วันที่ 19 เดือน เมเรน่า ปีโรเวเรียสที่ 15
พวกเราเดินทางมาถึงเมืองใกล้ๆ ในช่วงเที่ยงของวันนี้ ตามทางที่มาพวกเรามาพวกเราข้ามทุ่งหญ้าที่เต็มด้วยสไลย์ และสไลย์แดงเต็มไปหมด ถ้าเทียบกับที่อืนๆ แล้วที่นี้มีมาจนผิดปกติ ทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย แต่เพราะผมมีพวกริสรวมเดินทางไปด้วยบวกกับผมมีพลังแห่งธาตุ ลม ดิน และไฟทำให้พวกเราไล่พวกเธอไปได้ไม่ยากนั้น ที่นั้นเป็นเมืองแปลกมากทีเดียว บ้านแต่ละหลังต่างมีรูปร่างประหลาดแบบที่ผมไม่เคยเห็นมากก่อน บ้างหลังมีปล่องควันที่พ่นไอสีขาวออกมาอยู่ตลอดเวลา บ้างหลังก็มีเสาเหล็กสองเสาที่มีกระแสไฟฟ้าใหลไปมาระหว่างเสาทั้งสองอัน และอืนๆ อีกมากมาย ใหนจะเครื่องจักรหน้าตาประหลาดนั้นอีก ผมเลยได้ยินมาว่าทางเหนือมีเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสิ่งประดิษฐ์อยู่ก็เถอะ แต่ผมไม่คิดว่าจะหลุดโลกขนาดนี้มาก่อนเลย ชาวเมืองที่นี้ต่างวิ่งไปมาด้วยสีหน้าตื่นตะหนกอะไรบ้างอย่าง ทำให้รีบวิ่งตามไปดู จนมาถึงพงกเราก็พบว่าชาวบ้านกำลังมุงดุชายคนนึงอยู่ ชายคนนั้น นอนอยุ่ในสภาพเปลีอยร่างกายเต็มด้วยเมือกสีเขียวกลิ่นฉุนมากทีเดียวตาเหม่อลอยพูดจารู้เรื่องเลยซักนิด ดูแล้วน่าสยดสยองชะมัด ข้างๆ ก็มีร่างของชาวบ้านชายอีกสองคนสองคนนั้นก็มีเมือกสีเขียวกลิ่นฉุนติดอยุ่ตามตัวเหมือนกันเพียงแต่น้อยกว่าชายคนนั้นมากและยังสวมเสื้อผ้าอยู่ และสติยังอยุ่ครบถ้วนเท่านั้นเอง อีคิดน่าบอกผมว่าชายคนนั้นโดนบับเบินสไลม์เลยงานมา ทำให้ผมพอจะเข้าใจทันที พวกเราติดสินใจเดินไปพักที่โรงแรมรูปร่างประหลาดภายในเมืองแห่งนี้ ก่อนจะหาข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่าที่ทางระบายน้ำภายใน เมืองแห่งนี้มีบับเบินสไลม์ กับ ทากยักษ์ อาศัยอยู่ ทำให้ชาวเมืองรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก มีชาวเมืองและนักเดินทางลงไปปราบหลายคนแล้ว แต่ก็โดนพวกเธอเล่นงานกลับจะมีสภาพดุไม่จืดเลยซักคน ชาย 3 คนนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกชาวเมืองพอเห็นพวกริสในร่างมนุษย์ก็ขอร้องให้พวกเธอลงปราบให้ เพราะคิดว่าพวกริสที่เป็นผู้หญิงน่าจะปราบพวกมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ภายในทางระบายน้ำแห่งนี้ได้โดยที่อาจจะไม่เป็นมอนสเตอร์ไปซักก่อน ฮะ ก็พวกเธอเป้นมอนสเตอร์อยู่แล้วนี้ หลังจากที่พวกเราปรึกษากัน พวกเราก็ตัดสนใจว่าจะลงไปไล่พวกเธอด้วยกัน เพราะผมรู้สึกเห็นใจพวกชาวเมืองที่ต่อทนอยู่อย่างหวาดกลัวครับ หลังจากที่พวกเรารับคำแล้ว พวกชาวเมืองก็พาผมไปที่ทางเข้าลงทางระบายน้ำของเมือง ทางระบายน้ำของเมืองมีกลิ่นฉุนเอาเรื่องเลย จนอานูบิสกับวูฟเฟร่าต้องยกมือขึ้นปิดจมูกตัวเอง ผมสงสารพวกเธอที่ต้องทนกลิ่นฉุนแบบนี้และที่นี้สกปรกมากด้วย ผมแลยจะขอให้พวกเธอขึ้นรออยู่ด้านบนดีกว่า แต่ทั้งคู่ก็ปฏิเสธของตัวไปด้วยท่าเดียว ผมเลยต้องยอมความจริงผมก็เอ่ยถามพวกริสเหมือนกับว่าจะขึ้นรอข้างบนก็ได้ พวกเธอก็ปฏิเสธกันหมดเหมือนกัน พวกเราทั้งหมดเลยเดินตามทางระบายน้ำกันต่อทันที ในระหว่างทางพวกเราพบทากยักษ์ออกมาโจมตีพวกเราบ้างแต่พวกเราก็ไล่พวกเธอได้ไม่ยากนัก จนพวกเราเดินมาถึงจุดๆ หนึ่ง ผมก็ได้กลิ่นฉุนมากๆ พร้อมร่างของบับเบินสไลม์ที่เคลือนที่เข้ามา บับเบินเป็นของเหลวสีเขียวรูปร่างผู้หญิงและมีฟองลอยออกมาตลอด พวกเธอเคลือนมาโจมตีผมอย่างช้าๆ ทำให้ผมต้องรีบรับมือ การไล่พวกเธอไปทำได้ไม่ยากเพราะผมมีพวกริสช่วยด้วย เลยจัดการได้ไม่ยาก แต่เพราะพวกเธอมีจำนวนมากทำให้พวกเราใช้เวลามากพอดูทีเดียวกว่าจะใล่พวกเธอไปได้ ผมเคยโดนพวกเธอขึ้นค้อมไปหลายรอบเหมือนกับแต่เพราะร่างกายของเธอไม่ค่อยเหนียวผมเลยดิ้นหลุดได้ไม่อยาก มีครั้งนึงโดนเธอจูบ ผมรู้สึกเหมือนมีขอเหลวเข้าไปในปากผมด้วย ทำเอาผมร้อยวาบขึ้นมาเลย ผมจำได้ว่าร่างกายของพวกเธอมีฤทธิ์เป็นยาเสห์น่อ่อนๆ อยู่ด้วยโชคดีที่อานูบิสไล่บับเบินคนนั้นไปได้ผมเลยโดนไปไม่มากแต่ก็เล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน หลังจากที่ผมไล่พวเธอไปได้ พวกเราก็รีบขึ้นจากท่อระบายน้ำทันที พวกชาวบ้านดีใจกันมากที่พวกผมไล่พวกบับเบินสไลม์ไปได้ พวกริสพยายามหิ้วผมกลับโรงแรมเพราะกำลังโดนฤทธิ์ยาเสห์น่เล่นงาน ถึงผมจะโดนไม่มากแต่ก็ไม่ได้โดยน้อยๆ เหมือนกัน ตอนนั้นผมรู้สึกว่าร่างกายร้อนไปหมดแล้ว อีคิดน่าบอกให้ผมไปพักในโรงแรมก่อนจนกว่าฤทธิ์จะหมดไป หลังจากผ่านไปราวๆ ชั่วโมงเดียว ผมก็รู้สึกดีขึ้นจนกลับเป็นปกติอีกครั้ง ความจริงตอนนั้ก็นึกแปลกใจอยู่นะที่พวกริสไม่มีใครมาหาผมเลยทั้งทีเป็นโอกาสแท้ๆ แต่ก็เอาเถอะ ในตอนเย็นพวกชาวเมืองฉลองกันที่พวกบับเบินสไลม์จากไปแล้ว มีการจุดพลุกันสวยมากเลยละ ก่อนที่พวกเราจะเข้านอนกัน
พวกเราเดินทางมาถึงเมืองใกล้ๆ ในช่วงเที่ยงของวันนี้ ตามทางที่มาพวกเรามาพวกเราข้ามทุ่งหญ้าที่เต็มด้วยสไลย์ และสไลย์แดงเต็มไปหมด ถ้าเทียบกับที่อืนๆ แล้วที่นี้มีมาจนผิดปกติ ทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย แต่เพราะผมมีพวกริสรวมเดินทางไปด้วยบวกกับผมมีพลังแห่งธาตุ ลม ดิน และไฟทำให้พวกเราไล่พวกเธอไปได้ไม่ยากนั้น ที่นั้นเป็นเมืองแปลกมากทีเดียว บ้านแต่ละหลังต่างมีรูปร่างประหลาดแบบที่ผมไม่เคยเห็นมากก่อน บ้างหลังมีปล่องควันที่พ่นไอสีขาวออกมาอยู่ตลอดเวลา บ้างหลังก็มีเสาเหล็กสองเสาที่มีกระแสไฟฟ้าใหลไปมาระหว่างเสาทั้งสองอัน และอืนๆ อีกมากมาย ใหนจะเครื่องจักรหน้าตาประหลาดนั้นอีก ผมเลยได้ยินมาว่าทางเหนือมีเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสิ่งประดิษฐ์อยู่ก็เถอะ แต่ผมไม่คิดว่าจะหลุดโลกขนาดนี้มาก่อนเลย ชาวเมืองที่นี้ต่างวิ่งไปมาด้วยสีหน้าตื่นตะหนกอะไรบ้างอย่าง ทำให้รีบวิ่งตามไปดู จนมาถึงพงกเราก็พบว่าชาวบ้านกำลังมุงดุชายคนนึงอยู่ ชายคนนั้น นอนอยุ่ในสภาพเปลีอยร่างกายเต็มด้วยเมือกสีเขียวกลิ่นฉุนมากทีเดียวตาเหม่อลอยพูดจารู้เรื่องเลยซักนิด ดูแล้วน่าสยดสยองชะมัด ข้างๆ ก็มีร่างของชาวบ้านชายอีกสองคนสองคนนั้นก็มีเมือกสีเขียวกลิ่นฉุนติดอยุ่ตามตัวเหมือนกันเพียงแต่น้อยกว่าชายคนนั้นมากและยังสวมเสื้อผ้าอยู่ และสติยังอยุ่ครบถ้วนเท่านั้นเอง อีคิดน่าบอกผมว่าชายคนนั้นโดนบับเบินสไลม์เลยงานมา ทำให้ผมพอจะเข้าใจทันที พวกเราติดสินใจเดินไปพักที่โรงแรมรูปร่างประหลาดภายในเมืองแห่งนี้ ก่อนจะหาข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่าที่ทางระบายน้ำภายใน เมืองแห่งนี้มีบับเบินสไลม์ กับ ทากยักษ์ อาศัยอยู่ ทำให้ชาวเมืองรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก มีชาวเมืองและนักเดินทางลงไปปราบหลายคนแล้ว แต่ก็โดนพวกเธอเล่นงานกลับจะมีสภาพดุไม่จืดเลยซักคน ชาย 3 คนนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกชาวเมืองพอเห็นพวกริสในร่างมนุษย์ก็ขอร้องให้พวกเธอลงปราบให้ เพราะคิดว่าพวกริสที่เป็นผู้หญิงน่าจะปราบพวกมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ภายในทางระบายน้ำแห่งนี้ได้โดยที่อาจจะไม่เป็นมอนสเตอร์ไปซักก่อน ฮะ ก็พวกเธอเป้นมอนสเตอร์อยู่แล้วนี้ หลังจากที่พวกเราปรึกษากัน พวกเราก็ตัดสนใจว่าจะลงไปไล่พวกเธอด้วยกัน เพราะผมรู้สึกเห็นใจพวกชาวเมืองที่ต่อทนอยู่อย่างหวาดกลัวครับ หลังจากที่พวกเรารับคำแล้ว พวกชาวเมืองก็พาผมไปที่ทางเข้าลงทางระบายน้ำของเมือง ทางระบายน้ำของเมืองมีกลิ่นฉุนเอาเรื่องเลย จนอานูบิสกับวูฟเฟร่าต้องยกมือขึ้นปิดจมูกตัวเอง ผมสงสารพวกเธอที่ต้องทนกลิ่นฉุนแบบนี้และที่นี้สกปรกมากด้วย ผมแลยจะขอให้พวกเธอขึ้นรออยู่ด้านบนดีกว่า แต่ทั้งคู่ก็ปฏิเสธของตัวไปด้วยท่าเดียว ผมเลยต้องยอมความจริงผมก็เอ่ยถามพวกริสเหมือนกับว่าจะขึ้นรอข้างบนก็ได้ พวกเธอก็ปฏิเสธกันหมดเหมือนกัน พวกเราทั้งหมดเลยเดินตามทางระบายน้ำกันต่อทันที ในระหว่างทางพวกเราพบทากยักษ์ออกมาโจมตีพวกเราบ้างแต่พวกเราก็ไล่พวกเธอได้ไม่ยากนัก จนพวกเราเดินมาถึงจุดๆ หนึ่ง ผมก็ได้กลิ่นฉุนมากๆ พร้อมร่างของบับเบินสไลม์ที่เคลือนที่เข้ามา บับเบินเป็นของเหลวสีเขียวรูปร่างผู้หญิงและมีฟองลอยออกมาตลอด พวกเธอเคลือนมาโจมตีผมอย่างช้าๆ ทำให้ผมต้องรีบรับมือ การไล่พวกเธอไปทำได้ไม่ยากเพราะผมมีพวกริสช่วยด้วย เลยจัดการได้ไม่ยาก แต่เพราะพวกเธอมีจำนวนมากทำให้พวกเราใช้เวลามากพอดูทีเดียวกว่าจะใล่พวกเธอไปได้ ผมเคยโดนพวกเธอขึ้นค้อมไปหลายรอบเหมือนกับแต่เพราะร่างกายของเธอไม่ค่อยเหนียวผมเลยดิ้นหลุดได้ไม่อยาก มีครั้งนึงโดนเธอจูบ ผมรู้สึกเหมือนมีขอเหลวเข้าไปในปากผมด้วย ทำเอาผมร้อยวาบขึ้นมาเลย ผมจำได้ว่าร่างกายของพวกเธอมีฤทธิ์เป็นยาเสห์น่อ่อนๆ อยู่ด้วยโชคดีที่อานูบิสไล่บับเบินคนนั้นไปได้ผมเลยโดนไปไม่มากแต่ก็เล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน หลังจากที่ผมไล่พวเธอไปได้ พวกเราก็รีบขึ้นจากท่อระบายน้ำทันที พวกชาวบ้านดีใจกันมากที่พวกผมไล่พวกบับเบินสไลม์ไปได้ พวกริสพยายามหิ้วผมกลับโรงแรมเพราะกำลังโดนฤทธิ์ยาเสห์น่เล่นงาน ถึงผมจะโดนไม่มากแต่ก็ไม่ได้โดยน้อยๆ เหมือนกัน ตอนนั้นผมรู้สึกว่าร่างกายร้อนไปหมดแล้ว อีคิดน่าบอกให้ผมไปพักในโรงแรมก่อนจนกว่าฤทธิ์จะหมดไป หลังจากผ่านไปราวๆ ชั่วโมงเดียว ผมก็รู้สึกดีขึ้นจนกลับเป็นปกติอีกครั้ง ความจริงตอนนั้ก็นึกแปลกใจอยู่นะที่พวกริสไม่มีใครมาหาผมเลยทั้งทีเป็นโอกาสแท้ๆ แต่ก็เอาเถอะ ในตอนเย็นพวกชาวเมืองฉลองกันที่พวกบับเบินสไลม์จากไปแล้ว มีการจุดพลุกันสวยมากเลยละ ก่อนที่พวกเราจะเข้านอนกัน
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 68