วันที่ 4 เดือนกราฟีเวีย ปีโรแวเรียสที่ 15
2วันต่อมาพวกเราลงจากเขาพวกเราก็เดินตรงไปถึงทางแยกที่แยกไประหว่างปราสาทของแวมไพร์กับป่าหนวดระยาง แน่นอนว่าผมขอเลือกไปปราสาทของแวมไพร์อย่างไม่ต้องสงสัยถึงพวกริสจะขอแวะป่าหนวดระยางก็เถอะแต่ผมไม่มีทางเข้าไปไกล้ป่าน่าสยองพองขนนั้นเด็ดขาดแค่คิดถึงสภาพป่าตอนนี้ผมยังสยองไม่หายเลย พวกริสพยายามขอผม อ้อนผมแต่ผมก็บอกกับพวกเธอว่าผมไม่อยากให้พวกเธอโดนฝังเมล็ดของโรเปอร์ในตัวถึงจะไม่มีหลักฐานว่ามอนสเตอร์เคยถูกฝังเมล็ดของโรเปอร์ในตัว แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดีแต่หลังจากที่โดนพวกเธออ้อนอยู่นานรวมถึงพลังปีศาจในร่างทำพิษอีกแล้วผมเลยใจอ่อนบอกว่าถ้าการเดินจบลงผมแวบมาที่นี้ก็ได้แต่แค่รอบนอกป่าเท่านั้น ซึ่งพวกเธอตกลงทันที ตอนนี้ยังนึกเสียใจไม่หายเลยจริงๆ นะหลังจากที่พวกเราเดินทางต่อไม่น่าก็มาถึงปราสาทแวมไพย์ ปราสาทแห่งนี้เป็นสีดำสนิดดูน่ากลัวอยุ่เหมือนกันแต่เพราะผมเริ่มชิ่นกับสภาพแดนปีศาจแล้วละมั้ง หรือไม่ก็เพราะผมจะกลายเป็นอิกคิวบัสอยู่แล้วเลยไม่รู้สึกกลัวเท่าไหร่ ที่นั้นพวกเราได้พบแวมไพย์สาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่นี้เธอเป็นหญิงสาวสั้นสีทอง ดวงตาสีแดงดังโลหิตน่าเกรงขาม ในชุดสีดำเธอออกมาต้อนรับพวกเราลิลิสบอกกับผมว่าแวมไพย์คนนี้เป็นเพื่อนสนิทกับพี่สาวของเธอคนนึงจะว่าไปผมไม่เคยถามลิลิสเลยแหะว่าเธอมีพี่น้อยกี่คน เอาไว้วางผมเคยถามก็แล้วกันระหว่างที่คุยกันผมรู้สึกว่ามีใครแอบมองอยู่ตลอดจนแวมไพร์ที่เป้นเจ้าของปราสาทเรียกมานั้นแหละผมถึงได้รู้ว่าคนแอบมองอยู่คือลูกสาวคนนึงของเธอ รู้สึกว่าจะชื่อไอริน ละมั้งนะจะว่าไปก็สวยไม่แพ้แม่ของเธอเหมือนกันนะถ้าหากว่าไม่โดนสายตาเหยียดหยามที่ส่งมาทางผมกับชินนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะถึงผมกำลังจะกลายเป็นอิกคิวบัสแต่ก้ยังไม่เป้นอยุ๋ ชินนี้ยิ่งไม่ได้พุดถึงเลยเพราะร่างกายพึงจะเริ่มกลายเป็นอิกคิวบิสเองท่านแวมไพย์เจ้าของปราสาทให้พวกเราพักที่นี้ได้คืนนึงผมเลยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกมอนสเตอร์จากข้างนอกดจมตีไปพักอะนะ คงต้องจบบันทึกวันนี้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับเพราะดูเหมือนจะมีคนมาเคาะที่หน้าประตูผมซะแล้วแต่ใครกันนะที่มาตอนดึกๆ แบบนี้นะ
(Fic. MGE)บันทึกการเดินทางของจิ้งจอกขาว 113