Chapter 6 Confession of a Sins
ปล.อาจจะยาวหน่อยนะครับ เนื่องจากต้องใช้เวลานานในการนำเรื่องราวปะติดปะต่อกัน
เหตุการณ์เริ่มกลับมาสงบลงอย่างปกติ หลังจากที่ทางกรมตำรวจญี่ปุ่นได้รายงานว่า ขณะนี้ทางกรมเองได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ในห้างพบว่า ไม่พบวัตถุอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนทางด้านฮาเรสเอง ก็ได้พบกับหลักฐานชิ้นสำคัญบางอย่าง ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ เคออส ได้หลบหนีไปยังที่ปลอดภัยแล้ว....
"รู้สึกว่า เราจะมาช้านะ" มิโกะ วิ่งขึ้นมายังจุดที่เคออสหลบหนีมา หลังจากที่เธอนั้นได้สะกดรอยตามเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว...
"ไม่หรอก....ฉันคิดว่า เราได้หลักฐานชิ้นใหม่แล้วล่ะ!" ฮาเรส สังเกตไปบนพื้น พบว่า มีรอยเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก...
ฮาเรส กับ มิโกะ เริ่มเข้าไปตรวจสอบรอยเลือดทันที อย่างไม่รอช้า
"ดูเหมือนว่า จะไม่ใช่แค่ เจ้านั่น อย่างเดียวสินะ...." มิโกะ เริ่มตรวจสอบรอยเลือดที่อยู่บนพื้น ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วเธอก็ได้บอกอะไรบางอย่าง
"เธอกำลังจะบอกอะไรให้กับฉัน?"
"....."
มิโกะ ไม่ตอบคำถามอะไรกับ ฮาเรส เพียงแต่เธอยื่นเอกสารอะไรบางอย่างให้กับ ฮาเรส
"เอกสาร?" ฮาเรส ทำหน้างงๆ ก่อนที่จะรับมาจาก มิโกะ และเขาก็ต้องถึงกับตกตะลึง
"นี่....มัน...ไม่น่าเชื่อ." ฮาเรส ตกตะลึงกับภาพที่เขากำลังถืออยู่ เป็นภาพของศพที่ถูกฆ่าไปเมื่อ 7 วันก่อน ที่ถูกพบที่ ห้องอพาตท์เมนต์แห่งหนึ่ง
"รอยเลือดนี่...เป็นรอยเดียวกับ รอยมีดนั้น!"
"ใช่แล้วล่ะ!"
ฮาเรส หันไปสังเกตตรงที่ รอยมีดที่อยู่ตรงราวดาดฟ้าซึ่งเป็น รอยเดียวกับ รอยแผลของศพที่ถูกฆ่าไปเมื่อ 7 วันก่อน
"รอยมีดนั้นดูจากสภาพแล้ว คงจะเป็นมีดที่ยาวไม่เบาเลยนะ..."
หลังจากที่ตรวจสอบหลักฐานจนเรียบร้อยแล้ว มิโกะ ก็ได้ทำการเก็บหลักฐานต่างๆ เอาไว้ เพื่อนำไปใช้มัดตัวคนร้ายต่อไป...
_______________________________________________________________________________________________________________________
หลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ก็เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งนั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ เคออสนั้นได้กลับไปเรียนที่โรงเรียนอีกครั้ง
หลังจากที่เขานั้น ไม่ได้เข้ามาที่โรงเรียนเลยประมาณ 5 วัน
"ไง! เพื่อน!" จอหน์นี่ กล่าวทักทายเคออส ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส หลังจากที่เขากับ เคออส ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 5 วัน
"อืม."
"จริงสิ! ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่า เหตุการณ์ก่อจลาจลนั้น เริ่มมีบ่อยขึ้นแล้วนะ...ว่ามั้ย?"
จอหน์นี่ พูดขึ้นมาพร้อมกับ ทำสีหน้าที่ดูรู้สึกหดหู่เล็กน้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงเวลาเรียน
"เอาล่ะๆ เริ่มเข้าเรียนกันได้แล้ว!" อาจารย์สาว เดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดผิดปกติ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนนั้นเธอมักจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอๆ
เคออส เริ่มรู้ตัวแล้วว่า สิ่งที่เขาทำนั้นได้ส่งผลทำให้ผู้คนบางส่วนนั้นถึงกับหวาดกลัว บางคนถึงขั้นกับหวั่นวิตกกังวล จนต้องถึงขั้นย้ายถิ่นฐานไปเลยก็มี
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นวิตกอะไรไปมากกว่า การที่เขาถูก Serpent ลอบสังหารโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
อาจาร์ยสาว เริ่มสอนนักเรียนตามปกติเหมือนเดิมทุกๆ วัน แต่วันนี้ เธอกลับรู้สึกแปลกใจที่ เคออส นั้นเข้ามาเรียนด้วยซึ่งนับว่าแปลกมากที่ว่า หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนนั้นเขาก็ไม่ได้ เข้ามาให้เธอเห็นหน้าอีกเลย แม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม...
"ฉันว่า อยู่ที่นี่นานๆ ก็น่าเบื่อเหมือนกันแฮะ."
"ก็คงงั้น"
จอหน์นี่ พูดถึงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับโรงเรียนของเขา ตั้งแต่เรื่องของ ชีวิตประจำวัน การเรียน เหตุการณ์ก่อจลาจลต่างๆ ไปจนถึง เรื่องงานส่วนตัวของเขาเอง ก่อนที่เขาจะเริ่มเปลี่ยนเรื่องไปถาม เคออส เกี่ยวกับ การหายตัวไปของเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
"นายหายหัวไปไหนมาล่ะ? เพื่อน." จอหนนี่ เริ่มถาม
เคออส เริ่มเงียบ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมา
"เรื่องงานน่ะ เหมือนกับนายนั่นแหละนะ"
"เฮ้! นี่นายคิดว่าฉันโง่มากรึไง ที่ฉันจะไม่รู้ว่านายไปทำอะไรน่ะ" จอหน์นี่ เริ่มพูดเสียงดังขึ้น ในขณะที่ เคออส บอกให้เขาพยายามลดเสียงลง
"เมื่อ 3 วันก่อน ฉันเห็นชายคนหนึ่งกำลัง วิ่งตามตำรวจคนหนึ่งไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฉันเดินออกมาซื้อของพอดี...ฉันอยากรู้ว่า นายทำงานอะไร?"
เคออส อึ้งกับคำพูดของ จอนห์นี่ ไปสักพักก่อนที่เขาจะเริ่มถามออกไปว่า
"นายรู้ได้ไง?"
"ก็ฉันเห็นกับตานี่! ว่ามีชายใส่หน้ากากแก๊ส กำลังวิ่งตามตำรวจอยู่ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะยอมมอบตัวซะ!"
ทั้งสองรีบตัดบทสนทนาลง ก่อนที่ อาจาร์ยสาว จะเริ่มมองไปที่พวกเขา...
"ฉันคิดว่า นั้นเป็นความคิดที่ไร้ประโยชน์" เคออส โต้แย้งคำพูดของจอหน์นี่
"ตำรวจนั้นน่ะ เขาเป็นเพียงแค่คนที่ต้องการพยายามล่าฉันก็เท่านั้น"
"ล่าเหรอ? นี่นายเป็นหน่วยสืบราชการลับเหมือนในหนังรึไง?" จอหน์นี่ กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ
"ก็ไม่เชิง." เคออส หยักไหล่
ในขณะที่ห้องเรียนกำลังดำเนินไปอย่างเรียบๆ จู่ๆ ก็ได้มีเสียงระเบิดก็ได้ดังขึ้นมา ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นครั้งใหญ่ ซึ่งก็เหมือนกับทุกๆ ครั้ง
แต่ทว่า ครั้งนี้ กลับเลวร้ายกว่าที่เขาคิด....
เคออส และ จอหน์นี่ รีบวิ่งไปดูยังที่เกิดเหตุทันที โดยในขณะนั้นเอง อาจาร์ยสาว ก็ได้บอกให้เด็กทุกคน รีบหนีไปยังที่ปลอดภัยก่อน
"อาจาร์ยครับ! ฝากดูแลพวกเขาด้วยนะครับ."
"โอเค!"
จอหน์นี่ รีบวิ่งตาม เคออส ไปเพราะเกรงว่า อาจเกิดอันตรายกับเขาได้...
_______________________________________________________________________________________________________________________
หลังจากที่พวกเขาวิ่งมาถึงลานสนาม เคออสก็ต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือ คนขององค์กร S.I.C ที่กำลังตามล่าตัวเขาอยู่เป็นเวลามากกว่า 3 เดือน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่ประหลาดใจเท่ากับ คนที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขา ที่มาพร้อมกับปืนรีวอลโว่ไม่ทราบรุ่น ซึ่งน่าจะเป็น ปืนที่ถูกผลิตขึ้นมาจากฝีมือขององค์กรเขาเอง...
"ไง! ไม่ได้เจอกันนานนะ..." แมนทัส กล่าวคำทักทายด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วย ความพยาบาทและความแค้นของตน...
"แกเองก็ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ" เคออส กล่าวขึ้นหลังจากที่เขานั้น ได้พบกับ แมนทัสเป็นครั้งแรก ด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งพอๆ กับเขา
"ใช่! คงงั้น"
"อุตส่าห์ ถ่อมาถึงนี่ ไม่คิดจะมาชิมราเม็งกันบ้างหน่อยเหรอ?"
"ไม่หรอก....ฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่น่ะ..."
"งั้นแสดงว่า อยู่ที่นั้นคงจะชอบสเต็กมากกว่าสินะ..."
แมนทัส เงียบไปสักพัก ก่อนที่จะเริ่มเล็งปืนไปที่ เคออส พร้อมเหนี่ยวไก
"ไม่ล่ะ! ฉันก็ไม่ชอบสเต็กเหมือนกัน."
"แต่ว่า ฉันชอบที่จะเห็นแกนอนทรมานว่ะ!"
แมนทัส ไม่รอช้าเริ่มเหนี่ยวไกยิงไปที่เคออส ก่อนเป็นนัดแรก ซึ่งตอนนั้น เคออสก็กะจังหวะไว้พอดี กระสุนนัดนั้นจึงเลยพลาดไปโดนที่กำแพงโรงเรียน
"ถ้าอย่างนั้นก็คงจะยากหน่อยนะ!"
เคออส รีบเบี่ยงตัวหลบกระสุนทันที จากนั้นก็เริ่มหาทางประชิดตัว แมนทัส ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ โดยเริ่มจากวิ่งหลบกระสุนไปเรื่อยๆ เพื่ออาศัยจังหวะที่แมนทัส กำลังใส่กระสุน ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเป็นแผนธรรมดาๆ แต่ทว่า เขาเองก็ยังไม่รู้สึกมั่นใจมากนัก แมนทัส ถึงจะเป็นหัวหน้าองค์กร ที่ดูแล้วเป็นคนที่ชอบสั่งลูกน้อง แต่ทว่า ฝีมือของเขาเอง
ก็ถือว่า อยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่า "เครื่องจักรสังหาร" เลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน จอหน์นี่ก็วิ่งมาถึงจนได้ รีบเอาอาวุธของตนเองออกมา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ มีดสั้นของนินจากในยุคสมัยก่อน แต่แตกต่างกันตรงที่ อาวุธของจอหน์นี่นั้นเป็น อาวุธที่สามารถโจมตีได้ทั้งในระยะประชิด และ ระยะไกล นอกจากนั้นแล้วยังใช้เป็นเชือกที่สามารถพาตัวเองขึ้นไปยังจุดตามที่ตัวเองต้องการอีกด้วย
จอหน์นี่ เริ่มผ่อนลมหายใจตัวเอง พยายามทำใจให้ปลอดโปร่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้อาวุธของตัวเอง สังหารชายในชุดทหาร ที่ข้างหลังเขียนไว้ว่า "S.I.C" ซึ่งในระยะเผาขนพอดี
"ฉันขอโทษด้วยนะ...อโหสิให้ด้วยก็ละกัน" จอหน์นี่ กล่าวคำอำลาพร้อมกับ เก็บอาวุธของตัวเองเข้าในแขนเสื้อ ก่อนที่จะปล่อยให้ทหารคนนั้น นอนจมกองเลือดและ
จอหน์นี่ วิ่งมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขามาถึงบริเวณลานกว้างในโรงเรียน ซึ่งเป็นจุดที่เคออส กับ แมนทัสนั้นกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด...
"เฮ้! เคออ-" จอหน์นี่ หยุดชะงักลงทันที หลังจากที่เขานั้นถูกใครบางคนขัดขวางเขาในระหว่างที่ตัวเองกำลังจะวิ่งเข้าไปช่วย เคออส
"แกน่ะ ฝีมือใช้ได้นี่!" นินจาสาว ได้ปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากที่ เธอได้จัดการ เลโอพาร์ด ไปเรียบร้อยแล้ว โดยในคราวนี้เธอมาพร้อมกับ ดาบคาตานะคู่ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอพบดาบคาตานะมาเพียงแค่ เล่มเดียวเท่านั้น
"เธอเองสินะ...ที่จัดการกับพวกเขา" จอหน์นี่ มองไปที่นินจาสาว ด้วยสายตาโกรธแค้น พร้อมกับนํ้าเสียงที่ดูจริงจังราวกับเป็นคนละคน
"ฉลาดดีนี่ แต่ว่านั้นไม่ใช่ฝีมือของฉันหรอกนะ นายควรจะไปโทษเจ้านั้นซะมากกว่า" นินจาสาว พูดขึ้น พลางชำเลืองไปที่ เคออสที่ตอนนี้เริ่มที่จะหมดแรง ในการต่อสู้กับ แมนทัส
"ไม่หรอก...เขาไม่ผิด." จอหน์นี่ พูดโต้แย้งขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย
"ว่าไงนะ?"
"ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างที่ฉันคิดเอาไว้"
"งั้นเหรอ? แสดงว่า นายเองก็คิดเหมือนกับที่ฉันคิดใช่มั้ยล่ะ?"
นินจาสาว พูดพร้อมเริ่มเดินเข้ามาหา จอหน์นี่ อย่างช้าๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้า จอหน์นี่
"ใช่! เขาคือ ผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในรายชื่อ 10 อันดับ ผู้ก่อการร้ายที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก ซึ่งเขาเองก็อยู่ในอันดับที่ 3"
นินจาสาว เริ่มพูดเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับตัวของเธอเองและ เคออส ตั้งแต่ตอนที่เข้าเป็น คนขององค์กร S.I.C จนกระทั่งช่วงที่เขาหลบหนีออกมา
"ก็อย่างที่ฉันเล่ามานี่ล่ะ!" นินจาสาว นั่งขัดสมาธิแล้วมองไปที่ จอหน์นี่ หลังจากที่เธอยืนเล่ามาได้เกือบประมาณ 30 นาที
จอหน์นี่ นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา...
"แล้วเธอไม่คิดจะสู้กับฉันงั้นเหรอ?" จอหน์นี่ ถามคำถามกับ นินจาสาว ในขณะที่เขานั้นเริ่มที่จะเอาอาวุธของตัวเองออกมา
"สู้เหรอ? สำหรับฉันไม่จำเป็นหรอก..."
"ทำไม?"
"เพราะก่อนที่ฉันจะฆ่านายน่ะ....ฉันอยากจะขอลองรสชาติของ เจ้าหนูนั่นของนายหน่อย ยังไงล่ะ!"
นินจาสาว โพล่งขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด ก่อนที่เธอจะหลบหน้าไปเพื่อปกปิดความอายของตนเอง
(น่าน! เริ่มแล้วไง! ฉากหื่นๆ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก! : คนเขียน)
"เฮ้ย!! พูดบ้าอะไรของเธอน่ะ! หน้าสิ่งหน้าขวานขนาดนี้ ยังจะมาเล่น....อะไรแบบนี้อีกเหรอ!!?"
จอหน์นี่ พยายามพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ถึงแม้ว่าหน้าของเขาจะเริ่มแดงขึ้นเพราะความเขินของตัวเองก็ตาม
(ทำซะเงิบไปเลยล่ะสิ! บอกแล้วว่าไม่หื่นจริง ทำไม่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า : คนเขียน)
________________________________________________________________________________________________________________________
ขณะนั้นเอง ในทางด้านของมิกะ ที่กำลังถูกพวกทหาร S.I.C ล้อมไว้จนมุม ทำให้เธอนั่นต้องหาทางออกไปจากพวกนี้ให้ได้
"จนมุม เข้าให้แล้วสิเรา." มิกะ เริ่มด่าตัวเองในใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มยืนมองหา ใครสักคนนึงที่สามารถนำเป็นเกราะกำบังได้ แต่เนื่องจากว่า เธอเองนั้นไม่มีฝีมือมากพอที่จะสามารถจับใครได้ เพราะพวกมันนั้น ตัวใหญ่กว่า และมีพละกำลังมากกว่ามาก ดังนั้นการที่เอาตัวเองไปเสี่ยงทำแบบนั้น เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ
มิกะ ยืนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ทหารคนหนึ่ง จะเริ่มเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับเล็งปืนไรเฟิล เพื่อต้องการไม่ให้เธอหนีไปไหนได้
"หยุดอยู่กับที่ซะ! ถ้าขืนขยับแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นเธอได้เป็นวิญญาณเฝ้าที่นี่แน่!"
ทหารคนนั้น พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเนื่องจาก มิกะเองก็เป็นคนญี่ปุ่นตั้งแต่กำเนิดแล้ว ไม่แปลกที่เธอจะทำตามที่ทหารคนนั้นบอก
"ให้ตายสิ! พวกมันมีเยอะเกินไป" มิกะ สบถขึ้นมาในใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มเพ่งเล็งมาที่ ทหารที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
แต่แล้ว ในขณะที่ทหารคนนั้น กำลังเริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆ มิกะก็ได้ยินเสียงของรถตำรวจที่กำลังเข้ามาในจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเธอน่าจะคิดว่า อาจเป็นฝีมือของอาจาร์ย เธอ ไม่ก็เป็น ผอ. ของโรงเรียนเธอ แต่ดูจากเหตุการณ์และจำนวนคนในโรงเรียนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ ผอ.ในโรงเรียนจะเป็นคนโทรขอความช่วยเหลือกับ พวกตำรวจ นอกเสียจากว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นจะมีผู้พบเห็นเหตุการณ์ หรือว่า จะเป็นฝีมือของเด็กนักเรียนก็ได้
แต่ว่า มิกะเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เธอรีบฉวยโอกาศตอนที่ พวกทหารนั้นหันไปดูที่หน้าต่าง และรีบเดินออกไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่ง พวกมันไม่รู้
ตัวแล้วว่าเธอได้หลบหนีมาไปแล้ว
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก" หลังจากที่ใช้เวลาเกือบ 15 นาที ที่มิกะหลบออกมา เธอก็ยืนพักเหนื่อยอยู่ในห้องเก็บของในโรงเรียน ซึ่งเป็นบริเวณที่เด็ก
นักเรียนหญิงและชายส่วนใหญ่นั้น มักจะใช้ที่นี้เป็นที่ๆ มาทำกิจกรรมอย่างว่ากัน ซึ่งมิกะเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้มากนัก เพราะเธอเองถูกเลี้ยงดูมาจากแก๊งยา:Xซ่า โดยเธอนั้นเป็นลูกสาวของพ่อเธอ ซึ่ง พ่อของเธอนั้นเองก็เป็น ยา:Xซ่า เช่นเดียวกัน
"ในที่สุดก็หนีออกมาได้" มิกะ พูดออกมาอย่างสบายใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มคิดแผนที่จะหนีออกไปจากที่นี้อีกครั้ง ในสมรภูมิแห่งความตายที่นี่.
_________________________________________________________________________________________________________________________
ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม สำนักข่าวของญี่ปุ่น ก็ได้รายงานในข่าวว่า เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายที่โรงเรียนสหศึกษาชื่อดัง
ซึ่งนี่ก็นับว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน
ฮาเรสและมิโกะ ยังคงทำหน้าที่เป็นตำรวจที่ดีเหมือนเดิม เขาขับรถสปอร์ต มิตซุบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ติดไซเรน ซึ่งฮาเรสเป็นคนขับ ส่วนมิโกะนั่งอยู่ใกล้ๆ
"เหมือนเดิม" มิโกะ พูดลอยๆ ขณะที่กำลังมองไปที่นอกหน้าต่างรถ
"ก็คงงั้น..."
"แต่วันนี้ฉันรู้สึกว่า เราจะไม่ได้เจอแค่เจ้านั้นอย่างเดียวนะ" ฮาเรส เสริม
"จริงเหรอ? แสดงว่า มีนอกเหนือจากนั้นด้วยใช่มั้ย?" มิโกะ ถามด้วยความสงสัย
"ใช่." ฮาเรส เปลี่ยนเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งไปให้รถเร็วขึ้น ตอนนี้เข็มชี้ความเร็วอยู่ที่ 110 ไมล์ ซึ่งเป็นความเร็วที่เกินกำหนดของการขับรถในเมือง เขารู้ดีว่า ในประเทศญี่ปุ่น
นั้นมักจะกวดเข็นเรื่อง กฏหมายมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก
ในขณะเดียวกัน เคออสและแมนทัส ยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือดเหมือนเดิม ราวกับเป็นศัตรูคู่แค้น แมนทัส เก็บปืนเข้าไปในเสื้อก่อนที่จะวิ่งไป ชกเข้าที่ท้องของ เคออส
แต่ผลกลับว่า เขาพลาด เคออสเบี่ยงตัวหลบทันที จากนั้นก็ใช้เท้าฟาดเข้าที่ใบหน้าของ แมนทัส ทำให้แมนทัสเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง
"เก่งใช้ได้! แต่ความเร็วยังนู้บอยู่นะ!"
แมนทัส พูดเยาะเย้ย และจากนั้นก็วิ่งสไลด์ลงไปกับพื้น จากนั้นอาศัยจังหวะที่ เคออส หลบ แล้วถีบเข้าไปที่หน้าท้องของเขา
เคออส รู้สึกเหมือนกับโดนอัดเข้าที่ท้องอย่างจังจนจุก แต่ว่ามันมากกว่านั้น เขาล้มลงไปคลุกกับพื้น แล้วจากนั้นก็เริ่มลุกขึ้นมาอย่างเร็วราวกับว่า เขาเคยผ่านมามากแล้ว
เขาเริ่มนิ่งไปชั่วครู่ แล้วจากนั้นก็เริ่มคิดวิธีกำจัดฝ่ายตรงข้าม โดยที่โจมตีเพียงน้อยครั้งเท่านั้น เพราะในตอนนี้เคออส เริ่มที่จะหมดแรงลงมากแล้ว
"..." เคออส กวาดสายตามองไปรอบๆ สักพัก ก่อนที่จะเริ่มตีลังกากลับหลังแล้ว พุ่งหมัดขวาไปที่ แมนทัส ที่กำลังตั้งท่าเตรียมพร้อม
"อ่อนหัด" แมนทัส เหวี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง กำมัดขวาไว้แน่นๆ และต่อยเข้าไปที่หน้ากากของ เคออสเข้าอย่างรุนแรงจนทำให้หน้ากากถึงกับร้าว
"ผิดแล้วล่ะ! ฉันไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น" เสียงของชายคนหนึ่งอยู่ข้างหลังของแมนทัส ดังขึ้น
แมนทัส รีบเอนตัวไปข้างหลังอย่างเร็ว แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง ชายคนนั้นได้ใช้มีดเล่มยาวประมาณ 7 นิ้ว แทงเข้าที่คอหอยเขาอย่างจัง ทำให้ถึงกับขาดอากาศหายใจทันที
"อั่ก! ก...แก!" แมนทัส รู้ได้ทันทีว่า นั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาจากสมองของเขาเอง โดยในตอนนั้น เขาถูกใครบางคนสร้างภาพขึ้นมาในสมองของเขาเอง ซึ่งก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเคออส
แต่ก็สายไปเสียแล้ว เขาถูกมีดฟันนับไม่ถ้วนของชายคนนั้น ตั้งแต่ ใบหน้า ปาก หู จมูก จนทั่งทุกส่วนของร่างกาย
เคออส ปักมีดไปที่ลำตัวของ แมนทัส เพื่อเอาไว้เป็นของสมนาคุณให้กับเขา ในนรกและเพื่อยืนยันว่า เขาตายไปแล้วจริงๆ
"จบสิ้นแล้วใช่มั้ย?" เคออส ถึงกับเข่าทรุดลงทันใด ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้พละกำลังเฮือกสุดท้าย ลุกขึ้นมาพร้อมกับรอยแผลที่เกิดจากการต่อสู้
ในขณะนั้นเอง จอหน์นี่ ก็ได้วิ่งหนีอย่างชุลมุนในสนาม ก่อนที่จะวิ่งมาเจอเคออส ที่ยืนดูสภาพ แมนทัส ที่กลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว
"เคออส...." จอหน์นี่ พูดขึ้นมาทันทีที่เห็นเขา กำลังดูสภาพศพ
"ทุกอย่างจบลงแล้วใช่มั้ย?"
เคออส ไม่พูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบ พลางตรวจสภาพศพอย่างละเอียด ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในเสื้อของ แมนทัส
เป็นเทปบันทึกเสียง พร้อมกับกระดาษที่แปะลงบนเทป เขียนไว้ว่า "Christmas's Gift" ซึ่งมีความหมายว่า ของขวัญวันคริสต์มาส
"จอหน์นี่ ฉันขอยืมเครื่องบันทึกเสียงของนายหน่อย พอจะมีบ้างมั้ย?" เคออส เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบไปประมาณ 3 นาที
จอหน์นี่ หยิบเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาเอาให้กับ เคออส เป็นเครื่องบันทึกเสียงรุ่นเก่าประมาณยุค 90 แต่ทว่า มันกลับใช้งานได้ดีกว่า เครื่องบันทึกเสียงสมัยนี้ซะอีก
เคออส เอากระดาษที่แปะไว้ หยิบออกมา ก่อนที่จะเอาเทปใส่เข้าไปในเครื่องบันทึกเสียง
ในเทปได้ปรากฏเป็นเสียงของแมนทัส ซึ่งคาดว่าน่าจะอัดไว้ก่อนที่จะมาที่นี้ ในเนื้อหาของเทปนั้นเขาได้พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับ เคออส ซึ่งเขาเองก็เกรงว่า เคออสอาจจะรู้สึกไม่พอใจ จึงเลยตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยต่างๆ ซึ่งเคออสเองก็ไม่ได้สนใจฟังมันมากนัก เพราะเขาไม่ชอบฟังเรื่องแบบนั้นสักเท่าไหร่
จนกระทั่ง เสียงพูดเริ่มเบาลง เปลี่ยนมาเป็นเสียงของชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งหน้าจะเป็นเสียงของคนวัยอายุสี่สิบต้นๆ
"เขาใช่มั้ย? ที่แกจะสั่งให้ฉันจัดการ" ชายวัยอายุสี่สิบ พูด
"ใช่! และนั้นเอง ผมก็ต้องทำให้ไม่เป็นที่สงสัย" แมนทัส พูดพร้อมกับเสียงของแก้วไวน์ที่ตั้งไว้บนโต๊ะ คาดว่าเขาน่าจะจิบไวน์ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
"ผมจะเป็นคนแนะนำคุณเอง ว่าต้องทำยังไง?"
"ซึ่งนั่นเอง คำสั่งของผมก็ไม่ได้เด็ดขาดมากนัก คุณสามารถจะทำตามใจคุณก็ได้ หรือว่า จะเปลี่ยนมันก็ยังได้" แมนทัส ยื่นข้อเสนอ
"แล้วเรื่องธุรกิจของเราล่ะ? จะเอายังไง? หากว่า พวกบ้านั่นรู้ตัวเรา มีหวังองค์กรแกถูกฉาวแน่!" ชายวัยสี่สิบ ตะคอกใส่แมนทัส
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ...ไม่มีทางแน่ๆ" แมนทัส พูดด้วยนํ้าเสียงเย็นชา ที่สมกับเป็นตัวร้ายในหนัง
"ผมได้ทำของขวัญชิ้นใหม่ในการจัดการกับเขาแล้วล่ะครับ"
"แสดงว่า แกคิดจะให้ฉันเป็นตัวล่อใช่มั้ย?" ชายวัยสี่สิบ เอ่ยปากถาม
"ก็ไม่เชิง...แต่ว่า ทางที่ดีช่วยไปช่วยหัดใจเย็นๆ ลงบ้างหน่อยสิครับ.คุณ ควอซกี้." แมนทัส เอ่ยชื่อของชายคนนั้นขึ้นมา
"แล้วจะเอายังไงล่ะ? จะให้ฉันยอมรับข้อเสนอของแกงั้นเหรอ? ไม่มีทาง." ควอซกี้ ปฏิเสธอย่างทันควัน
"จะดีเหรอครับ? งั้นตกลงเรื่องโครงการ 'D.A.R.T' ของพวกเราก็ต้องจบลงน่ะสิครับ." แมนทัส พูดขึ้น ถึงตอนนี้เองเคออสเริ่มรู้สึกว่า เขาได้เบาะแส
ขึ้นมาอีกหนึ่งแล้ว
"..." ควอซกี้ เงียบอยู่สักครู่ ก่อนที่จะยอมตกลงข้อเสนอของ แมนทัส ด้วยความจำใจ
"งั้นโอเค...แต่ว่า ฉันขอใช้เทปเสียงนี้เป็น หลักฐานยืนยันว่า แกไม่ได้คิดจะโกงฉัน"
เครื่องบันทึกเสียงหยุดเล่น แสดงว่า เทปบันทึกได้จบลงแล้ว
เคออส เริ่มเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับโปรเจค D.A.R.T รวมทั้งเรื่องข้อเสนอของ แมนทัส กับ ควอซกี้
ในขณะนั้นเอง นินจาสาวก็ได้กระโดดลงมาเจอ เคออส กับ จอหน์นี่ทันที
"เจอตัวแล้ว~~!" นินจาสาว พูดขึ้น ในขณะที่เคออสกำลังเชื่องโยงเหตุการณ์ต่างๆ อยู่
"เฮ้ย! นี่มาอีกแล้วเหรอเนี่ย!?" จอหน์นี่ สะดุ้งก่อนที่จะพยายามหลบไปข้างหลัง เคออส
"ให้ตายสิ! นายจะกลัวอะไร? มาสนุกด้วยกันหน่อยเถอะน่า~~!" นินจาสาว พูดหว่านเสน่ห์กับ จอหน์นี่
"ไม่เอา!" ทั้งสอง เริ่มคุยตอบโต้กันเหมือนกับเด็ก ในขณะที่เคออสนั้น เริ่มที่จะเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างได้
"พวกเราถูกหลอก!?" เคออส โพล่งขึ้น ทั้งสองต่างนิ่งเงียบ
"เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การจัดฉากขึ้นมา เพื่อต้องการให้ฉันเป็นแพะรับบาป" เคออส พูดขึ้น
"แมนทัส ส่งลูกน้องของตัวเอง เพื่อมาตามล่าฉัน แต่จริงๆ แล้วเขากลับบอกให้พวกเขาฆ่าคนบริสุทธิ์ เพื่อให้ตำรวจเล็งความสนใจมาที่ฉันซะเอง!"
"จากนั้น เหตุการณ์ที่สอง ส่ง เลโอพาร์ด กับ หญิงสาวที่ปลอมตัวมาเป็นเธอ.ฮารุกะ" เคออส ชี้ไปที่นินจาสาว ในขณะที่เธอกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"พ่อของเธอเป็นประธาณาธิปดี ซึ่งได้ถูกลอบสังหาร แต่โชคดีที่เขานั้นไม่ได้บาดเจ็บมากนัก."
"ในตอนนั้นเธอเองก็คงจะรู้สึกเสียใจมาก เธอจึงเลยตัดสินใจหาทางแก้แค้นพวกที่คิดจะมาฆ่าพ่อเธอ" เคออส เสริม
"จนกระทั่ง เธอได้เจอกับ แมนทัส ซึ่งเขาคงอาจจะยื่นข้อเสนอให้เธอ จึงเลยตัดสินที่จะทำแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ?"
นินจาสาว เงียบกริบ
"เธอแกล้งปลอมตัวเพื่อให้ฉันมาช่วย แต่จริงๆ แล้วเธอคิดที่จะฆ่าฉัน ใช่มั้ย?" เคออส ถาม นินจาสาว อีกครั้ง
นินจาสาว เงียบกริบอีกครั้ง
"แต่เธอกลับไม่ เพราะฉันเคยช่วยชีวิตเธอในตอนนั้น จึงเลยตัดสินใจปลิดชีพ คนที่ลอบฆ่าพ่อของเธอ ซึ่งก็คือเลโอพาร์ด"
"และครั้งสุดท้าย ฉันก็ได้เบาะแสเกี่ยวกับ โปรเจค D.A.R.T ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับพ่อของเธอด้วย"
"แต่ว่า นายแน่ใจได้ยังไง? ว่าเธอน่ะ เป็นลูกสาวของประธาณาธิปดี." จอหน์นี่ ถามเคออสด้วยความไม่มั่นใจ
"เรื่องมันยาวน่ะ...พวกเราคงจะต้องตามหา เบาะแสของ D.A.R.T ก่อน" เคออส พูดกับทุกๆ คนในขณะที่เขาเริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าของตำรวจที่กำลังวิ่งเข้ามาหลังโรงเรียน
"ฉันคิดว่า เธอน่าจะมากับฉันด้วยนะ..." เคออส ยื่นมือมาให้กับ นินจาสาว ที่ตอนนี้เธอกำลังสำนึกผิดอยู่
"จะดีเหรอ?"
"เถอะน่า~~!" เคออส ไม่รอช้า รีบอุ้มนินจาสาวขึ้นมา ในอ้อมอกทันที จากนั้นก็ส่งให้ จอหน์นี่เป็นคนอุ้มเธอแทน
"เฮ้ๆๆๆ เดี๋ยวก่อนๆๆ จะให้ฉันทำจริงเหรอ?" จอหน์นี่ พูดพลางรู้สึกเขินอาย
"ไม่มีเวลามากแล้วล่ะ? ขืนอยู่ต่อ นายอาจจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปก็เป็นได้"
เคออส วิ่งหนีออกไป พร้อมกับจอหน์นี่ และนินจาสาว ก่อนที่จะเหลือไว้เพียงแค่ ศพของชายวัยอายุสี่สิบ ที่ปลอมตัวมาเป็นแมนทัส นอนจมกองเลือดอย่างน่าอนาถ
(จบ Chapter 6 Confession of a Sins)
ปล.อาจจะยาวหน่อยนะครับ เนื่องจากต้องใช้เวลานานในการนำเรื่องราวปะติดปะต่อกัน
เหตุการณ์เริ่มกลับมาสงบลงอย่างปกติ หลังจากที่ทางกรมตำรวจญี่ปุ่นได้รายงานว่า ขณะนี้ทางกรมเองได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ในห้างพบว่า ไม่พบวัตถุอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนทางด้านฮาเรสเอง ก็ได้พบกับหลักฐานชิ้นสำคัญบางอย่าง ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ เคออส ได้หลบหนีไปยังที่ปลอดภัยแล้ว....
"รู้สึกว่า เราจะมาช้านะ" มิโกะ วิ่งขึ้นมายังจุดที่เคออสหลบหนีมา หลังจากที่เธอนั้นได้สะกดรอยตามเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว...
"ไม่หรอก....ฉันคิดว่า เราได้หลักฐานชิ้นใหม่แล้วล่ะ!" ฮาเรส สังเกตไปบนพื้น พบว่า มีรอยเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก...
ฮาเรส กับ มิโกะ เริ่มเข้าไปตรวจสอบรอยเลือดทันที อย่างไม่รอช้า
"ดูเหมือนว่า จะไม่ใช่แค่ เจ้านั่น อย่างเดียวสินะ...." มิโกะ เริ่มตรวจสอบรอยเลือดที่อยู่บนพื้น ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วเธอก็ได้บอกอะไรบางอย่าง
"เธอกำลังจะบอกอะไรให้กับฉัน?"
"....."
มิโกะ ไม่ตอบคำถามอะไรกับ ฮาเรส เพียงแต่เธอยื่นเอกสารอะไรบางอย่างให้กับ ฮาเรส
"เอกสาร?" ฮาเรส ทำหน้างงๆ ก่อนที่จะรับมาจาก มิโกะ และเขาก็ต้องถึงกับตกตะลึง
"นี่....มัน...ไม่น่าเชื่อ." ฮาเรส ตกตะลึงกับภาพที่เขากำลังถืออยู่ เป็นภาพของศพที่ถูกฆ่าไปเมื่อ 7 วันก่อน ที่ถูกพบที่ ห้องอพาตท์เมนต์แห่งหนึ่ง
"รอยเลือดนี่...เป็นรอยเดียวกับ รอยมีดนั้น!"
"ใช่แล้วล่ะ!"
ฮาเรส หันไปสังเกตตรงที่ รอยมีดที่อยู่ตรงราวดาดฟ้าซึ่งเป็น รอยเดียวกับ รอยแผลของศพที่ถูกฆ่าไปเมื่อ 7 วันก่อน
"รอยมีดนั้นดูจากสภาพแล้ว คงจะเป็นมีดที่ยาวไม่เบาเลยนะ..."
หลังจากที่ตรวจสอบหลักฐานจนเรียบร้อยแล้ว มิโกะ ก็ได้ทำการเก็บหลักฐานต่างๆ เอาไว้ เพื่อนำไปใช้มัดตัวคนร้ายต่อไป...
_______________________________________________________________________________________________________________________
หลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ก็เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งนั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ เคออสนั้นได้กลับไปเรียนที่โรงเรียนอีกครั้ง
หลังจากที่เขานั้น ไม่ได้เข้ามาที่โรงเรียนเลยประมาณ 5 วัน
"ไง! เพื่อน!" จอหน์นี่ กล่าวทักทายเคออส ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส หลังจากที่เขากับ เคออส ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 5 วัน
"อืม."
"จริงสิ! ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่า เหตุการณ์ก่อจลาจลนั้น เริ่มมีบ่อยขึ้นแล้วนะ...ว่ามั้ย?"
จอหน์นี่ พูดขึ้นมาพร้อมกับ ทำสีหน้าที่ดูรู้สึกหดหู่เล็กน้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงเวลาเรียน
"เอาล่ะๆ เริ่มเข้าเรียนกันได้แล้ว!" อาจารย์สาว เดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดผิดปกติ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนนั้นเธอมักจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอๆ
เคออส เริ่มรู้ตัวแล้วว่า สิ่งที่เขาทำนั้นได้ส่งผลทำให้ผู้คนบางส่วนนั้นถึงกับหวาดกลัว บางคนถึงขั้นกับหวั่นวิตกกังวล จนต้องถึงขั้นย้ายถิ่นฐานไปเลยก็มี
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นวิตกอะไรไปมากกว่า การที่เขาถูก Serpent ลอบสังหารโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
อาจาร์ยสาว เริ่มสอนนักเรียนตามปกติเหมือนเดิมทุกๆ วัน แต่วันนี้ เธอกลับรู้สึกแปลกใจที่ เคออส นั้นเข้ามาเรียนด้วยซึ่งนับว่าแปลกมากที่ว่า หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนนั้นเขาก็ไม่ได้ เข้ามาให้เธอเห็นหน้าอีกเลย แม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม...
"ฉันว่า อยู่ที่นี่นานๆ ก็น่าเบื่อเหมือนกันแฮะ."
"ก็คงงั้น"
จอหน์นี่ พูดถึงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับโรงเรียนของเขา ตั้งแต่เรื่องของ ชีวิตประจำวัน การเรียน เหตุการณ์ก่อจลาจลต่างๆ ไปจนถึง เรื่องงานส่วนตัวของเขาเอง ก่อนที่เขาจะเริ่มเปลี่ยนเรื่องไปถาม เคออส เกี่ยวกับ การหายตัวไปของเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
"นายหายหัวไปไหนมาล่ะ? เพื่อน." จอหนนี่ เริ่มถาม
เคออส เริ่มเงียบ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมา
"เรื่องงานน่ะ เหมือนกับนายนั่นแหละนะ"
"เฮ้! นี่นายคิดว่าฉันโง่มากรึไง ที่ฉันจะไม่รู้ว่านายไปทำอะไรน่ะ" จอหน์นี่ เริ่มพูดเสียงดังขึ้น ในขณะที่ เคออส บอกให้เขาพยายามลดเสียงลง
"เมื่อ 3 วันก่อน ฉันเห็นชายคนหนึ่งกำลัง วิ่งตามตำรวจคนหนึ่งไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฉันเดินออกมาซื้อของพอดี...ฉันอยากรู้ว่า นายทำงานอะไร?"
เคออส อึ้งกับคำพูดของ จอนห์นี่ ไปสักพักก่อนที่เขาจะเริ่มถามออกไปว่า
"นายรู้ได้ไง?"
"ก็ฉันเห็นกับตานี่! ว่ามีชายใส่หน้ากากแก๊ส กำลังวิ่งตามตำรวจอยู่ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะยอมมอบตัวซะ!"
ทั้งสองรีบตัดบทสนทนาลง ก่อนที่ อาจาร์ยสาว จะเริ่มมองไปที่พวกเขา...
"ฉันคิดว่า นั้นเป็นความคิดที่ไร้ประโยชน์" เคออส โต้แย้งคำพูดของจอหน์นี่
"ตำรวจนั้นน่ะ เขาเป็นเพียงแค่คนที่ต้องการพยายามล่าฉันก็เท่านั้น"
"ล่าเหรอ? นี่นายเป็นหน่วยสืบราชการลับเหมือนในหนังรึไง?" จอหน์นี่ กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ
"ก็ไม่เชิง." เคออส หยักไหล่
ในขณะที่ห้องเรียนกำลังดำเนินไปอย่างเรียบๆ จู่ๆ ก็ได้มีเสียงระเบิดก็ได้ดังขึ้นมา ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นครั้งใหญ่ ซึ่งก็เหมือนกับทุกๆ ครั้ง
แต่ทว่า ครั้งนี้ กลับเลวร้ายกว่าที่เขาคิด....
เคออส และ จอหน์นี่ รีบวิ่งไปดูยังที่เกิดเหตุทันที โดยในขณะนั้นเอง อาจาร์ยสาว ก็ได้บอกให้เด็กทุกคน รีบหนีไปยังที่ปลอดภัยก่อน
"อาจาร์ยครับ! ฝากดูแลพวกเขาด้วยนะครับ."
"โอเค!"
จอหน์นี่ รีบวิ่งตาม เคออส ไปเพราะเกรงว่า อาจเกิดอันตรายกับเขาได้...
_______________________________________________________________________________________________________________________
หลังจากที่พวกเขาวิ่งมาถึงลานสนาม เคออสก็ต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือ คนขององค์กร S.I.C ที่กำลังตามล่าตัวเขาอยู่เป็นเวลามากกว่า 3 เดือน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่ประหลาดใจเท่ากับ คนที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขา ที่มาพร้อมกับปืนรีวอลโว่ไม่ทราบรุ่น ซึ่งน่าจะเป็น ปืนที่ถูกผลิตขึ้นมาจากฝีมือขององค์กรเขาเอง...
"ไง! ไม่ได้เจอกันนานนะ..." แมนทัส กล่าวคำทักทายด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วย ความพยาบาทและความแค้นของตน...
"แกเองก็ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ" เคออส กล่าวขึ้นหลังจากที่เขานั้น ได้พบกับ แมนทัสเป็นครั้งแรก ด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งพอๆ กับเขา
"ใช่! คงงั้น"
"อุตส่าห์ ถ่อมาถึงนี่ ไม่คิดจะมาชิมราเม็งกันบ้างหน่อยเหรอ?"
"ไม่หรอก....ฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่น่ะ..."
"งั้นแสดงว่า อยู่ที่นั้นคงจะชอบสเต็กมากกว่าสินะ..."
แมนทัส เงียบไปสักพัก ก่อนที่จะเริ่มเล็งปืนไปที่ เคออส พร้อมเหนี่ยวไก
"ไม่ล่ะ! ฉันก็ไม่ชอบสเต็กเหมือนกัน."
"แต่ว่า ฉันชอบที่จะเห็นแกนอนทรมานว่ะ!"
แมนทัส ไม่รอช้าเริ่มเหนี่ยวไกยิงไปที่เคออส ก่อนเป็นนัดแรก ซึ่งตอนนั้น เคออสก็กะจังหวะไว้พอดี กระสุนนัดนั้นจึงเลยพลาดไปโดนที่กำแพงโรงเรียน
"ถ้าอย่างนั้นก็คงจะยากหน่อยนะ!"
เคออส รีบเบี่ยงตัวหลบกระสุนทันที จากนั้นก็เริ่มหาทางประชิดตัว แมนทัส ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ โดยเริ่มจากวิ่งหลบกระสุนไปเรื่อยๆ เพื่ออาศัยจังหวะที่แมนทัส กำลังใส่กระสุน ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเป็นแผนธรรมดาๆ แต่ทว่า เขาเองก็ยังไม่รู้สึกมั่นใจมากนัก แมนทัส ถึงจะเป็นหัวหน้าองค์กร ที่ดูแล้วเป็นคนที่ชอบสั่งลูกน้อง แต่ทว่า ฝีมือของเขาเอง
ก็ถือว่า อยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่า "เครื่องจักรสังหาร" เลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน จอหน์นี่ก็วิ่งมาถึงจนได้ รีบเอาอาวุธของตนเองออกมา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ มีดสั้นของนินจากในยุคสมัยก่อน แต่แตกต่างกันตรงที่ อาวุธของจอหน์นี่นั้นเป็น อาวุธที่สามารถโจมตีได้ทั้งในระยะประชิด และ ระยะไกล นอกจากนั้นแล้วยังใช้เป็นเชือกที่สามารถพาตัวเองขึ้นไปยังจุดตามที่ตัวเองต้องการอีกด้วย
จอหน์นี่ เริ่มผ่อนลมหายใจตัวเอง พยายามทำใจให้ปลอดโปร่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้อาวุธของตัวเอง สังหารชายในชุดทหาร ที่ข้างหลังเขียนไว้ว่า "S.I.C" ซึ่งในระยะเผาขนพอดี
"ฉันขอโทษด้วยนะ...อโหสิให้ด้วยก็ละกัน" จอหน์นี่ กล่าวคำอำลาพร้อมกับ เก็บอาวุธของตัวเองเข้าในแขนเสื้อ ก่อนที่จะปล่อยให้ทหารคนนั้น นอนจมกองเลือดและ
จอหน์นี่ วิ่งมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขามาถึงบริเวณลานกว้างในโรงเรียน ซึ่งเป็นจุดที่เคออส กับ แมนทัสนั้นกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด...
"เฮ้! เคออ-" จอหน์นี่ หยุดชะงักลงทันที หลังจากที่เขานั้นถูกใครบางคนขัดขวางเขาในระหว่างที่ตัวเองกำลังจะวิ่งเข้าไปช่วย เคออส
"แกน่ะ ฝีมือใช้ได้นี่!" นินจาสาว ได้ปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากที่ เธอได้จัดการ เลโอพาร์ด ไปเรียบร้อยแล้ว โดยในคราวนี้เธอมาพร้อมกับ ดาบคาตานะคู่ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอพบดาบคาตานะมาเพียงแค่ เล่มเดียวเท่านั้น
"เธอเองสินะ...ที่จัดการกับพวกเขา" จอหน์นี่ มองไปที่นินจาสาว ด้วยสายตาโกรธแค้น พร้อมกับนํ้าเสียงที่ดูจริงจังราวกับเป็นคนละคน
"ฉลาดดีนี่ แต่ว่านั้นไม่ใช่ฝีมือของฉันหรอกนะ นายควรจะไปโทษเจ้านั้นซะมากกว่า" นินจาสาว พูดขึ้น พลางชำเลืองไปที่ เคออสที่ตอนนี้เริ่มที่จะหมดแรง ในการต่อสู้กับ แมนทัส
"ไม่หรอก...เขาไม่ผิด." จอหน์นี่ พูดโต้แย้งขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย
"ว่าไงนะ?"
"ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างที่ฉันคิดเอาไว้"
"งั้นเหรอ? แสดงว่า นายเองก็คิดเหมือนกับที่ฉันคิดใช่มั้ยล่ะ?"
นินจาสาว พูดพร้อมเริ่มเดินเข้ามาหา จอหน์นี่ อย่างช้าๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้า จอหน์นี่
"ใช่! เขาคือ ผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในรายชื่อ 10 อันดับ ผู้ก่อการร้ายที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก ซึ่งเขาเองก็อยู่ในอันดับที่ 3"
นินจาสาว เริ่มพูดเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับตัวของเธอเองและ เคออส ตั้งแต่ตอนที่เข้าเป็น คนขององค์กร S.I.C จนกระทั่งช่วงที่เขาหลบหนีออกมา
"ก็อย่างที่ฉันเล่ามานี่ล่ะ!" นินจาสาว นั่งขัดสมาธิแล้วมองไปที่ จอหน์นี่ หลังจากที่เธอยืนเล่ามาได้เกือบประมาณ 30 นาที
จอหน์นี่ นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา...
"แล้วเธอไม่คิดจะสู้กับฉันงั้นเหรอ?" จอหน์นี่ ถามคำถามกับ นินจาสาว ในขณะที่เขานั้นเริ่มที่จะเอาอาวุธของตัวเองออกมา
"สู้เหรอ? สำหรับฉันไม่จำเป็นหรอก..."
"ทำไม?"
"เพราะก่อนที่ฉันจะฆ่านายน่ะ....ฉันอยากจะขอลองรสชาติของ เจ้าหนูนั่นของนายหน่อย ยังไงล่ะ!"
นินจาสาว โพล่งขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด ก่อนที่เธอจะหลบหน้าไปเพื่อปกปิดความอายของตนเอง
(น่าน! เริ่มแล้วไง! ฉากหื่นๆ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก! : คนเขียน)
"เฮ้ย!! พูดบ้าอะไรของเธอน่ะ! หน้าสิ่งหน้าขวานขนาดนี้ ยังจะมาเล่น....อะไรแบบนี้อีกเหรอ!!?"
จอหน์นี่ พยายามพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ถึงแม้ว่าหน้าของเขาจะเริ่มแดงขึ้นเพราะความเขินของตัวเองก็ตาม
(ทำซะเงิบไปเลยล่ะสิ! บอกแล้วว่าไม่หื่นจริง ทำไม่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า : คนเขียน)
________________________________________________________________________________________________________________________
ขณะนั้นเอง ในทางด้านของมิกะ ที่กำลังถูกพวกทหาร S.I.C ล้อมไว้จนมุม ทำให้เธอนั่นต้องหาทางออกไปจากพวกนี้ให้ได้
"จนมุม เข้าให้แล้วสิเรา." มิกะ เริ่มด่าตัวเองในใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มยืนมองหา ใครสักคนนึงที่สามารถนำเป็นเกราะกำบังได้ แต่เนื่องจากว่า เธอเองนั้นไม่มีฝีมือมากพอที่จะสามารถจับใครได้ เพราะพวกมันนั้น ตัวใหญ่กว่า และมีพละกำลังมากกว่ามาก ดังนั้นการที่เอาตัวเองไปเสี่ยงทำแบบนั้น เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ
มิกะ ยืนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ทหารคนหนึ่ง จะเริ่มเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับเล็งปืนไรเฟิล เพื่อต้องการไม่ให้เธอหนีไปไหนได้
"หยุดอยู่กับที่ซะ! ถ้าขืนขยับแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นเธอได้เป็นวิญญาณเฝ้าที่นี่แน่!"
ทหารคนนั้น พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเนื่องจาก มิกะเองก็เป็นคนญี่ปุ่นตั้งแต่กำเนิดแล้ว ไม่แปลกที่เธอจะทำตามที่ทหารคนนั้นบอก
"ให้ตายสิ! พวกมันมีเยอะเกินไป" มิกะ สบถขึ้นมาในใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มเพ่งเล็งมาที่ ทหารที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
แต่แล้ว ในขณะที่ทหารคนนั้น กำลังเริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆ มิกะก็ได้ยินเสียงของรถตำรวจที่กำลังเข้ามาในจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเธอน่าจะคิดว่า อาจเป็นฝีมือของอาจาร์ย เธอ ไม่ก็เป็น ผอ. ของโรงเรียนเธอ แต่ดูจากเหตุการณ์และจำนวนคนในโรงเรียนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ ผอ.ในโรงเรียนจะเป็นคนโทรขอความช่วยเหลือกับ พวกตำรวจ นอกเสียจากว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นจะมีผู้พบเห็นเหตุการณ์ หรือว่า จะเป็นฝีมือของเด็กนักเรียนก็ได้
แต่ว่า มิกะเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เธอรีบฉวยโอกาศตอนที่ พวกทหารนั้นหันไปดูที่หน้าต่าง และรีบเดินออกไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่ง พวกมันไม่รู้
ตัวแล้วว่าเธอได้หลบหนีมาไปแล้ว
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก" หลังจากที่ใช้เวลาเกือบ 15 นาที ที่มิกะหลบออกมา เธอก็ยืนพักเหนื่อยอยู่ในห้องเก็บของในโรงเรียน ซึ่งเป็นบริเวณที่เด็ก
นักเรียนหญิงและชายส่วนใหญ่นั้น มักจะใช้ที่นี้เป็นที่ๆ มาทำกิจกรรมอย่างว่ากัน ซึ่งมิกะเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้มากนัก เพราะเธอเองถูกเลี้ยงดูมาจากแก๊งยา:Xซ่า โดยเธอนั้นเป็นลูกสาวของพ่อเธอ ซึ่ง พ่อของเธอนั้นเองก็เป็น ยา:Xซ่า เช่นเดียวกัน
"ในที่สุดก็หนีออกมาได้" มิกะ พูดออกมาอย่างสบายใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มคิดแผนที่จะหนีออกไปจากที่นี้อีกครั้ง ในสมรภูมิแห่งความตายที่นี่.
_________________________________________________________________________________________________________________________
ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม สำนักข่าวของญี่ปุ่น ก็ได้รายงานในข่าวว่า เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายที่โรงเรียนสหศึกษาชื่อดัง
ซึ่งนี่ก็นับว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน
ฮาเรสและมิโกะ ยังคงทำหน้าที่เป็นตำรวจที่ดีเหมือนเดิม เขาขับรถสปอร์ต มิตซุบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ติดไซเรน ซึ่งฮาเรสเป็นคนขับ ส่วนมิโกะนั่งอยู่ใกล้ๆ
"เหมือนเดิม" มิโกะ พูดลอยๆ ขณะที่กำลังมองไปที่นอกหน้าต่างรถ
"ก็คงงั้น..."
"แต่วันนี้ฉันรู้สึกว่า เราจะไม่ได้เจอแค่เจ้านั้นอย่างเดียวนะ" ฮาเรส เสริม
"จริงเหรอ? แสดงว่า มีนอกเหนือจากนั้นด้วยใช่มั้ย?" มิโกะ ถามด้วยความสงสัย
"ใช่." ฮาเรส เปลี่ยนเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งไปให้รถเร็วขึ้น ตอนนี้เข็มชี้ความเร็วอยู่ที่ 110 ไมล์ ซึ่งเป็นความเร็วที่เกินกำหนดของการขับรถในเมือง เขารู้ดีว่า ในประเทศญี่ปุ่น
นั้นมักจะกวดเข็นเรื่อง กฏหมายมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก
ในขณะเดียวกัน เคออสและแมนทัส ยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือดเหมือนเดิม ราวกับเป็นศัตรูคู่แค้น แมนทัส เก็บปืนเข้าไปในเสื้อก่อนที่จะวิ่งไป ชกเข้าที่ท้องของ เคออส
แต่ผลกลับว่า เขาพลาด เคออสเบี่ยงตัวหลบทันที จากนั้นก็ใช้เท้าฟาดเข้าที่ใบหน้าของ แมนทัส ทำให้แมนทัสเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง
"เก่งใช้ได้! แต่ความเร็วยังนู้บอยู่นะ!"
แมนทัส พูดเยาะเย้ย และจากนั้นก็วิ่งสไลด์ลงไปกับพื้น จากนั้นอาศัยจังหวะที่ เคออส หลบ แล้วถีบเข้าไปที่หน้าท้องของเขา
เคออส รู้สึกเหมือนกับโดนอัดเข้าที่ท้องอย่างจังจนจุก แต่ว่ามันมากกว่านั้น เขาล้มลงไปคลุกกับพื้น แล้วจากนั้นก็เริ่มลุกขึ้นมาอย่างเร็วราวกับว่า เขาเคยผ่านมามากแล้ว
เขาเริ่มนิ่งไปชั่วครู่ แล้วจากนั้นก็เริ่มคิดวิธีกำจัดฝ่ายตรงข้าม โดยที่โจมตีเพียงน้อยครั้งเท่านั้น เพราะในตอนนี้เคออส เริ่มที่จะหมดแรงลงมากแล้ว
"..." เคออส กวาดสายตามองไปรอบๆ สักพัก ก่อนที่จะเริ่มตีลังกากลับหลังแล้ว พุ่งหมัดขวาไปที่ แมนทัส ที่กำลังตั้งท่าเตรียมพร้อม
"อ่อนหัด" แมนทัส เหวี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง กำมัดขวาไว้แน่นๆ และต่อยเข้าไปที่หน้ากากของ เคออสเข้าอย่างรุนแรงจนทำให้หน้ากากถึงกับร้าว
"ผิดแล้วล่ะ! ฉันไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น" เสียงของชายคนหนึ่งอยู่ข้างหลังของแมนทัส ดังขึ้น
แมนทัส รีบเอนตัวไปข้างหลังอย่างเร็ว แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง ชายคนนั้นได้ใช้มีดเล่มยาวประมาณ 7 นิ้ว แทงเข้าที่คอหอยเขาอย่างจัง ทำให้ถึงกับขาดอากาศหายใจทันที
"อั่ก! ก...แก!" แมนทัส รู้ได้ทันทีว่า นั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาจากสมองของเขาเอง โดยในตอนนั้น เขาถูกใครบางคนสร้างภาพขึ้นมาในสมองของเขาเอง ซึ่งก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเคออส
แต่ก็สายไปเสียแล้ว เขาถูกมีดฟันนับไม่ถ้วนของชายคนนั้น ตั้งแต่ ใบหน้า ปาก หู จมูก จนทั่งทุกส่วนของร่างกาย
เคออส ปักมีดไปที่ลำตัวของ แมนทัส เพื่อเอาไว้เป็นของสมนาคุณให้กับเขา ในนรกและเพื่อยืนยันว่า เขาตายไปแล้วจริงๆ
"จบสิ้นแล้วใช่มั้ย?" เคออส ถึงกับเข่าทรุดลงทันใด ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้พละกำลังเฮือกสุดท้าย ลุกขึ้นมาพร้อมกับรอยแผลที่เกิดจากการต่อสู้
ในขณะนั้นเอง จอหน์นี่ ก็ได้วิ่งหนีอย่างชุลมุนในสนาม ก่อนที่จะวิ่งมาเจอเคออส ที่ยืนดูสภาพ แมนทัส ที่กลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว
"เคออส...." จอหน์นี่ พูดขึ้นมาทันทีที่เห็นเขา กำลังดูสภาพศพ
"ทุกอย่างจบลงแล้วใช่มั้ย?"
เคออส ไม่พูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบ พลางตรวจสภาพศพอย่างละเอียด ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในเสื้อของ แมนทัส
เป็นเทปบันทึกเสียง พร้อมกับกระดาษที่แปะลงบนเทป เขียนไว้ว่า "Christmas's Gift" ซึ่งมีความหมายว่า ของขวัญวันคริสต์มาส
"จอหน์นี่ ฉันขอยืมเครื่องบันทึกเสียงของนายหน่อย พอจะมีบ้างมั้ย?" เคออส เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบไปประมาณ 3 นาที
จอหน์นี่ หยิบเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาเอาให้กับ เคออส เป็นเครื่องบันทึกเสียงรุ่นเก่าประมาณยุค 90 แต่ทว่า มันกลับใช้งานได้ดีกว่า เครื่องบันทึกเสียงสมัยนี้ซะอีก
เคออส เอากระดาษที่แปะไว้ หยิบออกมา ก่อนที่จะเอาเทปใส่เข้าไปในเครื่องบันทึกเสียง
ในเทปได้ปรากฏเป็นเสียงของแมนทัส ซึ่งคาดว่าน่าจะอัดไว้ก่อนที่จะมาที่นี้ ในเนื้อหาของเทปนั้นเขาได้พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับ เคออส ซึ่งเขาเองก็เกรงว่า เคออสอาจจะรู้สึกไม่พอใจ จึงเลยตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยต่างๆ ซึ่งเคออสเองก็ไม่ได้สนใจฟังมันมากนัก เพราะเขาไม่ชอบฟังเรื่องแบบนั้นสักเท่าไหร่
จนกระทั่ง เสียงพูดเริ่มเบาลง เปลี่ยนมาเป็นเสียงของชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งหน้าจะเป็นเสียงของคนวัยอายุสี่สิบต้นๆ
"เขาใช่มั้ย? ที่แกจะสั่งให้ฉันจัดการ" ชายวัยอายุสี่สิบ พูด
"ใช่! และนั้นเอง ผมก็ต้องทำให้ไม่เป็นที่สงสัย" แมนทัส พูดพร้อมกับเสียงของแก้วไวน์ที่ตั้งไว้บนโต๊ะ คาดว่าเขาน่าจะจิบไวน์ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
"ผมจะเป็นคนแนะนำคุณเอง ว่าต้องทำยังไง?"
"ซึ่งนั่นเอง คำสั่งของผมก็ไม่ได้เด็ดขาดมากนัก คุณสามารถจะทำตามใจคุณก็ได้ หรือว่า จะเปลี่ยนมันก็ยังได้" แมนทัส ยื่นข้อเสนอ
"แล้วเรื่องธุรกิจของเราล่ะ? จะเอายังไง? หากว่า พวกบ้านั่นรู้ตัวเรา มีหวังองค์กรแกถูกฉาวแน่!" ชายวัยสี่สิบ ตะคอกใส่แมนทัส
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ...ไม่มีทางแน่ๆ" แมนทัส พูดด้วยนํ้าเสียงเย็นชา ที่สมกับเป็นตัวร้ายในหนัง
"ผมได้ทำของขวัญชิ้นใหม่ในการจัดการกับเขาแล้วล่ะครับ"
"แสดงว่า แกคิดจะให้ฉันเป็นตัวล่อใช่มั้ย?" ชายวัยสี่สิบ เอ่ยปากถาม
"ก็ไม่เชิง...แต่ว่า ทางที่ดีช่วยไปช่วยหัดใจเย็นๆ ลงบ้างหน่อยสิครับ.คุณ ควอซกี้." แมนทัส เอ่ยชื่อของชายคนนั้นขึ้นมา
"แล้วจะเอายังไงล่ะ? จะให้ฉันยอมรับข้อเสนอของแกงั้นเหรอ? ไม่มีทาง." ควอซกี้ ปฏิเสธอย่างทันควัน
"จะดีเหรอครับ? งั้นตกลงเรื่องโครงการ 'D.A.R.T' ของพวกเราก็ต้องจบลงน่ะสิครับ." แมนทัส พูดขึ้น ถึงตอนนี้เองเคออสเริ่มรู้สึกว่า เขาได้เบาะแส
ขึ้นมาอีกหนึ่งแล้ว
"..." ควอซกี้ เงียบอยู่สักครู่ ก่อนที่จะยอมตกลงข้อเสนอของ แมนทัส ด้วยความจำใจ
"งั้นโอเค...แต่ว่า ฉันขอใช้เทปเสียงนี้เป็น หลักฐานยืนยันว่า แกไม่ได้คิดจะโกงฉัน"
เครื่องบันทึกเสียงหยุดเล่น แสดงว่า เทปบันทึกได้จบลงแล้ว
เคออส เริ่มเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับโปรเจค D.A.R.T รวมทั้งเรื่องข้อเสนอของ แมนทัส กับ ควอซกี้
ในขณะนั้นเอง นินจาสาวก็ได้กระโดดลงมาเจอ เคออส กับ จอหน์นี่ทันที
"เจอตัวแล้ว~~!" นินจาสาว พูดขึ้น ในขณะที่เคออสกำลังเชื่องโยงเหตุการณ์ต่างๆ อยู่
"เฮ้ย! นี่มาอีกแล้วเหรอเนี่ย!?" จอหน์นี่ สะดุ้งก่อนที่จะพยายามหลบไปข้างหลัง เคออส
"ให้ตายสิ! นายจะกลัวอะไร? มาสนุกด้วยกันหน่อยเถอะน่า~~!" นินจาสาว พูดหว่านเสน่ห์กับ จอหน์นี่
"ไม่เอา!" ทั้งสอง เริ่มคุยตอบโต้กันเหมือนกับเด็ก ในขณะที่เคออสนั้น เริ่มที่จะเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างได้
"พวกเราถูกหลอก!?" เคออส โพล่งขึ้น ทั้งสองต่างนิ่งเงียบ
"เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การจัดฉากขึ้นมา เพื่อต้องการให้ฉันเป็นแพะรับบาป" เคออส พูดขึ้น
"แมนทัส ส่งลูกน้องของตัวเอง เพื่อมาตามล่าฉัน แต่จริงๆ แล้วเขากลับบอกให้พวกเขาฆ่าคนบริสุทธิ์ เพื่อให้ตำรวจเล็งความสนใจมาที่ฉันซะเอง!"
"จากนั้น เหตุการณ์ที่สอง ส่ง เลโอพาร์ด กับ หญิงสาวที่ปลอมตัวมาเป็นเธอ.ฮารุกะ" เคออส ชี้ไปที่นินจาสาว ในขณะที่เธอกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"พ่อของเธอเป็นประธาณาธิปดี ซึ่งได้ถูกลอบสังหาร แต่โชคดีที่เขานั้นไม่ได้บาดเจ็บมากนัก."
"ในตอนนั้นเธอเองก็คงจะรู้สึกเสียใจมาก เธอจึงเลยตัดสินใจหาทางแก้แค้นพวกที่คิดจะมาฆ่าพ่อเธอ" เคออส เสริม
"จนกระทั่ง เธอได้เจอกับ แมนทัส ซึ่งเขาคงอาจจะยื่นข้อเสนอให้เธอ จึงเลยตัดสินที่จะทำแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ?"
นินจาสาว เงียบกริบ
"เธอแกล้งปลอมตัวเพื่อให้ฉันมาช่วย แต่จริงๆ แล้วเธอคิดที่จะฆ่าฉัน ใช่มั้ย?" เคออส ถาม นินจาสาว อีกครั้ง
นินจาสาว เงียบกริบอีกครั้ง
"แต่เธอกลับไม่ เพราะฉันเคยช่วยชีวิตเธอในตอนนั้น จึงเลยตัดสินใจปลิดชีพ คนที่ลอบฆ่าพ่อของเธอ ซึ่งก็คือเลโอพาร์ด"
"และครั้งสุดท้าย ฉันก็ได้เบาะแสเกี่ยวกับ โปรเจค D.A.R.T ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับพ่อของเธอด้วย"
"แต่ว่า นายแน่ใจได้ยังไง? ว่าเธอน่ะ เป็นลูกสาวของประธาณาธิปดี." จอหน์นี่ ถามเคออสด้วยความไม่มั่นใจ
"เรื่องมันยาวน่ะ...พวกเราคงจะต้องตามหา เบาะแสของ D.A.R.T ก่อน" เคออส พูดกับทุกๆ คนในขณะที่เขาเริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าของตำรวจที่กำลังวิ่งเข้ามาหลังโรงเรียน
"ฉันคิดว่า เธอน่าจะมากับฉันด้วยนะ..." เคออส ยื่นมือมาให้กับ นินจาสาว ที่ตอนนี้เธอกำลังสำนึกผิดอยู่
"จะดีเหรอ?"
"เถอะน่า~~!" เคออส ไม่รอช้า รีบอุ้มนินจาสาวขึ้นมา ในอ้อมอกทันที จากนั้นก็ส่งให้ จอหน์นี่เป็นคนอุ้มเธอแทน
"เฮ้ๆๆๆ เดี๋ยวก่อนๆๆ จะให้ฉันทำจริงเหรอ?" จอหน์นี่ พูดพลางรู้สึกเขินอาย
"ไม่มีเวลามากแล้วล่ะ? ขืนอยู่ต่อ นายอาจจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปก็เป็นได้"
เคออส วิ่งหนีออกไป พร้อมกับจอหน์นี่ และนินจาสาว ก่อนที่จะเหลือไว้เพียงแค่ ศพของชายวัยอายุสี่สิบ ที่ปลอมตัวมาเป็นแมนทัส นอนจมกองเลือดอย่างน่าอนาถ
(จบ Chapter 6 Confession of a Sins)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chaos67 เมื่อ 2012-12-26 23:15
Chapter 6 Confession of a Sins