วันที่ 28 เดือน 5 ปี พ.ศ. 2567
วันนี้จะเป็นวันที่ผมต้องไปจัดการกับด้านของเมืองแวมไพร์ในฝั่งแดนปีศาจในคืนผ่านมานั้นผมได้คุยเกี่ยวกับเรื่องของลิลิมให้กับทั้งห้าสาวฟัง ดูเหมือนว่าไมเนเน่และทานุกิจังนั้นจะดูตกใจมากเมื่อผมพูดถึงเธอ จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก็ลิลิมเป็นถึงลูกสาวของจอมมารเลยนี่ ซึ่งผมก็บอกว่าต้องไปจัดการเรื่องตามคำร้องของเธอจึงอยากจะขอให้พวกเธอนั้นอยู่ที่นี่สักพักเพราะผมอยากจะคุยกับแวมไพร์สาวที่เป้าหมายในครั้งนี้แบบตัวต่อตัวซึ่งพวกเธอก็ตอบตกลง แถมทานุกิจังยังแซวเล่นๆอีกว่าอย่างไปเอาแต่หลงสาวคนใหม่จนลืมพวกเธอล่ะ ฮะๆๆ ผมไม่มีทางลืมสาวๆที่รักของผมหรอกแต่ถ้าจะหาคนรักมาเพิ่มนั้นก็ไม่แน่ เมื่อยามเช้ามาเยือน ผมก็จึงเดินข้ามสะพานไปยังฝากตรงข้ามในทันทีซึ่งสะพานนั้นเป็นสะพายที่สร้างจากเงิน ตกแต่งด้วยหินปูนและยาวเอามากๆ ความกว้างนั้นมากพอที่จะให้รถเกวียน4 คันวิ่งไปพร้อมๆกันได้สบาย ผมใช้เวลาในการเดินข้ามฝากนานเกือบ15 นาที ก็มาถึงเขตแดนปีศาจที่มีเมฆสีดำซึ่งบดบังดวงอาทิตย์จนหมดจรดแต่เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในเมืองฝั่งแดนปีศาจไม่ทันไร ผมก็ถูกจู่โจมโดยแวมไพร์สาวที่เป็นลูกสมุนทันทีผมดูออกได้อย่างไรนั้น เพราะพวกเธอนั้นแต่งตัวแบบสาวใช้แถมที่คอของพวกเธอนั้นมีรอยของเขี้ยวอยู่ผมนั้นสามารถฝ่าวงล้อมของพวกเธอไปจนถึงตัวปราสาทได้อย่างสบายๆซึ่งภายในปราสาทเองผมก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีแผ่นผังเป็นยังไงผมจึงใช้วิธีไล่เปิดมันซะทุกประตูห้องที่เจอทั้งหมด โดยเหมือนกับเข้าไปวิ่งเปิดประตูบ้านคนอื่นเล่นใช่เวลานานพอสมควร ผมก็เจอกับห้องที่เป็นเหมือนทางเดินยาวโดยที่สุดทางเดินนั้นเป็นบัลลังก์ที่มีร่างของหญิงสาวผมสั่นทองบอนนัยน์ตาคมแดง มีสัดส่วนแบบสาวงามแดนผู้ดี ในชุดผ้าคลุมขุนนางปกคอสูงหรูหราโอ่อ่าสีดำแกมแดงซึ่งเธอนั้นกำลังนั่งดื่มเลือดที่อยู่ภายในแก้วไวน์อย่างมาดนิ่งก่อนจะลุกขึ้นพูดกล่าวว่าที่ผมเป็นมนุษย์ริอาจท้าทายเธอแน่นอนว่าผมไม่ใช้พวกชอบฟังคำบ่นจึงดียาที่เตรียมเอาไว้พุ่งเข้าไปในปากเธออย่างรวดเร็วเธอต้องยอมจำกลืนมันลงไปอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้ซึ่งเธอนั้นตกใจมากและร้องโวยวายยกใหญ่ เพียงแค่ครู่เดียว ยาผมก็เริ่มออกฤทธิ์โดยผลของมันทำให้เธอหน้าแดง ทรุดตัวลงพลางใช้มีกอดรัดตัวเองและหอบหายใจเหมือนคนหื่น เธอจึงร้องถามผมว่ายาที่ให้กลืนเข้าไปเป็นยาอะไร แน่นอนว่ายาที่ให้เธอกินเข้าไปนั้นเป็นยาอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากยากระตุ้นอารมณ์หื่นแบบรุนแรงหรือก็คือยาปลุก*censor*อย่างแรงนั้นเอง เมื่อเธอทราบก็ร้องโวยวายด่าทอออกมาอีกยกผมก็จัดไปอีกเม็ด แน่นอนว่าเธอต้องกลืนมันไปอย่างจำใจโดยฝืนไม่ได้นั้นเพราะผมรู้จุดที่จะดีดเข้าไปแล้วเหยื่อจะกลืนยาลงไปในทันทีนะสิแต่ก่อนเมื่อตอนที่ผมยังไม่มาที่โลกนี้ ใช้ว่าผมอยากจะต่อยใครก็ต่อยในเวลาที่โดนจิ๊กโก๋เข้ามาหาเรื่องซึ่งผมนั้นมักจะพกยาถ่ายเม็ดชนิดรุนแรงเอาไว้ตลอดเวลาเอาไว้ตอนเจอพวกปากมากก็จะดีใส่จนชินมือ เหมือเธอนั้นจะพยายามต้านฤทธิ์ยาอย่างสุดความสามารถผมจึงถามสิ่งที่สงสัย ว่าเธอไปนำตัวของผู้หญิงมาทำเป็นสาวใช้ตั้งมากมายจากไหนซึ่งถามครั้งแรกเธอนั้นไม่ตอบแล้วร้องด่าผม ผมจึงจัดดีดยาเข้าไปอีกเม็ดผมล่ะเชื่อซะจริงๆ ว่าแวมไพร์ตนนี้มีความอดทนสูงมาก ขนาดโดนยาปลุก*censor*อย่างแรงไปถึง 3เม็ดแล้วยังอดทนและไม่แสดงท่าทีว่าจะยอมผมง่ายๆเลยสักนิดผมจึงบอกไปว่าถ้าไม่ตอบก็ไม่เป็นไร และถามไปอีกว่าทำไมจึงเกลียดผู้ชายซึ่งปฏิกิริยาของเธอที่แสดงออกมานั้นทำให้รู้ว่าผมมาถูกทางไม่ต้องแปลกใจว่าผมรู้ได้อย่างไรว่าเธอเกลียดผู้ชาย ผมก็แค่มองและคิด วิเคราะห์แยกแยะแบบง่ายๆก่อนจะสุ่มถาม และดูว่าเธอแสดงอาการออกมายังไงซึ่งถ้าหากไม่ใช่ก็ค่อยเปลี่ยนเรื่อง แต่เมื่อมาถูกทางผมจึงกล่าวถามย้ำโดยยกเอายาอีกเม็ดขึ้นมาโชว์ขู่เธอจึงจำใจเล่าเรื่องทั้งหมดผมจึงทราบว่าในชีวิตเธอนั้นไม่ได้รับความสนใจจากแม่ของเธอเลยเพราะแม่ของเธอนั้นเอาแต่*censor*กับผู้เป็นพ่อซึ่งนานวันเข้าเธอจึงเริ่มเกลียดผู้ชายและมองว่าผู้ชายนั้นเป็นเพียงแหล่งอาหารเท่านั้น ผมที่ได้ฟังก็ไม่รู้จะจัดการยังไงเพราะท่าพลาดแล้วเธออาจจะเกลียดผู้ชายหนักกว่าเก่าแต่หากแก้ปัญหาจุดนี้ได้ก็น่าจะทำให้เธอหยุดเกลียดมนุษย์(ผู้ชาย)ได้ผมจึงเสนอไปว่าให้มาลองกับผมไหม จะได้รู้ว่าแม่เธอนั้นรู้สึกยังไง ซึ่งเธอนั้นออกอาการต่อต้านทันทีแต่ผมแบกพาเธอไปที่ห้องนอนที่อยู่ใกล้ๆแล้วขังตัวผมกับเธอเอาไว้ภายในงานนี้ผมจะไม่รุกเธอ แต่จะปล่อยให้เธอนั้นทนไม่ไหวแล้วเป็นฝ่ายรุกผมด้วยตัวของเธอเองซึ่งทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กลับเวลาเท่านั้น
(18+)บันทึกการเดินทางของนายสีชาด 28