ผมพีรพลนิยมมะวันนี้ผมได้มาจุดที่เป็นจุดเครื่องบินตก ผมคิดว่ายังไงก็ไม่มีผู้รอดชีวิตผมแค่มาหาชิ้นส่วนเครื่องบินไปทำการทดลองเล็กๆ ที่บ้านแต่ว่า...
"ช่วยด้วยใครอยู่ตรงนั้นช่วยที" ผมได้ยินเสียงผู้ชายร้องโอดครวญออกมาจากซากเครื่องบินส่วนขวาผมไม่อยากจะเชื่อหูของตนเองแต่ก็วิ่งเข้าไปดู"แย่ แย่!" ผมเห็นพ่อกับลูกสาวคู่หนึ่งติดอยู่ใต้ซากขนาดใหญ่ผมจึงใช้เกราะเพิ่มกำลังยกซากนั่นออกไป ผมพยายามเข้าไปช่วยคนพ่อแต่เขาก็ปัดมือออกแล้วบอกว่า "ช่วยลูกชั้นก่อน" ผมจึงช่วยเด็กผู้หญิงที่สลบไปออกมา"โอ้พระเจ้า!" แขนกับขาซ้ายของเธอขาดผมพยายามทุกอย่างเพื่อที่จะห้ามเลือดแต่ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอยังไม่ตายเมื่อช่วยคนลูกเสร็จผมจึงกลับไปพาคนพ่อขึ้นรถแล้วพาทั้งสองคนกลับบ้านระหว่างทางฝ่ายพ่อก็ยื่นแฟรชไดรฟมาให้ผมจึงถาม "ข้างในมีอะไร?" "ใช้ซะใช้ชั้นเป็นตัวทดลองแล้วช่วยลูกชั้นซะ"
เมื่อกลับถึงบ้านก็เปิดแฟรชไดรฟอย่างไม่รอช้าพบว่าข้างในเป็นแบบแปลนหุ่นยนต์ แต่ว่า... "ไซบอร์ค... ทำซะสิ! นายเป็นถึงพีรพลนายต้องทำได้" พ่อเริ่มพูดอย่างทุรนทุรายแต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถรอได้แล้วผมจึงโทรตามเพื่อนอีก 4 คนมาช่วยเมื่อทุกคนมาถึงก็ช่วยกันอย่างเต็มที่โดยใช้ข้อมูลจากคนคนนั้นแต่แล้วก็เกิดปัญหา "พีรพล! เกิดปัญหาแล้วพลังงานที่ใช้ไม่เสถียร!" ตามที่เพื่อนผมบอกถ้าพลังงานไม่เสถียรเราก็ต้องวัดพลังงานไปเรื่อยๆจนเสถียรแต่ในกรณีของไซบอร์คไม่สามารถวัดได้จากการจี้ตัววัดกับขั้วปล่อยพลังงานมีแต่ต้องสังเกตุปฏิกิริยาของคนที่ทดลองเท่านั้นผมเริ่มเครียดแล้วก็มีคนพูดแทรกขึ้น "ใช้ชั้น..." พ่อของเด็กพูดขึ้น"ห้ะ?" ผมอุทานขึ้น"เร็วเข้าไม่มีเวลาแล้ว!" พ่อของเด็กพูดต่อผมไม่มีทางเลือกผมกับเพื่อนนักคอมพิวเตอร์วิทยาได้เริ่มทดลองโดยการช๊อตไฟฟ้าเข้าตัวคนพ่อเพื่อหากระแสที่เหมาะสมในการทดลองนั้นผมได้เผลอเปิดตัวอัดวิดีโออัตโนมัตไว้แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเมื่อทดลองสำเร็จเราช่วยลูกของเขาไว้ได้แต่ว่าพ่อของเด็กไม่รอดเพราะถูกช๊อตมากเกินไป แต่ว่าเขาได้ทิ้งท้ายไว้
"ลูกของผมชื่อเบลได้โปรดดูแลเธอให้ด้วย อย่าบอกเธอเรื่องผมให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ ขอร้อง... แล้วก็อีกอย่างนะให้เก็บนี่ไว้..." เมื่อเขายื่นเทปวิดีโอมาให้ก็สิ้นใจไปเมื่อผมเปิดเทปนั่นดูก็เป็นข้อความของพ่อคนนั้นที่ฝากถึงลูก เมื่อผมได้ฟังผมก็เริ่มโมโหตัวเองแล้วก็โวยวาย"โธ่เว้ยยยย! ทำไมทำไมชั้นถึงช่วยไม่ได้ ทำไม!" ความรู้สึกผิดจากก้นบึ้งของหัวใจผมมันทะลุออกมาผ่านคำพูดจนเวลาผ่านไปสิบกว่าปี ผมก็ได้ยกโปรเจคนี้ให้ลูกของผมต่อเขาชื่อ...
"...เนม..."
จนตอนนี้ความรู้สึกผิดยังไม่จางหาย ทุกครั้งที่ผมเห็นหน้าเบล ซิกส์ทีน ทุกครั้งที่ผมเห็น...เด็กคนนั้น
watacy! แฟนของผมเป็นไซบอร์ค! ตอนที่ 9.2: การเสียสละ