วันที่ 12 เดือน ฟามาโก ปีโรเวเรียสที่ 15
พวกเราออกเดินทางแต่เช้า รู้สึกเพลียๆ อยู่นิดหน่อย แต่เพราะผมเริ่มจะกลายเป็นอิกคิวบิสเลยพอจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าไหว พวกเดินเดินทางออกจากเมืองตรงไปยังที่ราบใกล้ๆ เกาะนี้มีขนาดใหญ่ขอสมควร ริสบอกกับผมว่าถ้าข้ามที่ราบนี้จะถึงป่าในเวลาสองวัน แล้วข้ามป่าอีกหนึ่งวันก็จะถึงเขาลมหวนที่อยู่ของซิลฟ์แห่งลม ริสบอกว่าซิลฟ์เป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เท่าไหร่และอยู่ไม่ค่อยอยู่ติดที่ด้วยถ้าจะหาเธอให้เจอก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนเหมือนกัน ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินทางอยู่พวกเราได้ยินเสียงบ้างอย่างทำให้พวกเราถึงกับชะงัก ริสบอกว่ามันเป็นเสียงร้องของหญิงสาว ผมถามวูฟเฟร่าว่ารู้ตำแหน่งไหม เธอก็บอกว่ารู้และนำทางให้พวกเราไป พอผมไปถึงก็ถึงกับชะงัก พวกเราพบไซเรน กำลังนอนบาดเจ็บอยู่ ที่ปีกของเธอมีธนูปักอยู่แถมตามตัวก็มีบาดแผลเต็มไปหมด ใบหน้าของเธอดูหวาดกลัวมาก ที่ข้างหลังของเธอคือร่างของคนจำนวนหนึ่ง ชายสาม หญิงหนึ่ง ในมือของผู้ชายคนหนึ่งถึงธนูเอาไว้ด้วย แสดงว่าพวกมันต้องทำร้ายไซเรนอย่างแน่นอน จากที่ได้ฟังมาทำให้พวกเรารู้ว่าพวกมันเป็น นักล่ามอนสเตอร์และที่มาตามล่าไซเรนก็เพื่อจะจับไปให้เป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเศรษฐีในเมืองหลวง บ้าชะมัดจะให้มอนสเตอร์ไปเป็นสัตว์เลี้ยงเนี้ยนะ สมองมันทำด้วยอะไรกัน พอเห็นพวกมันกำลังเตะถีบร่างของไซเรนแล้วพวกเรากับฉุนขาดเลย เราเลยเข้าไปขวาง เจ้าพวกนั้นก็บอกผมว่าอย่ามาขวางการทำธุรกิจของมัน ทำธุรกิจจากชีวิตของมอนสเตอร์นี้นะ น่าขำชะมัด ดูเหมือนเจ้าพวกนี้จะถูกใจพวกริสบอกว่า ให้ผมขายพวกเธอให้ผม แค่นั้นผมก็ฉุนขาดฟันมันหัวหลุดไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่พวกมันจะได้รู้ตัวด้วยซ้ำ ก็ดันมาพูดกับคนของผมดีนักนี้ ผมบอกให้พวกริสช่วยไซเรน ส่วนผมจะจัดการกับเจ้าพวกนี้เอง เจ้าพวกนี้เป็นมืออาชีพจริงๆ ชายร่างยักษ์เป็นมือขวานโจมตีระยะใกล้ ชายร่างผอมที่ใช้ธนูโจมตีระยะไกล ผู้หญิงใช้มืดโจมตีก่อกวน แต่ว่าฝืมือยังอ่อนอีกเยอะผมเลยจัดการได้อย่างสบายๆ ที่ผมไม่ให้พวกริสสู้ก็เพราะผมไม่อยากให้พวกเธอต้องมาเปื้อนเลือดของตัวมัน ผู้ชายสองคนถูกผมปลิดชีพได้อย่างง่ายดาย ส่วนผู้หญิงไม่ได้ฆ่าทิ้งแต่ขอให้ดาโกน่าจับเหวี่ยงให้ตกทะเล ให้เธอกลายเป็นเนรีดไปซะให้ใช้ชีวิตเป็นมอนสเตอร์ไปนั้นแหละดีแล้ว หลังจากที่ผมจัดการพวกมันจะเสร็จ ก็กลับไปหาพวกริส วารูน่า บอกว่าเธอรักษาให้ไซเรนจนพ้นขีดอันตรายแล้ว ที่เหลือก็แค่รอให้เธอฟื้นขึ้นมา พวกเราตกลงกันว่าจะรอให้ไซเรนฟื้นก่อน หลังจากรอไม่นานไซเรนก็ฟื้นขึ้นมา และดูตกใจมากที่เห็นพวกริส วารูน่าบอกว่าเธอปลอดภัยแล้ว หลังจากที่ได้พูดคุยกันถึงได้รู้ว่าเธอกำลังบินเล่นอยู่บนฟ้าก็โดนพวกนักล่ามอนสเตอร์เข้าทำร้ายจนบาดเจ็บและมาสลบอยู่ที่นี้ เธอขอบคุณพวกริสที่ช่วยเธอเอาไว้ แต่วารูน่าบอกว่าให้มาขอบคุณผมที่จัดการพวกมันให้เธอ ไซเรนเห็นหน้าผมก็ยิ้มออกมาอย่างน่ารักกล่าวขอบคุณผมก่อนบินจากไป ผมโดนริสแซวว่าไม่คิดจะให้ไซเรนมาร่วมวงด้วยเหรอ ให้ตายเถอะช่วยคิดถึงร่างกายผมหน่อยได้ไหม ถึงผมเริ่มจะกลายเป็นอิกคิวบัสไปนิดหน่อยแล้วก็เถอะ ผมหันไปมองไซเรนแล้วยิ้มออกมาบางๆ เอ่ยออกมาเบาๆ ถึงผมจะเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลงของเธอก็เถอะ แต่ผมว่าปล่อยให้เธอบินอย่างอิสระแบบนี้ดีกว่า พวกริสมองกันแล้วยิ้มออกมาบางๆ ก็ที่วารูน่าจะบอกกับผมว่า ไม่ต้องเสียดายไปว่างๆ พวกเธอจะร้องเพลงให้ผมฟังเอง
เพลงของพวกริสงั้นเหรอ อยากรอฟังดูยังเลยนะ
พวกเราออกเดินทางแต่เช้า รู้สึกเพลียๆ อยู่นิดหน่อย แต่เพราะผมเริ่มจะกลายเป็นอิกคิวบิสเลยพอจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าไหว พวกเดินเดินทางออกจากเมืองตรงไปยังที่ราบใกล้ๆ เกาะนี้มีขนาดใหญ่ขอสมควร ริสบอกกับผมว่าถ้าข้ามที่ราบนี้จะถึงป่าในเวลาสองวัน แล้วข้ามป่าอีกหนึ่งวันก็จะถึงเขาลมหวนที่อยู่ของซิลฟ์แห่งลม ริสบอกว่าซิลฟ์เป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เท่าไหร่และอยู่ไม่ค่อยอยู่ติดที่ด้วยถ้าจะหาเธอให้เจอก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนเหมือนกัน ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินทางอยู่พวกเราได้ยินเสียงบ้างอย่างทำให้พวกเราถึงกับชะงัก ริสบอกว่ามันเป็นเสียงร้องของหญิงสาว ผมถามวูฟเฟร่าว่ารู้ตำแหน่งไหม เธอก็บอกว่ารู้และนำทางให้พวกเราไป พอผมไปถึงก็ถึงกับชะงัก พวกเราพบไซเรน กำลังนอนบาดเจ็บอยู่ ที่ปีกของเธอมีธนูปักอยู่แถมตามตัวก็มีบาดแผลเต็มไปหมด ใบหน้าของเธอดูหวาดกลัวมาก ที่ข้างหลังของเธอคือร่างของคนจำนวนหนึ่ง ชายสาม หญิงหนึ่ง ในมือของผู้ชายคนหนึ่งถึงธนูเอาไว้ด้วย แสดงว่าพวกมันต้องทำร้ายไซเรนอย่างแน่นอน จากที่ได้ฟังมาทำให้พวกเรารู้ว่าพวกมันเป็น นักล่ามอนสเตอร์และที่มาตามล่าไซเรนก็เพื่อจะจับไปให้เป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเศรษฐีในเมืองหลวง บ้าชะมัดจะให้มอนสเตอร์ไปเป็นสัตว์เลี้ยงเนี้ยนะ สมองมันทำด้วยอะไรกัน พอเห็นพวกมันกำลังเตะถีบร่างของไซเรนแล้วพวกเรากับฉุนขาดเลย เราเลยเข้าไปขวาง เจ้าพวกนั้นก็บอกผมว่าอย่ามาขวางการทำธุรกิจของมัน ทำธุรกิจจากชีวิตของมอนสเตอร์นี้นะ น่าขำชะมัด ดูเหมือนเจ้าพวกนี้จะถูกใจพวกริสบอกว่า ให้ผมขายพวกเธอให้ผม แค่นั้นผมก็ฉุนขาดฟันมันหัวหลุดไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่พวกมันจะได้รู้ตัวด้วยซ้ำ ก็ดันมาพูดกับคนของผมดีนักนี้ ผมบอกให้พวกริสช่วยไซเรน ส่วนผมจะจัดการกับเจ้าพวกนี้เอง เจ้าพวกนี้เป็นมืออาชีพจริงๆ ชายร่างยักษ์เป็นมือขวานโจมตีระยะใกล้ ชายร่างผอมที่ใช้ธนูโจมตีระยะไกล ผู้หญิงใช้มืดโจมตีก่อกวน แต่ว่าฝืมือยังอ่อนอีกเยอะผมเลยจัดการได้อย่างสบายๆ ที่ผมไม่ให้พวกริสสู้ก็เพราะผมไม่อยากให้พวกเธอต้องมาเปื้อนเลือดของตัวมัน ผู้ชายสองคนถูกผมปลิดชีพได้อย่างง่ายดาย ส่วนผู้หญิงไม่ได้ฆ่าทิ้งแต่ขอให้ดาโกน่าจับเหวี่ยงให้ตกทะเล ให้เธอกลายเป็นเนรีดไปซะให้ใช้ชีวิตเป็นมอนสเตอร์ไปนั้นแหละดีแล้ว หลังจากที่ผมจัดการพวกมันจะเสร็จ ก็กลับไปหาพวกริส วารูน่า บอกว่าเธอรักษาให้ไซเรนจนพ้นขีดอันตรายแล้ว ที่เหลือก็แค่รอให้เธอฟื้นขึ้นมา พวกเราตกลงกันว่าจะรอให้ไซเรนฟื้นก่อน หลังจากรอไม่นานไซเรนก็ฟื้นขึ้นมา และดูตกใจมากที่เห็นพวกริส วารูน่าบอกว่าเธอปลอดภัยแล้ว หลังจากที่ได้พูดคุยกันถึงได้รู้ว่าเธอกำลังบินเล่นอยู่บนฟ้าก็โดนพวกนักล่ามอนสเตอร์เข้าทำร้ายจนบาดเจ็บและมาสลบอยู่ที่นี้ เธอขอบคุณพวกริสที่ช่วยเธอเอาไว้ แต่วารูน่าบอกว่าให้มาขอบคุณผมที่จัดการพวกมันให้เธอ ไซเรนเห็นหน้าผมก็ยิ้มออกมาอย่างน่ารักกล่าวขอบคุณผมก่อนบินจากไป ผมโดนริสแซวว่าไม่คิดจะให้ไซเรนมาร่วมวงด้วยเหรอ ให้ตายเถอะช่วยคิดถึงร่างกายผมหน่อยได้ไหม ถึงผมเริ่มจะกลายเป็นอิกคิวบัสไปนิดหน่อยแล้วก็เถอะ ผมหันไปมองไซเรนแล้วยิ้มออกมาบางๆ เอ่ยออกมาเบาๆ ถึงผมจะเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลงของเธอก็เถอะ แต่ผมว่าปล่อยให้เธอบินอย่างอิสระแบบนี้ดีกว่า พวกริสมองกันแล้วยิ้มออกมาบางๆ ก็ที่วารูน่าจะบอกกับผมว่า ไม่ต้องเสียดายไปว่างๆ พวกเธอจะร้องเพลงให้ผมฟังเอง
เพลงของพวกริสงั้นเหรอ อยากรอฟังดูยังเลยนะ
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 28