แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2014-2-20 04:40
"...ผู้กล้าผู้สวมใส่อุปกรณ์ในตำนานเข้าต่อสู้กับกองทัพปิศาจอย่างกล้าหาญ เขาบุกฝ่าเข้าไปจนถึงปราสาทของจอมมาร ในที่สุดการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น ถึงแม้ว่าการต่อสู้จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก หากแต่ผู้กล้าก็หาได้ท้อถอยไม่ เขากัดฟันต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมด ในที่สุดเขาก็สามารถปราบจอมมารลงได้ และนำพาแสงสว่างมาสู่โลกอีกครั้ง"
เป็นบทสรุปของนิทานที่เล่าโดยชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในวงล้อมของเด็กๆมากมายที่ต่างนั่งฟังกันอย่างใจจดใจจ่อ ถึงแม้เรื่องราวที่เล่านั้นจะเป็นเรื่องราวพื้นๆแบบนิทานปรัมปราทั่วๆไป แต่สำหรับเหล่าเด็กน้อยแล้วเรื่องแบบนี้สามารถเข้าสู่สมองที่กำลังพัฒนานั้นได้อย่างง่ายดาย หนึ่งในเด็กพวกนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งนั่งจ้องมองผู้พูดอย่างตั้งใจ เขาเหมือนกับถูกสะกดให้อยู่ในโลกที่มีผู้กล้าและจอมมารนั้น ในหัวของเขาเต็มไปด้วยภาพของผู้กล้าหนุ่มที่ผจญภัยไปในโลกกว้าง กวัดแกว่งดาบในตำนานฟาดฟันเหล่าปิศาจอย่างกล้าหาญ โดยมีจุดหมายอยู่ที่การปราบจอมมารผู้ชั่วร้ายซึ่งในจินตนาการของเขาเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาหน้ากลัวใส่ชุดเสื้อคลุมยาวสีดำทั้งตัว มีเขาบนหัว ถือไม้เท้าต้องสาป และทั้งคู่ก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดและจบลงด้วยชัยชนะของผู้กล้า...
เด็กน้อยฝันถึงผู้กล้าในตำนานที่จินตนาการมาตลอด จนเวลาผ่านไป เมื่อชอบมากๆก็เกิดความหลงไหล และในที่สุดเขาก็อยากเป็นผู้กล้าเสียเอง และหวังลึกๆว่าเขานี่แหละที่เป็นผู้กล้าในตำนานคนนั้น......................
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังอาบน้ำที่บ่อน้ำ เธอดึงรอกตักน้ำขึ้นจากบ่อ จากนั้นยกถังที่เต็มไปด้วยน้ำใสสะอาดราดลงบนศีรษะ เธอรู้สึกได้ถึงน้ำที่เย็นเฉียบไหลลงมาตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงคอ ไหล่ ตามลำดับ ร่างอันเปลือยเปล่านั้นยังคงยืนก้มหน้าปล่อยให้สายวารีได้ผ่านชะโลมร่างกายจนทั่ว ก่อนจะตักน้ำมาอีกถัง เธอแลดูน้ำในถังก็เห็นเงาของตน ใบหน้าอันสะคราญของหล่อนสะท้อนอยู่ในน้ำถังนั้น ดูเหมือนเธอจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะยกถังน้ำนั้นราดลงบนตัวอีกครา จากนั้นค่อยๆใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายและใช้นิ้วเรียวงามนั้นถูเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
มือของเธอไล่ทำความสะอาดไปเรื่อยตั้งแต่ซอกหู หลังคอ ตามลำดับ และมือของเธอก็เลื่อนลงมาสัมผัสกับบางอย่างนุ่มๆตรงหน้าอก
บางอย่างที่นุ่มๆนั้นเมื่อเธอจับมันดูด้วยมือทั้งสองก็พบว่า...มันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ดูเหมือนว่าสีหน้าของหล่อนจะรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยกับความจริงที่สัมผัสได้...
หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว หญิงสาวก็ใส่นุ่งผ้าเช็ดตัวกลับเข้าไปในบ้านซึ่งมีสภาพค่อนข้างเก่าขนาดไม่ใหญ่นักที่อยู่ตรงหน้า และบ่อน้ำนั้นก็อยู่หลังบ้านของเธอนั่นเอง...
หญิงสาวใส่ชุดสีน้ำเงินแขนยาว เป็นเนื้อเดียวกันกับกระโปรงที่ยาวเรี่ยเท้า ด้วยความที่ชุดค่อนข้างรัดรูปทำให้เห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตรงหน้าอกที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหนักอกหนักใจกับมัน หล่อนจ้องหน้าอกตัวเองทีหนึ่งจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา เธอรวบผมยาวสีทองมัดไว้ข้างหลังเป็นทรงหางม้า แล้วหันไปหยิบเกราะอก(Breast Armor)สีเงินซึ่งวางไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงนั้นมาสวมทับชุดสีน้ำเงินอีกทีหนึ่ง เธอลงล็อคใส่เกราะเรียบร้อยแล้วก็หยิบเกราะส่วนล่างสีเดียวกันมาใส่ทับส่วนกระโปรงทีชั้นหนึ่ง เธอนั่งลงบนเตียงแล้วใส่รองเท้าเหล็กสีเงินซึ่งป้องกันจนถึงหัวเข่า ก่อนที่จะสวมถุงมือ(gauntlet)ตาม เธอยืนขึ้นและหยิบผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มขึ้นและนำมาคลุมทับไหล่ให้คลุมปิดช่วงหลังทั้งหมด
เธอรู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกเล็กน้อย แต่นั่นก็มิได้เป็นอุปสรรคในการทำงานของเธอ เธอเดินไปหยิบดาบสองมือ(Zweihander)สีน้ำเงินทั้งเล่มขึ้นมา แม้ว่าตัวดาบนั้นจะมีขนาดใหญ่ แต่เธอกลับยกมันขึ้นได้อย่างสบาย ความยาวของดาบก็เกือบเท่ากับตัวของเธอซึ่งสูงประมาณ168ซม. เธอถือดาบด้วยมือทั้งสองจากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป...
"ตื่นได้แล้วอเล็กซ์!!!" เสียงตะโกนของพี่สาวซึ่งกำลังปลุกน้องชายซึ่งนอนหลับยังไม่ตื่นทั้งๆที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนแสงแยงตาอยู่แล้ว "ขออีกแป๊บนึง" เสียงน้องชายขอโอดครวญ แต่กลับถูกปฏิเสธจากพี่สาวอย่างไม่ใยดี "ไม่ได้ นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว มัวแต่พูดอย่างนี้มากี่ครั้งแล้วหา!!!" ไม่พูดเปล่า เธอดึงผ้าห่มที่น้องชายกำลังจะดึงขึ้นไปคลุมศีรษะออกไปแล้วลากน้องชายตัวดีให้ลุกนั่ง "เอ้า ลุกได้แล้ว!!!" เสียงใสดังขึ้นหนักแน่นหวังจะให้น้องชายรู้สึกตัวซักที แม้ว่าจะนั่งแล้วแต่เขาก็ยังคงหลับต่อ เมื่อใช้ไม้นี้ไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้แข็ง เธอคิด
หญิงสาวครุ่นคิดวิธีการที่เธอคิดว่าเป็นไม้แข็งอยู่ครู่หนึ่ง เธอคิดทั้งลากไปโยนน้ำ เอาน้ำราด ทุบด้วยไม้หน้าสาม เอาปลายดาบใส่เข้าไปในปาก ฯลฯ แต่ว่าเธอก็เลือกได้วิธีการหนึ่งมาจนได้
หญิงสาวท่าทางเขินอาย เธอหน้าแดงเล็กน้อย หลับตาลง แล้วเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเจ้าน้องชายจอมขี้เซาว่า "ถะ...ถ้ายอมตื่นล่ะก็...จะ...จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้เลยนะ..." เสียงของเธอบอกได้ว่าเธอพูดด้วยความอายและฝืนเต็มที่
"จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้"
เสียงนั้นดั่งระฆังกังวานแว่วไปมาในโสตประสาทของชายหนุ่มผู้อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ส่งผลให้จอมขี้เซาหายจากอาการง่วงหงาวหาวนอนเป็นปลิดทิ้ง!!
ชายหนุ่มพึ่งตื่นก็จริง แต่เขาก็สามารถจับพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆตัวเขากดลงบนเตียงได้โดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถขัดขืนได้ ทำได้เพียงร้องว้ายขึ้นแค่ทีเดียวเท่านั้น
ตาจ้องตา ตอนนี้เด็กหนุ่มเคลื่อนหน้าของตนเข้าไปใกล้กับหน้าของอีกฝ่ายซึ่งนอนจ้องกลับมายังเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำทีละด้วย หัวใจของเขาเต้นรัวจนได้ยินเสียงการเต้นชัดเจนเมื่อเห็นใบหน้าแบบนั้น เขาจึงค่อยๆเคลื่อนใบหน้าลงไปอย่างช้าๆ...ทว่า...เมื่อใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงแค่คืบ หญิงสาวก็หันหน้าไปด้านข้างเสีย จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำเป็นปกติว่า "เอ่อ...ดูนาฬิกาสิว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว" เืมื่อได้ยินดังนั้นเด็กหนุ่มก็หันไปมองนาฬิกาบ้าง
เวลา 8.00 น.
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เด็กหนุ่มร้องขึ้น จากนั้นก็ลุกขึ้นจากร่างของพี่สาวอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำรีบล้างหน้า แปรงฟัน รวมทั้งอาบน้ำแบบสักว่าพอผ่านน้ำ ใช้เวลาประมาณ5 นาที แล้วออกมาแต่งตัวชุดนักเรียนอย่างรีบเร่งแล้วรีบออกจากห้องของตัวเอง
"ไม่ทันแล้วๆ" เขาพึมพำกับตัวเอง เมื่อมองเห็นอาหารเช้าที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารสำหรับเขา(ซึ่งตอนนี้มันคงเย็นหมดแล้ว) เขาก็หยิบขนมปังทาแยมมาคาบไว้ชิ้นหนึ่ง แล้วหยิบแผ่นแฮมมาใส่อีกชิ้น ราดมายองเนสทำเป็นแซนด์วิชแบบรีบๆ หยิบไข่ดาวใส่เข้าปากโดยที่ขนมปังไม่หล่นจากปาก แล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความเร็วสุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญ เขาไม่ลืมที่จะหยิบไก่ทอดอีกสองชิ้นติดมือไปด้วย "เหมือนจะลืมอะไรไปนะ อ๊ะ! ช่างมันเถอะ" เขาคิดแล้วก็วิ่งเต็มที่มุ่งหน้าไปโรงเรียนอย่างไม่สนใจอะไร
สิ่งที่เด็กหนุ่มลืมก็คือเรื่องที่เกือบจะทำอะไรที่มันเกินเลยความเป็นพี่น้องกับพี่สาวนั่นเอง...
หลังจากน้องชายออกไป พี่สาวก็ทำงานบ้านไปอย่างปกติ ดูท่าทั้งคู่คงจะลืมเรื่องที่เกือบจะเกินเลยความเป็นพี่น้องไปแล้ว "อเล็กซ์..." หญิงสาวพึมพำด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ อ๊ะ!! ดูเหมือนจะยังนะ
ทางด้านเด็กหนุ่มที่วิ่งไปพลางคาบขนมปังทาแยมสตรอเบอร์รี่ไปด้วยนั้นก็วิ่งมาถึงหัวมุมทางแยกพอดี ในใจของเขาคิดเล่นๆว่าอาจจะเจอสาวน้อยที่กำลังรีบเร่งแบบเขาตอนนี้วิ่งมาชนก็ได้ ว่าแล้วก็เร่งความเร็วเพื่อให้ถึงหัวมุมนั้นเร็วๆ
พลั่ก!
เสียงชนกับอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มล้มลงหากแต่ยังคงสามารถรักษาขนมปังในปากกับแซนด์วิชและไก่ทอดที่ถือมาได้ เขามองดูที่ต้นเหตุที่เขาชน ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นสาวน้อยที่ไปโรงเรียนสายแบบเขาเป็นแน่แท้
หากแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมังกรมีปีก ตัวขนาดใหญ่กว่าเขาเป็นเท่าตัว มันกำลังจ้องมายังเด็กหนุ่มซึ่งไปชนมันเข้า
แน่นอนว่าสายตาที่มันส่งมานั้นรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นมิตรอย่างเดียว
"ตายละหวา ทำไมถึงซวยอย่างนี้" เด็กหนุ่มมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วอดโวยขึ้นไม่ได้
มังกรตัวนั้นเดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม แน่นอนว่าด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ดี แม้แต่เด็กหนุ่มก็ยังรู้สึกได้ "เอาไงดี จะหนีทันมั้ยเนี่ย?" เด็กหนุ่มคิด พลางก้าวเท้าถอยไปอย่างช้าๆดูท่าที กะว่ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็เผ่นทันที แต่ทว่าเขากลับเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ
เขาคิดแผนอะไรบางอย่างออก
แผนที่ว่าก็คือ ให้อาหารมันนั่นเอง
เขาจำได้ว่าพี่สาวเคยพูดว่า มอนสเตอร์เองก็ต้องกินเหมือนกัน และส่วนใหญ่มอนสเตอร์จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากมันไม่หิวจริง ดังนั้นวิธีรับมือในกรณีแบบนี้คือให้อาหารมันนั่นเอง เด็กหนุ่มรู้สึกขอบคุณพี่สาวจากใจ ว่าแล้วเขาก็ยื่นไก่ชิ้นหนึ่งในมือไปให้มัน
มังกรตัวนั้นจ้องไก่ทอดชิ้นนั้น มันดมดังฟึดฟัด ก่อนที่คำรามขึ้นอย่างไม่พอใจ "ไม่่เห็นใช้ได้เลยนี่นาวิธีนี้" ขายหนุ่มคิด ในใจก็ร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก แม้แต่ขนมปังที่คาบไว้ก็ยังไม่ตกถึงท้องเลย
มังกรคำรามทีหนึ่งแล้วเดินเข้ามาแยกเขี้ยวใส่เขาแล้วอ้าปากกว้างหมายจะขย้ำเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า
เด็กหนุ่มมองเห็นเขี้ยวเหล่านั้นก็นึกสภาพว่าตัวเองคงไม่รอดแน่ เขาจึงหลับตาลง ในใจของเขาก็นึกเสียดายอาหารฝีมือของพี่สาวตัวเองที่ต้องลำบากตื่นมาทำให้ทุกเช้า กลับไปตอนเย็นก็มีข้าวรออยู่อีก แต่ว่า...จากนี้ไปคงจะไม่มีอีกแล้ว...เขาหลับตารอรับจุดจบที่ขยับเข้ามาใกล้ ตอนนี้คงไม่มีปาฏิหาริย์ใดที่จะช่วยเขาได้แล้ว
ทว่าปาฏิหาริย์นั้นมีอยู่จริง
เสียงดับฉับทีหนึ่ง ก่อนที่มังกรตัวนั้นจะขาดเป็นสองท่อนแล้วล้มลงไปกองกับพื้น
เด็กหนุ่มเห็นเงียบผิดปกติ เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า
มังกรตัวขนาดใหญ่กว่าเขาเมื่อครู่ บัดนี้ลงไปกองกับพื้นในสภาพขาดเป็นสองท่อน เมื่อเขามองไปไกลอีกหน่อยหลังมังกรนั้น ก็พบกับคนคนหนึ่ง
เป็นผู้หญิงผมทองสวมเกราะสีเงินกับถือดาบใหญ่ไว้ในมือ
เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "?zxxio[;.s?"
"หา?" เด็กหนุ่มทำหน้างง เพราะเขาฟังไม่รู้เรื่อง
ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะพบปัญหาใหม่ซะแล้ว...
"...ผู้กล้าผู้สวมใส่อุปกรณ์ในตำนานเข้าต่อสู้กับกองทัพปิศาจอย่างกล้าหาญ เขาบุกฝ่าเข้าไปจนถึงปราสาทของจอมมาร ในที่สุดการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น ถึงแม้ว่าการต่อสู้จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก หากแต่ผู้กล้าก็หาได้ท้อถอยไม่ เขากัดฟันต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมด ในที่สุดเขาก็สามารถปราบจอมมารลงได้ และนำพาแสงสว่างมาสู่โลกอีกครั้ง"
เป็นบทสรุปของนิทานที่เล่าโดยชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในวงล้อมของเด็กๆมากมายที่ต่างนั่งฟังกันอย่างใจจดใจจ่อ ถึงแม้เรื่องราวที่เล่านั้นจะเป็นเรื่องราวพื้นๆแบบนิทานปรัมปราทั่วๆไป แต่สำหรับเหล่าเด็กน้อยแล้วเรื่องแบบนี้สามารถเข้าสู่สมองที่กำลังพัฒนานั้นได้อย่างง่ายดาย หนึ่งในเด็กพวกนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งนั่งจ้องมองผู้พูดอย่างตั้งใจ เขาเหมือนกับถูกสะกดให้อยู่ในโลกที่มีผู้กล้าและจอมมารนั้น ในหัวของเขาเต็มไปด้วยภาพของผู้กล้าหนุ่มที่ผจญภัยไปในโลกกว้าง กวัดแกว่งดาบในตำนานฟาดฟันเหล่าปิศาจอย่างกล้าหาญ โดยมีจุดหมายอยู่ที่การปราบจอมมารผู้ชั่วร้ายซึ่งในจินตนาการของเขาเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาหน้ากลัวใส่ชุดเสื้อคลุมยาวสีดำทั้งตัว มีเขาบนหัว ถือไม้เท้าต้องสาป และทั้งคู่ก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดและจบลงด้วยชัยชนะของผู้กล้า...
เด็กน้อยฝันถึงผู้กล้าในตำนานที่จินตนาการมาตลอด จนเวลาผ่านไป เมื่อชอบมากๆก็เกิดความหลงไหล และในที่สุดเขาก็อยากเป็นผู้กล้าเสียเอง และหวังลึกๆว่าเขานี่แหละที่เป็นผู้กล้าในตำนานคนนั้น......................
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังอาบน้ำที่บ่อน้ำ เธอดึงรอกตักน้ำขึ้นจากบ่อ จากนั้นยกถังที่เต็มไปด้วยน้ำใสสะอาดราดลงบนศีรษะ เธอรู้สึกได้ถึงน้ำที่เย็นเฉียบไหลลงมาตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงคอ ไหล่ ตามลำดับ ร่างอันเปลือยเปล่านั้นยังคงยืนก้มหน้าปล่อยให้สายวารีได้ผ่านชะโลมร่างกายจนทั่ว ก่อนจะตักน้ำมาอีกถัง เธอแลดูน้ำในถังก็เห็นเงาของตน ใบหน้าอันสะคราญของหล่อนสะท้อนอยู่ในน้ำถังนั้น ดูเหมือนเธอจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะยกถังน้ำนั้นราดลงบนตัวอีกครา จากนั้นค่อยๆใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายและใช้นิ้วเรียวงามนั้นถูเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
มือของเธอไล่ทำความสะอาดไปเรื่อยตั้งแต่ซอกหู หลังคอ ตามลำดับ และมือของเธอก็เลื่อนลงมาสัมผัสกับบางอย่างนุ่มๆตรงหน้าอก
บางอย่างที่นุ่มๆนั้นเมื่อเธอจับมันดูด้วยมือทั้งสองก็พบว่า...มันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ดูเหมือนว่าสีหน้าของหล่อนจะรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยกับความจริงที่สัมผัสได้...
หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว หญิงสาวก็ใส่นุ่งผ้าเช็ดตัวกลับเข้าไปในบ้านซึ่งมีสภาพค่อนข้างเก่าขนาดไม่ใหญ่นักที่อยู่ตรงหน้า และบ่อน้ำนั้นก็อยู่หลังบ้านของเธอนั่นเอง...
หญิงสาวใส่ชุดสีน้ำเงินแขนยาว เป็นเนื้อเดียวกันกับกระโปรงที่ยาวเรี่ยเท้า ด้วยความที่ชุดค่อนข้างรัดรูปทำให้เห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตรงหน้าอกที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหนักอกหนักใจกับมัน หล่อนจ้องหน้าอกตัวเองทีหนึ่งจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา เธอรวบผมยาวสีทองมัดไว้ข้างหลังเป็นทรงหางม้า แล้วหันไปหยิบเกราะอก(Breast Armor)สีเงินซึ่งวางไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงนั้นมาสวมทับชุดสีน้ำเงินอีกทีหนึ่ง เธอลงล็อคใส่เกราะเรียบร้อยแล้วก็หยิบเกราะส่วนล่างสีเดียวกันมาใส่ทับส่วนกระโปรงทีชั้นหนึ่ง เธอนั่งลงบนเตียงแล้วใส่รองเท้าเหล็กสีเงินซึ่งป้องกันจนถึงหัวเข่า ก่อนที่จะสวมถุงมือ(gauntlet)ตาม เธอยืนขึ้นและหยิบผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มขึ้นและนำมาคลุมทับไหล่ให้คลุมปิดช่วงหลังทั้งหมด
เธอรู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกเล็กน้อย แต่นั่นก็มิได้เป็นอุปสรรคในการทำงานของเธอ เธอเดินไปหยิบดาบสองมือ(Zweihander)สีน้ำเงินทั้งเล่มขึ้นมา แม้ว่าตัวดาบนั้นจะมีขนาดใหญ่ แต่เธอกลับยกมันขึ้นได้อย่างสบาย ความยาวของดาบก็เกือบเท่ากับตัวของเธอซึ่งสูงประมาณ168ซม. เธอถือดาบด้วยมือทั้งสองจากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป...
"ตื่นได้แล้วอเล็กซ์!!!" เสียงตะโกนของพี่สาวซึ่งกำลังปลุกน้องชายซึ่งนอนหลับยังไม่ตื่นทั้งๆที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนแสงแยงตาอยู่แล้ว "ขออีกแป๊บนึง" เสียงน้องชายขอโอดครวญ แต่กลับถูกปฏิเสธจากพี่สาวอย่างไม่ใยดี "ไม่ได้ นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว มัวแต่พูดอย่างนี้มากี่ครั้งแล้วหา!!!" ไม่พูดเปล่า เธอดึงผ้าห่มที่น้องชายกำลังจะดึงขึ้นไปคลุมศีรษะออกไปแล้วลากน้องชายตัวดีให้ลุกนั่ง "เอ้า ลุกได้แล้ว!!!" เสียงใสดังขึ้นหนักแน่นหวังจะให้น้องชายรู้สึกตัวซักที แม้ว่าจะนั่งแล้วแต่เขาก็ยังคงหลับต่อ เมื่อใช้ไม้นี้ไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้แข็ง เธอคิด
หญิงสาวครุ่นคิดวิธีการที่เธอคิดว่าเป็นไม้แข็งอยู่ครู่หนึ่ง เธอคิดทั้งลากไปโยนน้ำ เอาน้ำราด ทุบด้วยไม้หน้าสาม เอาปลายดาบใส่เข้าไปในปาก ฯลฯ แต่ว่าเธอก็เลือกได้วิธีการหนึ่งมาจนได้
หญิงสาวท่าทางเขินอาย เธอหน้าแดงเล็กน้อย หลับตาลง แล้วเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเจ้าน้องชายจอมขี้เซาว่า "ถะ...ถ้ายอมตื่นล่ะก็...จะ...จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้เลยนะ..." เสียงของเธอบอกได้ว่าเธอพูดด้วยความอายและฝืนเต็มที่
"จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้ จะให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกับร่างกายของพี่สาวคนนี้"
เสียงนั้นดั่งระฆังกังวานแว่วไปมาในโสตประสาทของชายหนุ่มผู้อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ส่งผลให้จอมขี้เซาหายจากอาการง่วงหงาวหาวนอนเป็นปลิดทิ้ง!!
ชายหนุ่มพึ่งตื่นก็จริง แต่เขาก็สามารถจับพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆตัวเขากดลงบนเตียงได้โดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถขัดขืนได้ ทำได้เพียงร้องว้ายขึ้นแค่ทีเดียวเท่านั้น
ตาจ้องตา ตอนนี้เด็กหนุ่มเคลื่อนหน้าของตนเข้าไปใกล้กับหน้าของอีกฝ่ายซึ่งนอนจ้องกลับมายังเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำทีละด้วย หัวใจของเขาเต้นรัวจนได้ยินเสียงการเต้นชัดเจนเมื่อเห็นใบหน้าแบบนั้น เขาจึงค่อยๆเคลื่อนใบหน้าลงไปอย่างช้าๆ...ทว่า...เมื่อใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงแค่คืบ หญิงสาวก็หันหน้าไปด้านข้างเสีย จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำเป็นปกติว่า "เอ่อ...ดูนาฬิกาสิว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว" เืมื่อได้ยินดังนั้นเด็กหนุ่มก็หันไปมองนาฬิกาบ้าง
เวลา 8.00 น.
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เด็กหนุ่มร้องขึ้น จากนั้นก็ลุกขึ้นจากร่างของพี่สาวอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำรีบล้างหน้า แปรงฟัน รวมทั้งอาบน้ำแบบสักว่าพอผ่านน้ำ ใช้เวลาประมาณ5 นาที แล้วออกมาแต่งตัวชุดนักเรียนอย่างรีบเร่งแล้วรีบออกจากห้องของตัวเอง
"ไม่ทันแล้วๆ" เขาพึมพำกับตัวเอง เมื่อมองเห็นอาหารเช้าที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารสำหรับเขา(ซึ่งตอนนี้มันคงเย็นหมดแล้ว) เขาก็หยิบขนมปังทาแยมมาคาบไว้ชิ้นหนึ่ง แล้วหยิบแผ่นแฮมมาใส่อีกชิ้น ราดมายองเนสทำเป็นแซนด์วิชแบบรีบๆ หยิบไข่ดาวใส่เข้าปากโดยที่ขนมปังไม่หล่นจากปาก แล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความเร็วสุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญ เขาไม่ลืมที่จะหยิบไก่ทอดอีกสองชิ้นติดมือไปด้วย "เหมือนจะลืมอะไรไปนะ อ๊ะ! ช่างมันเถอะ" เขาคิดแล้วก็วิ่งเต็มที่มุ่งหน้าไปโรงเรียนอย่างไม่สนใจอะไร
สิ่งที่เด็กหนุ่มลืมก็คือเรื่องที่เกือบจะทำอะไรที่มันเกินเลยความเป็นพี่น้องกับพี่สาวนั่นเอง...
หลังจากน้องชายออกไป พี่สาวก็ทำงานบ้านไปอย่างปกติ ดูท่าทั้งคู่คงจะลืมเรื่องที่เกือบจะเกินเลยความเป็นพี่น้องไปแล้ว "อเล็กซ์..." หญิงสาวพึมพำด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ อ๊ะ!! ดูเหมือนจะยังนะ
ทางด้านเด็กหนุ่มที่วิ่งไปพลางคาบขนมปังทาแยมสตรอเบอร์รี่ไปด้วยนั้นก็วิ่งมาถึงหัวมุมทางแยกพอดี ในใจของเขาคิดเล่นๆว่าอาจจะเจอสาวน้อยที่กำลังรีบเร่งแบบเขาตอนนี้วิ่งมาชนก็ได้ ว่าแล้วก็เร่งความเร็วเพื่อให้ถึงหัวมุมนั้นเร็วๆ
พลั่ก!
เสียงชนกับอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มล้มลงหากแต่ยังคงสามารถรักษาขนมปังในปากกับแซนด์วิชและไก่ทอดที่ถือมาได้ เขามองดูที่ต้นเหตุที่เขาชน ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นสาวน้อยที่ไปโรงเรียนสายแบบเขาเป็นแน่แท้
หากแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมังกรมีปีก ตัวขนาดใหญ่กว่าเขาเป็นเท่าตัว มันกำลังจ้องมายังเด็กหนุ่มซึ่งไปชนมันเข้า
แน่นอนว่าสายตาที่มันส่งมานั้นรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นมิตรอย่างเดียว
"ตายละหวา ทำไมถึงซวยอย่างนี้" เด็กหนุ่มมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วอดโวยขึ้นไม่ได้
มังกรตัวนั้นเดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม แน่นอนว่าด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ดี แม้แต่เด็กหนุ่มก็ยังรู้สึกได้ "เอาไงดี จะหนีทันมั้ยเนี่ย?" เด็กหนุ่มคิด พลางก้าวเท้าถอยไปอย่างช้าๆดูท่าที กะว่ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็เผ่นทันที แต่ทว่าเขากลับเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ
เขาคิดแผนอะไรบางอย่างออก
แผนที่ว่าก็คือ ให้อาหารมันนั่นเอง
เขาจำได้ว่าพี่สาวเคยพูดว่า มอนสเตอร์เองก็ต้องกินเหมือนกัน และส่วนใหญ่มอนสเตอร์จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากมันไม่หิวจริง ดังนั้นวิธีรับมือในกรณีแบบนี้คือให้อาหารมันนั่นเอง เด็กหนุ่มรู้สึกขอบคุณพี่สาวจากใจ ว่าแล้วเขาก็ยื่นไก่ชิ้นหนึ่งในมือไปให้มัน
มังกรตัวนั้นจ้องไก่ทอดชิ้นนั้น มันดมดังฟึดฟัด ก่อนที่คำรามขึ้นอย่างไม่พอใจ "ไม่่เห็นใช้ได้เลยนี่นาวิธีนี้" ขายหนุ่มคิด ในใจก็ร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก แม้แต่ขนมปังที่คาบไว้ก็ยังไม่ตกถึงท้องเลย
มังกรคำรามทีหนึ่งแล้วเดินเข้ามาแยกเขี้ยวใส่เขาแล้วอ้าปากกว้างหมายจะขย้ำเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า
เด็กหนุ่มมองเห็นเขี้ยวเหล่านั้นก็นึกสภาพว่าตัวเองคงไม่รอดแน่ เขาจึงหลับตาลง ในใจของเขาก็นึกเสียดายอาหารฝีมือของพี่สาวตัวเองที่ต้องลำบากตื่นมาทำให้ทุกเช้า กลับไปตอนเย็นก็มีข้าวรออยู่อีก แต่ว่า...จากนี้ไปคงจะไม่มีอีกแล้ว...เขาหลับตารอรับจุดจบที่ขยับเข้ามาใกล้ ตอนนี้คงไม่มีปาฏิหาริย์ใดที่จะช่วยเขาได้แล้ว
ทว่าปาฏิหาริย์นั้นมีอยู่จริง
เสียงดับฉับทีหนึ่ง ก่อนที่มังกรตัวนั้นจะขาดเป็นสองท่อนแล้วล้มลงไปกองกับพื้น
เด็กหนุ่มเห็นเงียบผิดปกติ เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า
มังกรตัวขนาดใหญ่กว่าเขาเมื่อครู่ บัดนี้ลงไปกองกับพื้นในสภาพขาดเป็นสองท่อน เมื่อเขามองไปไกลอีกหน่อยหลังมังกรนั้น ก็พบกับคนคนหนึ่ง
เป็นผู้หญิงผมทองสวมเกราะสีเงินกับถือดาบใหญ่ไว้ในมือ
เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "?zxxio[;.s?"
"หา?" เด็กหนุ่มทำหน้างง เพราะเขาฟังไม่รู้เรื่อง
ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะพบปัญหาใหม่ซะแล้ว...
ผู้กล้าในตำนาน๑
[IMG]