ปล.ต้องขออภัยที่ล่าช้านะครับ เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัย(อู้) น่ะครับ เพราะฉะนั้น อภัยให้ข้าด้วยเถิด!!!
ปล2.ตอนนี้จะแบ่งออกเป็นตอนย่อยอีก 1 ตอนนะครับ เนื่องจากตอนต่อไปเปลี่ยนโปรแกรมพิมพ์ = ="
Chapter 8 Lost Contact (Part 1)
กลับมายังที่ญี่ปุ่น ตำรวจญี่ปุ่นเริ่มกระจายกำลังไปทั่วโตเกียวเพื่อต้านภัยการก่อการร้าย โดยมีฮาเรสคอยเป็นคนควบคุมกำลังของหน่วยสวาท ส่วนหนึ่ง และมิโกะคอยเป็นกำลังเสริมให้ พวกเขาเริ่มตรวจสอบสถานที่ต่างๆ และข้อมูลของชายในหน้ากากแก๊สจนกระทั่งได้ทราบข่าวมาว่า พวกเขานั้นได้เริ่มเคลื่อนไหวในเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันนี้ ทำให้ตอนนี้ฮาเรสนั้นต้องรีบเตรียมพร้อมรับมืออย่างรวดเร็ว และวางแผนอย่างละเอียดและถี่ถ้วนกว่าเมื่อก่อน
เพราะครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ที่เขาจะต้องเดิมพันอย่างสุดกำลัง...
ทางด้านของเคออส หลังจากที่ได้ตกลงทำแผนการร่วมมือกันกับฮารุกะและจอหน์นี่ พวกเขาก็ได้ใช้เวลาเกือบ 3 อาทิตย์ หลังเลิกเรียนช่วยกันรวบรวมข้อมูลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังโปรเจค D.A.R.T ในครั้งนี้ รวมทั้งการรับมือกับภัยที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ซึ่งก่อนอื่นนั้นอันดับแรกก็คือ การเค้นข้อมูล
จากคนที่อยู่ในประเทศนี้ซะก่อน
ฟินลิท ลักลอบเข้ามายังญี่ปุ่นพร้อมกับหน่วยสังหารที่มาตามคำสั่งของแมนทัส 5 คน โดยได้รับคำสั่งมาเพื่อฆ่าเคออส เพราะเคออสนั้นเคยทำงานให้กับคนในองค์กรมาก่อน และก็ไม่ง่ายนักที่จะจับตัวเขามาได้ แมนทัสใช้เวลากว่าหลายเดือนเพื่อรอดูผลการทดลองของโปรเจคที่เขาได้ร่วมมือกับ ควอซกี้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้
ถูกสังหารไปแล้วก่อนหน้านี้
"นายว่าพวกเขาจะหาพวกเราเจอมั้ย?" ฮารุกะ หันไปถามเคออสในขณะที่ทั้งสามยืนอยู่หน้าตึกร้างแห่งหนึ่ง
"เรื่องนั่นไม่ต้องห่วงหรอก" เคออส พูดขึ้น
"ตอนนี้พวกเราได้ข้อมูลมาแล้ว...เหลือแต่ว่าเราจะทำยังไงซะมากกว่า"
"หืม?" เธอพยักหน้าด้วยความงุนงง
"ตอนนี้ตำรวจกำลังเริ่มเคลื่อนไหว การทำงานของพวกเราก็เริ่มเหลือเวลาเพียงไม่มากแล้ว"
เคออส พูดขึ้นด้วยความกังวล
"ตำรวจ? ตำรวจงั้นเหรอ? ไม่นะ...นี่มันจู่ๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!!?"
เสียงของดีเจหนุ่มนาม "จอหน์นี่" กล่าวกับตัวเองด้วยความหวาดระแวง
"แล้วจะให้ทำยังไงต่อไปดี? บุกเลยดีมั้ย?" ฮารุกะ ถาม
"ตามสบายครับ คุณผู้หญิง."
ทั้งสามเดินเข้าไปในตึกร้างนั่นทันที ก่อนที่จะมียาม 2 คน เปิดประตูพาพวกเขาเข้าไปข้างใน
เมื่อเข้าไปข้างใน ทั้งสามก็ได้พบกับเหล่าอันธพาลและนักค้ายาเสพติดต่างๆ ที่กำลังจัดยาเสพติดของตัว
เองเพื่อส่งไปให้กับลูกค้า
"ฉันไม่ค่อยชอบเลย." จอหน์นี่ กระซิบเบาๆ ข้างหูเคออส
"เงียบเถอะน่า...ยังไงเราก็ไม่มีทางเลือก" ฮารุกะ พยายามเตือนสติให้จอหน์นี่ที่ตอนนี้อยู่ในอาการ ลุกลี้
ลุกลน
ทั้งสามหยุดอยู่ตรงหน้าบันไดทางขึ้น ซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ซ่อมแซมมานานหลายปี
"ดูท่าจะเก่ามากเลยนะนั้น" ฮารุกะ กล่าว
"ที่นี้ถูกทิ้งร้างไปเมื่อ 10 ปีก่อนน่ะ เคยมีพวกคนงานมาซ่อมที่นี้หลายครั้งเหมือนกัน แต่ทว่ากลับล้มเหลว
ไปเป็นท่า"
เคออส ตอบกลับไปในขณะที่เดินขึ้นไปบนบันไดคอนกรีตเพื่อพบกับใครคนหนึ่งที่เป็นแกนนำของที่นี่
"ฉันอยากจะให้พวกเธอได้ทำความรู้จักกับใครคนนึง ที่เขานั้นเป็นกุญแจสำคัญของ S.I.C"
"กุญแจสำคัญของ S.I.C?" ฮารุกะและจอหน์นี่ กล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
"ใช่...เขาเคยเป็นผู้ดูแลประจำตัวของหัวหน้าองค์กรที่ฉันอยู่น่ะ จนกระทั่งลาออกมาได้ไม่นานมานี้เอง"
"ลาออกงั้นเหรอ? แล้วสาเหตุล่ะ?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"
เมื่อเดินเข้ามาถึง ชายวัยประมาณ 20-40 เดินเข้ามาพร้อมกับอาวุธปืนที่อยู่ในมือ เข้ามาประมาณ 4-5
คน คาดว่าหน้าจะเป็นหนึ่งในยามที่เฝ้าที่นี่ไว้อยู่
"พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี้" ยามคนนั้น เดินเข้ามากันไม่ให้เคออสเดินเข้าไปข้างใน
ในขณะนั้น ฮารุกะเริ่มรู้สึกระแวงจึงเลยเอามือไปหยิบมีดที่เหน็บเอาไว้ในเสื้อใน เพื่อเกรงว่ารพวกเขาจะ
ได้รับอันตรายแต่กลับโดนเคออสห้ามไว้ก่อน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้มีการขัดคำสั่งตามที่เคออสพูดแต่อย่างใด
"ผมอยากจะขอเข้าพบเขาสักหน่อย" เคออส กล่าว
""แต่ตอนนี้หัวหน้าของเราไม่ว่าง...ดูเหมือนว่าแกจะมั่นใจมากนะที่เข้ามาที่นี้"
ยามวัย 35 ปี ร่างกายกำยำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ เหลือบไปมองที่พวกจอหน์นี่กับฮารุกะ ก่อนที่จะหันมา
ทางเคออส ด้วยทีท่าน่าสงสัย
"นายพาพวกเขามาทำไม"
"เหตุผลของฉันไม่จำเป็นต้องบอกพวกแกหรอกนะ"
ในขณะที่ทุกคนกำลังโดนยามสอบถามอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งเข้ามา
"ปล่อยเขาไป..." เขาพูดด้วยนํ้าเสียงที่ดูแข็งกร้าว จนทำให้ยามพวกนั้นถึงกับถอยห่างออกไป
เคออสเดินฝ่าพวกยามเข้าไป เป็นชายวัย 30 ปี มีรอยแผลจากการถูกมีดกรีดบนแก้มทางด้านขวา ดูแล้ว
ท่าทางจะเคยเป็นทหารเก่ามาก่อน เพราะดูจากสภาพร่างกายแล้ว คงไม่ใช่ทหารธรรมดาแน่ๆ ภายใต้เสื้อกราว
น์สีดำเผยให้เห็นปืนเอ็มพีเซเว่นแบบพานท้ายพับเก็บได้ และแมกกาซีนที่เหน็บไว้อีก หลายตลับด้วยกัน กางเกงขายาวสีดำที่กลมกลืนเข้ากับรองเท้าบูตทหาร ทำให้เคออสนั้นไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมพวกยามถึงได้เกรงกลัวกันขนาดนั้น
"ไม่ได้เห็นแบบนี้มานานแล้วแหะ...ทำเอาฉันรู้สึกประหลาดใจขึ้นเยอะ" วิลเลี่ยม กล่าวกับตัวเองในขณะที่
เหลือบไปมองพวกจอหน์นี่และฮารุกะ
"ใช่...และแกเองก็เคยเป็นคนดูแลเจ้านั่นมาก่อน" เคออส เดินไปหาวิลเลี่ยมแล้วทักทายกันแบบเป็นกันเอง
"หมายถึง...คนฝรั่งเศสสินะ" วิลเลี่ยม กล่าวเป็นนัยๆ
"ให้ตายดิว่ะ นี่แกคงจะคิดมาให้ฉันกลับไปทำงานอีกแล้วสิเนี่ย โธ่เอ้ย! ฉันบอกแล้วไงว่า
"พวกเรามีเวลาไม่มากที่จะฟังแกพล่าม เพราะตอนนี้ตำรวจกำลังมาที่นี่"
วิลเลี่ยม เงียบกริบแล้วหันมาที่เคออสทันทีด้วยความประหลาดใจ
"เรื่องจริง?"
"ฉันจะโกหกในเรื่องที่ฉันไม่โกหก"
วิลเลี่ยม เงียบกริบอีกครั้งก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุย แล้วก็วางสายไป
"โอเคๆ ถ้าที่นายพูดนั่นคือเรื่องจริง ฉันก็จะลองเชื่อใจแกสักครั้งก็ได้ แต่แกต้องบอกเหตุผลมาก่อนว่า มา
ที่นี้ทำไม?"
"ยา? นํ้าแข็ง? บุหรี่? หรือว่าอยากจะสวิ้งกิ้งกับพวกยัยเด็กใจแตกนั่น!?"
ฮารุกะ ถึงกับวิ่งมาหาวิลเลี่ยมทันทีด้วยความไม่พอใจ แต่ก็โดนจอหน์นี่ห้ามไว้ซะก่อน
"ใจเย็นๆ น่า...อย่าลืมสิว่า เรากำลังทำอะไรอยู่?" จอหน์นี่ พูดเตือนสติ
"......" ฮารุกะ ได้แต่เงียบสนิท เก็บความโกรธเอาไว้ในใจ
ทางด้านของฮาเรส ได้ทำการนัดแผนการตามที่วางเอาไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน โดยได้มิโกะคอยเป็น
คนให้แผนการในแต่ละหน่วย โดยที่พวกเขานั้นใช้เวลากว่า 3 ชั่งโมงในการทบทวนแผนการก่อนลงมือจริง
"โอเค...ภารกิจในวันนี้ก็คือจับตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้ 3 ราย ตามภาพ"
ฮาเรส ชี้ไปที่รูปภาพทั้งสามใบ เป็นภาพของชายใส่หน้ากากแก๊สกำลังเดินอยู่บนถนนเส้นหนึ่งในย่านการค้าที่เกิดเหตุการณ์จลาจลส่วนอีกภาพนั้นเป็นภาพของจอหน์นี่ กับ ฮารุกะ ที่ถูกถ่ายไว้ขณะเดินไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งฮาเรสคาดว่าพวกเขาคงจะเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่มีส่วมร่วมกับเคออส
"แบ่งเป็นสองหน่วย A กับ B หน่วยละ 5 คน เรามีทั้งหมด 20 คน" มิโกะ กล่าวกับคนในทีมที่ได้รับการคัด
เลือกมาจากกรมตำรวจในประเทศ
"นาย...ทาจิโกะ มาฮาระ" มิโกะขานชื่อหน่วยสวาทคนหนึ่ง ซึ่งเขามีบุคลิกมีความทะเยอทะยานสูง
"ครับ!"
"นายกับลูกทีมของนายจะอยู่ในแนวหน้า เพราะฉะนั้นนายก็-" ยังไม่ทันที่มิโกะพูดจบ ก็ดันถูกตัดบทออก
ไป
"รับทราบแล้วครับ! คุณเคยยํ้าคำสั่งกับผมเสมอว่า 'จู่โจมได้ทันทีเมื่อมีการปะทะ' อย่างงั้นใช่มั้ยครับ?"
มาฮาระ ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ
"อืม...หัวไวดีนี่ ส่วนแนวหลังฉันให้แซนเดอร์เป็นคนจัดการเองนะ"
"ครับ! หัวหน้า"
หลังจากที่ประชุมแผนกันเสร็จ ก็ถึงคราวที่ฮาเรสเป็นคนออกโรง
"โอเค...หวังว่าทุกคนคงจะรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีแล้วสินะ" ฮาเรส กล่าวกับทุกคนด้วยความโล่งใจ
ที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
"ก่อนอื่นผมต้องขอให้พวกคุณทำใจให้โล่ง สูบอากาศให้เต็มปอด เพราะในครั้งนี้จะไม่มีการถอยกลับหรือ
เริ่มต้นใหม่เป็นครั้งที่สอง"
"หากพวกคุณทำสำเร็จก็คงจะไม่ต้องบอกนะว่าจะได้อะไรกันไปบ้าง ผมรู้ว่าหลายๆ อย่างที่เราได้อะไร
จากการทำงานในครั้งนี้"
ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบทันที หลังจากที่ได้ยินประโยคของฮาเรส
"รู้มั้ย? ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากจะเอาคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรไปเสี่ยงอันตรายกับเรื่องนี้นะ สู้ไปปกป้อง
ประชาชนตาดำๆ นั้นเลยจะดีซะกว่า"
"เอาล่ะ! จบกันแค่นี้...รีบไปประจำตำแหน่งของตัวเอง แล้วรอฟังคำสั่งจากฉัน"
ทุกคนต่างแยกย้ายกันออกไปตามหน้าที่ของตัวเอง รถหุ้มเกราะคันสีดำกว่า 3 คันพร้อมกับรถตำรวจอีก 2 วิ่งออกจากสถานีตำรวจแล้วมุ่งหน้าไปยังที่กำหนดเอาไว้ในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม 45 นาที ฮาเรสยังคงครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับแผนการของตัวเอง ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เขาต้องแน่ใจให้ได้ว่าแผนการจะต้องสำเร็จลุล่วงในเวลาที่กำหนด ไม่มีการขาดตกบกพร่องประการใด
มิโกะ ยังคงจับตาดูฮาเรสต่อไปอย่างไม่คาดสายตา ซึ่งเป็นเวลามากว่าหลายสัปดาห์ที่พวกเขาเริ่มทำภารกิจร่วมกัน ทำให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มเพิ่มขึ้นจากเพื่อนร่วมงาน กลายเป็นคู่หูของตนเอง แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่มิโกะชอบใจอะไรมากนั้น ในใจของเธอยังคงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับน้องชายของตนเองที่ถูกองค์กร S.I.C จับตัวไปทำให้เธอนั้นต้องเข้ารับการเป็นตำรวจสากลไปประมาณ 4 ปี แล้วจากนั้นก็ย้ายกลับมา ที่ญี่ปุ่นเพื่อทำงานร่วมกับกรมตำรวจในประเทศ โดยเธอนั้นทำงานอยู่ในแผนกคดีจารกรรม ซึ่งเป็นแผนกที่ซับซ้อนมากที่สุด สำหรับมิโกะแล้วการที่เธอเลือกจะมาทำงานในแผนกนี้เพราะว่าเธอนั้นต้องการตามหาน้องชายของตนเอง จนกระทั่งเธอได้พบกับเจฟรอส ที่เข้ามาทำงานร่วมกับเธอทำให้ชีวิตของเธอนั้นเปลี่ยนไป
มิโกะ เป็นคนที่ขี้เล่นอยู่เสมอในเวลาว่าง เธอมักจะเข้าสังคมกับคนได้ดี เธอเป็นคนที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งในเวลาที่วิกฤตที่สุด แม้ว่าในบางครั้งชีวิตการงานของเธอจะมีอุปสรรคหลายๆ อย่างที่ทำให้เธอนั้น รู้สึกเครียดเป็นประจำ แต่นั้นก็ไม่ทำให้เธอถึงขั้นมีปากเสียงกับใครเลยสักครั้ง เจฟรอส ถูกบรรจุเข้ามาในแผนกนี้เมื่อ 2 เดือนที่แล้วหลังจากที่ได้แยกทางกันกับฮาเรส ที่ในตอนนั้นเขาได้เดินทางไปที่ลอส แองเจอลิส เนื่องจากต้องไปอารักขาท่านประธานาธิปดี เขาเป็นคนที่ต่างจากฮาเรสแบบสุดขั้ว ขี้ซุ่มซ่าม มักจะถูกฮาเรสตักเตือนเป็นประจำทุกวัน ดูแล้วไม่ค่อยจะเอาจริงเอาจังกับงานสักเท่าไหร่ เขามักจะชอบงีบหลับและเป็นตัวปัญหาให้กับงานอยู่เสมอๆ
จนกระทั่งเขาย้ายไปทำงานที่ญี่ปุ่น เนื่องจากถูกโยกย้ายตำแหน่งโดย CIA ให้ไปทำงานที่นั้นแผนกคดี
จารกรรม เพราะเห็นว่าเขานั้นเหมาะสมกับงานนี้มากกว่าแผนกข่าวกรอง
หลังจากถูกย้ายมาได้ไม่นาน มิโกะก็ได้พบกับเจฟรอสที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ทำให้เธอนั้นต้องเป็นผู้ดูแลเจฟรอสไปโดยปริยาย
มิโกะได้สอนสิ่งต่างๆ ให้กับเจฟรอส เธอมักจะชอบคุยกับเขาเป็นประจำในช่วงเวลาว่าง และทำงานกันเป็นคู่หูจนเริ่มมีความสัมพันธ์ต่อกันมากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกๆ เจฟรอสมักจะชอบทำให้มิโกะปวดหัวเป็นประจำ
ก็ตามที
กลับมาที่ด้านของเคออส วิลเลี่ยมได้ทราบว่าตอนนี้พวกตำรวจได้แห่กันมาที่นี้เพื่อบุกจับเคออส โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทันวิลเลี่ยมก็ได้กำชับคนในตึกให้เตรียมตัวพร้อมรับมือกับตำรวจไว้เรียบร้อย เพราะเกรงว่าจะถูกผลพลอยซวยไปด้วย
"โอเค...หวังว่าคงพร้อมนะ" วิลเลี่ยม หยิบปืนลูกซองยาวรีมิงตันขึ้นมา เพื่อเตรียมตัวปะทะกับตำรวจ
"อืม...พวกนายไปหาที่หลบซ่อนกันก่อน คนพวกนี้จะพาพวกนายไปเองไม่ต้องห่วงฉันหรอก"
เคออส กล่าวกับฮารุกะและจอหน์นี่ ก่อนที่จะไปหยิบปืนเอเค 47 ลำกล้องสะท้อนแสง ใช้ดรัมแมกกาซีนที่
ได้เตรียมไว้
"ไม่ได้หรอก...พวกเราจะสู้ด้วย" จอหน์นี่ เริ่มโต้แย้ง ซึ่งฮารุกะเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
"งั้นพวกเธอก็ลงไปข้างล่างแล้วเตรียมอาวุธให้พร้อมด้วยล่ะ!"
เคออส เริ่มบรรจุกระสุน จากนั้นก็ขึ้นลำอยู่ในสภาพพร้อมยิงแล้ว
"โอเค..ได้เวลาประจำที่!"
ทุกคนต่างแยกย้ายออกไปตามจุดต่างๆ เคออส ซ่อนอยู่บนตึกเพื่อหวังโจมตีในระยะไกล ส่วนจอหน์นี่กับฮารุกะอยู่ในทางด้านหลังของตึกในส่วนของการบุกจู่โจมแบบระยะประชิด เผื่อในกรณีที่ตำรวจนั้นบุกมาได้สองทาง
จนกระทั่งเวลาได้มาถึง รถคันสีดำแบบหุ้มเกราะได้วิ่งมายังเส้นทางประมาณ 2 คัน มีปืนกลหนักติดไว้อยู่บนหลังคารถ น่าแปลกที่ตามปกติแล้วจะไม่มีรถคันนี้วิ่งผ่านบนถนน นอกจากว่าในกรณีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น แต่ในครั้งนี้กลับมีสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
"จัดการได้เลย."
จรวจอาร์พีจีของฝ่ายวิลเลี่ยมกว่า 5 ลูก พุ่งไปที่รถหุ้มเกราะทั้งสองคันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะจบลงด้วยแรงระเบิดอันมหาศาลจนรถทั้งสองคันบินขึ้นไปบนอากาศ ก่อนที่จะตกลงมาบนพื้นอย่างไม่เหลือซาก
"ง่ายๆ แค่นี้เองเหรอ?" วิลเลี่ยม กล่าวพร้อมกับถือบุหรี่สูบไปด้วยอย่างโล่งใจ
"ไม่ใช่...ไม่ใช่พวกเขา!!!" เคออส กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าอํ้าอึ้ง
"หา? นี่นายพูดอะไร?"
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ เลือดของวิลเลี่ยมก็ได้พุ่งกระฉูดออกมาเหมือนนํ้าพุทั่วทั้งตัว ผิวหนังเริ่ม
เหือดแห้ง ก่อนที่จะลงไปจมกองเลือดของตนเองพร้อมกับร่างที่น่าสยดสยอง
"อึ้งไปเลยล่ะสิ!?" เสียงของชายหนุ่ม เดินเข้ามาพร้อมกับหน่วยสังหารที่ถูกส่งมา 5 คน แต่ละคนนั้นแต่ง
ตัวคล้ายกันและมาพร้อมกับอาวุธครบมือ
"ฟินลิท! แก...." เคออส ทิ้งปืนลงไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ยิง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปจัดการกับหน่วยสังหารทั้ง 5 คน
ซึ่งมีฝีมือที่สูสีกันกับเขามาก
หนึ่งในหน่วยสังหารคนแรก ล้มไปหนึ่งเพราะโดนเคออสใช้มีดของตนเองฟันไปที่คอ
"ฉันจัดการเอง!" คนที่สองเริ่มพุ่งเข้ามาพร้อมกับกรงเล็บแหลมทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน
เคออส รีบเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง จากนั้นก็ใช้มีดแทงเข้าไปที่หลัง แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายตั้งตัวทัน จึงทำ
ให้เคออสนั้นถูกสวนโจมตีกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่แผลเล็กๆ เท่านั้น...
สำหรับเคออสแผลแค่นี้ไม่ทำให้เขาบาดเจ็บมากนัก เขาเริ่มวิ่งพุ่งตรงไปที่ศัตรูทันที จากนั้นก็อาศัยจังหวะ
ที่อีกฝ่ายใช้กรงเล็บ เปิดช่องว่างตรงที่ท้องจากนั้นก็ใช้ศอกพุ่งเข้าที่หน้าท้องอย่างแรง เพื่อเป็นการตัดกำลังคู่ต่อสู้ และจบลงด้วยการใช้มีดเสียบไปที่คอ
"ไม่ได้เห็นแบบนี้มานานเลยแหะ..." ฟินลิท กล่าวในระหว่างที่กำลังชมการต่อสู้ของเคออสอย่างใจจดใจ
จ่อ
เคออส เริ่มหันไปมองรอบๆ มีอยู่สามคน คนหนึ่งถือคาตานะร่างซูบผอม ดูแล้วคงน่าจะเคยเป็นนักดาบมาก่อน ส่วนอีกคนใช้มีดแมเชเท มีลายแปลกประหลาดสลักอยู่บนมีดซึ่งหน้าจะเป็นไฟฟ้าสถิตที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีแบบ ESA ที่สามารถเพิ่มระบบการทำงานให้กับอาวุธได้ ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อทดแทนอาวุธและชุดเกราะในบางกรณีที่ไม่สามารถปรับแต่งเองได้
"แมเชเท? ดูท่าจะดีไซน์ออกมาได้ดีเหมือนกันแหะ." เคออส หันไปชมมีดแมเชเทที่ศัตรูถือเอาไว้อยู่ ก่อนที่
จะเริ่มหันมาสนใจกับการต่อสู้อย่างจริงจัง
ในขณะที่เคออสกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด ด้านของจอหน์นี่และฮารุกะเองก็ไม่แพ้กัน
พี่น้องฝาแฝดสองคนที่ถูกรับจ้างมาเพื่อสังหารผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเคออส มีชื่อทางโค้ดเนมว่า "Slice & Grinder" ซึ่งมีเอกลักษณ์ตรงที่ว่าพวกเขานั้นใช้อาวุธที่มีรูปร่างประหลาด คนหนึ่งมีร่างกายที่กำยำและแข็งแรงเหมือนกับปีศาจ ที่แขนติดใบเลื่อยแบบหมุนอัตโนมัติ ปกปิดหน้าตาตัวเองไว้เหลือเพียงแค่ตาทั้งสองข้าง ส่วนอีกคนก็คล้ายๆ กัน มีอุปกรณ์เครื่องกลขนาดใหญ่ติดอยู่ที่แขนขวา คล้ายๆ กับเครื่องบด และปกปิดหน้าตาไว้ด้วยหน้ากาก
"นั่นมันตัวบ้าอะไรว่ะนั้น!" จอหน์นี่ สบถออกมาก่อนที่จะรีบวิ่งหนีจากการพุ่งชน และสังหารคนอย่าง
ทารุณ
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ เราคงต้องรีบซ่อนตัวซะก่อน!" ฮารุกะ กระโดดหลบใบเลื่อย แล้วใช้ดาบคา
ตานะฟันไปที่ไหล่ข้างขวา
แต่ปรากฏว่า Slice กลับไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
"โฮกกกกก!!!!" Slice ใช้ฝ่ามือของตน ปัดใส่ฮารุกะทันทีโดยที่เธอตั้งรับเอาไว้ได้ทัน แต่ทว่าพลังของ
Slice นั้นมากกว่าฮารุกะมาก ทำให้กระเด็นไปชนกับกำแพงเข้าอย่างรุนแรง
"อ๊อก!" ฮารุกะ ใช้ดาบคาตานะยันตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะตั้งท่าแล้ววิ่งไปหา Slice
"ย้ากก!!!" ฮารุกะ วิ่งไปหา Slice อย่างบ้าบิ่น แต่ยังไม่ทันไรก็ถูกจอหน์นี่รับตัวไว้ซะก่อน
"เฮ้! ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ! อยากตายมากรึไง!!?" จอหน์นี่ ใช้อาวุธของตัวเองโหนฮารุกะไปหลบหลัง
กำแพง ในระหว่างที่ Slice กำลังมองหาศัตรูรอชำแหละ
"แล้วนายจะปล่อยให้พวกมันฆ่าพวกเขาโดยที่เราไม่ทำอะไรเลยเหรอ!?" ฮารุกะ กล่าวด้วยความโมโห
"ใจเย็นๆ ก่อนสิ...ตอนนี้พวกเราทำอะไรมันไม่ได้หรอก..ดูนั่นสิ!" จอหน์นี่ ชี้นิ้วไปที่ Slice และ Grinder ที่
กำลังเดินมองหาพวกเขาอยู่อย่างไม่ละสายตา
"แล้วเราจะทำยังไงล่ะ?"
"คงจะต้องรอให้พวกตำรวจมาถึงที่นี่ก่อน..." จอหน์นี่ กล่าวกับฮารุกะด้วยความหวัง และเริ่มหันไปหาฮารุกะ
"ไม่บาดเจ็บอะไรใช่มั้ย?"
"อืม...แค่แผลถลอกนิดหน่อยเองน่ะ"
"โอเค..งั้นเดี๋ยวฉันทำแผลให้" จอหน์นี่ หยิบผ้าเย็นมาประคบบริเวณที่แผลถลอกของฮารุกะ
"นายไปเอามาจากไหน?"
"อ๋อ...พอดีว่าฉันได้มาจากผู้จัดการน่ะ เมื่อวานนี้ ก็เลยเก็บมายังไม่ได้ใช้"
"งั้นเหรอ?" ฮารุกะ กล่าวพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อย
"อืม."
(จบ Chapter 8 Lost Contact Part 1)
ปล2.ตอนนี้จะแบ่งออกเป็นตอนย่อยอีก 1 ตอนนะครับ เนื่องจากตอนต่อไปเปลี่ยนโปรแกรมพิมพ์ = ="
Chapter 8 Lost Contact (Part 1)
กลับมายังที่ญี่ปุ่น ตำรวจญี่ปุ่นเริ่มกระจายกำลังไปทั่วโตเกียวเพื่อต้านภัยการก่อการร้าย โดยมีฮาเรสคอยเป็นคนควบคุมกำลังของหน่วยสวาท ส่วนหนึ่ง และมิโกะคอยเป็นกำลังเสริมให้ พวกเขาเริ่มตรวจสอบสถานที่ต่างๆ และข้อมูลของชายในหน้ากากแก๊สจนกระทั่งได้ทราบข่าวมาว่า พวกเขานั้นได้เริ่มเคลื่อนไหวในเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันนี้ ทำให้ตอนนี้ฮาเรสนั้นต้องรีบเตรียมพร้อมรับมืออย่างรวดเร็ว และวางแผนอย่างละเอียดและถี่ถ้วนกว่าเมื่อก่อน
เพราะครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ที่เขาจะต้องเดิมพันอย่างสุดกำลัง...
ทางด้านของเคออส หลังจากที่ได้ตกลงทำแผนการร่วมมือกันกับฮารุกะและจอหน์นี่ พวกเขาก็ได้ใช้เวลาเกือบ 3 อาทิตย์ หลังเลิกเรียนช่วยกันรวบรวมข้อมูลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังโปรเจค D.A.R.T ในครั้งนี้ รวมทั้งการรับมือกับภัยที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ซึ่งก่อนอื่นนั้นอันดับแรกก็คือ การเค้นข้อมูล
จากคนที่อยู่ในประเทศนี้ซะก่อน
ฟินลิท ลักลอบเข้ามายังญี่ปุ่นพร้อมกับหน่วยสังหารที่มาตามคำสั่งของแมนทัส 5 คน โดยได้รับคำสั่งมาเพื่อฆ่าเคออส เพราะเคออสนั้นเคยทำงานให้กับคนในองค์กรมาก่อน และก็ไม่ง่ายนักที่จะจับตัวเขามาได้ แมนทัสใช้เวลากว่าหลายเดือนเพื่อรอดูผลการทดลองของโปรเจคที่เขาได้ร่วมมือกับ ควอซกี้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้
ถูกสังหารไปแล้วก่อนหน้านี้
"นายว่าพวกเขาจะหาพวกเราเจอมั้ย?" ฮารุกะ หันไปถามเคออสในขณะที่ทั้งสามยืนอยู่หน้าตึกร้างแห่งหนึ่ง
"เรื่องนั่นไม่ต้องห่วงหรอก" เคออส พูดขึ้น
"ตอนนี้พวกเราได้ข้อมูลมาแล้ว...เหลือแต่ว่าเราจะทำยังไงซะมากกว่า"
"หืม?" เธอพยักหน้าด้วยความงุนงง
"ตอนนี้ตำรวจกำลังเริ่มเคลื่อนไหว การทำงานของพวกเราก็เริ่มเหลือเวลาเพียงไม่มากแล้ว"
เคออส พูดขึ้นด้วยความกังวล
"ตำรวจ? ตำรวจงั้นเหรอ? ไม่นะ...นี่มันจู่ๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!!?"
เสียงของดีเจหนุ่มนาม "จอหน์นี่" กล่าวกับตัวเองด้วยความหวาดระแวง
"แล้วจะให้ทำยังไงต่อไปดี? บุกเลยดีมั้ย?" ฮารุกะ ถาม
"ตามสบายครับ คุณผู้หญิง."
ทั้งสามเดินเข้าไปในตึกร้างนั่นทันที ก่อนที่จะมียาม 2 คน เปิดประตูพาพวกเขาเข้าไปข้างใน
เมื่อเข้าไปข้างใน ทั้งสามก็ได้พบกับเหล่าอันธพาลและนักค้ายาเสพติดต่างๆ ที่กำลังจัดยาเสพติดของตัว
เองเพื่อส่งไปให้กับลูกค้า
"ฉันไม่ค่อยชอบเลย." จอหน์นี่ กระซิบเบาๆ ข้างหูเคออส
"เงียบเถอะน่า...ยังไงเราก็ไม่มีทางเลือก" ฮารุกะ พยายามเตือนสติให้จอหน์นี่ที่ตอนนี้อยู่ในอาการ ลุกลี้
ลุกลน
ทั้งสามหยุดอยู่ตรงหน้าบันไดทางขึ้น ซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ซ่อมแซมมานานหลายปี
"ดูท่าจะเก่ามากเลยนะนั้น" ฮารุกะ กล่าว
"ที่นี้ถูกทิ้งร้างไปเมื่อ 10 ปีก่อนน่ะ เคยมีพวกคนงานมาซ่อมที่นี้หลายครั้งเหมือนกัน แต่ทว่ากลับล้มเหลว
ไปเป็นท่า"
เคออส ตอบกลับไปในขณะที่เดินขึ้นไปบนบันไดคอนกรีตเพื่อพบกับใครคนหนึ่งที่เป็นแกนนำของที่นี่
"ฉันอยากจะให้พวกเธอได้ทำความรู้จักกับใครคนนึง ที่เขานั้นเป็นกุญแจสำคัญของ S.I.C"
"กุญแจสำคัญของ S.I.C?" ฮารุกะและจอหน์นี่ กล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
"ใช่...เขาเคยเป็นผู้ดูแลประจำตัวของหัวหน้าองค์กรที่ฉันอยู่น่ะ จนกระทั่งลาออกมาได้ไม่นานมานี้เอง"
"ลาออกงั้นเหรอ? แล้วสาเหตุล่ะ?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"
เมื่อเดินเข้ามาถึง ชายวัยประมาณ 20-40 เดินเข้ามาพร้อมกับอาวุธปืนที่อยู่ในมือ เข้ามาประมาณ 4-5
คน คาดว่าหน้าจะเป็นหนึ่งในยามที่เฝ้าที่นี่ไว้อยู่
"พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี้" ยามคนนั้น เดินเข้ามากันไม่ให้เคออสเดินเข้าไปข้างใน
ในขณะนั้น ฮารุกะเริ่มรู้สึกระแวงจึงเลยเอามือไปหยิบมีดที่เหน็บเอาไว้ในเสื้อใน เพื่อเกรงว่ารพวกเขาจะ
ได้รับอันตรายแต่กลับโดนเคออสห้ามไว้ก่อน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้มีการขัดคำสั่งตามที่เคออสพูดแต่อย่างใด
"ผมอยากจะขอเข้าพบเขาสักหน่อย" เคออส กล่าว
""แต่ตอนนี้หัวหน้าของเราไม่ว่าง...ดูเหมือนว่าแกจะมั่นใจมากนะที่เข้ามาที่นี้"
ยามวัย 35 ปี ร่างกายกำยำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ เหลือบไปมองที่พวกจอหน์นี่กับฮารุกะ ก่อนที่จะหันมา
ทางเคออส ด้วยทีท่าน่าสงสัย
"นายพาพวกเขามาทำไม"
"เหตุผลของฉันไม่จำเป็นต้องบอกพวกแกหรอกนะ"
ในขณะที่ทุกคนกำลังโดนยามสอบถามอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งเข้ามา
"ปล่อยเขาไป..." เขาพูดด้วยนํ้าเสียงที่ดูแข็งกร้าว จนทำให้ยามพวกนั้นถึงกับถอยห่างออกไป
เคออสเดินฝ่าพวกยามเข้าไป เป็นชายวัย 30 ปี มีรอยแผลจากการถูกมีดกรีดบนแก้มทางด้านขวา ดูแล้ว
ท่าทางจะเคยเป็นทหารเก่ามาก่อน เพราะดูจากสภาพร่างกายแล้ว คงไม่ใช่ทหารธรรมดาแน่ๆ ภายใต้เสื้อกราว
น์สีดำเผยให้เห็นปืนเอ็มพีเซเว่นแบบพานท้ายพับเก็บได้ และแมกกาซีนที่เหน็บไว้อีก หลายตลับด้วยกัน กางเกงขายาวสีดำที่กลมกลืนเข้ากับรองเท้าบูตทหาร ทำให้เคออสนั้นไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมพวกยามถึงได้เกรงกลัวกันขนาดนั้น
"ไม่ได้เห็นแบบนี้มานานแล้วแหะ...ทำเอาฉันรู้สึกประหลาดใจขึ้นเยอะ" วิลเลี่ยม กล่าวกับตัวเองในขณะที่
เหลือบไปมองพวกจอหน์นี่และฮารุกะ
"ใช่...และแกเองก็เคยเป็นคนดูแลเจ้านั่นมาก่อน" เคออส เดินไปหาวิลเลี่ยมแล้วทักทายกันแบบเป็นกันเอง
"หมายถึง...คนฝรั่งเศสสินะ" วิลเลี่ยม กล่าวเป็นนัยๆ
"ให้ตายดิว่ะ นี่แกคงจะคิดมาให้ฉันกลับไปทำงานอีกแล้วสิเนี่ย โธ่เอ้ย! ฉันบอกแล้วไงว่า
"พวกเรามีเวลาไม่มากที่จะฟังแกพล่าม เพราะตอนนี้ตำรวจกำลังมาที่นี่"
วิลเลี่ยม เงียบกริบแล้วหันมาที่เคออสทันทีด้วยความประหลาดใจ
"เรื่องจริง?"
"ฉันจะโกหกในเรื่องที่ฉันไม่โกหก"
วิลเลี่ยม เงียบกริบอีกครั้งก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุย แล้วก็วางสายไป
"โอเคๆ ถ้าที่นายพูดนั่นคือเรื่องจริง ฉันก็จะลองเชื่อใจแกสักครั้งก็ได้ แต่แกต้องบอกเหตุผลมาก่อนว่า มา
ที่นี้ทำไม?"
"ยา? นํ้าแข็ง? บุหรี่? หรือว่าอยากจะสวิ้งกิ้งกับพวกยัยเด็กใจแตกนั่น!?"
ฮารุกะ ถึงกับวิ่งมาหาวิลเลี่ยมทันทีด้วยความไม่พอใจ แต่ก็โดนจอหน์นี่ห้ามไว้ซะก่อน
"ใจเย็นๆ น่า...อย่าลืมสิว่า เรากำลังทำอะไรอยู่?" จอหน์นี่ พูดเตือนสติ
"......" ฮารุกะ ได้แต่เงียบสนิท เก็บความโกรธเอาไว้ในใจ
ทางด้านของฮาเรส ได้ทำการนัดแผนการตามที่วางเอาไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน โดยได้มิโกะคอยเป็น
คนให้แผนการในแต่ละหน่วย โดยที่พวกเขานั้นใช้เวลากว่า 3 ชั่งโมงในการทบทวนแผนการก่อนลงมือจริง
"โอเค...ภารกิจในวันนี้ก็คือจับตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้ 3 ราย ตามภาพ"
ฮาเรส ชี้ไปที่รูปภาพทั้งสามใบ เป็นภาพของชายใส่หน้ากากแก๊สกำลังเดินอยู่บนถนนเส้นหนึ่งในย่านการค้าที่เกิดเหตุการณ์จลาจลส่วนอีกภาพนั้นเป็นภาพของจอหน์นี่ กับ ฮารุกะ ที่ถูกถ่ายไว้ขณะเดินไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งฮาเรสคาดว่าพวกเขาคงจะเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่มีส่วมร่วมกับเคออส
"แบ่งเป็นสองหน่วย A กับ B หน่วยละ 5 คน เรามีทั้งหมด 20 คน" มิโกะ กล่าวกับคนในทีมที่ได้รับการคัด
เลือกมาจากกรมตำรวจในประเทศ
"นาย...ทาจิโกะ มาฮาระ" มิโกะขานชื่อหน่วยสวาทคนหนึ่ง ซึ่งเขามีบุคลิกมีความทะเยอทะยานสูง
"ครับ!"
"นายกับลูกทีมของนายจะอยู่ในแนวหน้า เพราะฉะนั้นนายก็-" ยังไม่ทันที่มิโกะพูดจบ ก็ดันถูกตัดบทออก
ไป
"รับทราบแล้วครับ! คุณเคยยํ้าคำสั่งกับผมเสมอว่า 'จู่โจมได้ทันทีเมื่อมีการปะทะ' อย่างงั้นใช่มั้ยครับ?"
มาฮาระ ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ
"อืม...หัวไวดีนี่ ส่วนแนวหลังฉันให้แซนเดอร์เป็นคนจัดการเองนะ"
"ครับ! หัวหน้า"
หลังจากที่ประชุมแผนกันเสร็จ ก็ถึงคราวที่ฮาเรสเป็นคนออกโรง
"โอเค...หวังว่าทุกคนคงจะรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีแล้วสินะ" ฮาเรส กล่าวกับทุกคนด้วยความโล่งใจ
ที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
"ก่อนอื่นผมต้องขอให้พวกคุณทำใจให้โล่ง สูบอากาศให้เต็มปอด เพราะในครั้งนี้จะไม่มีการถอยกลับหรือ
เริ่มต้นใหม่เป็นครั้งที่สอง"
"หากพวกคุณทำสำเร็จก็คงจะไม่ต้องบอกนะว่าจะได้อะไรกันไปบ้าง ผมรู้ว่าหลายๆ อย่างที่เราได้อะไร
จากการทำงานในครั้งนี้"
ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบทันที หลังจากที่ได้ยินประโยคของฮาเรส
"รู้มั้ย? ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากจะเอาคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรไปเสี่ยงอันตรายกับเรื่องนี้นะ สู้ไปปกป้อง
ประชาชนตาดำๆ นั้นเลยจะดีซะกว่า"
"เอาล่ะ! จบกันแค่นี้...รีบไปประจำตำแหน่งของตัวเอง แล้วรอฟังคำสั่งจากฉัน"
ทุกคนต่างแยกย้ายกันออกไปตามหน้าที่ของตัวเอง รถหุ้มเกราะคันสีดำกว่า 3 คันพร้อมกับรถตำรวจอีก 2 วิ่งออกจากสถานีตำรวจแล้วมุ่งหน้าไปยังที่กำหนดเอาไว้ในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม 45 นาที ฮาเรสยังคงครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับแผนการของตัวเอง ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เขาต้องแน่ใจให้ได้ว่าแผนการจะต้องสำเร็จลุล่วงในเวลาที่กำหนด ไม่มีการขาดตกบกพร่องประการใด
มิโกะ ยังคงจับตาดูฮาเรสต่อไปอย่างไม่คาดสายตา ซึ่งเป็นเวลามากว่าหลายสัปดาห์ที่พวกเขาเริ่มทำภารกิจร่วมกัน ทำให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มเพิ่มขึ้นจากเพื่อนร่วมงาน กลายเป็นคู่หูของตนเอง แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่มิโกะชอบใจอะไรมากนั้น ในใจของเธอยังคงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับน้องชายของตนเองที่ถูกองค์กร S.I.C จับตัวไปทำให้เธอนั้นต้องเข้ารับการเป็นตำรวจสากลไปประมาณ 4 ปี แล้วจากนั้นก็ย้ายกลับมา ที่ญี่ปุ่นเพื่อทำงานร่วมกับกรมตำรวจในประเทศ โดยเธอนั้นทำงานอยู่ในแผนกคดีจารกรรม ซึ่งเป็นแผนกที่ซับซ้อนมากที่สุด สำหรับมิโกะแล้วการที่เธอเลือกจะมาทำงานในแผนกนี้เพราะว่าเธอนั้นต้องการตามหาน้องชายของตนเอง จนกระทั่งเธอได้พบกับเจฟรอส ที่เข้ามาทำงานร่วมกับเธอทำให้ชีวิตของเธอนั้นเปลี่ยนไป
มิโกะ เป็นคนที่ขี้เล่นอยู่เสมอในเวลาว่าง เธอมักจะเข้าสังคมกับคนได้ดี เธอเป็นคนที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งในเวลาที่วิกฤตที่สุด แม้ว่าในบางครั้งชีวิตการงานของเธอจะมีอุปสรรคหลายๆ อย่างที่ทำให้เธอนั้น รู้สึกเครียดเป็นประจำ แต่นั้นก็ไม่ทำให้เธอถึงขั้นมีปากเสียงกับใครเลยสักครั้ง เจฟรอส ถูกบรรจุเข้ามาในแผนกนี้เมื่อ 2 เดือนที่แล้วหลังจากที่ได้แยกทางกันกับฮาเรส ที่ในตอนนั้นเขาได้เดินทางไปที่ลอส แองเจอลิส เนื่องจากต้องไปอารักขาท่านประธานาธิปดี เขาเป็นคนที่ต่างจากฮาเรสแบบสุดขั้ว ขี้ซุ่มซ่าม มักจะถูกฮาเรสตักเตือนเป็นประจำทุกวัน ดูแล้วไม่ค่อยจะเอาจริงเอาจังกับงานสักเท่าไหร่ เขามักจะชอบงีบหลับและเป็นตัวปัญหาให้กับงานอยู่เสมอๆ
จนกระทั่งเขาย้ายไปทำงานที่ญี่ปุ่น เนื่องจากถูกโยกย้ายตำแหน่งโดย CIA ให้ไปทำงานที่นั้นแผนกคดี
จารกรรม เพราะเห็นว่าเขานั้นเหมาะสมกับงานนี้มากกว่าแผนกข่าวกรอง
หลังจากถูกย้ายมาได้ไม่นาน มิโกะก็ได้พบกับเจฟรอสที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ทำให้เธอนั้นต้องเป็นผู้ดูแลเจฟรอสไปโดยปริยาย
มิโกะได้สอนสิ่งต่างๆ ให้กับเจฟรอส เธอมักจะชอบคุยกับเขาเป็นประจำในช่วงเวลาว่าง และทำงานกันเป็นคู่หูจนเริ่มมีความสัมพันธ์ต่อกันมากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกๆ เจฟรอสมักจะชอบทำให้มิโกะปวดหัวเป็นประจำ
ก็ตามที
กลับมาที่ด้านของเคออส วิลเลี่ยมได้ทราบว่าตอนนี้พวกตำรวจได้แห่กันมาที่นี้เพื่อบุกจับเคออส โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทันวิลเลี่ยมก็ได้กำชับคนในตึกให้เตรียมตัวพร้อมรับมือกับตำรวจไว้เรียบร้อย เพราะเกรงว่าจะถูกผลพลอยซวยไปด้วย
"โอเค...หวังว่าคงพร้อมนะ" วิลเลี่ยม หยิบปืนลูกซองยาวรีมิงตันขึ้นมา เพื่อเตรียมตัวปะทะกับตำรวจ
"อืม...พวกนายไปหาที่หลบซ่อนกันก่อน คนพวกนี้จะพาพวกนายไปเองไม่ต้องห่วงฉันหรอก"
เคออส กล่าวกับฮารุกะและจอหน์นี่ ก่อนที่จะไปหยิบปืนเอเค 47 ลำกล้องสะท้อนแสง ใช้ดรัมแมกกาซีนที่
ได้เตรียมไว้
"ไม่ได้หรอก...พวกเราจะสู้ด้วย" จอหน์นี่ เริ่มโต้แย้ง ซึ่งฮารุกะเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
"งั้นพวกเธอก็ลงไปข้างล่างแล้วเตรียมอาวุธให้พร้อมด้วยล่ะ!"
เคออส เริ่มบรรจุกระสุน จากนั้นก็ขึ้นลำอยู่ในสภาพพร้อมยิงแล้ว
"โอเค..ได้เวลาประจำที่!"
ทุกคนต่างแยกย้ายออกไปตามจุดต่างๆ เคออส ซ่อนอยู่บนตึกเพื่อหวังโจมตีในระยะไกล ส่วนจอหน์นี่กับฮารุกะอยู่ในทางด้านหลังของตึกในส่วนของการบุกจู่โจมแบบระยะประชิด เผื่อในกรณีที่ตำรวจนั้นบุกมาได้สองทาง
จนกระทั่งเวลาได้มาถึง รถคันสีดำแบบหุ้มเกราะได้วิ่งมายังเส้นทางประมาณ 2 คัน มีปืนกลหนักติดไว้อยู่บนหลังคารถ น่าแปลกที่ตามปกติแล้วจะไม่มีรถคันนี้วิ่งผ่านบนถนน นอกจากว่าในกรณีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น แต่ในครั้งนี้กลับมีสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
"จัดการได้เลย."
จรวจอาร์พีจีของฝ่ายวิลเลี่ยมกว่า 5 ลูก พุ่งไปที่รถหุ้มเกราะทั้งสองคันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะจบลงด้วยแรงระเบิดอันมหาศาลจนรถทั้งสองคันบินขึ้นไปบนอากาศ ก่อนที่จะตกลงมาบนพื้นอย่างไม่เหลือซาก
"ง่ายๆ แค่นี้เองเหรอ?" วิลเลี่ยม กล่าวพร้อมกับถือบุหรี่สูบไปด้วยอย่างโล่งใจ
"ไม่ใช่...ไม่ใช่พวกเขา!!!" เคออส กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าอํ้าอึ้ง
"หา? นี่นายพูดอะไร?"
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ เลือดของวิลเลี่ยมก็ได้พุ่งกระฉูดออกมาเหมือนนํ้าพุทั่วทั้งตัว ผิวหนังเริ่ม
เหือดแห้ง ก่อนที่จะลงไปจมกองเลือดของตนเองพร้อมกับร่างที่น่าสยดสยอง
"อึ้งไปเลยล่ะสิ!?" เสียงของชายหนุ่ม เดินเข้ามาพร้อมกับหน่วยสังหารที่ถูกส่งมา 5 คน แต่ละคนนั้นแต่ง
ตัวคล้ายกันและมาพร้อมกับอาวุธครบมือ
"ฟินลิท! แก...." เคออส ทิ้งปืนลงไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ยิง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปจัดการกับหน่วยสังหารทั้ง 5 คน
ซึ่งมีฝีมือที่สูสีกันกับเขามาก
หนึ่งในหน่วยสังหารคนแรก ล้มไปหนึ่งเพราะโดนเคออสใช้มีดของตนเองฟันไปที่คอ
"ฉันจัดการเอง!" คนที่สองเริ่มพุ่งเข้ามาพร้อมกับกรงเล็บแหลมทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน
เคออส รีบเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง จากนั้นก็ใช้มีดแทงเข้าไปที่หลัง แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายตั้งตัวทัน จึงทำ
ให้เคออสนั้นถูกสวนโจมตีกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่แผลเล็กๆ เท่านั้น...
สำหรับเคออสแผลแค่นี้ไม่ทำให้เขาบาดเจ็บมากนัก เขาเริ่มวิ่งพุ่งตรงไปที่ศัตรูทันที จากนั้นก็อาศัยจังหวะ
ที่อีกฝ่ายใช้กรงเล็บ เปิดช่องว่างตรงที่ท้องจากนั้นก็ใช้ศอกพุ่งเข้าที่หน้าท้องอย่างแรง เพื่อเป็นการตัดกำลังคู่ต่อสู้ และจบลงด้วยการใช้มีดเสียบไปที่คอ
"ไม่ได้เห็นแบบนี้มานานเลยแหะ..." ฟินลิท กล่าวในระหว่างที่กำลังชมการต่อสู้ของเคออสอย่างใจจดใจ
จ่อ
เคออส เริ่มหันไปมองรอบๆ มีอยู่สามคน คนหนึ่งถือคาตานะร่างซูบผอม ดูแล้วคงน่าจะเคยเป็นนักดาบมาก่อน ส่วนอีกคนใช้มีดแมเชเท มีลายแปลกประหลาดสลักอยู่บนมีดซึ่งหน้าจะเป็นไฟฟ้าสถิตที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีแบบ ESA ที่สามารถเพิ่มระบบการทำงานให้กับอาวุธได้ ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อทดแทนอาวุธและชุดเกราะในบางกรณีที่ไม่สามารถปรับแต่งเองได้
"แมเชเท? ดูท่าจะดีไซน์ออกมาได้ดีเหมือนกันแหะ." เคออส หันไปชมมีดแมเชเทที่ศัตรูถือเอาไว้อยู่ ก่อนที่
จะเริ่มหันมาสนใจกับการต่อสู้อย่างจริงจัง
ในขณะที่เคออสกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด ด้านของจอหน์นี่และฮารุกะเองก็ไม่แพ้กัน
พี่น้องฝาแฝดสองคนที่ถูกรับจ้างมาเพื่อสังหารผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเคออส มีชื่อทางโค้ดเนมว่า "Slice & Grinder" ซึ่งมีเอกลักษณ์ตรงที่ว่าพวกเขานั้นใช้อาวุธที่มีรูปร่างประหลาด คนหนึ่งมีร่างกายที่กำยำและแข็งแรงเหมือนกับปีศาจ ที่แขนติดใบเลื่อยแบบหมุนอัตโนมัติ ปกปิดหน้าตาตัวเองไว้เหลือเพียงแค่ตาทั้งสองข้าง ส่วนอีกคนก็คล้ายๆ กัน มีอุปกรณ์เครื่องกลขนาดใหญ่ติดอยู่ที่แขนขวา คล้ายๆ กับเครื่องบด และปกปิดหน้าตาไว้ด้วยหน้ากาก
"นั่นมันตัวบ้าอะไรว่ะนั้น!" จอหน์นี่ สบถออกมาก่อนที่จะรีบวิ่งหนีจากการพุ่งชน และสังหารคนอย่าง
ทารุณ
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ เราคงต้องรีบซ่อนตัวซะก่อน!" ฮารุกะ กระโดดหลบใบเลื่อย แล้วใช้ดาบคา
ตานะฟันไปที่ไหล่ข้างขวา
แต่ปรากฏว่า Slice กลับไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
"โฮกกกกก!!!!" Slice ใช้ฝ่ามือของตน ปัดใส่ฮารุกะทันทีโดยที่เธอตั้งรับเอาไว้ได้ทัน แต่ทว่าพลังของ
Slice นั้นมากกว่าฮารุกะมาก ทำให้กระเด็นไปชนกับกำแพงเข้าอย่างรุนแรง
"อ๊อก!" ฮารุกะ ใช้ดาบคาตานะยันตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะตั้งท่าแล้ววิ่งไปหา Slice
"ย้ากก!!!" ฮารุกะ วิ่งไปหา Slice อย่างบ้าบิ่น แต่ยังไม่ทันไรก็ถูกจอหน์นี่รับตัวไว้ซะก่อน
"เฮ้! ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ! อยากตายมากรึไง!!?" จอหน์นี่ ใช้อาวุธของตัวเองโหนฮารุกะไปหลบหลัง
กำแพง ในระหว่างที่ Slice กำลังมองหาศัตรูรอชำแหละ
"แล้วนายจะปล่อยให้พวกมันฆ่าพวกเขาโดยที่เราไม่ทำอะไรเลยเหรอ!?" ฮารุกะ กล่าวด้วยความโมโห
"ใจเย็นๆ ก่อนสิ...ตอนนี้พวกเราทำอะไรมันไม่ได้หรอก..ดูนั่นสิ!" จอหน์นี่ ชี้นิ้วไปที่ Slice และ Grinder ที่
กำลังเดินมองหาพวกเขาอยู่อย่างไม่ละสายตา
"แล้วเราจะทำยังไงล่ะ?"
"คงจะต้องรอให้พวกตำรวจมาถึงที่นี่ก่อน..." จอหน์นี่ กล่าวกับฮารุกะด้วยความหวัง และเริ่มหันไปหาฮารุกะ
"ไม่บาดเจ็บอะไรใช่มั้ย?"
"อืม...แค่แผลถลอกนิดหน่อยเองน่ะ"
"โอเค..งั้นเดี๋ยวฉันทำแผลให้" จอหน์นี่ หยิบผ้าเย็นมาประคบบริเวณที่แผลถลอกของฮารุกะ
"นายไปเอามาจากไหน?"
"อ๋อ...พอดีว่าฉันได้มาจากผู้จัดการน่ะ เมื่อวานนี้ ก็เลยเก็บมายังไม่ได้ใช้"
"งั้นเหรอ?" ฮารุกะ กล่าวพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อย
"อืม."
(จบ Chapter 8 Lost Contact Part 1)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chaos67 เมื่อ 2013-4-22 15:50
Chapter 8 Lost Contact (Part 1)