วันที่ 10 เดือน มิเรียน่า ปีโรเวเรียสที่ 15
พวกเราออกเดินทางกันในตอนเช้าของวัน พวกชาวบ้านมาส่งผมเพื่อเป็นการขอบคุณเรื่องที่ผมช่วยไล่โกเล็มไปได้ แถมให้ของพวกเราเอาไว้ใช้ตอนเดินทางเยอะพอดูเลยโดยเฉพาะนมของโฮลส์ทอรัส เห็นบอกว่ารีดมาให้พวกผมโดนเฉพาะเลย ก็นะเมื่อคืนดังซะขนาดนั้นนี้ฮะๆๆ ผู้ใหญ่บ้านบอกผมว่าเคยมีนักเดินทางเล่าว่าพบกระท่อมของไซคลอปอยู่ที่ไหนของภูเขาให้ผมไปที่นั้นก่อนแล้วค่อยเลยข้ามเขาไปอีกที่ พวกเรารับคำแล้วออกเดินทางขึ้นเขาทันที ภูเขาแห่งนี้สูงมากทีเดียวริสบอกว่าถ้าหากจะข้ามภูเขานี้ไปจริงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสัปดาห์นึง ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน พวกเราใช้เวลาเดินทางอยู่ในที่สุดเราก็พบกระท่องไม้หลังหนึ่งอยู่ที่นี้ น่าจะเป็นกระท่อมของไซคลอป ที่นั้นพวกเราพบสิ่งมีชีวิตอื่นที่ผมไม่รู้จักอาศัยอยู่เทียร์บอกว่ามันเป็นสัตว์รับใช้ สัตว์รับใช้พอเห็นผมก็ส่งเสียงขู่ขึ้นมาทันที แต่พอเจอวูฟเฟร่ากับดราโกน่าขู่กับก็หงอยไปเลย ไม่นานก็มีคนเปิดประตูออกมา เธอคือไซคลอป ไซคลอปเป็นหญิงสาวผมสั้นสีม่วงมีเขาขนาดใหญ่อยู่กลางหน้าผากผิวสีน้ำเงินมีดวงตาดวงโตอยู่กลางใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะของเธอ เธออยู่ในชุดเสื้อหลังสีน้ำตาลในมือถือค้อนขนาดใหญ่ เธอเอ่ยถามว่า มาทำอะไร ผมเลยเล่าสาเหตุที่ผมมาพร้อมยืนดาบที่หักเพื่อของให้เธอช่วยซ่อมให้ หลังจากที่ไซคลอปดูเธอบอกว่าดาบเล่มเป็นดาบที่แม่ของเธอเคยตีให้ผู้กล้าคนนึง ดาบเล่มนี้เก่ามากและบิ่นไปเยอะมากแล้ว เธอแนะนำให้ผมหลอมแล้วตีขึ้นมาใหม่ดีกว่าเพราะซ่อมไปไม่นานก็หักอีกแน่ และพวกวัตถุดิบอุปกรณ์ที่บ้านเธอก็มีอยู่แล้วด้วย แต่ต้องใช้เวลาอย่างเร็ว 5 วันเห็นจะได้ ผมตอบตกลง ไซคลอปให้พวกเราพักที่กระท่อมได้ถ้าต้องการพวกเราเลยได้พักกันที่นี้ ในคืนนั้นไซคลอปเริ่มลงมือหลอมดาบของผมทันที โดยผมกับดราโกน่าเป็นลูกมือ ตอนแรกไซคลอปปฏิเสธความช่วยเหลือจากผม แต่ผมบอกว่าผมอยากช่วย ส่วนดราโกน่าบอกว่าเธอเป็นมังกร ไฟของเธอน่าจะช่วยได้ ไซคลอปเลยยอมให้พวกผมช่วย ในระหว่างที่ตีดาบกันพวกเราได้คุยกันเธอถามผมเรื่องโลกภายนอกและเรื่องต่างๆ มากมายเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกไปจากกระท่องเท่าไหร่พวกเราพูดถูกคอกันมากจนลืมเวลาไปเลย หวังว่าจะเป็นแบบนี้เรื่อยๆ นะ
พวกเราออกเดินทางกันในตอนเช้าของวัน พวกชาวบ้านมาส่งผมเพื่อเป็นการขอบคุณเรื่องที่ผมช่วยไล่โกเล็มไปได้ แถมให้ของพวกเราเอาไว้ใช้ตอนเดินทางเยอะพอดูเลยโดยเฉพาะนมของโฮลส์ทอรัส เห็นบอกว่ารีดมาให้พวกผมโดนเฉพาะเลย ก็นะเมื่อคืนดังซะขนาดนั้นนี้ฮะๆๆ ผู้ใหญ่บ้านบอกผมว่าเคยมีนักเดินทางเล่าว่าพบกระท่อมของไซคลอปอยู่ที่ไหนของภูเขาให้ผมไปที่นั้นก่อนแล้วค่อยเลยข้ามเขาไปอีกที่ พวกเรารับคำแล้วออกเดินทางขึ้นเขาทันที ภูเขาแห่งนี้สูงมากทีเดียวริสบอกว่าถ้าหากจะข้ามภูเขานี้ไปจริงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสัปดาห์นึง ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน พวกเราใช้เวลาเดินทางอยู่ในที่สุดเราก็พบกระท่องไม้หลังหนึ่งอยู่ที่นี้ น่าจะเป็นกระท่อมของไซคลอป ที่นั้นพวกเราพบสิ่งมีชีวิตอื่นที่ผมไม่รู้จักอาศัยอยู่เทียร์บอกว่ามันเป็นสัตว์รับใช้ สัตว์รับใช้พอเห็นผมก็ส่งเสียงขู่ขึ้นมาทันที แต่พอเจอวูฟเฟร่ากับดราโกน่าขู่กับก็หงอยไปเลย ไม่นานก็มีคนเปิดประตูออกมา เธอคือไซคลอป ไซคลอปเป็นหญิงสาวผมสั้นสีม่วงมีเขาขนาดใหญ่อยู่กลางหน้าผากผิวสีน้ำเงินมีดวงตาดวงโตอยู่กลางใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะของเธอ เธออยู่ในชุดเสื้อหลังสีน้ำตาลในมือถือค้อนขนาดใหญ่ เธอเอ่ยถามว่า มาทำอะไร ผมเลยเล่าสาเหตุที่ผมมาพร้อมยืนดาบที่หักเพื่อของให้เธอช่วยซ่อมให้ หลังจากที่ไซคลอปดูเธอบอกว่าดาบเล่มเป็นดาบที่แม่ของเธอเคยตีให้ผู้กล้าคนนึง ดาบเล่มนี้เก่ามากและบิ่นไปเยอะมากแล้ว เธอแนะนำให้ผมหลอมแล้วตีขึ้นมาใหม่ดีกว่าเพราะซ่อมไปไม่นานก็หักอีกแน่ และพวกวัตถุดิบอุปกรณ์ที่บ้านเธอก็มีอยู่แล้วด้วย แต่ต้องใช้เวลาอย่างเร็ว 5 วันเห็นจะได้ ผมตอบตกลง ไซคลอปให้พวกเราพักที่กระท่อมได้ถ้าต้องการพวกเราเลยได้พักกันที่นี้ ในคืนนั้นไซคลอปเริ่มลงมือหลอมดาบของผมทันที โดยผมกับดราโกน่าเป็นลูกมือ ตอนแรกไซคลอปปฏิเสธความช่วยเหลือจากผม แต่ผมบอกว่าผมอยากช่วย ส่วนดราโกน่าบอกว่าเธอเป็นมังกร ไฟของเธอน่าจะช่วยได้ ไซคลอปเลยยอมให้พวกผมช่วย ในระหว่างที่ตีดาบกันพวกเราได้คุยกันเธอถามผมเรื่องโลกภายนอกและเรื่องต่างๆ มากมายเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกไปจากกระท่องเท่าไหร่พวกเราพูดถูกคอกันมากจนลืมเวลาไปเลย หวังว่าจะเป็นแบบนี้เรื่อยๆ นะ
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 47