ในที่สุดผมก็แก้เนื้อเรื่องใหม่เสร็จแล้วหลังจากที่ของเก่ามันอ่านแล้วรู้สึกติดๆขัดๆ
เชิญชมได้เลยครับ
เชิญชมได้เลยครับ
Chapter 18: Port Dagon
หลังจากที่อารอนหายไปผมก็ตื่นขึ้นมาในห้องนอนตอนค่ำผมเห็นนาซัสกับทริชกำลังมองผมอย่างเป็นห่วง
“อา...นี่ผมหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย”
“8ชั่วโมงคะท่านฟุก แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
“เปล่าหรอกผมแค่ฝืนตัวเองไปหน่อยนะ”
“ท่านฟาโรห์~~~”เรเน็กวิ่งเข้าผมกอดผมบนเตียงส่วนโนร่าก็ยืนอยู่ข้างเตียง
“ฮือ...ข้าขอโทษนะคะข้าไม่ได้ตั้งใจ ฮึก...ฮึก...”
“ชั้นไม่เป็นไรแล้วละไม่ต้องร้องไห้หรอกมันไม่ใช้ความผิดของเธอนะ”ผมเช็ดน้ำตาให้เรเน็ก
“แง้~~~~~” เฮ้อ...เอาเข้าไป
“โอ๋ๆ...ไม่ต้องร้องหรอก”ผมพยายามปลอบเรเน็กจนในที่สุดเธอก็หยุดร้อง
“เอาละเดี๋ยวชั้นจะไปอาบน้ำสักหน่อย จะไปด้วยมั๊ย”
“ค่า~~~”แล้วเรเน็กก็ลากโนร่าไป”อาบน้ำ”กับผมถ้าคุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร ฮ่าๆๆ
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมก็เร๊ยกนาซัสมาเพื่อถามอะไรสักหน่อย
“นี่นาซัสมานี่หน่อย”
“คะท่านมีอะไรเหรอ”
“คือ...ไอพวกที่แต่งตัวเหมือนผมนะนอกจากRPGแล้วเธอได้เก็บอาวุธอื่นของพวกมันไว้ด้วยรึเปล่า”
“คะข้าเก็บเอาไว้ในห้องสมบัตินะคะ”
“ไหนพาผมไปดูหน่อย”
ผมเดินตามนาซัสเข้าไปในห้องสมบัติที่ผมเคยหยิบRPGมาใช้ พอสังเกตุดูดีๆข้างในนี้มันกว้างมาก
“นี่คะท่าน”นาซีสหยิบปืนAK 74mมาให้ผมดู ผมลองเช็คดูว่ามันยังพอจะใช้ได้รึเปล่า
“AKเหรอ...ก็พอได้...เออ แล้วเธอได้เก็บศพพวกมันไว้รึเปล่า”
“คะข้าได้ทำให้พวกมันกลายเป็นมัมมี่แล้วก็เอาใส่ในโลงเอาไว้”
“แล้วมันอยู่ไหนละผมอยากจะไปดูหน่อย”
“ทางนี้เลยคะ”นาซัสเดินนำผมออกไปที่ห้องเก็บมัมมี่ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องเก็บสมบัติ
นาซัสพาผมไปที่โลงสี่โลงที่ตั้งอยู่ติดกันผมเปิดโลงออกจากนั้นก็แกะผ้าดูปรากฏว่าศพนั้นอยู่ในสภาพที่ใส่กางเกงในตัวเดียวผมจึงถามหาชุดของพวกมัน
“นี่นาซัสเธอเก็บชุดของพวกมันไว้ที่ไหนเหรอ”
“ชุดเหรอคะงั้นมาทางนี้คะ”นาซัสพาผมเดินไปทีห้องเก็บสมบัติอีกครั้งแล้วก็เปิดห้องเก็บชุดเกราะให้ผมดู ภายในนั้นมีชุดเกราะหลายแบบตั้งแต่ชุดแบบธรรมดาๆจนถึงชุดที่ทำด้วยทองทั้งชุดแล้วก็มาถึงที่แขวนชุดของพวกมัน
“นี่คะท่าน”ชุดพวกมันเป็นชุดทหารที่คล้ายๆกับชุดของพวกรัสเซียผมลองดูที่แขนเสื้อก็มีตราของหน่วยSpecnaz ของรัสเซียมิน่าพวกมันถึงยังใช้RPG-7อยู่
ผมค้นหากระสุนสำรองจากชุดของพวกมันและได้กระสุนAKมาทั้งหมด 8แม็กกับระเบิดมืออีกสองลูกพอเสร็จแล้วผมก็เดินออกมาแต่พอผมจะออกจากห้องสมบัติก็มีบางอย่างที่สะดุดตาผมอีกครั้งมันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนแท่นเตี้ยๆพอผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็เห็นว่ากล่องใบนั้นมีกลไกเล็กๆเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
“นี่คืออะไรเหรอนาซัส”
“มันคือยานพาหนะคะ”
“หืม...ยานพาหนะไอกล่องเล็กๆเนี่ยนะ”
“ค่ะท่าน”
“แล้วมันใช้งานยังไง”
“ท่านก็แค่ถือมันเอาไว้แล้วก็คิดถึงยานพาหนะที่ท่านอยากให้มันเป็นแล้วก็บิดกล่องจากนั้นก็โยนมันออกไป”
“แล้วมันกลายเป็นอะไรได้บ้างละ”
“ได้หมดคะไม่ว่าจะเป็นรถม้า เรือ เกวียน หรือแม้แต่พรมวิเศษกล่องนั้นจะเอาต้นแบบมาจากความทรงจำของท่านนะคะ”
ผมเดินออกมาที่ลานกว้างนอกวิหารจากนั้นก็ลองคิดถึงรถ Audi R8เปิดประทุนที่พ่อผมเคยใช้แล้วก็โยนออกไปปรากฏว่ากล่องนั้นแตกออกเป็นชิ้นเล็กจำนวนมากแล้วก็กลับมาประกอบเป็นรถที่ผมคิดไว้
“เจ๋งวะฮ่าๆๆ”
“มันคืออะไรเหรอคะ”
“สิ่งนี้เรียกว่ารถยนต์มันเป็นยานพาหนะในโลกของชั้นนะเออ...นี่นาซัสเธอไปหยิบพวกสมบัติกับปืนมาใส่ไว้ในรถนี่สักหน่อยสิพรุ่งนี้ชั้นจะออกไปข้างนอกหน่อย”
“ได้ค่ะท่าน”แล้วผมก็เดินกลับขึ้นห้องไปนอน
คืนนั้นผมนอนไม่หลับเพราะผมได้แต่คิดเรื่องพลังขั้นสุดท้ายอยู่ตอนเช้ามืดผมเลยตัดสินใจลงไปในโอเอซิสแล้วก็ทดสอบพลัง
พอลงมาถึงผมก็เลือกต้นไม้ต้นนึงแล้วก็เอามือซ้ายจับเอาไว้จากนั้นผมก็คิด
“ผมอยากจะทำลายทุกอย่าง”ทันใดนั้นต้นไม้ต้นนั้นก็แห้งกรอบอย่างรวดเร็วจากนั้นก็แตกกลายเป็นผงคล้ายๆกับเม็ดทราย
“นี่มัน...เจ๋งวะ”
แต่ว่าพอผมกำลังจะกลับผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างอยู่หลังต้นไม้ผมเดินเข้าไปดูจากนั้นก็จัดการดูดความชื้นออกจากต้นไม้นั่นจนมันสลายเป็นผงและคนที่อยู่หลังต้นไม้ก็คือ
“เรเน็ก”
“หวา~~~ ท่านฟาโรห์ ข้าๆ ข้าไม่ได้จะแอบดูนะคะ”
“แล้วนี่เธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่”
“เอ่อ...คือข้า...ข้าแค่ผ่านมาแล้วก็เห็นท่านก็เลยมาดูนะค่ะ”
“อืมๆสรุปก็คือมาแอบดูใช่มั๊ย”
“ไม่ใช่นะคะ!! คือ...ก็...ท่านฟาโรห์อ่ะอย่าแกล้งข้าสิ”
“ฮ่าๆๆเออๆช่างเถอะชั้นไม่ว่าอะไรหรอก เอาละกลับวิหารกันเถอะ”
แล้วผมก็เดินกลับวิหารพร้อมกับเรเน็กพอพระอาทิตย์ขึ้นผมก็ไปอาบน้ำจากนั้นก็เตรียมตัวออกไปเที่ยว หลังจากที่ผมขึ้นรถทริชกับนาซัสก็เริ่มทะเลาะกันอีกแล้ว
“ถอยไปเลยข้าจะไปกับท่านฟุกเอง”
“เจ้านั่นแหละถอยไปยัยหมาบ้าข้าต่างหากที่จะได้ไปกับฟุก”
“แล้วเจ้ามีสิทธิ์อะไรจะได้ไปกับท่านฟุกละ”
“พอแล้ว!! พวกเธอทุกคนอยู่เฝ้าวิหารไว้เดี๋ยวบ่ายๆชั้นจะกลับมา”
“แต่ท่านฟุก...”
“นี่คือคำสั่ง...ทริชเธอด้วย”
ทริชเดินออกไปด้วยท่าทางอารมณ์เสียส่วนนาซัสก็ยังยืนอยู่แบบหง่อย
ผมขับรถออกไปแต่ว่าสักพักผมก็ถอยรถกลับมาหานาซัส
“นี่นาซัส...มานี่ซิ”
“ท่านฟุกจะให้ข้าไปด้วยเหรอคะ”
“เปล่าคือ...ชั้นอยากถามว่าเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ทิศไหนเหรอ”ผมถามไปแบบทำเอานาซัสถึงกับช๊อกไปเลย
“เอ่อ...ไปทางทิศตะวันออก200กิโลแล้วท่านจะเจอเมืองท่าดาก้อนคะ”
“อืมขอบใจนะอย่าเศร้าไปเลยเดี๋ยวชั้นจะซื้อของมาฝาก”
“จริงๆนะคะ”นาซัสร่าเริงขึ้นมาอีกครั้ง
“จริงซิงั้นชั้นก่อนไปนะ”
แล้วผมก็ขับรถไปทางทิศตะวันออกผมขับมาสามชั่วโมงโดยเหยียบมิดคันเร่งในที่สุดผมก็เห็นเมืองดาก้อนเท่าที่ดูมันเป็นเมืองท่าที่ใหญ่มากที่เดียวผมขับรถไปจอดใกล้ๆกับกำแพงเมืองจากนั้นก็เดินเข้าเมืองไป
ภายในเมืองนั้นดูกว้างใหญ่กว่าด้านนอกมากมีร้านค้าและผู้คนมากมายทั้งพวกนักเดินทาง มอนสเตอร์ ทหาร พ่อค้าเร่ เอลฟ์ นักบวช ทหารรับจ้าง หรือแม้แต่ขอทานผมเดินดูไปรอบเมืองเพื่อสนองความอยากหลังจากที่อยู่ในทะเลทรายมาหลายอาทิตย์
หลังจากที่เดินอยู่พักใหญ่ผมก็อยากดูภาพจากมุมสูงบ้างก็เลยตรงไปยังหอคอยใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมืองแล้วปีนขึ้นไปดูตอนนี้ผมกลายเป็นอินคิวบัศไปแล้วบวกกับที่ฝึกมานานทำให้ผมสามารถวิ่งไต่หอคอยขึ้นไปได้ยังกับเกมส์Prototype พอขึ้นมาถึงยอดผมก็ได้เห็นเมืองทั้งเมืองชัดขึ้นเมืองนี้มีแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากทะเลแบ่งเมืองเป็นสองส่วนและสองฝั่งของแม่น้ำก็มีย่านการค้ายาวไปจนถึงทะเลผมลองมองไปรอบๆแล้วผมก็เห็นควันไฟลอยขึ้นมาจากทิศตะวันตก
มาจากทางวิหารวิหารกำลังถูกโจมตีเหรอผมต้องรีบกลับไปตอนแรกผมคิดจะกระโดดลงไปแต่ดันเกิดอาการseoขาซะก่อนเลยลงทางบันไดแทน
ผมรีบวิ่งไปที่รถแล้วก็เหยียบมิดคันเร่งตรงกลับไปยังวิหารแต่ว่าพอผมกลับไปถึงมันก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว...
Chapter 18: END
เป็นไงบ้างครับหนุกไมหนุกก็เม้นหรือไม่ก็กดถูกใจกันหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
บ๊าย~~
[Gray Wolf Legend] Chapter-18