย่าดูถูกคนที่เล่นFinal Fantasy 1ระดับเซียนอย่างชั้นสิ”ผมประกาศศักดาให้บอยฟัง
“เออ...ก็ได้จะทำอะไรก็ทำ”บอยตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
“เอาล่ะ ตอนนี้เรามีอาวุธ ยาที่พักแต่สิ่งที่เรายังขาดคืองานยังไงละเราจะต้องหางานหาเงินแล้วมันจะทำให้เราเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น”
“แล้วเราจะหางานจากไหนล่ะ”เกมส์ถามขึ้นมา
“เดี๋ยวชั้นขะไปดูที่ร้านเหล้าว่ามีประดานจ้างงานอะไรรึเปล่า”
หลังจากที่ประชุมเสร็จผมกับบอยก็เดินไปที่ร้านเหล้าพอเข้าไปด้านในมันก็เป็นไปตามที่ผมคิด
ในร้านนั้นมีกระดานจ้างงานอยู่แล้วก็มีทหารรับจ้างกลุ่มนึงกำลังดูใบประกาศอยู่พอผมกับบอยเดินเข้าไปพวกเข้าก็ได้ทักมา
“นี่!! เจ้าสองคนนะมานี่หน่อย”
ผมกับบอยจึงเดินเข้าไปดู
“เจ้าสองคนหน่วยก้านใช่ได้นี่ถึงจะแต่งตัวแปลกๆแต่ก็ช่างเถอะสนใจจะมาทำงานด้วยกันไหม”
“งานอะไรเหรอ”ผมถาม
“ล่าแมนทิส”ทหารคนนึงยื่นใบประกาศมาให้ใบประกาศนั้นเขียนแค่ว่ามีแมนทิสมาป่วน
เปี้ยนอยู่ในป่าทางตะวันออกพร้อมบอกค่าหัวมา200G ไม่มีรูป ฮ่ะๆมันจะไปมีได้ไง
“ทำไมพวกคุณถึงอยากให้เราช่วยละดูพวกคุณก็น่าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง”บอยถามขึ้นมา
“พวกนี้นะว่องไวมากลำพังพวกเรา5คนอาจไม่ไหวเลยต้องการคนเพื่อต้อนแล้วก็ล้อม”
ผมกับบอยจึงหันมาคุยกัน
“ไง แกจะเอายังละ”ผมถามบอย
“ชั้นรู้ว่ายังไงแกก็ต้องไปอยู่ดีดูแกตื่นเต้นจนตัวสั่นเลยนี่แต่ยังไงก็เถอะชั้นยังไม่ไว้ใจเจ้าพวกนี้หรอกพวกมันอาจจะหักหลังเราก็ได้ดูหน้าตาแต่ละคนยังกะโจร”
“เอาน่าทหารรับจ้างมันจะไปมีหน้าตาเหมือนพระเอกเกาหลีได้ยังไงแล้วอีกอย่างถ้าพวกมันหักหลังเราเราก็แค่ยิงมันทิ้งกลางป่าก็จบเกราะกากๆแบบนั้นกันกระสุนไรเฟิลไม่ได้หรอก”
หลังจากที่คุยเสร็จผมก็บอกพวกทหารนั้นว่าเราตกลงและกลับไปตามชาญกับเกมส์ที่โรงแรม
พอมากันครบแล้วพวกเราจึงออกล่าแมนทิสกัน
Chapter2 : END
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DarkSlayer เมื่อ 2012-7-7 21:58
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DarkSlayer เมื่อ 2012-7-13 22:32
[Gray Wolf Legend] Chapter-2