วันที่ 22 เดือน มิเรียน่า ปีโรเวเรียสที่ 15
ในที่สุดพวกเราข้ามเขาได้สำเร็จ แม้พวกเราจะถูกพวกก๊อบลินและฮอบก๊อบลินทุกๆ วันเลยก็ตาม แต่พวกเราก็เดินทางข้ามได้สำเร็จ ตอนที่เราขึ้นไปถึงยอดเขา ในวันที่ 18 ที่ผ่านมาพวกเขาได้เห็นทะเลทรายสุดลูกหูลูกตาอยู่เบื้องหน้า ชนิดที่ผมเองยังกะขนาดความกว้างของมันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แค่คิดว่าผมต้องหาตัวอิกนิสจากทะเลทรายที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ทำเอาผมท้อไปเลย ถ้าไม่ได้พวกริสช่วยให้กำลังใจละก็ผมคงหมดกำลังใจไปไม่น้อยเลยละ
หลังจากที่พวกเราลงเขาได้ ก็มาถึงชายป่าแห่งนึง ถ้าจำไม่ผิดที่นี้ซินะที่กริซลีอาศัยอยู่ วูฟเฟร่าบอกผมว่าได้กลิ่นอราวเน่และฮันนีบีอยู่ในป่านี้ด้วย แถบเป็นแบบนั้นจริงการที่จะมีกรีซลีอาศัยอยู่ที่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเท่าที่จำได้กริซลีชอบน้ำหวานของอราวเน่มาก แต่นั้นก็ทำให้ผมเริ่มหนักใจน้ำหวานของอราวเน่มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ มันทำให้กริซลีที่มีนิสัยงัวเงียโจมตีพวกเราได้ง่าย ริสเองก็พลอยจะเป็นอันตรายไปด้วย ผมเลยตัดสินใจออกจากป่าให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เจอกับกริซลี ถึงผมจะอยากเห็นกริซลีซักครั้งแต่ถ้าถูกน้ำหวานกระตุ้นอยู่มันอันตรายเกินไป แต่เมื่อดวงผมจะสมพงค์กับมอนสเตอร์สาวจริงๆ วันนี้พวกเราเจอกริซลีจนได้ กริซลีเป็นหญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาล ดวงตาสีน้ำเงินผิวขาว เธอมีแขนเป็นแขนของหมีและขาเป็นหมี เธอสวมชุดขนสัตว์สีน้ำตาลและมีหูแบบหมีอยู่ที่หัว แต่นั้นไม่สำคัญเท่ามือขวาของเธอมีคราบน้ำสีเหลืองใสเหนียวอยู่ แถมหน้าตาเธอก็แดงน้อยๆ แสดงว่าเธอโดนฤทธิ์น้ำหวานของอราวเน่เข้าไปแล้วแน่ๆ กริซลีเข้าโจมตีพวกเราทันที ทำให้พวกผมต้องรีบหนีออกจากป่าทันที จริงอยู่ที่ถ้าสู้กันพวกเราเอาชนะได้ไม่ยากแต่น้ำหวานในมือขวานี้ซิที่เป็นปัญหาเพราะแค่กลิ่นก็เอาผมร้อนวาบแล้ว วูฟเฟร่าเองก็โดนฤทธิ์ของมันเล่นงานเหมือนก็จมูกดีที่สุดในกลุ่มพวกเรานี้น่า ถ้าสูดไปมากกว่านี้ผมต่างหากที่จะแย่เอา ผมเลยเลือกหนีดีกว่า แต่กว่านะหนีไปได้ก็แทบแย่เหมือนกัน โดนกรีซลีเล่นงานไปหลายรอบเลย พวกริสโดนฤทธิ์น้ำหวานของอราวเน่กันถ้วนหน้า อีแบบนี้คืนนี้ได้เหนื่อยกันอีกแล้วแหงๆ
ในที่สุดพวกเราข้ามเขาได้สำเร็จ แม้พวกเราจะถูกพวกก๊อบลินและฮอบก๊อบลินทุกๆ วันเลยก็ตาม แต่พวกเราก็เดินทางข้ามได้สำเร็จ ตอนที่เราขึ้นไปถึงยอดเขา ในวันที่ 18 ที่ผ่านมาพวกเขาได้เห็นทะเลทรายสุดลูกหูลูกตาอยู่เบื้องหน้า ชนิดที่ผมเองยังกะขนาดความกว้างของมันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แค่คิดว่าผมต้องหาตัวอิกนิสจากทะเลทรายที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ทำเอาผมท้อไปเลย ถ้าไม่ได้พวกริสช่วยให้กำลังใจละก็ผมคงหมดกำลังใจไปไม่น้อยเลยละ
หลังจากที่พวกเราลงเขาได้ ก็มาถึงชายป่าแห่งนึง ถ้าจำไม่ผิดที่นี้ซินะที่กริซลีอาศัยอยู่ วูฟเฟร่าบอกผมว่าได้กลิ่นอราวเน่และฮันนีบีอยู่ในป่านี้ด้วย แถบเป็นแบบนั้นจริงการที่จะมีกรีซลีอาศัยอยู่ที่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเท่าที่จำได้กริซลีชอบน้ำหวานของอราวเน่มาก แต่นั้นก็ทำให้ผมเริ่มหนักใจน้ำหวานของอราวเน่มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ มันทำให้กริซลีที่มีนิสัยงัวเงียโจมตีพวกเราได้ง่าย ริสเองก็พลอยจะเป็นอันตรายไปด้วย ผมเลยตัดสินใจออกจากป่าให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เจอกับกริซลี ถึงผมจะอยากเห็นกริซลีซักครั้งแต่ถ้าถูกน้ำหวานกระตุ้นอยู่มันอันตรายเกินไป แต่เมื่อดวงผมจะสมพงค์กับมอนสเตอร์สาวจริงๆ วันนี้พวกเราเจอกริซลีจนได้ กริซลีเป็นหญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาล ดวงตาสีน้ำเงินผิวขาว เธอมีแขนเป็นแขนของหมีและขาเป็นหมี เธอสวมชุดขนสัตว์สีน้ำตาลและมีหูแบบหมีอยู่ที่หัว แต่นั้นไม่สำคัญเท่ามือขวาของเธอมีคราบน้ำสีเหลืองใสเหนียวอยู่ แถมหน้าตาเธอก็แดงน้อยๆ แสดงว่าเธอโดนฤทธิ์น้ำหวานของอราวเน่เข้าไปแล้วแน่ๆ กริซลีเข้าโจมตีพวกเราทันที ทำให้พวกผมต้องรีบหนีออกจากป่าทันที จริงอยู่ที่ถ้าสู้กันพวกเราเอาชนะได้ไม่ยากแต่น้ำหวานในมือขวานี้ซิที่เป็นปัญหาเพราะแค่กลิ่นก็เอาผมร้อนวาบแล้ว วูฟเฟร่าเองก็โดนฤทธิ์ของมันเล่นงานเหมือนก็จมูกดีที่สุดในกลุ่มพวกเรานี้น่า ถ้าสูดไปมากกว่านี้ผมต่างหากที่จะแย่เอา ผมเลยเลือกหนีดีกว่า แต่กว่านะหนีไปได้ก็แทบแย่เหมือนกัน โดนกรีซลีเล่นงานไปหลายรอบเลย พวกริสโดนฤทธิ์น้ำหวานของอราวเน่กันถ้วนหน้า อีแบบนี้คืนนี้ได้เหนื่อยกันอีกแล้วแหงๆ
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 49