วันที่ 26 เดือน มิทรีด้าปีโรแวเรียสที่ 15
เครื่องย้ายตำแหน่งของคนแคระยังคงไม่น่าใช้เหมือนเดิมไม่ซิต้องบอกว่ามากกว่าเดิมจะดีกว่าหลังจากที่พวกเราออกมาได้ก็วิ่งหาที่อาเจียนแทบไม่ทันเลย พอผมสำรวจรอบๆผมก็รู้ว่าผมไม่ได้อยู่ที่ดินแดนของผมอีกแล้ว ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดทั้งที่ตอนที่ผมมาผมจำได้ว่าเป็นตอนเช้าต้นไม้ดอกไม้ที่บานอยู่ที่นี้ก็ดูน่ากลัวน่าสยดสยองพลังปีศาจก็ปกคลุมอยู่เต็มไปหมดจนผมรู้สึกอิดอัด แต่กับพวกริสดุพวกเธอจะสดชื่นขึ้นมากเท่านี้ผมก็มั่นใจแล้วว่าที่นี้เป็นแดนปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัยยังดีที่ผมกลายเป็นอินคิวบัสไปแล้วเกินครึ่งเลยพอจะทนสภาพอากาศแบบนี้ได้จากแผนที่ผมได้มากจากมอนสเตอร์สาวคนหนึ่งในที่ซ่อนของคนแคระทำให้ผมรู้ว่าพวกเราถูกส่งมาถ้ำตรงชายป่าใกล้ๆเมืองท่าข้ามแดนไปยังท่าเรือแดนของผมได้ พวกเราเลยเดินไปทางไปที่เมืองท่าแห่งนั้นทันทีเมืองท่าแห่งนั้นแทบจะไม่ต่างจากเมืองท่าของดินแดนของผมเลยเพียงแต่ดินแดนแห่งนี้มีมนุษย์และมอนสเตอร์สาวอาศัยอยู่ด้วยกันพวกเราเดินไปพักกันที่ร้านน้ำชาแห่งนี้ภายในเพื่อวางแผนเดินทางภายในดินแดนแห่งนี้ ในระหว่างที่พวกเราเดินอยู่ภายในเมืองท่าแห่งนี้ ผมได้พบกับซัคคิวบัสและลูกชายของช่างตีเหล็กที่พวกเราเคยเจอก่อนหน้านี้ ดูพวกเขาจะดีใจมากที่เห็นพวกเราอีกครั้งพวกเราได้พูดคุยกันอยู่ซักพักพวกเราก็ได้รู้ว่าทั้งสองคนกำลังเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงปราสาทซัคคิวบัสลูกชายของช่างตีเหล็กบอกว่าถ้ามีโอกาสก็ขอเชิญพวกเราให้ไปเยี่ยมที่เมืองของพวกเขาบ้าง พกวเราเลยรับปากไปเมืองปราสาทซัคคิวบิสเหรอน่าสนุกเหมือนกันนะ มารู้ตัวอีกทีพวกเราก็มาอยู่ที่เมืองนี้จนเย็นซะแล้ว เห็นที่พวกเราคงต้องพักเรื่องการเดินทางไปวันพรุ่งนี้ซะแล้วจะว่าไปแสงจันทร์ของดินแดนปีศาจเป็นสีแดงดูหน้ากล้วแต่พอกระทบกับพลังปีศาจก็ส่องประกายระยิบระยับสวยงามและสว่างกว่าตอนกลางวันซะอีก
ป.ล.ผมรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมาทางผมตั้งแต่ที่ผมเข้ามาในเมืองท่าแดนปีศาจ ผมรู้ว่ามาจากมอนสเตอร์สาวคนหนึ่งแต่ผมไม่รู้ว่ามาจากใหน ทำไมกันนะ ผมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับสายตานี้เหลือเกินนะ
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 107