วันที่ 7 เดือน เมเรน่า ปีโรเวเรียสที่ 15
2 วันหลังจากที่พวกเรามาถึงที่เมืองแห่งนี้ เนื่องจากพวกเราจำเป็นต้องหาข้อมูลและซื้อของใช้จำเป็นด้วยทำให้พวกเราเสียเวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกเราเจอคนแคระที่เมืองแห่งนี้ด้วย คนแคระเป็นเด็กหญิงร่างเล็กมากถ้าเทียบกับมอนสเตอร์คนอื่นๆ เธอเป็นเด็กหญิงผมสีส้มดวงตาโตสีเขียวมรกตในชุดหนังสีน้ำตาล สวมแว่นตากันลมสีดำ ดูแล้วก็น่ารักดี แต่ถ้าจะรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กแต่อายุก็น่าจะไม่ต่างจากผมเท่าไหร่หรอกมั้ง ทันทีพวกเราเจอตัวกันเธอทะเลาะกับฟลอร่าทันทีก็นะ ว่ากันว่าเอลฟ์กับคนแคระไม่ถูกกันถ้าจะจริงแหะ แถมทะเลาะกันหนักซะด้วย ก็คนแคระคนนั้นเล่นเรียกฟลาร่าว่า เอโลฟ ส่วนฟลอร่าเองก็เรียกคนแคระว่า เพโดวาร์ฟ ถึงผมจะไม่รู้ว่าสองคำนี้หมายความว่ายังไง แต่คงไปคำไม่ดีแน่ๆ เพราะทั้งสองคนโมโหหน้าดูจนผมต้องเข้าห้ามทั้งสองคนไม่ให้ทะเลาะ ( ผมต้องบอกฟลอร่าว่าถ้าเลิกทะเลาะกับคนแคระผมจะให้พลังวิญญาณคืนนี้ฟรีเธอถึงได้หยุดทะเลาะครับ ทำไมใช้มุขนี้ได้ผลนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ) หลังจากที่ทำให้ทั้งคู่เลิกทะเลาะกัน ผมก็หันมาสนใจสินค้าที่คนแคระคนนั้นนำมาขาย ดูเหมือนว่าสินค้าพวกนี้เธอเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเอง ขอแต่ละอย่างน่าสนใจมากเลย ไม่ว่าจะเป็น ระเบิดควัน กระบอกที่ฉายแสงไฟออกมาได้ และอื่นๆ อีกมากกว่า น่าสนใจทั้งนั้น คนแคระก็อธิบายคุณสมบัติของอย่างไม่ปิดบังดูเธอจะมิตรผมมากเลยไม่เหมือนกับตอนที่ทะเลาะกับฟลอร่าเลยซักนิด หลังจากที่ผมซื้อของจากเธอมา ผมก็ถามข้อมูลต่างๆ จากเธอด้วย เธอบอกว่าได้ยินมาจากนักเดินทางที่กลับมาจากทะเลทรายบอกว่าเห็น อิกนิสแห่งไฟ อยู่ทางทิศตะวันออกของพีระมิด ถ้าหากจะไปหาอิกนิสจริงให้ไปที่พีระมิดทางทิศเหนือของที่นี้แทน คนแคระแอบบอกผมว่าให้เธอเดินทางไปกับผมไหม เธอบอกว่าเธอมีดีกว่าเอลฟ์นั้นแน่นอน ฮะๆ ผมยอมรับว่าเธอมีดีแน่นอนครับ ถ้ามีนักประดิษฐ์ไปด้วยการเดินทางก็ราบรื่นขึ้นเยอะ แต่ผมก็ปฏิเสธไปครับ เพราะถ้าเกิดเธอเดินทางมากับพวกผมด้วยรับรองว่าทะเลาะกับฟลอร่าแหงๆ คนแคระบอกว่าน่าเสียดายนะ หลังจากที่ผมลาเธอไปท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีไปแล้วพวกเราเลยต้องพักอยู่ที่เมืองนี้อีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อก็แล้วกัน
2 วันหลังจากที่พวกเรามาถึงที่เมืองแห่งนี้ เนื่องจากพวกเราจำเป็นต้องหาข้อมูลและซื้อของใช้จำเป็นด้วยทำให้พวกเราเสียเวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกเราเจอคนแคระที่เมืองแห่งนี้ด้วย คนแคระเป็นเด็กหญิงร่างเล็กมากถ้าเทียบกับมอนสเตอร์คนอื่นๆ เธอเป็นเด็กหญิงผมสีส้มดวงตาโตสีเขียวมรกตในชุดหนังสีน้ำตาล สวมแว่นตากันลมสีดำ ดูแล้วก็น่ารักดี แต่ถ้าจะรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กแต่อายุก็น่าจะไม่ต่างจากผมเท่าไหร่หรอกมั้ง ทันทีพวกเราเจอตัวกันเธอทะเลาะกับฟลอร่าทันทีก็นะ ว่ากันว่าเอลฟ์กับคนแคระไม่ถูกกันถ้าจะจริงแหะ แถมทะเลาะกันหนักซะด้วย ก็คนแคระคนนั้นเล่นเรียกฟลาร่าว่า เอโลฟ ส่วนฟลอร่าเองก็เรียกคนแคระว่า เพโดวาร์ฟ ถึงผมจะไม่รู้ว่าสองคำนี้หมายความว่ายังไง แต่คงไปคำไม่ดีแน่ๆ เพราะทั้งสองคนโมโหหน้าดูจนผมต้องเข้าห้ามทั้งสองคนไม่ให้ทะเลาะ ( ผมต้องบอกฟลอร่าว่าถ้าเลิกทะเลาะกับคนแคระผมจะให้พลังวิญญาณคืนนี้ฟรีเธอถึงได้หยุดทะเลาะครับ ทำไมใช้มุขนี้ได้ผลนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ) หลังจากที่ทำให้ทั้งคู่เลิกทะเลาะกัน ผมก็หันมาสนใจสินค้าที่คนแคระคนนั้นนำมาขาย ดูเหมือนว่าสินค้าพวกนี้เธอเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเอง ขอแต่ละอย่างน่าสนใจมากเลย ไม่ว่าจะเป็น ระเบิดควัน กระบอกที่ฉายแสงไฟออกมาได้ และอื่นๆ อีกมากกว่า น่าสนใจทั้งนั้น คนแคระก็อธิบายคุณสมบัติของอย่างไม่ปิดบังดูเธอจะมิตรผมมากเลยไม่เหมือนกับตอนที่ทะเลาะกับฟลอร่าเลยซักนิด หลังจากที่ผมซื้อของจากเธอมา ผมก็ถามข้อมูลต่างๆ จากเธอด้วย เธอบอกว่าได้ยินมาจากนักเดินทางที่กลับมาจากทะเลทรายบอกว่าเห็น อิกนิสแห่งไฟ อยู่ทางทิศตะวันออกของพีระมิด ถ้าหากจะไปหาอิกนิสจริงให้ไปที่พีระมิดทางทิศเหนือของที่นี้แทน คนแคระแอบบอกผมว่าให้เธอเดินทางไปกับผมไหม เธอบอกว่าเธอมีดีกว่าเอลฟ์นั้นแน่นอน ฮะๆ ผมยอมรับว่าเธอมีดีแน่นอนครับ ถ้ามีนักประดิษฐ์ไปด้วยการเดินทางก็ราบรื่นขึ้นเยอะ แต่ผมก็ปฏิเสธไปครับ เพราะถ้าเกิดเธอเดินทางมากับพวกผมด้วยรับรองว่าทะเลาะกับฟลอร่าแหงๆ คนแคระบอกว่าน่าเสียดายนะ หลังจากที่ผมลาเธอไปท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีไปแล้วพวกเราเลยต้องพักอยู่ที่เมืองนี้อีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อก็แล้วกัน
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 61