วันที่ 10 เดือน ฟามาโก ปีโรเวเรียสที่ 15
หลังจากตอนนั้นเวลาก็ผ่านไปได้ 1 วันตั้งแต่วันที่พวกเราโดนพายุเล่นงานพอวันรุ่งขึ้นพายุก็สบงลงท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้งราวกับว่าพายุที่พามาเป็นความฝันยังไงอย่างนั้น กัปตันบอกว่าอาจเป็นเพราะ วารูน่า ( ชื่อของซีบิชอปที่ผมตั้งให้ ) มาอยู่บนเรือพายุก็เลยสงบลงก็ได้ ดูแกจะไม่รังเกียจมอนสเตอร์แบบ วารูน่าเลย ถ้าออกจะเป็นมิตรด้วยซ้ำ พอคุยกับแก ก็รู้ว่ามาลูกชายแกมีภรรยาเป็นเมอร์โรวและอาศัยอยู่ในท้องทะเลนี้แหละ จะกลับมาหาแกเดือนละครั้งแถมพาหลานสาวที่น่ารักมาด้วยเวลาแกพูดคุยดูมีความสุขมาก ทำให้พวกเรามีความสุขไปด้วย วารูน่ามักจะชอบว่ายมาอยู่ใกล้ๆ ผมเสมอ ไม่ผิดหรอกว่าย ว่ายกลางอากาศเลยด้วยกำไลอะไรซักอย่างที่ได้จากกองสมบัติของดาโกน่า นั้นแหละ เทียร์บอกว่าเป็นกำไลโบราณที่นักเล่นแร่คนขึ้นมาเพื่อมอบให้ภรรยาแกที่เป็นเงือกให้แหวกว่ายในอากาศได้ วารูน่าเป็นมิตรกับทุกคนและใจดีมากด้วย แต่ว่าเมือคืนนั้นเล่นซะผมเกือบสลบเลย พวกลูกเรือก็เหมือนจะเป็นมิตรกับเธอด้วยไม่มีใครคิดจะขอเลือดจากเธออีก หึ ก็ลองมาขอซิผมจะเอาทำให้ผมเห็นนรกเลย คนของผมใครอย่าแตะผมหวง ตอนนี้ผมได้รู้อาการผิดปกติของผมแล้ว สาเหตุที่พลังวิญญาณผมสูงขึ้นและพลังเวทมนต์ที่มากขึ้นมาจากว่า ผมกำลังจะกลายเป็นอิกคิวบัส ทำเอาผมอึ่งไม่น้อย แต่เธอก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะเธอพบพลังปีศาจในร่างผมนิดเดียวเท่านั้น คืนนี้ผมได้รับคำถามแปลกๆ จาก วารูน่า เธอถามผมว่า หลังจากที่ผมเดินทางจนจบผมจะทำอะไรต่อ นั้นทำให้ผมได้คิดเพราะผมไม่ได้ทันวางแผนเอาไว้เหมือน แต่ผมก็ตอบไปว่าจะที่อยู่ปักหลักแหล่งและแต่งงานกับพวกเธอ ทำให้พวกริสถึงกับตกใจไม่น้อยเลย ผมเลยบอกไปว่า ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะกลับหมู่บ้าน แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว และผมก็ทอดทิ้งพวกเธอไม่ได้ด้วยเพราะ ผมรักพวกเธอทุกคน ทำให้พวกเธอซาบซึ้งมาก ในวันพรุ่งนี้ก็จะเข้าเขตเกาะแล้ว กัปตันบอกว่าให้พวกเราระวังตัวเพราะพรุ่งอาจโดนไซเรนโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้ พวกเราจึงรับปากว่าจะระวัง ก่อนที่พวกเราจะเข้านอนกัน
หลังจากตอนนั้นเวลาก็ผ่านไปได้ 1 วันตั้งแต่วันที่พวกเราโดนพายุเล่นงานพอวันรุ่งขึ้นพายุก็สบงลงท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้งราวกับว่าพายุที่พามาเป็นความฝันยังไงอย่างนั้น กัปตันบอกว่าอาจเป็นเพราะ วารูน่า ( ชื่อของซีบิชอปที่ผมตั้งให้ ) มาอยู่บนเรือพายุก็เลยสงบลงก็ได้ ดูแกจะไม่รังเกียจมอนสเตอร์แบบ วารูน่าเลย ถ้าออกจะเป็นมิตรด้วยซ้ำ พอคุยกับแก ก็รู้ว่ามาลูกชายแกมีภรรยาเป็นเมอร์โรวและอาศัยอยู่ในท้องทะเลนี้แหละ จะกลับมาหาแกเดือนละครั้งแถมพาหลานสาวที่น่ารักมาด้วยเวลาแกพูดคุยดูมีความสุขมาก ทำให้พวกเรามีความสุขไปด้วย วารูน่ามักจะชอบว่ายมาอยู่ใกล้ๆ ผมเสมอ ไม่ผิดหรอกว่าย ว่ายกลางอากาศเลยด้วยกำไลอะไรซักอย่างที่ได้จากกองสมบัติของดาโกน่า นั้นแหละ เทียร์บอกว่าเป็นกำไลโบราณที่นักเล่นแร่คนขึ้นมาเพื่อมอบให้ภรรยาแกที่เป็นเงือกให้แหวกว่ายในอากาศได้ วารูน่าเป็นมิตรกับทุกคนและใจดีมากด้วย แต่ว่าเมือคืนนั้นเล่นซะผมเกือบสลบเลย พวกลูกเรือก็เหมือนจะเป็นมิตรกับเธอด้วยไม่มีใครคิดจะขอเลือดจากเธออีก หึ ก็ลองมาขอซิผมจะเอาทำให้ผมเห็นนรกเลย คนของผมใครอย่าแตะผมหวง ตอนนี้ผมได้รู้อาการผิดปกติของผมแล้ว สาเหตุที่พลังวิญญาณผมสูงขึ้นและพลังเวทมนต์ที่มากขึ้นมาจากว่า ผมกำลังจะกลายเป็นอิกคิวบัส ทำเอาผมอึ่งไม่น้อย แต่เธอก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะเธอพบพลังปีศาจในร่างผมนิดเดียวเท่านั้น คืนนี้ผมได้รับคำถามแปลกๆ จาก วารูน่า เธอถามผมว่า หลังจากที่ผมเดินทางจนจบผมจะทำอะไรต่อ นั้นทำให้ผมได้คิดเพราะผมไม่ได้ทันวางแผนเอาไว้เหมือน แต่ผมก็ตอบไปว่าจะที่อยู่ปักหลักแหล่งและแต่งงานกับพวกเธอ ทำให้พวกริสถึงกับตกใจไม่น้อยเลย ผมเลยบอกไปว่า ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะกลับหมู่บ้าน แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว และผมก็ทอดทิ้งพวกเธอไม่ได้ด้วยเพราะ ผมรักพวกเธอทุกคน ทำให้พวกเธอซาบซึ้งมาก ในวันพรุ่งนี้ก็จะเข้าเขตเกาะแล้ว กัปตันบอกว่าให้พวกเราระวังตัวเพราะพรุ่งอาจโดนไซเรนโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้ พวกเราจึงรับปากว่าจะระวัง ก่อนที่พวกเราจะเข้านอนกัน
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 26