แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย gaganehehe เมื่อ 2014-4-1 10:18
ก่อนอื่นเลยกระผมต้องกราบขออภัยอย่าสุดซึ้งที่ไม่ได้ลงนิยายมานานมากเลยละครับ
อันเนื่องมาจากตอนแรกก็ไกล้จะสอบ แล้วมันก็ดันมีปัญหาอื่นๆ สุดท้ายก็เลยลืม แถมช่วงนี้ก็โคว์ตาอีก ( ; w ; )
กว่าจะเขียนเอยอะไรเอยเสร็จ ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
การหายไปของผมนะจำทำให้งานห่วยลง หรือดีขึ้น หรือว่าเท่าเดิมนั้นก็ติชมได้ตามสะดวกนะครับ
คำเตือน!!นี่คือแฟนฟิกชั่น เป็นส่วนเนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่
ตัวละครบุคลิก และสถานที่ภายในเรื่อง ทั้งหมดเป็นของการ์ตูนดั้งเดิมทั้งหมดหาใช่ผมแต่งไม่
เพราะฉะนั้นใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งต่างๆอาจถามผมได้ หรืออ่านมังงะการ์ตูนเรื่องนี้ได้
แล้วก็ทุกๆท่านสามารถติชมผมได้ตามสะดวก ขอบคุณครับ!!!!
“นี่ๆฮินะจัง อิซึมิเขาเก็บเนื้อเก็บตัวแล้วละ ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันด้วยท่าทางจริงจังผิดปกติ
“หา?” เนื่องจากไม่เข้าใจที่พูด ฮินะจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากถามกลับด้วยความสงสัย“หมายความว่ายังไง?”
มิกิใช้มือสองข้างยันโต๊ะทำงานฮินะเอาไว้แล้วพูด“ก็จำได้ไหม? ตอนที่ไปเดินเขากันได้ไหม?”
“ใช่แล้วตอนที่อิซึมิกับยูกิจิเขาก็ไปตามพวกฮายาตะในป่าน่ะ” ริสะพูดต่อ
“ จริงด้วยตอนไปถึงยอดเขาอิซึมิก็ไม่อยู่นี่นา? หรือว่ายังหลงป่าอยู่เหรอ? ”
“เปล่าๆ หลังจากนั้นก็หาตัวจนพบนั้นแหละ” ริสะพูดแก้
“แต่หลังจากนั้นก็หายตัวไปเลยนะ ไม่ยอมออกมาเล่นกับพวกเราเลย” มิกิพูดเสริม
”เธอเป็นเด็กรึไงเนี้ย...”
ก่อนอื่นเลยกระผมต้องกราบขออภัยอย่าสุดซึ้งที่ไม่ได้ลงนิยายมานานมากเลยละครับ
อันเนื่องมาจากตอนแรกก็ไกล้จะสอบ แล้วมันก็ดันมีปัญหาอื่นๆ สุดท้ายก็เลยลืม แถมช่วงนี้ก็โคว์ตาอีก ( ; w ; )
กว่าจะเขียนเอยอะไรเอยเสร็จ ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
การหายไปของผมนะจำทำให้งานห่วยลง หรือดีขึ้น หรือว่าเท่าเดิมนั้นก็ติชมได้ตามสะดวกนะครับ
คำเตือน!!นี่คือแฟนฟิกชั่น เป็นส่วนเนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่
ตัวละครบุคลิก และสถานที่ภายในเรื่อง ทั้งหมดเป็นของการ์ตูนดั้งเดิมทั้งหมดหาใช่ผมแต่งไม่
เพราะฉะนั้นใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งต่างๆอาจถามผมได้ หรืออ่านมังงะการ์ตูนเรื่องนี้ได้
แล้วก็ทุกๆท่านสามารถติชมผมได้ตามสะดวก ขอบคุณครับ!!!!
Hayate No Gotoku Cross time ตอนที่ 8: ฮินากิคุ อยากจะทำงานอย่างสงบ
ท่ามกลางสายลมอ่อนๆ ผ้าม่านสีขาวโปร่งแสงปลิวไสวไปตามลม
แสงแดดอ่อนๆที่พุ่งผ่านกลีบเมฆพุ่งผ่านเข้ามาทางระเบียง
กลางห้องนั้นเด็กสาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานที่ตนได้รับมอบหมายมาอย่างขะมักเขม้นบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเธอ
แสงแดดอ่อนๆที่พุ่งผ่านกลีบเมฆพุ่งผ่านเข้ามาทางระเบียง
กลางห้องนั้นเด็กสาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานที่ตนได้รับมอบหมายมาอย่างขะมักเขม้นบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเธอ
คัตสึระ ฮินากิคุประธานนักเรียนของโรงเรียนฮาคุโอ โรงเรียนว่าด้วยเรื่องเงิน หรือผลการเรียนดี
ขอแค่มีอย่างใดอย่างหนึ่งก็อยู่ที่นี่ได้สบาย และฮินะงิกุก็มีทั้งสองอย่างนั้น
เธอเด็กมัธยมปลาย ปีหนึ่งคนที่สองในประวัติศาสตร์โรงเรียนฮาคุโอที่ได้เป็นประธานนักเรียน
ซึ่งหมายความว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลเลยทีเดียว
ขอแค่มีอย่างใดอย่างหนึ่งก็อยู่ที่นี่ได้สบาย และฮินะงิกุก็มีทั้งสองอย่างนั้น
เธอเด็กมัธยมปลาย ปีหนึ่งคนที่สองในประวัติศาสตร์โรงเรียนฮาคุโอที่ได้เป็นประธานนักเรียน
ซึ่งหมายความว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลเลยทีเดียว
“ทีนี้ก็หมดไปอีกหนึ่งกอง” ฮินากิคุ(หรือฮินะ)กอดอกมองกองเอกสารรายงาน
หลังจากการเดินเขาที่ภูเขาทากาโอะฮินะก็ต้องจัดการเอกสารเล็กๆน้อยเกี่ยวกับกำหนดการ และสรุปรายงานเรื่องสัพเพเหระ
“ หลังจากนี้ก็จะได้พักผ่อนซะที ” เธอยิ้มแล้วยืดตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งเป็นเวลานานแชะ
“หืม?” เมื่อฮินะได้ยินเสียงปริศนาคล้ายเสียงกดชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป เธอก็หันไปมองด้วยความสงสัย
หลังจากการเดินเขาที่ภูเขาทากาโอะฮินะก็ต้องจัดการเอกสารเล็กๆน้อยเกี่ยวกับกำหนดการ และสรุปรายงานเรื่องสัพเพเหระ
“ หลังจากนี้ก็จะได้พักผ่อนซะที ” เธอยิ้มแล้วยืดตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งเป็นเวลานานแชะ
“หืม?” เมื่อฮินะได้ยินเสียงปริศนาคล้ายเสียงกดชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป เธอก็หันไปมองด้วยความสงสัย
ที่ประตูห้องทำงานของเธอ ฮินะพบกับหญิงสาวที่ตัวสูงกว่าเธอไปเล็กน้อย
เธอมีใบหน้าที่เรียวงาม สวมแว่นสายตาทรงรีไว้ใบหน้าของเธอที่ยิ้มแย้มเหมือนกำลังเจอเรื่องสนุกๆตลอดเวลา
ผมของเธอมัดรวบไว้ข้างหน้า
ตัวของเธอสูงกว่าฮินะอยู่เล็กน้อย ลีขนาดหน้าอกที่ใหญ่พอควร
เธอมีใบหน้าที่เรียวงาม สวมแว่นสายตาทรงรีไว้ใบหน้าของเธอที่ยิ้มแย้มเหมือนกำลังเจอเรื่องสนุกๆตลอดเวลา
ผมของเธอมัดรวบไว้ข้างหน้า
ตัวของเธอสูงกว่าฮินะอยู่เล็กน้อย ลีขนาดหน้าอกที่ใหญ่พอควร
“สวัสดีจ๊ะคุณประธานนักเรียน”เธอยิ้มทักทาย ที่คอของเธอคล้องกล้องโพลารอยด์ไว้ด้วย
ส่วนในมือขวาของเธอก็ถือรูปถ่ายไว้ใบหนึ่ง
“ อ๊ะ สวัสดีค่ะคุณคูมิโกะ ” ฟูจิวาระ คูมิโกะหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสภานักเรียนโรงเรียนฮาคุโอ
แล้วเธอเป็นเพื่อนของคุณไอกะอีกด้วย
ส่วนในมือขวาของเธอก็ถือรูปถ่ายไว้ใบหนึ่ง
“ อ๊ะ สวัสดีค่ะคุณคูมิโกะ ” ฟูจิวาระ คูมิโกะหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสภานักเรียนโรงเรียนฮาคุโอ
แล้วเธอเป็นเพื่อนของคุณไอกะอีกด้วย
“ คุณประธานนักเรียน ตอนนี้จี้จังอยู่เหรอเปล่า?” เธอพูดพลางหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดูแล้วยิ้มมุมปาก
“ คุณจิฮารุซินะคะ... ” ฮินะยิ้มฝืดๆ ไม่รู้ทำไมเธอถึงชอบเรียกจิฮารุว่าจี้จังก็ไม่ทราบแต่ฟังดูแล้วก็น่ารักดีนะ
“ ตอนนี้เธอไปทำธุระอยู่นะค่ะ ” ฮินะตอบไป พอคูมิโกะได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าบูดใส่ฮินะเห็นก็ทำอะไรไม่ถูกเลยได้แค่ยิ้มตอบ
หลังจากนั้นฮินะก็นึกขึ้นได้ “ แล้วเมื่อกี้ถ่ายอะไรน่ะคะ? ” ฮินะถาม
“ คุณจิฮารุซินะคะ... ” ฮินะยิ้มฝืดๆ ไม่รู้ทำไมเธอถึงชอบเรียกจิฮารุว่าจี้จังก็ไม่ทราบแต่ฟังดูแล้วก็น่ารักดีนะ
“ ตอนนี้เธอไปทำธุระอยู่นะค่ะ ” ฮินะตอบไป พอคูมิโกะได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าบูดใส่ฮินะเห็นก็ทำอะไรไม่ถูกเลยได้แค่ยิ้มตอบ
หลังจากนั้นฮินะก็นึกขึ้นได้ “ แล้วเมื่อกี้ถ่ายอะไรน่ะคะ? ” ฮินะถาม
“อ๋อก็รูปตอนที่คุณประธานนักเรียนกำลังเผลอตัวอยู่นะซิ”คูมิโกะยิ้มแล้วยกรูปถ่ายฮินะซึ่งกำลังยืนบิดขี้เกียด
ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของฮินะที่ต้องรักษาไว้ ถ้ามีใครเห็นเข้าคงแย่แน่ๆ “ หหวาคุณฟูจิวาระ อย่าถ่ายรูปแบบนั้นไปซิคะ ”
“เป็นรูปที่ดีออกนะคะ แสดงได้ว่าคุณก็ทำงานหนักแม้จะเป็นวันหยุดยังไงละคะ”
“ อ..เอ่อ งั้นเหรอคะ? ”
“ ใช่แล้วละ แล้วแสงและมุมกล้องยังดีมากเลยด้วย น่าเอาไปติดผนังมากเลยละ ”
“พอเถอะค่ะ แบบนั้นมันดูน่าอายนะคะ..”
“แล้วยังราคาดีมากเลยด้วย”
“ เอ๋??? จะเอาไปขายเหรอคะ?? ”
“ ประมูลต่างหากละ ”
“พอเลยนะคะ” ฮินะถึงกับเหงื่อตกเมื่อเจอบสนทนาแบบนี้
“น่าๆ แค่ล้อเล่นเองน่า” คูมิโกะยิ้มอย่างสบายใจแล้วยื่นรูปถ่ายให้ “แล้วก็รูปตอนไปเดินเขาก็ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ”
ฮินะได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจ “ขอบคุณมากค่ะ แล้วรูปเป็นยังไงบ้างคะ?”
“อืม สวยมากเลยละ รูปของรอยยิ้มนี่สวยที่สุดเลยละ” เธอพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นั้นซินะคะ”ฮินะเห็นใบหน้าอย่างนั้นก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
“เพราะงั้น รอยยิ้มก็เลยราคาถึง 10เยนยังไงละ”
“ไหงลากไปเรื่องเงินๆได้อีกละคะ??” ฮิมะก็ต้องกลับมากุมหน้าผากอีกครั้งทันที“ขอโทษทีนะคะ.. ว่าแต่ว่าขอดูรูปได้ไหมคะ?”
“ ได้ซิ เดี๋ยวไปหยิบมาให้นะ”
“ฝากด้วยนะคะ”
ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของฮินะที่ต้องรักษาไว้ ถ้ามีใครเห็นเข้าคงแย่แน่ๆ “ หหวาคุณฟูจิวาระ อย่าถ่ายรูปแบบนั้นไปซิคะ ”
“เป็นรูปที่ดีออกนะคะ แสดงได้ว่าคุณก็ทำงานหนักแม้จะเป็นวันหยุดยังไงละคะ”
“ อ..เอ่อ งั้นเหรอคะ? ”
“ ใช่แล้วละ แล้วแสงและมุมกล้องยังดีมากเลยด้วย น่าเอาไปติดผนังมากเลยละ ”
“พอเถอะค่ะ แบบนั้นมันดูน่าอายนะคะ..”
“แล้วยังราคาดีมากเลยด้วย”
“ เอ๋??? จะเอาไปขายเหรอคะ?? ”
“ ประมูลต่างหากละ ”
“พอเลยนะคะ” ฮินะถึงกับเหงื่อตกเมื่อเจอบสนทนาแบบนี้
“น่าๆ แค่ล้อเล่นเองน่า” คูมิโกะยิ้มอย่างสบายใจแล้วยื่นรูปถ่ายให้ “แล้วก็รูปตอนไปเดินเขาก็ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ”
ฮินะได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจ “ขอบคุณมากค่ะ แล้วรูปเป็นยังไงบ้างคะ?”
“อืม สวยมากเลยละ รูปของรอยยิ้มนี่สวยที่สุดเลยละ” เธอพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นั้นซินะคะ”ฮินะเห็นใบหน้าอย่างนั้นก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
“เพราะงั้น รอยยิ้มก็เลยราคาถึง 10เยนยังไงละ”
“ไหงลากไปเรื่องเงินๆได้อีกละคะ??” ฮิมะก็ต้องกลับมากุมหน้าผากอีกครั้งทันที“ขอโทษทีนะคะ.. ว่าแต่ว่าขอดูรูปได้ไหมคะ?”
“ ได้ซิ เดี๋ยวไปหยิบมาให้นะ”
“ฝากด้วยนะคะ”
หลังจากที่คูมิโกะออกจากห้องสภานักเรียนแล้ว
ฮินะก็ลุกขึ้นพร้อมจัดเก็บเอกสารต่างๆให้เป็นระเบียบตามลิ้นชักต่างๆ
แล้วทำงานสัพเพเหระของประธานนักเรียนตามเดิมเพื่อรอรูปถ่าย จนกระทั่งเธอสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงผมดำยาวในชุดกิโมโน
เดินเข้ามาจากทางระเบียงซึ่งดูไม่น่าจะเป็นไปได้เลยเพราะทางเข้าออกทางเดียวของหอนาฬิกานี้ก็คือลิฟต์
แล้วคงจะมายืนรอก่อนที่ฮินะจะมาก็คงไม่ใช่ เพราะฮินะก็นั่งทำงานที่นี้ตั้งแต่ช่วงบ่ายตอนนี้ก็เลยเวลามาถึงตอนเย็นก็สองชั่วโมงมาแล้วที่ไม่ได้ออกจากห้องนี้
ฮินะก็ลุกขึ้นพร้อมจัดเก็บเอกสารต่างๆให้เป็นระเบียบตามลิ้นชักต่างๆ
แล้วทำงานสัพเพเหระของประธานนักเรียนตามเดิมเพื่อรอรูปถ่าย จนกระทั่งเธอสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงผมดำยาวในชุดกิโมโน
เดินเข้ามาจากทางระเบียงซึ่งดูไม่น่าจะเป็นไปได้เลยเพราะทางเข้าออกทางเดียวของหอนาฬิกานี้ก็คือลิฟต์
แล้วคงจะมายืนรอก่อนที่ฮินะจะมาก็คงไม่ใช่ เพราะฮินะก็นั่งทำงานที่นี้ตั้งแต่ช่วงบ่ายตอนนี้ก็เลยเวลามาถึงตอนเย็นก็สองชั่วโมงมาแล้วที่ไม่ได้ออกจากห้องนี้
แล้วคนที่มีสิทธิเข้าออกหอนาฬิกาได้ก็มีแค่สภานักเรียนเสียด้วย
“อ..เอ่อ..คุณซากิโนมิยะ? ”ฮินะเรียกชื่อของเด็กสาวด้วยนำเสียงสับสน
เมื่อได้ยินที่ฮินะเรียก ซางิโนะมิยะ อิสึมิก็หันมาหาฮินะแล้วใช้แขนขวาที่ถูกชุดกิโมโนตัวใหญ่บังอยู่มาบังปากไว้แล้วพูดด้วย
แววาที่ดูตกใจ “คุณประธานนักเรียนมาหาชั้นที่บ้านอย่างนี้มีเรื่องด่วนอะไรเหรอคะ?”
ฮินะได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มอย่างหน่ายใจ “คุณซางิโนะมิยะนี่หลงทางมาไกลขนาดนี้เลยเหรอ?”
“อ๊ะ?” เมื่ออิสึมิได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองรอบๆด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน“ม..ไม่ใช่บ้านชั้นจริงๆด้วยค่ะ”
“ก็นะ...” ฮินะซึ่งไม่สามารถตอบอะไรได้จึงได้แค่ยิ้มแห้งๆตอบกลับไป
หลังจากได้ยินอย่างนั้นอิสึมิก็หลับตาลงไปซักพักหนึ่งราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างแล้วก็ลืมตาพูด
“ แสดงว่าที่นี่คือบ้านของคุณประธานนักเรียนซินะคะ? ”เธอยังพูดโดยใช้แขนเสื้อบังปากเหมือนเดิม
แต่ดูสงบนิ่งและเยือกเย็นมากขึ้น
“ที่นี่คือหอนาฬิกาของโรงเรียนฮาคุโอต่างหากละ”
“...”
“...”
“ชั้นสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณชั่วร้ายค่ะ”
อิสึมิพูดแล้วหันไปทางระเบียงด้วยแววตาจริงจังราวกับว่าจะมีประกายแสงขึ้นมาในทันที
โกหก..โกหกอยู่ซินะ ฮินะคิดพลางมองไปยังอิสึมิ
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวชั้นจะ...” ก่อนที่ฮินะจะได้พูดจบ อิสึมิก็หายไปจากห้องนี้แล้ว
“เป็นคนที่มาไวไปไวจังเลยนะ....”
เมื่อได้ยินที่ฮินะเรียก ซางิโนะมิยะ อิสึมิก็หันมาหาฮินะแล้วใช้แขนขวาที่ถูกชุดกิโมโนตัวใหญ่บังอยู่มาบังปากไว้แล้วพูดด้วย
แววาที่ดูตกใจ “คุณประธานนักเรียนมาหาชั้นที่บ้านอย่างนี้มีเรื่องด่วนอะไรเหรอคะ?”
ฮินะได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มอย่างหน่ายใจ “คุณซางิโนะมิยะนี่หลงทางมาไกลขนาดนี้เลยเหรอ?”
“อ๊ะ?” เมื่ออิสึมิได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองรอบๆด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน“ม..ไม่ใช่บ้านชั้นจริงๆด้วยค่ะ”
“ก็นะ...” ฮินะซึ่งไม่สามารถตอบอะไรได้จึงได้แค่ยิ้มแห้งๆตอบกลับไป
หลังจากได้ยินอย่างนั้นอิสึมิก็หลับตาลงไปซักพักหนึ่งราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างแล้วก็ลืมตาพูด
“ แสดงว่าที่นี่คือบ้านของคุณประธานนักเรียนซินะคะ? ”เธอยังพูดโดยใช้แขนเสื้อบังปากเหมือนเดิม
แต่ดูสงบนิ่งและเยือกเย็นมากขึ้น
“ที่นี่คือหอนาฬิกาของโรงเรียนฮาคุโอต่างหากละ”
“...”
“...”
“ชั้นสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณชั่วร้ายค่ะ”
อิสึมิพูดแล้วหันไปทางระเบียงด้วยแววตาจริงจังราวกับว่าจะมีประกายแสงขึ้นมาในทันที
โกหก..โกหกอยู่ซินะ ฮินะคิดพลางมองไปยังอิสึมิ
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวชั้นจะ...” ก่อนที่ฮินะจะได้พูดจบ อิสึมิก็หายไปจากห้องนี้แล้ว
“เป็นคนที่มาไวไปไวจังเลยนะ....”
หลังจากนั้น ฮินะก็จัดเอกสารต่อไปเรื่อย แต่เวลาผ่านไปได้ไม่นาน
“ฮินะจาง!!” ไม่ทันไรเด็กสาวอีกสองคนก็วิ่งเข้ามาข้างในห้อง
“อะไรนักหนาเนี้ย!? ”ฮินะบ่นออกมาาแล้วเอามือเท้าคางมองสองสาวที่วิ่งพรวดเข้ามาในห้อง
คนแรกมีผมดำตัดสั้น มีลักษณะคล้ายเด็กผู้ชาย อาซาคาเซะ ริสะ
คนที่สองไว้ผมยาว แล้วใช้ที่คาดผมรวบผมขึ้นไปจนเห็นหน้าผากชัดเจน ฮานาบิชิ มิกิ
ทั้งคู่เป็นกรรมการนักเรียนด้วย ถึงดูท่าทางจะไม่น่าเชื่อถือก็ตามที แต่ว่าแปลกตรงที่ปกติจะต้องมีอิซึมิอีกคนด้วยนี่นา
“ฮินะจาง!!” ไม่ทันไรเด็กสาวอีกสองคนก็วิ่งเข้ามาข้างในห้อง
“อะไรนักหนาเนี้ย!? ”ฮินะบ่นออกมาาแล้วเอามือเท้าคางมองสองสาวที่วิ่งพรวดเข้ามาในห้อง
คนแรกมีผมดำตัดสั้น มีลักษณะคล้ายเด็กผู้ชาย อาซาคาเซะ ริสะ
คนที่สองไว้ผมยาว แล้วใช้ที่คาดผมรวบผมขึ้นไปจนเห็นหน้าผากชัดเจน ฮานาบิชิ มิกิ
ทั้งคู่เป็นกรรมการนักเรียนด้วย ถึงดูท่าทางจะไม่น่าเชื่อถือก็ตามที แต่ว่าแปลกตรงที่ปกติจะต้องมีอิซึมิอีกคนด้วยนี่นา
“นี่ๆฮินะจัง อิซึมิเขาเก็บเนื้อเก็บตัวแล้วละ ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันด้วยท่าทางจริงจังผิดปกติ
“หา?” เนื่องจากไม่เข้าใจที่พูด ฮินะจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากถามกลับด้วยความสงสัย“หมายความว่ายังไง?”
มิกิใช้มือสองข้างยันโต๊ะทำงานฮินะเอาไว้แล้วพูด“ก็จำได้ไหม? ตอนที่ไปเดินเขากันได้ไหม?”
“ใช่แล้วตอนที่อิซึมิกับยูกิจิเขาก็ไปตามพวกฮายาตะในป่าน่ะ” ริสะพูดต่อ
“ จริงด้วยตอนไปถึงยอดเขาอิซึมิก็ไม่อยู่นี่นา? หรือว่ายังหลงป่าอยู่เหรอ? ”
“เปล่าๆ หลังจากนั้นก็หาตัวจนพบนั้นแหละ” ริสะพูดแก้
“แต่หลังจากนั้นก็หายตัวไปเลยนะ ไม่ยอมออกมาเล่นกับพวกเราเลย” มิกิพูดเสริม
”เธอเป็นเด็กรึไงเนี้ย...”
หลังจากฟังเรื่องราวก็รู้ได้ว่าตามปกติบนเขาทากาโอะนั้นสามารถใช้มือถือได้ แต่ตอนนั้นอิซึมิก็อยู่ในช่วงที่
ทำมือถือหายไปพอดี แล้วไม่ซื้อใหม่ทันทีเพราะจะรอรุ่นใหม่ที่กำลังจะออก
“สรุปก็คือ เพราะงั้นเลยอาจจะรู้สึกไม่ดี ก็เลยเก็บตัวอยู่ที่บ้านงั้นเหรอ?”
ฮินะเลิกเอามือเท้าคาง แล้วหันมากอดอกด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ใช่ๆ อาจจะมีแผลใจด้วยก็ได้นะ ” ทั้งมิกิ และริสะก็พูดเสริมพร้อมกัน
“เอาละก็ได้ เดี๋ยวชั้นจะไปเยี่ยมอิซึมิแล้วกันนะ” ฮินะพูดพลางเกาหัวแล้วยิ้มออกมาเล็กๆ
แต่ทว่า “ไม่เดี๋ยวเลยต้องไปตอนนี้เลยนะ!!” ทั้งมิกิ และริสะก็รีบเข้าไปลากฮินะออกมาจากโต๊ะ
“ด..เดี๋ยวซิ ชั้นต้องรอรูปจากคุณคูมิโกะอยู่นะ”ฮินะพูดออกไปแล้วพยายามยื้อทั้งสองคนเอาไว้ก่อน
ทำมือถือหายไปพอดี แล้วไม่ซื้อใหม่ทันทีเพราะจะรอรุ่นใหม่ที่กำลังจะออก
“สรุปก็คือ เพราะงั้นเลยอาจจะรู้สึกไม่ดี ก็เลยเก็บตัวอยู่ที่บ้านงั้นเหรอ?”
ฮินะเลิกเอามือเท้าคาง แล้วหันมากอดอกด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ใช่ๆ อาจจะมีแผลใจด้วยก็ได้นะ ” ทั้งมิกิ และริสะก็พูดเสริมพร้อมกัน
“เอาละก็ได้ เดี๋ยวชั้นจะไปเยี่ยมอิซึมิแล้วกันนะ” ฮินะพูดพลางเกาหัวแล้วยิ้มออกมาเล็กๆ
แต่ทว่า “ไม่เดี๋ยวเลยต้องไปตอนนี้เลยนะ!!” ทั้งมิกิ และริสะก็รีบเข้าไปลากฮินะออกมาจากโต๊ะ
“ด..เดี๋ยวซิ ชั้นต้องรอรูปจากคุณคูมิโกะอยู่นะ”ฮินะพูดออกไปแล้วพยายามยื้อทั้งสองคนเอาไว้ก่อน
ทันใดนั้นแสงแฟรชจากกล้องก็ฉายวาบออกมาทำให้ทุกๆคนหันไปทางที่มาของแสงทันที
“ดูท่าทางจะมีเรื่องสำคัญเกิดแล้วซินะคะ” คูมิโกะที่ถือกล้องโพลารอยด์อยู่ตรงทางเข้าก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากนั้นฮินะก็หันไปพูด้วย“คุณคูมิโกะ กลับมาแล้วเหรอคะ?”
“สวัสดีค่า” “สวัสดีค่ะ” ทั้งสองคนก็ปล่อยมือออกจากฮินะ แล้วทักด้วยเช่น
หลังจากนั้นคูมิโกะก็ยกซองใส่เอกสารสี้นำตาลที่ถือในมือขึ้นมาโชว์“ได้รูปมาแล้วละ”
“อ๊ะ ขอบคุณมากค่ะ” ฮินะจึงผละจากมิกิและริสะแล้วเดินไปรับซองเอกสารจากคูมิโกะในทันที
หลังจากที่ยื่นซองใส่รูปให้ คูมิโกะก็ถามทันที “ดูเหมือนว่าอิซึมิจังจะมีปัญหาซินะ?”
ฮินะจึงพยักหน้าตอบ “ใช่แล้วค่ะ”
“งั้นจะรออะไรอยู่ละ?” คูมิโกะกอดอกแล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม
“ไปเยี่ยมอิซึมิจังกันเถอะ”
ฮินะได้ยินก็ตกใจ “อะ? เอ๋? จะไปด้วยเหรอคะ?”
“แน่นอนอยู่แล้วละ ” หลังจากที่มิกิ กับริสะได้ยินอย่างนั้นก็รีบย้ายฟากไปหาคูมิโกะทันที
“ไปกันเลย” มิกิยกมือขวาขึ้นแล้วพูดด้วยท่าทีเหมือนจะไปเที่ยวยังไงอย่างนั้น“โอ้ๆ” ริสะเองก็ด้วย
ฮินะเห็นก็แอบถอนหายใจเล็กๆ แล้วยิ้มออกมา “เอาเถอะ รีบๆไปกันดีกว่านะ”แล้วเดินนำออกไปจากห้อง
แล้วทั้งสามคนก็เดินตามไปติดๆด้วย
“ดูท่าทางจะมีเรื่องสำคัญเกิดแล้วซินะคะ” คูมิโกะที่ถือกล้องโพลารอยด์อยู่ตรงทางเข้าก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากนั้นฮินะก็หันไปพูด้วย“คุณคูมิโกะ กลับมาแล้วเหรอคะ?”
“สวัสดีค่า” “สวัสดีค่ะ” ทั้งสองคนก็ปล่อยมือออกจากฮินะ แล้วทักด้วยเช่น
หลังจากนั้นคูมิโกะก็ยกซองใส่เอกสารสี้นำตาลที่ถือในมือขึ้นมาโชว์“ได้รูปมาแล้วละ”
“อ๊ะ ขอบคุณมากค่ะ” ฮินะจึงผละจากมิกิและริสะแล้วเดินไปรับซองเอกสารจากคูมิโกะในทันที
หลังจากที่ยื่นซองใส่รูปให้ คูมิโกะก็ถามทันที “ดูเหมือนว่าอิซึมิจังจะมีปัญหาซินะ?”
ฮินะจึงพยักหน้าตอบ “ใช่แล้วค่ะ”
“งั้นจะรออะไรอยู่ละ?” คูมิโกะกอดอกแล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม
“ไปเยี่ยมอิซึมิจังกันเถอะ”
ฮินะได้ยินก็ตกใจ “อะ? เอ๋? จะไปด้วยเหรอคะ?”
“แน่นอนอยู่แล้วละ ” หลังจากที่มิกิ กับริสะได้ยินอย่างนั้นก็รีบย้ายฟากไปหาคูมิโกะทันที
“ไปกันเลย” มิกิยกมือขวาขึ้นแล้วพูดด้วยท่าทีเหมือนจะไปเที่ยวยังไงอย่างนั้น“โอ้ๆ” ริสะเองก็ด้วย
ฮินะเห็นก็แอบถอนหายใจเล็กๆ แล้วยิ้มออกมา “เอาเถอะ รีบๆไปกันดีกว่านะ”แล้วเดินนำออกไปจากห้อง
แล้วทั้งสามคนก็เดินตามไปติดๆด้วย
“ก็าซ”ท่ามกลางลานกว้างที่ไร้ผู้คนเสียงร้องทรมาณของอสูรร้ายหน้าตาเหมือนรูปปั้นสิงโต ที่คอยอยู่เฝ้าหน้าวัดจีน
ตัวมันสูญเสียครึ่งล่างของร่างกายของมันไปตัวของมันก็พยายามตะเกียดตะกายด้วยท่อนบนของมันที่เป็นหิน
แต่ในชั่วพริบตานั้นเองแผ่นยันก็พุ่งเข้ามาประทับที่กลางหัวของสิงโตหินแล้วระเบิดออกมาจนทำลายสิงโตหินจนสิ้นซาก
หลังกลุ่มฝุ่นควันจางไป ซากิโนมิยะ อิซึมิ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วมองลงไปที่ซากก้อนหินนั้น
“มีพลังวิณญาณบางอย่างแรงกล้ากำลังเกิดขึ้น...ต้องรีบไปเตือนท่านฮายาเตะ ”เธอพูดด้วยท่าทีเป็นกังวลอย่างมาก
ตัวมันสูญเสียครึ่งล่างของร่างกายของมันไปตัวของมันก็พยายามตะเกียดตะกายด้วยท่อนบนของมันที่เป็นหิน
แต่ในชั่วพริบตานั้นเองแผ่นยันก็พุ่งเข้ามาประทับที่กลางหัวของสิงโตหินแล้วระเบิดออกมาจนทำลายสิงโตหินจนสิ้นซาก
หลังกลุ่มฝุ่นควันจางไป ซากิโนมิยะ อิซึมิ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วมองลงไปที่ซากก้อนหินนั้น
“มีพลังวิณญาณบางอย่างแรงกล้ากำลังเกิดขึ้น...ต้องรีบไปเตือนท่านฮายาเตะ ”เธอพูดด้วยท่าทีเป็นกังวลอย่างมาก
แฟนฟิคชั่น Hayate no gotoku Cross Time : ตอนที่ 8