ตอนที่ 1 แค่เข้าเกมวันแรกก็ปวดหัวแล้ว
“และแล้ววันนี้ก็มาถึง” เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนพูดกับตัวเองขณะยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ในร้านขายเกมใกล้ๆบ้าน
“สุดท้ายก็เก็บตังถึงสินะเอก” ชายหนุ่มเจ้าของร้านพูดพลางหยิบเอากล่องสีน้ำตาลใบใหญ่มาวางบนโต๊ะ มันถูกทำอย่างดีและสวยงามโดยการออกแบบทำให้ชวนนึกถึงกล่องสมบัติในหนังโจรสลัดก็มิปาน และที่กล่องนั้นเขียนเอาไว้ว่า Infinite New World Box Set Limited Edition
“แน่นอนพี่ชายที่รัก เงินเตรียมมาพร้อมแล้วล่ะ” เขาพูดพร้อมกับแสยะยิ้มแบบชั่วร้ายแล้วยื่นซองสีขาวที่ใส่เงินเอาไว้ให้ อีกฝ่ายรับไปแล้วรับเงินในซองอย่างมืออาชีพ ดวงตาของเอกจับจ้องไปมุมด้านล่างของกล่องที่เขียนตัวราคาเอาไว้ 15,000 บาท สมราคาเกมที่ดังที่สุดในโลกและยังเป็นเกมที่แพงกระอักเลือดเกมหนึ่งด้วยเนื่องจากเกมเกมนี้ไม่สามารถเล่นผ่านเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงทั่วไปได้ด้วยสเปคที่หนักหน่วงของมัน โดยเจ้าตัวที่เขาซื้อนั้นถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับตัวที่รวมสามภาคเข้าด้วยกันที่มีราคาพุ่งถึง28,000 พร้อมเครื่องเล่น
“อืม ฉันนับเสร็จแล้ว แต่ว่านะเอก....” เขาหยุดพูดไปพักหนึ่งพร้อมกับถอนหายใจแต่ในตอนนั้นเองที่เอกคว้าเอากล่องเกมไปแล้ววิ่งออกจากร้านไป
“อย่าลืมซักผ้าใช่มะเข้าใจแล้ว กลับไปจะซักทันทีเลย!!” เขาร้องขึ้นพร้อมกับวิ่งออกจากร้านไป
“แล้วก็อย่าเล่นเพลินจนลืมกินข้าวนะเฟ้ย!!” พี่ชายของเขาซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเกมตะโกนตามหลังมา “แล้วกก็เงินไม่พอนะเฟ้ย!! ขาด 3,000”
หลังจากที่วิ่งตรงดิ่งกลับมาบ้านแล้วเอกก็รีบทำการติดตั้งเกมในทันที โดยเครื่องเกมนั้นถูกออกแบบให้ดูเรียบง่ายที่ตัวเครื่องมีช่องให้ใส่แผ่นดิสของเกมเข้าไป และเมื่อใส่ลงไปตัวเครื่องก็ทำการลงเกมเองโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นเขาก็เอาอุปกรณ์อีกอันออกมาเสียบไปที่เครื่องเกม มันมีหน้าตาเหมือนหูฟังแบบเฮดโฟนที่มีสิ่งที่เหมือนแว่นติดเอาไว้ ระหว่างนั้นเอกจึงเอาหนังสือคู่มือการเล่นมาอ่านอย่างละเอียด และดวงตาของเขาก็ต้องมาสะดุดเข้าเกมอาชีพในเกมนี้ นั่นคือไฟท์เตอร์
“อาชีพที่สามารถใช้อาวุธได้เกือบทุกชนิดในเกมแต่ว่าจะไม่ได้ค่าโบนัสใดๆ แต่จะได้รับโบนัสเมื่อใช้มือเปล่าในการต่อสู้ และเป็นอาชีพที่ไม่มีสกิลใดๆให้ใช้งาน การหาสกิลนั้นจะต้องได้รับการสั่งสอนจาก NPC เท่านั้น” เขาอ่านออกเสียงออกมาอย่างสนใจ “เป็นอาชีพที่น่าสนใจแฮะ” และเมื่อเขาอ่านต่อไปก็ต้องสะดุดตากับระบบแปลกๆอีกอย่าง“ระบบกำลังใจงั้นเหรอ ฟังดูตลกๆแฮะ ไหนๆดูซิ ภายในเกมด้านระบบของการสัมผัสนั้นถูกทำให้เหมือนจริงอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งรวมถึงด้านความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเกิดการบาดเจ็บอีกด้วย ถึงแม้ว่าทางเราจะไม่ได้ทำให้มันสมจริงจนถึงที่สุดก็ตาม ดังนั้นเมื่อเพลย์เยอร์เกิดอาการบาดเจ็บและหมดกำลังใจในการต่อสู้ขึ้นมาก็จะเกมโอเวอร์ทันที และนับว่าเสียชีวิตในการต่อสู้ถึงแม้ว่าค่าพลังชีวิตจะยังไม่หมดก็ตาม ซึ่งในเวลาเดียวกันกับเพลย์เยอร์ที่มีกำลังใจเงินร้อยและพร้อมจะต่อสู้ต่อจะสามารถคงสถานะของตัวละครเอาไว้ได้แม้ค่าพลังชีวิตจะเป็น0 ก็ตาม โดยเพลย์เยอร์ที่ยังคงสภาพอยู่นั้นจะติดสถานเลือดออกอย่างต่อเนื่องและหากได้รับความเสียหายที่หนักมากจะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ช้าลงอีกด้วย” เมื่อเขาอ่านข้อความเหล่านี้จบก็ได้แต่เบ้หน้า ซึ่งนั่นทำให้พวกคนขี้กลัวในเกมนี้หากโดนเล่นงานแม้เล็กน้อยก็อาจจะกลัวจนโดนนับให้เกมโอเวอร์ได้โดยง่ายนั่นเอง เรียกว่าต้องพึ่งลูกอึดของเพลย์เยอร์เองเยอะมาก
ในระหว่างที่เขาอ่านคู่มืออยู่นั้นเครื่องเล่นเกมก็ส่งเสียงร้องขึ้นเป็นการบอกว่ามันทำการลงเกมในเครื่องเสร็จแล้ว เขาจึงรีบโดดขึ้นเตียงนอนแล้วเอาเครื่องเล่นเกมมาสวมทันที และเมื่อเครื่องเกมถูกสวมใส่แล้วก็มีเมนูต่างๆขึ้นมาให้เขาเห็น โดยเพียงเข้าแค่คิดเมนูต่างๆก็ทำงานตามอย่างรวดเร็ว และในรายชื่อเกมของเขานั้นมีเพียงเกมเดียวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าเกมในทันที
เมื่อเขาตัดสินใจเข้าไปภายในเกมได้แล้วเขาก็พบกับแสงสว่างจ้าขึ้นภายในแว่นที่เขาสวมเอาไว้ และหลังจากแสงนั้นภายไปเขาก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องสีขาวโดยตรงหน้าของเขาห่างออกไปนั้นมีหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีแดงดูสวยงามคนหนึ่งในชุดเสื้อเชิตสีขาวคอปกตั้งและกางเกงขายาวรัดรูปสีดำกำลังยืนมองเขาอยู่ ด้านบนหัวของเธอมีตัวหนังสือตัวเล็กๆเขียนเอาไว้ว่า GM พร้อมกับด้านหลังมีรูปธงชาติญี่ปุ่น แสดงว่า GM คนนี้เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเกมซีรี่ย์ Infinite นั้นเป็นเกมที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกเข้าด้วยกันโดยไม่มีการแบ่งเซิร์ฟเวอร์ย่อยๆเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เพลย์เยอร์นั้นมีบริมาณมากและสมจริงขึ้นไปอีก
“สวัสดีค่ะ ได้โปรดตบหน้าตัวเองด้วยค่ะ ไม่สิต่อยหน้าตัวเองด้วยค่ะ” เธอพูดเสียงนิ่งพร้อมกับยิ้มมาให้เขา ส่วนเอกก็ได้แต่ยืนนิ่งงงกับสิ่งที่เธอพูด “ไม่ทราบว่าหูหนวก หรือมีปัญหาทางการได้ยินอย่างนั้นเหรอคะ เจ้าขยะสด” เธอพูดต่อ ส่วนเอกยืนอึ้งไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด “ตัวแต่ยืนบื้อเป็นเจ้าโง่อยู่ได้ คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกการ์ตูนฮาเร็มเหรอคะ จริงๆน่ะผู้ชายโง่ๆทำตัวโรคจิตน่ะไม่มีใครชอบหรอกนะคะ แล้วก็รวมถึงผู้ชายไร้น้ำยาที่ไม่กล้าแม้แต่จะต่อยตัวเองด้วย เอ้า เอาสิต่อยหน้าตัวเองสิคะ เอาไว้ เอาไว้เลือดท่วมไปเลยนะคะ” เธอพูดสิ่งโหดร้ายแบบทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายออกมาเป็นชุดเหมือนมันเป็นคำพูดปกติ
“ยะ ยัยนี่พวกซาดิสอะไรรึเปล่าฟร๊ะ” เอกพูดกับตัวเองเสียงเบา เมื่อเขาพูดจบก็ใช้มือดึงแก้มเบาๆ เพื่อเป็นการทดสอบระบบแบบที่เขาอ่านมาจากคู่มือ
“แค่ดึงแก้มมันน่าเบื่อค่ะ เอ้า เอาสิ ต่อยหน้าตัวเองสิคะ” เขาพูดด้วยแววตาเหยียดหยามเอกแบบสุด มันเป็นแววตาที่ทำให้เอกรู้สึกต่ำต้อยที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา
“เอ่อ คุณ GM ผมขอสร้างตัวละครเลยได้ไหมครับ” เอกถามเสียงเบา และทันใดนั้นอีกฝ่ายก็เดินเข้ามาใกล้แล้วออกแรงชกใส่หน้าเขาจนปลิวไปกระแทกเข้ากับผนังห้องอย่างแรงจนมันแตกออกเป็นรอยร้าว ทันใดนั้นมีค่าพลังชีวิตออกเอกสแดงขึ้นมันลดจาก500 ลงไปจนเหลือแค่ 10 ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นมันน่าจะเป็นความเจ็บที่เจ็บที่สุดในชีวิตเท่าที่เอกเคยได้รับมา เขาทรุดลงกับพื้นกระอักเลือดออกมาจากปาก
“ได้สิคะ ฉันจะทำการสร้างตัวละครให้คุณแบบดูดีสุดๆไปเลยล่ะค่ะ” เธอพูดขณะเดินเข้ามาหาเอก เธอใช้มือของเธอคว้าเส้นผมสีดำของเอกเอาไว้แล้วดึงขึ้นมา แล้วเมื่อเอกเริ่มตรงตัวได้เขาก็ดูด GMสาวซัดฝ่ามือใส่แบบหนังจีนรัวๆหลายครั้งตามจุดต่างๆ มันเริ่มตั้งแต่ต้นขาไปจนถึงต้นคอ และจบลงด้วยการที่เธอกระโดดขึ้นเล็กน้อยแล้วตอกส้นเท้าใส่หัวของเขาอย่างแรงจนเกือบจะหมดสติไป “การสร้างตัวละครของคุณเสร็จแล้วค่ะ ฉันออกแบบให้อย่างหล่อเลยค่ะ ส่วนอาชีพที่เหมาะกับคนไร้น้ำยาแบบคุณคือไฟท์เตอร์ ส่วนชื่อเอาเป็นราเวนส์แล้วกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาเล่นเกมค่ะ เอาไว้เราพบกันใหม่ที่ไหนซักแห่งในเกมนะคะ คุณเพลย์เยอร์ไร้น้ำยา ตัวละครในเกมของดิฉันชื่อวีโอร่าค่ะ” เธอตอบพร้อมกับเตะใส่เอกจนปลิวไปอีกด้านหนึ่งของห้อง และทันใดนั้นก็มีหลุมดำดูดเขาเข้าไปทันที
ในตอนนั้นเองไอ้แต่คิดในใจว่า “อะไรกันฟร๊ะยัย GM บ้าเลือดนั่น แต่ก็ยังดีที่ยัยนั่นเลือกอาชีพที่เขาต้องการให้ ส่วนชื่อก็ฟังดูดีไม่เลว” แต่ในตอนนั้นเองเอกก็พบว่าตัวเองกำลังลอยอยู่กลางอากาศถึงมันจะไม่สูงจากพื้นมากนั้นก็ตาม แต่ตอนนี้เขากำลังพุ่งลงด้านล่างอย่างรวดเร็ว
“ยัย GM บ้า ชื่อในเกมแกคือวีโอร่าใช่ไหมซักวันเจอดีแน่ ฉันจะต้องล้างแค้น!!!” เขาร้องขึ้นขณะกำลังดิ่งลงพื้น เอกพยายามจะทำอะไรซักอย่างเขาจึงเรียกเมนูขึ้นด้วยการสะบัดมือไปทางขวาอย่างรวดเร็วทันใดนั้นก็มีเมนูต่างๆแสดงขึ้นมาพร้อมกับค่าพลังชีวิต แต่ในตอนนั้นเองที่เอกได้มองเห็นเมืองที่อยู่ด้านล่าง มันคือเมืองสีขาวที่ดูสวยงาม บ้านทุกๆหลังตึกทุกๆตึกล้วนแต่สร้างจากสีขาวทั้งเมือง แต่ตอนนั้นเองที่เอกรู้สึกตัวเมื่อเข้าลงมาถึงระดับเดียวกับกำแพงเมือง ว่าเขาไม่ได้ตกลงในเมืองแต่เป็นนอกเมือง แถมด้านล่างเขามีขบวนรถม้าที่มีทหารเดินน้ำอยู่ด้านหน้าและด้านหลังรวมกว่าสี่สิบนายโดยด้านข้างรถม้านั้นมีทหารม้าสี่นายขี่ม้าขนาบทั้งสองข้างอยู่
เอกที่ที่ขึ้นมาได้ว่างานนี้ไม่รอดแน่จึงหลับตาลงแล้ววางมือทั้งสองไว้ที่หน้าอกแทน แต่มันกลับผิดคาดเขาตกกระแทกลงบนรถม้าอย่างจัง ร่างของเขาพุ่งทะลุเข้าไปในรถม้าพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั่วร่าง ซึ่งนั่นหมายความว่าเขายังไม่ตาย แต่ว่ามือข้างหนึ่งของเขากลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันนุ่มจนเขาอดใจไม่ได้ที่จะออกแรงบีบมันเบาๆ เอกค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วจึงพบว่าเขากำลังทับอยู่บนร่างของหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลที่ถูกรวบเอาไว้อย่างเรียบร้อยในชุดกระโปรงยาวฟูฟ่องที่ตกแต่งอย่างประณีตและสวยงาม เอกมองหน้าของเธออย่างหลงใหลไปชั่วขณะจนเธอลืมตาขึ้น เธอมองมาที่เอกด้วยอาการมึนงง แต่แล้วดวงตาของเธอก็เบิกกว้างเมื่อเธอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังบีบหน้าอกเธออยู่
เสียงกรีดร้องชวนแสบแก้วหูพร้อมกับฝ่าเท้าที่ถีบเอกจนกระเด็นออกมาจากทางประตูของรถม้า ซึ่งเอกล้มทับร่างของนายทหารในชุดสีขาวนายหนึ่งที่กำลังจะเปิดประตูเข้ามาพอ
“กะ กะ แก!! เจ้าคนสามหาว!! แกกล้าดียังไงมาจะ จะ จะ จับหน้าอกของข้ากัน!!!” ดวงตาสีเขียวมรกตแสนสวยของเธอฉายแววความโกรธจนน่ากลัว
“ไม่นะ ไม่ได้ตั้งใจ คือมันเป็นอุบัติเหตุ” เอกพูดขึ้นอย่างร้อนรน
“ยังจะพูดอีกนะ ทหาร!! จับไม่ไปขังลืมในคุกซะ!!” เธอตะโกนออกคำสั่ง เมื่อพวกทหารได้ยินจึงรีบเข้ามาเพื่อจะจับตัวเอกทันที
แต่เอกรีบฉวยโอกาสรีบวิ่งชิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วเขาวิ่งสับขาเร็วที่สุดในชีวิตขณะที่มีทหารหลายสิบคนกำลังวิ่งตามมาติดๆ โดยเอกพยายามวิ่งไปตามแนวของกำแพงเมือง ซึ่งรอบๆเมืองนั้นเป็นป่าทั้งหมด แต่ถ้าพูดให้ถูกน่าจะเรียกว่าเป็นป่าที่โดนตกแตกให้ดูเหมือนสวนมากกว่า
“หยุดนะเจ้าคนเถื่อน!!!” เสียงของนายทหารหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น และเมื่อเอกหันไปดูด้านหลังก็พบกับทหารหนุ่มรูปงามคนหนึ่งในชุดนายทหารสีขาวกำลังวิ่งไล่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ในมือถือกระบี่ที่ตกแต่งอย่างเรียบๆแต่ดูสวยงามเอาไว้อย่างมั่นคง แต่มือที่เขาถือมันกลับกวัดแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“ใครมันจะไปหยุดฟร๊ะ ถ้าหยุดก็กลายเป็นว่าฉันโดยแกฟันสิเฟ้ย!!” เอกตอบพร้อมกับวิ่งสับขาให้ไวกว่าเดิม แต่ในตอนนั้นเองที่มีข้อความเด้งขึ้นมาในสายตาเขาว่า ‘ราเวนส์อัพสเตตัสด้านความคล่องตัวเพิ่มสูงขึ้น’
“แกกล้าดียังไงไปจับหน้าอกขององค์หญิงกาเบรียลาของพวกเรากัน!! ทั้งๆที่ข้าพยายามจะแอบดูตอนอาบน้ำมาไม่รู้กี่ครั้งยังไม่มีบุญได้เห็นเลยแท้ๆ!!!” นายทหารหนุ่มร้องขึ้นขณะวิ่งไล่เข้ามาใกล้เอกมากขึ้น
“ห๊ะ องค์หญิง เมื่อกี้นั่นองค์หญิงเรอะ!!” เอกร้องขึ้น
“ใช่แล้วเฟ้ย องค์หญิงกาเบรียลา องค์หญิงลำดับที่1 และว่าที่ผู้สืบทอดราชวงศ์เอทิเซียร์” เขาร้องขึ้นขณะวิ่งไล่เอกมาใกล้ขึ้นทุกที แต่ในตอนนั้นเองที่เอกเหลือบไปเห็นท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่ออกมาจากตัวเมือง เขาจึงตัดสินใจวิ่งตรงไปหามันทันที
“ทหาร เตรียมตัวเล็ง!!!” เสียงของนายทหารอีกคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังที่ไม่ห่างออกไปมากนั้น พวกพลทหารจัดแนวสองแถวนำปืนขึ้นประทับบ่าเล็งมาทางพวกเขาทั้งสองคนที่วิ่งไล่กันอยู่
“เดี๋ยวๆ ผมยังอยู่ตรงนี้นะ!!” นายทหารหนุ่มร้องขึ้น
“องค์หญิงรับสั่งว่า ยิงพวกโรคจิตสองตัวนั้นทิ้งไปซะ ดังนั้นอย่าแค้นกันเลยนะ” นายทหารอีกคนตอบ “ยิงได้!!” เมื่อสิ้นเสียงปืนคาบศิลาก็กระหน่ำยิงใส่ทั้งสองในทันที แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นดวงหรือเป็นเพราะเทคนิคอันเหลือเชื่อทำให้ทั้งสองไม่โดนกระสุนแม้แต่นัดเดียว แถมทั้งสองยังส่งเสียงร้องแบบคนบ้าขาดสติวิ่งหนีกันแบบไม่คิดชีวิต โดยเอกวิ่งเข้าไปในท่อระบายน้ำส่วนนายทหารหนุ่มวิ่งหนีต่อไปด้านหน้า
ซึ่งเมื่อเอกที่รอดตายเข้ามาด้านในท่อระบายน้ำได้แล้วก็พบว่าพวกทหารไม่มีใครคิดจะตามเข้ามา โดยพวกเขายืนเถียงอะไรบางอย่างอยู่ด้านนอกพักหนึ่งจึงเลือกที่จะตามนายทหารหนุ่มต่อไป เอกที่เห็นดังนั้นจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปด้านในต่อ เขาเดินไปตามทางเล็กๆที่ชื้นแฉะ ไปซักพักก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เขามองไปที่ค่าพลังชีวิตที่ยังเหลืออยู่ 10/1000 แต่ในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างกำลังเดินลุยน้ำในท่อระบายน้ำเข้ามาทางเขาพร้อมกับเสียงคำรามในลำคอ เอกจึงรีบลุกขึ้นและเตรียมพร้อมจะวิ่งหนี และของสิ่งที่เดินฝ่าความมือออกมานั้นคือสิ่งมีชีวิตที่เขาเกิดมาไม่คิดว่าจะมีโอกาศได้เห็นร่างกายของมันดูเหมือนมนุษย์แต่ใหญ่โตกำยำกว่าร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำตาลดำส่วนหัวที่ดูคล้ายหัวของสุนัข ใช่มันคือมนุษย์หมาป่า ตอนนั้นเองรู้ได้ทันทีว่าจบสิ้นแล้ว แต่จู่ๆก็มือแขนกำยำข้างหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังเจ้ามนุษย์หมาป่า แขนนั้นล็อคคอของมันเอาไว้แล้วหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงกระดูกหักเสียงดังลั่น ร่างของมันทรุดลงกับพื้นกระแทกผืนน้ำแตกกระจายและภาพตรงหน้าของเอกคือร่างชายกำยำผู้มีเรือนผมสีดำยาวที่ถูกเสยขึ้นจนเรียบแปล้ในสภาพนุ่งผ้าเตี่ยวตัวเดียว ริมฝีปากของเขาถูกแต่งแต้มด้วยสีม่วง เอกที่มองเห็นร่างของชายตรงหน้านั้นค่อยๆหมดสติลงด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคิดในใจว่า “ในเกมนี้มันจะยังมีอะไรที่ปกติเหลืออีกไหมนะ”
หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงเอกก็รู้สึกตัวขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง เขาค่อยๆลุกขึ้นนึ่งบนเตียงอย่างช้าๆ และในตอนนั้นเองที่เขาพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพนุ่งผ้าเตี่ยวสีขาวตัวเดียวอยู่ แต่เมื่อเขากวาดตามองไปรอบๆบ้านก็พบว่าในบ้านหลังนี้มีเสื้อผ้าสวยทั้งชายและหญิงถูกตัดอย่างประณีตอยู่หลายตัว ซึ่งนั่นทำให้เขาเข้าใจว่านี่คือบ้านของผู้หญิงอย่างแน่นอน ที่โต๊ะข้างเตียงมีซุปอุ่นๆที่ใส่เอาไว้ในภาชนะทำจากโลหะ เขาตักมันขึ้นกินคำหนึ่งรสชาติของมันอร่อยจนแทบจะต้องบอกว่าถ้าเปลี่ยนไปเป็นร้านขายอาหารล่ะก็เจ้าของบ้านหลังนี้จะต้องรวยแน่ๆ เขาค่อยๆยืนขึ้นและเดินสำรวจบ้านนี้ เขาพบว่ามันสะอาดซะจนเรียกว่าว่าไม่มีฝุ่นซักเม็ดเลยทีเดียว
และในตอนนั้นเองที่ประตูบ้านเปิดออกพร้อมกับเสียงกระดิ่งที่ถูกติดเอาไว้ เอกจึงรีบหันไปมองแล้วก็พบกับชายร่างสูงราว 195 เซนติเมตร ร่างกายกำยำราวกับนักเกาะกายสามคนเดินเข้ามาในบ้าน โดยแต่ละคนสวมชุดคับติ้วชวนสยองเขาเอาไว้
“ผะ ผะ พวกคุณเป็นใครกัน” เอกถามขึ้นด้วยความกลัว
“ฉันก็คือคนที่ชวนนายเอาไว้ยังไงล่ะ” ชายผมยาวตอบพร้อมกับพยายามดัดเสียงให้แหลมเล็ก
“ชวนผม งั้นที่นี่ก็บ้านของพวกคุณสินะ” เอกถามขึ้น
“ใช่ล่ะ บ้านของพวกเราเอง” ชายร่างกำยำผมเกรียนอีกคนตอบ
“แล้วทำไมผมถึงอยู่ในสภาพผ้าเตี่ยวผืนเดียวล่ะ” เอกถามต่อด้วยความกลัว
“ก็เห็นว่าเสื้อเปียกก็เลยถอดออกแล้วก็เปลี่ยนชุดให้ไงล่ะจ๊ะ” เสียงแหลมเล็กของชายหนุ่มผมสั้นดังตอบ ซึ่งเอกไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าเขาไปอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหล่แถมอีกฝ่ายยังใช้มือจับก้นเขาเบาๆอีกด้วย เอกตอบสนองไปตามสัญชาติญาณเข้ารีบผละตัวออกห่างแล้วก็กระโดดเตะ หน้าแข้งของเขาฟาดเข้ากับใบหน้าของอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เป็นก้นที่ดีจริงๆ” ชายผมสั้นพูดขึ้น
“ต้นแขนที่กำยำก็โอเค แถมมีซิกแพคที่สวยมากอีกด้วย” ชายผมเกรียนเสริม
“แถมยังเป็นหนุ่มหล่อผมน้ำตาล แบบนี้ล่ะถูกใจเจ๊เลย” ชายผมยาวเสริม
ในตอนนั้นเอกรู้สึกได้ว่าเขาเข้ามาในที่ที่อันตรายที่สุดในเกมแห่งนี้เข้าให้แล้ว “ผะ พวกคุณเป็นใครกันแน่!!”
“ย่อมได้ ถ้าอยากรู้ถึงขนาดนั้น ฉันจะตอบให้” ชายผมยาวพูด “หากถามถึงเมืองเมลค์แล้วล่ะก็ มันคือจุดรวมอำนาจของจักรวรรดิ ที่แห่งนี้มีทั้งแฟชั่น!! อาหาร!! และสิ่งต่างๆมากมาย” เขาพูดเสริม
“และหากพูดถึงแฟชั่น ทุกคนก็ต้องนึกถึงพวกเราสามคน” ชายผมเกรียนพูด
“สามราชินีแห่งแฟชั่น!!” ชายผมสั้นเสริม
“ฉันโรแบร์โต้!!” ชายผมยาวพูดแนะนำตัวเองพร้อมกับดึงชุดของตัวเองออกไปในครั้งเดียวเผยมัดกล้ามออกมา แล้วใช้หลังมือทาบลงกับเอวดูเหมือนกับกำลังยืนท้าวเอวเอาไว้ หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าขวามาด้านหน้าท้าวซ้ายเล็กน้อยแล้วงอเข่าขาขวาขึ้นโดยใช้ปลายเท้าขวาแตะพื้นเอาไว้ หลังจากนั้นก็สะบัดหน้าขึ้นไปทางขวาเล็กน้อย และท่าโพสท์ของโรแบร์โต้ก็เป็นอันเสร็จ
“ส่วนฉันคือโรมิโอ!!” ชายผมสั้นพูดพร้อมกับดังเสื้อออกแบบโรแบร์โต้ โดยท่าโพสท์ของเขานั้นเรียบง่ายกว่า เขายืนหันข้างมาทางเอกแล้วก้าวท้าวซ้ายไปด้านหลัง แอ่นตัวเองไปด้านหลังแล้วชี้นิ้วชี้ขวามาทางเอกแล้วยกมือขวาขึ้นมาบังหน้าเอาไว้
“ส่วนฉันคือโฮเซ่!!” ชายผมเกรียนแนะนำตัวพร้อมกับโพสท์ท่า เขายืนอ้าขาออกโดยเท้าซ้ายนั้นใช้เพียงแค่ปลายเท้าแตะพื้นเอาไว้ แล้วหันลำตัวไปด้านขวาเล็กน้อย แล้วใช้แขนทั้งสองมาไขว้กันเอาไว้โดยตั้งมือขึ้นขนานกับใบหน้า
“พวกเราสามคนคือสุดยอดช่างตัดเสื้อแห่งเมืองเมลค์!! แล้วเธอล่ะ!!” ทั้งสามคนถามขึ้นพร้อมกัน
เอกที่จู่ๆร่างกายก็ขยับไปตามสัญชาติญาณก็เริ่มพูดแนะนำตัวขึ้นพร้อมกับโพสท์ท่า “ฉันชื่อว่าเรเวนส์!! ยินดีที่ได้รู้จัก” โดยตัวเอกนั้นโพสท์ท่าไปโดยไม่รู้ตัว เขายืนหันข้างให้ทั้งสาม เท้าทั้งสองข้างชิดกันเอาไว้ เอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย แล้วยกแขนซ้ายขึ้นมาในระดับอก
“เป็นการโพสท์ท่าด้วยจิตวิญญาณที่ดีมาก!! พวกเราตัดสินใจแล้วตอนที่เห็นร่างกายของนาย เราจะสอนนายเองเรเวนส์” โรแบร์โต้พูดขึ้น
“หมายความว่ายังไงกันที่ว่าจะสอนฉัน” เอกถาม
“เราดูอยู่ตลอดเวลา เห็นการตั้งแต่เธอตกลงจากฟ้า พวกเราจะสอนให้ถึงเทคนิคการต่อสู้อันยอดเยี่ยมของพวกเรา!!” ทั้งสามพูดขึ้นพร้อมกัน “โดยเริ่มโชว์จากกระทืบพวกเรียกเก็บค่าคุ้มครองหน้าร้านโชว์ก่อนเลย!!!” ทั้งสามพูดพร้อมกับเดินออกไปจากร้านในสภาพผ้าเตี่ยวผืนเดียว
ที่ด้านนอกร้านมีรายหลายสิบคนที่ถืออาวุธครบมือยืนรออยู่นอกร้านซึ่งแววตาแต่ละคนนั้นคงต้องบอกว่าไม่มีคนดีเลยแน่ๆ โดยผู้คนมากมายต่างก็มุงดูห่างๆและไม่กล้าเข้ายุ่ง
“เฮ้ย โรแบร์โต้ วันนี้พวกเรามาเอาคืนเฟ้ย หนที่แล้วพวกแกเล่นเราซะอ่วมเลยนะ” หนึ่งในพวกเรียกเก็บค่าคุ้มครองพูด แต่ยังไม่ทันขาดคำพวกโรแบร์โต้ก็บุกเข้าไปโจมตีพวกมือเหล่าจนน่าหวาดหวั่น ฝ่ามือที่สามารถสับดาบและกระบี่ให้หักเป็นสองท่อนได้ ร่างกายที่มีพลังอันมหาศาล
หลังจากนั้นไม่นานพวกเรียกค่าคลุ้มครองก็โดนอัดจนหมดเกลี้ยง โดยผู้คนต่างโห่ร้องอย่างดีใจพร้อมเสียงปรบมืออย่างยินดี และในตอนนั้นเองที่มีทหารในเครื่องแบบสีขาวหลายคนเดินเข้ามาพร้อมกับปืน ผู้คนจึงรีบสลายตัว โดยพวกทหารรีบทำการจับกุมพวกเรียกเก็บค่าคุ้มครองอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าตกใจคือคนที่มาพร้อมกับพวกทหาร
“ท่านโรแบร์โต้ เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ ไม่อยู่แค่ไม่กี่เดือนเจ้าพวกนี้ก็โผล่ออกมาสร้างปัญหา ให้ตายสิ” เสียงของหญิงสาวที่ฟังดูคุ้นหูของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นเอกที่ได้ยินจึงโผล่ออกมาดูด้านนอกร้านโดยลืมไปว่าตัวเองกำลังใส่ผ้าเตี่ยวผืนเดียว “เราอยากจะมาดูชุดที่สั่งให้ท่านช่วยตัดให้เราสำหรับงานเลี้ยงในอาทิตย์หน้า” เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูกระตือรือร้น
“แหมๆ ท่านหญิงๆ ถ้าอยากลองชุดล่ะก็ขอแค่บอกพวกกระหม่อมพร้อมจะเดินทางไปที่วังทันทีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสด็จมาเองก็ได้” โรแบร์โต้พูด
“ไม่หรอกเราอยากจะมาด้วยตัวของเราเอง อีกอย่างการพบปะกับชาวเมืองก็สำคัญ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
แต่ในตอนนั้นเองที่ดวงตาสีมรกตของเธอดันไปสบตาเข้ากับเอกที่เดินออกมาจากร้าน ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่งแล้วเธอจึงร้องขึ้นสุดเสียง
“แกมันไอ้คนโรคจิตที่ตกมาจากท้องฟ้า!!!” กาเบรียลาร้องขึ้นพร้อมกับชี้มาทางเอก
“เธอมันยัยเจ้าหญิงอกสะบึมจอมวีนแตก!!!” เอกร้องขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางอีกฝ่าย
Infinite::New World ตอนที่1