วันที่ 27 เดือน 5 ปี พ.ศ. 2567
ในคืนวันที่ 23 นั้น ผมฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง น่าแปลกที่ถึงแม้จะเป็นความฝันแต่ผมกับสามารถขยับและรู้ได้ว่าผมกำลังฝันอยู่ผมจึงมองไปยังหญิงสาวที่กำลังล่องลอยอยู่เบื้องหน้าของผม ใช่ เธอไม่ใช้มนุษย์แต่เธอคือซัคคิวบัส ซึ่งเธเป็นซัคคิวบัสที่ผมยอมรับว่าเธอสวยมากและมีบางจุดที่แตกต่างไปจากซัคคิวบัสทั่วไปจากข้อมูลที่อ่านเจอจากหนังสือ เธอมีผมกับปีกและหางเป็นสีขาวเผือกบริสุทธิ์เขาของเธอนั้นมีสีดำสนิท ดั่งชุดคลุมซึ่งประดับอย่างสวยงามที่เธอสวมใส่อยู่และเปิดเน้นให้เห็นร่องอกของเธออย่างเย้ายวนเพื่อให้เห็นว่าเธอไม่ได้ใส่ยกทรง นอกจากกางเกงในวาบหวิวของเธอที่เหลือก็มีเพียงแค่ถุงน่องสีดำยาวถึงต้นขาและถุงมือสีดำที่ยาวเข้าไปในปกแขนเสื้อคลุมของเธอแต่ที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็นลอยยิ้มที่แสนเย้ายวนกับในตาสีแดงส้มที่อยู่บนใบหน้ารูปเรียวไข่ของเธอโดยปกติแล้ว ซัคคิวบัสมักจะมาเข้าฝันผู้ชายและ*censor*เพื่อสูบเอาพลังวิญญาณแต่เธอที่อยู่ตรงหน้าผมไม่ได้ทำเช่นนั้น ผมจึงถามว่าต้องการอะไร เธอจึงหัวเราะและบอกว่าอยากจะเห็นตัวผมซึ่งเป็นผู้ที่ทำลายกองทัพทั้งกองทัพของพวกดิออเดอร์ด้วยเวลาไม่ถึง10 นาทีซึ่งเธอก็อดตกใจไม่น้อยที่ผมนั้นเป็นมนุษย์ซึ่งทีแรกนั้นคิดว่าเป็นอินคิวบัสระดับสูงซะอีก ผมจึงกล่าวยืนยันว่าผมนั้นมนุษย์ 100%ซึ่งเธอก็หัวเราะและพูดว่ารู้แล้วเพราะแทบจะไม่สามารถสัมผัสได้พลังปีศาจในตัวของผมเลยนอกจากพลังวิญญาณที่มีอยู่อย่างมหาศาลจนเธอนั้นตกใจเลยทีเดียวในตอนที่สัมผัสได้ถึงมันเธอกล่าวขอบคุณที่ช่วยไล่กองทัพของดิออเดอร์ออกไปให้ แต่ในคราวหลังขออยากจะให้เกิดการสูญเสียน้อยลงกว่านี้เธอไม่อยากให้มันสูญเสียมากจนเกินไปเหมือนคราวนี้ เพราะถึงแม้จะเป็นสงคราม แต่พวกเธอก็ไม่อยากให้มนุษย์นั้นต้องเกิดความสูญเสียด้วยเช่นกันผมก็ตอบว่าจะพยายาม เพราะครั้งนี้มันฉุนจริงๆเลยระงับอารมณ์ไม่อยู่เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะขอให้ผมช่วยเธอเรื่องหนึ่งให้หน่อย เธอบอกว่าอยากให้ผมช่วยหยุดความทะเยอทะยานของแวมไพร์สาวตนหนึ่งซึ่งในอยู่ในฝั่งแดนปีศาจหรือก็คือในปราสาทเมืองตรงข้ามของหุบเหวนั้นเองเธอบอกว่ามีมนุษย์ที่เกลียดชังมอนสเตอร์ ก็ย่อมต้องมีมอนสเตอร์ที่เกลียดชังมนุษย์อยู่ด้วยเช่นเดียวกันโดยเธอของว่าอย่าให้เกิดการสูญเสียเลยก็จะยิ่งดี แต่หลักๆนั้นอยากให้ผมช่วยหยุดเธอโดยก่อนที่เธอจะจากไป ผมก็ถามไปว่าเธอคือใครเพราะผมรู้สึกว่าเธอนั้นไม่ใช่ซัคคิวบัสธรรมดาเธอก็หัวเราะแล้วกล่าวว่าหลายคนเรียกพวกเธอที่รูปร่างเหมือนกันโดยรวมๆว่า ลิลิม เป็นเหล่าลูกสาวของจอมมาร
ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่24 อย่างนึกแปลกใจไม่ใช้เพราะเรื่องของลิลิมที่เป็นลูกสาวของจอมมาร แต่เป็นเพราะรอบๆตัวผมนั้นมีร่างของสาวๆทั้งหกของผมนอนหลับใหลกันอยู่บนเตียงทั้งๆที่เมื่อคืนนี้ผมจำได้ว่าผมนั้นเช่าแยกห้องเพื่อนอนเดี่ยวและพอพวกเธอตื่นขึ้นมา ผมจึงถามว่ามานอนกับผมได้ยังไง ไม่ได้กลัวผมกันหรอกหรือพวกเธอก็ตอบว่าหายกลัวแล้วและอยากจะกล่าวขอโทษที่ดันกลัวผมด้วย ทั้งที่ผมนั้นทำไปเพราะเพื่อมอนสเตอร์อย่างพวกเธอผมเองก็กล่าวขอโทษพวกเธอที่ผมนั้นทำให้พวกเธอนั้นรู้สึกกลัวและสัญญาว่าจะพยายามควบคุมความโกรธของตัวเองให้ดีขึ้น เพราะไม่อยากให้ผู้หญิงที่รักของผมนั้นกลัวซึ่งดูเหมือนคำปากหวานของผมนั้นจะทำให้พวกเธอนั้นยิ้มและพากันรุมจูบผมแน่นอนสิครับงานนี้จะเหลืออะไรนอกจาก*censor*กับพวกเธอกันแบบหามรุ่งหามค่ำนับ 3 วัน 3 คืนกับอีกครึ่งวันโดยไม่ทานอะไรกันเลย ไม่รู้ว่าพวกเธออยู่กันได้ไงแต่ผมนั้นเคยอดอาหารเป็นเดือนเพื่อซื้อเครื่องเกมมาแล้ว แค่นี้หมูๆ(เด็กดีไม่ควรลอกเลียนแบบ)การ*censor*ที่ยาวนานในครั้งนี้นับเป็นการ*censor*ที่ทำให้ผมนั้นมีความสุขที่สุดเท่าที่เคย*censor*กับพวกเธอทุกๆครั้งมา จนในวันที่ 27 นี้นั้นพวกเราก็มานอนกันอยู่ในสภาพที่ไมกับทานุกิจังนอนกอดแขนผมทั้งสองข้าง เนเน่กับมอสนอนหนุนไหลทั้งสองข้างของผมส่วนโนมกับพิงค์นั้นยังคงช่วยกันใช้ปาก*censor*ผมอย่างไม่รู้หยุด ซึ่งสาวๆของผมทุกคนนั้นยิ้มกันอย่างเอ่อสุขโดยยังคงมี*censor*ไหลทะลักออกมาจาก*censor*ของพวกเธอเหมือนเช่นเคยซึ่งดูเหมือนรอบนี้จะเยอะกว่าครั้งที่ผ่านๆมามากเสียด้วย แน่นอนครับห้องที่ผมกะจะนอนเงียบจึงไม่ได้เขียนอักขระเวทย์เพื่อเก็บเสียงแถมเตียงยังเป็นเตียงแบบธรรมดา จึงหักกลางและตามด้วยขาทั้งสี่ของมันไปตามระเบียบ ทำเอาตอนเย็นตอนที่พากันลงไปกินข้าวนั้นมีคนหันมามองกันเป็นแถบๆโดยเฉพาะเหล่ามอนสเตอร์สาวๆที่ยังไม่มีสามีแถมเจ้าของบาร์นั้นยังหัวเราะออกมาอย่างขำขันพลางแซวผมว่าระวังจะฟ้าเหลืองเอาผมก็ตอบกับไปว่า ถ้าจะเหลืองก็ให้มันรู้ไป มื้อเย็นวันนี้ เจ้าของโรงแรมนั้นเลี้ยงผมในกรณีพิเศษเป็นการขอบคุณที่ช่วยทำให้พวกดิออเดอร์นั้นหายไปจากเมืองแถมยังยังไม่คิดค่าเสียหายของเตียงที่พังไปด้วย เฮอะๆดูแกนี่ใจดีเกินคาดผิดกับรูปลักษณ์ที่ออกจะดูเป็นลุงโหดไปเลย
(18+)บันทึกการเดินทางของนายสีชาด 27