วันที่ 11 เดือน เมเรน่า ปีโรเวเรียสที่ 15
วันนี้พวกเราเดินทางสำรวจพีระมิดแห่งนี้กันครับ ภายในพีระมิดแห่งนี้ไม่ได้มืดอย่างที่คิดเพราะทันทีพวกเราเดินเข้ามาหินแสงที่ฝังอยู่ตามบนเพดานก็ส่องแสงขึ้นมาทันทีรวมกับผนังภายในทำจากทองคำทำให้แสงสว่างสะท้อนไปมาทำให้ภายในสว่างราวกับอยู่ข้างนอกก็มิปราณ น่าอัศจรรย์มากเลย ที่ผนังมีการสลักด้วยอักษรภาพโบราณที่ผมอ่านไม่ออกอยู่ตลอดทาง แม้ผมจะถามอิคิดน่า เธอก็บอกผมว่ามีแต่มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ที่นี้เท่านั้นที่อ่านได้ แม้แต่เธอเองก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน ในระหว่างที่ผมสำรวจที่อยู่พวกเราก็ถูกโจมตีจากพวกมัมมี่ มัมมี่ เป็นหญิงสาวผมสีเขียวดวงตาสีน้ำเงิน พันผ้าพันแผลเอาไว้รอบตัว พวกเธอเดินตรงมาที่ผมดูแล้วพวกคงต้องการพลังวิญญาณจากผมอย่างแน่นอน ตอนแรกผมก็เตรียมจะสู้ แต่ผมก็พบว่ามัมมี่พวกนี้มีจุดอ่อนที่ผมคาดไม่ถึงอยู่แค่ตอนที่สู้กันมือผมไปสัมผัสโดนตัวเองก็ร้องซะเสียงดังจนน่าตกใจเลย อิคิดน่าเลยบอกให้ผมเปลี่ยนวีธีสู้เป็นใช้นิ้วจิ้มร่างกายพวกมัมมี่แทน มัมมี่บางคนที่พันพ้าพันแผลมิดชิดก็ได้ริสกับดาร์โกน่าช่วยดึงออกจนหมดจนมัมมี่คนนั้นวิ่งหนีไปเอง ถึงผมจะไม่ชอบวิธีนี้เท่าไหร่แต่วิธีนี้ก็ไม่ได้ทำอันตรายอะไรพวกเธอมาก อย่างมากก็แค่สลบไปเท่านั้นเอง หลับไปพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุขซะด้วยซิฮะๆ นอกจากนั้นพวกเราก็ได้พบกับอานูบิสด้วย อานูบิส เป็นหญิงสาวผมสีดำยาวถึงสะโพก ดวงตาคมสีแดงดังโลหิต ผิวสีน้ำผึ้ง ในชุดทรูพรีชสีดำ แล้วสวมกางเกงอลาดินสีม่วง เธอมีมือ ขา และหาง เป็นสุนัขป่าเหมือนกับวูฟเฟร่าเพียงแต่อานูบิสมีขนเป็นสีดำเท่านั้น เธอสวมมงคลสีทองรูปงูเห่า สะพายดาบอาหรับสีทองและถือคทารูปตาชั่งสีทองดูแล้วน่าเกรงขาม เธอบอกว่าพวกเรามารบกวนที่ประทับขององค์ฟาโรห์กษัตริย์ของเธอ เธอจะจับพวกเราไป ก่อนที่เธอกับพวกเราจะสู้กัน อานูบิสเก่งน่าดูเลย ขนาดฝีมือดาบของผมยังเทียบไม่ติด ขนาดมีพวกริสช่วยยังทำได้แค่สูสีเท่านั้นเอง ฝีมือดาบของเธอเก่งกาจจริงๆ ทำให้ผมรู้สึกสนุกขึ้นมาเลย การต่อสู้รุนแรงขึ้นจนทำให้เพดานกับผนังโดนผลกระทบพังทลายออกมา เกือบทับอานูบิสดีที่ผมผลักเธอทันทำให้อานูบิสรอดไปได้ แต่ผมโดนทับแทนจนขาหักไป และหัวผมก็แตกด้วยฮะๆ พวกริสตกใจน่าดูเลย อานูบิสเองก็ตกใจเหมือนกันที่ผมช่วยเธอเอาไว้ เธอถามผมว่าช่วยเธอทำไม ผมก็เลยบอกไปว่าผมไม่คิดจะทำร้ายมอนสเตอร์อย่างพวกเธออยู่แล้ว และอีกอย่างผมไม่อยากให้หน้าตาสวยของอานูบิสเป็นแผลด้วย ผมไม่เห็นหรอกว่าเธอทำหน้ายังไงเพราะเลือดที่หัวมันเข้าตาผมจนมองไม่เห็นแล้วผมก็เสียเลือดจนเริ่มเบลอแล้วด้วย สิ่งสุดท้ายผมก็ได้ยินเสียงของคนๆ นึงดังขึ้น เสียงที่ผมไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง รู้แต่ว่าอานูบิสเรียกคนๆ นั้นว่าฟาโรห์ หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้เลย มารู้สึกตัวอีกที่ผมก็มานอนอยู่ที่หน้าพีระมิดแล้ว นอนอยู่บนตักของอานูบิสนี้แหละ ทำเอาตกใจมากเลยละ แถม ริส ดาร์โกน่า ฟลอร่า อิคิดน่าก็อยู่กันครบเลย และก็แผลตามตัวผมก็หายไปหมดเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ริสบอกว่าฟาโรห์เป็นคนรักษาให้ สุดยอดจริงๆ เลยขนาดกระดูกที่หักยังต่อได้เหมือนไม่เคยหักมาก่อนเลย พอถามว่าอานูบิสถึงมาอยู่ที่นี้ได้ ริสก็บอกว่าอานูบิสก็จะเดินทางกับพวกเราด้วย พอผมไปคุยด้วยอานูบิสบอกว่าเป็นคำสั่งขององค์ฟาโรห์ต่างหากไม่ได้ทำเพื่อผม แต่อิคิดน่าบอกผมว่า อานูบิสขององค์ฟาโรห์ตามผมเองต่างหาก ผมก็ว่างั้นนะเวลาผมคุยกับอานูบิสหางของเธอส่ายไปมา ดูที่ความสุขเลยนี้น่าฮะๆ
วันนี้พวกเราเดินทางสำรวจพีระมิดแห่งนี้กันครับ ภายในพีระมิดแห่งนี้ไม่ได้มืดอย่างที่คิดเพราะทันทีพวกเราเดินเข้ามาหินแสงที่ฝังอยู่ตามบนเพดานก็ส่องแสงขึ้นมาทันทีรวมกับผนังภายในทำจากทองคำทำให้แสงสว่างสะท้อนไปมาทำให้ภายในสว่างราวกับอยู่ข้างนอกก็มิปราณ น่าอัศจรรย์มากเลย ที่ผนังมีการสลักด้วยอักษรภาพโบราณที่ผมอ่านไม่ออกอยู่ตลอดทาง แม้ผมจะถามอิคิดน่า เธอก็บอกผมว่ามีแต่มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ที่นี้เท่านั้นที่อ่านได้ แม้แต่เธอเองก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน ในระหว่างที่ผมสำรวจที่อยู่พวกเราก็ถูกโจมตีจากพวกมัมมี่ มัมมี่ เป็นหญิงสาวผมสีเขียวดวงตาสีน้ำเงิน พันผ้าพันแผลเอาไว้รอบตัว พวกเธอเดินตรงมาที่ผมดูแล้วพวกคงต้องการพลังวิญญาณจากผมอย่างแน่นอน ตอนแรกผมก็เตรียมจะสู้ แต่ผมก็พบว่ามัมมี่พวกนี้มีจุดอ่อนที่ผมคาดไม่ถึงอยู่แค่ตอนที่สู้กันมือผมไปสัมผัสโดนตัวเองก็ร้องซะเสียงดังจนน่าตกใจเลย อิคิดน่าเลยบอกให้ผมเปลี่ยนวีธีสู้เป็นใช้นิ้วจิ้มร่างกายพวกมัมมี่แทน มัมมี่บางคนที่พันพ้าพันแผลมิดชิดก็ได้ริสกับดาร์โกน่าช่วยดึงออกจนหมดจนมัมมี่คนนั้นวิ่งหนีไปเอง ถึงผมจะไม่ชอบวิธีนี้เท่าไหร่แต่วิธีนี้ก็ไม่ได้ทำอันตรายอะไรพวกเธอมาก อย่างมากก็แค่สลบไปเท่านั้นเอง หลับไปพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุขซะด้วยซิฮะๆ นอกจากนั้นพวกเราก็ได้พบกับอานูบิสด้วย อานูบิส เป็นหญิงสาวผมสีดำยาวถึงสะโพก ดวงตาคมสีแดงดังโลหิต ผิวสีน้ำผึ้ง ในชุดทรูพรีชสีดำ แล้วสวมกางเกงอลาดินสีม่วง เธอมีมือ ขา และหาง เป็นสุนัขป่าเหมือนกับวูฟเฟร่าเพียงแต่อานูบิสมีขนเป็นสีดำเท่านั้น เธอสวมมงคลสีทองรูปงูเห่า สะพายดาบอาหรับสีทองและถือคทารูปตาชั่งสีทองดูแล้วน่าเกรงขาม เธอบอกว่าพวกเรามารบกวนที่ประทับขององค์ฟาโรห์กษัตริย์ของเธอ เธอจะจับพวกเราไป ก่อนที่เธอกับพวกเราจะสู้กัน อานูบิสเก่งน่าดูเลย ขนาดฝีมือดาบของผมยังเทียบไม่ติด ขนาดมีพวกริสช่วยยังทำได้แค่สูสีเท่านั้นเอง ฝีมือดาบของเธอเก่งกาจจริงๆ ทำให้ผมรู้สึกสนุกขึ้นมาเลย การต่อสู้รุนแรงขึ้นจนทำให้เพดานกับผนังโดนผลกระทบพังทลายออกมา เกือบทับอานูบิสดีที่ผมผลักเธอทันทำให้อานูบิสรอดไปได้ แต่ผมโดนทับแทนจนขาหักไป และหัวผมก็แตกด้วยฮะๆ พวกริสตกใจน่าดูเลย อานูบิสเองก็ตกใจเหมือนกันที่ผมช่วยเธอเอาไว้ เธอถามผมว่าช่วยเธอทำไม ผมก็เลยบอกไปว่าผมไม่คิดจะทำร้ายมอนสเตอร์อย่างพวกเธออยู่แล้ว และอีกอย่างผมไม่อยากให้หน้าตาสวยของอานูบิสเป็นแผลด้วย ผมไม่เห็นหรอกว่าเธอทำหน้ายังไงเพราะเลือดที่หัวมันเข้าตาผมจนมองไม่เห็นแล้วผมก็เสียเลือดจนเริ่มเบลอแล้วด้วย สิ่งสุดท้ายผมก็ได้ยินเสียงของคนๆ นึงดังขึ้น เสียงที่ผมไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง รู้แต่ว่าอานูบิสเรียกคนๆ นั้นว่าฟาโรห์ หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้เลย มารู้สึกตัวอีกที่ผมก็มานอนอยู่ที่หน้าพีระมิดแล้ว นอนอยู่บนตักของอานูบิสนี้แหละ ทำเอาตกใจมากเลยละ แถม ริส ดาร์โกน่า ฟลอร่า อิคิดน่าก็อยู่กันครบเลย และก็แผลตามตัวผมก็หายไปหมดเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ริสบอกว่าฟาโรห์เป็นคนรักษาให้ สุดยอดจริงๆ เลยขนาดกระดูกที่หักยังต่อได้เหมือนไม่เคยหักมาก่อนเลย พอถามว่าอานูบิสถึงมาอยู่ที่นี้ได้ ริสก็บอกว่าอานูบิสก็จะเดินทางกับพวกเราด้วย พอผมไปคุยด้วยอานูบิสบอกว่าเป็นคำสั่งขององค์ฟาโรห์ต่างหากไม่ได้ทำเพื่อผม แต่อิคิดน่าบอกผมว่า อานูบิสขององค์ฟาโรห์ตามผมเองต่างหาก ผมก็ว่างั้นนะเวลาผมคุยกับอานูบิสหางของเธอส่ายไปมา ดูที่ความสุขเลยนี้น่าฮะๆ
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 64