ตอนที่ 6 มายาแห่งไฟ
รอยยิ้มสแยะออกไปทางโรคจิตนิดๆของสาวแว่นที่เสียบดาบแทงเข้ากระดูกสั้นหลังทะลุอกของแม็กกี้เธอหัวเราะสนั่นลั่นห้อง
สปาย :“ว้าฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เสร็จไปอีกหนึ่งเอาละฆ่าพอแค่นี้ดีกว่าเดี่ยวจะไปช่วยรุ่นพี่วอลเว็ตไม่ทันเอ้ะแต่รู้สึกตัวเธอบางๆนะเหมือนไม่มีกระดูกหรือไส้ในเลยเธอเป็นตัวอะไรเนี่ยเป็นอะมีบ่าเหรอ หรือว่าจะเป็นหนอนเน่า”
แม็กกี้ยิ้มน่าแปลกไม่มีเลือดทะลักออกมาจากปากแผลที่โดนแทงสักหยด
แม็กกี้ : “จะอะมีบ่าหรือหนอนเน่ามันก็เธอทั้งนั้นละ”
พูดจบร่างของแม็กกี้ก็เปล่งเปลวเพลิงจากปากแผลแล้วร่างทั้งร่างของแม็กกี้ระเบิดใส่
บรึมมมม!!! เสียงระเบิดกัมปนาทกึกก้องโรงเรียนนักเรียนทุกคนที่อยู่ประจำตามสันกำแพงมองไปทางทิศต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียงแต่จะมีเพียงแค่อาจารย์และนักเรียนที่ประจำอยู่ในตึกเรียนชั้นสองกับชั้นสามเท่านั้นที่อยู่ใกล้พอจะแยกเสียงออก
ว่าเสียงระเบิดนี้เกิดขึ้นในอาคารเรียนแสดงว่ามีศัตรูหลุดเข้ามาข้างในโรงเรียนแล้ว
ถัดกลับเข้ามาในห้องเก็บของแม็กกี้เดินอย่างระวังเข้ามาในห้องเธอมองหาศพที่ไหม้เกรียมของสปายและไม่นานนักก็เจอตรงมุมห้องในสภาพนอนคว่ำหน้าเธอกำลังจะเอามือพลิกศพแต่ศพก็เด้งพุ่งขึ้นเพดานอย่างรวดเร็วพร้อมกับซัดมีดลงใส่ร่างแม็กกี้แต่เธอก็ระเบิดตัวเองอีกเป็นครั้งที่สองรอยยิ้มแฝงความวิกลจริตของสปายเผยออกมาชัดเจน
สปาย : “ใช้ร่างแยกที่ระเบิดตัวเองได้เหรอวิชาแบบนี้มันเป็นวิชาผสมผสานนี่นา
แถมยังใช้สองตัวแบบหลอกซ้อนหลอกที่โรงเรียนมีพวกเขี้ยวๆแบบนี้ด้วยเหรอ”
สปายที่ควรจะตายไปแล้วเพราะโดนระเบิดไฟเข้าจังๆชักมีดทำครัวที่ไว้แล่เนื้อปลาอีกอันออกมากลายเป็นมีดคู่เธอมองไปทางประตูเห็นแม็กกี้กำลังยืนบริกรรมคาถาฝ่ามือของแม็กกี้มีเปลวไฟล้อมที่ฝ่ามือก่อนจะยิงเปลวเพลิงออกมาเป็นนกไฟใส่สปายของข้าศึกสปายสาวแว่นหลบนกไฟอย่างคล่องแคล่วพร้อมซัดมีดใส่แม็กกี้ที่เอี่ยวตัวหลบแต่ก็ยังโดนมีดปักที่แขนจนเลือดกระฉูดออกมาเล็กน้อยเพราะโดนถากๆสปายสาวยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
สปาย : “อาฮ้ามีเลือดมีเนื้อแบบนี้ตัวจริงแน่ตายซะ”เธอปาขวดใส่แม็กกี้เกิดแรงระเบิดดังสนันหวั่นไหวเนื่องจากเธอกระโดถอยหลังอย่างรวดเร็วแรงระเบิดจึงส่งถึงตัวเธอน้อยแต่ก็กระเด็นจนล้มกลิ้งกับพื้นสปายสาวปามีดอีกเล่มซ้ำใส่แม็กกี้ที่นอนอยู่
แม็กกี้สวิงตัวขึ้นมาและชักขาตวัดกับอากาศอย่างรวดเร็วจนขาของเธอเห็นเป็นเส้นสปีดลางๆจนยากที่จะมองเห็นในสายตาของมนุษย์ทั่วไปเกิดคลื่นลมที่มีความเร็วจนมีอำนาจเฉือนกระแทกพุ่งออกมาจากเท้าฝ่าเท้าของเธอพุ่งประทะกับมีดที่พุ่งมาจนใบมีดแตกกลางอากาศก่อนที่กระเด็นกลับไปทางสปายอย่างรวดเร็วเศษมีดกระเด็นเสียบทะลุอกใกล้ๆหัวใจของสปายจนกระอักเลือดทะลักออกจากปากแล้วทรุดลง
สปาย: “อัก!แกเป็นตัวอะไรแน่ฉันเห็นนะ เท้าของแกเป็นเท้าของเสือ ถึงจะตวัดเท้าด้วยความเร็วฉันก็มองตามทัน แกไม่ใช่มนุษย์ใช่ไหม?”
สปายพูดไปสำลักเลือดไปแต่เลือดกลับไหลทะลักออกมาน้อยลง
แม็กกี้ขึ้นมา: “แกจะรู้ไปทำไมในเมื่ออีกเดี่ยวแกก็จะตายแล้ว”แม็กกี้เสกเปลวไฟใส่มือเป็นดาบเพลิงเงื้อมือขึ้นหมายฟันสปายให้ขาดตะพายแล่ง
ในจังหวะแห่งความเป็นความตายนี้เองรอยยิ้มเจ้าเลห์ของสปายก็ปรากฎในพริบตาเดียวกับที่เธอยกมือล้วงแผ่นหินที่มีอักขระแปลกๆจากกระเป๋ารับดาบเพลิงของแม็กกี้เกิดระเบิดอย่างแรงแต่ว่าแรงระเบิดกระแทกไปทางแม็กกี้อย่างหมดจด
เธอกระเด็นออกไปทางด้านหลังกระแทกพื้นมีรอยไฟไหม้เต็มตัวได้รับบาดเจ็บ
สปาย:“ไงชิมเวทตัวเองซะหน่อยอร่อยเหาะเผ็ดร้อนดีใช่ไหมละ”
เธอเดินย่างสามขุมไปทางร่างของแม็กกี้ที่มีสภาพสะบักสะบอมสุดๆ
แม็กกี้: “แก! ก็คงเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกัน”แม็กกี้มองดูสปายชักเศษมีดออกจากอกซึ่งปกติก็อาจทำให้ตายได้แล้วแต่นี้บาดแผลที่ควรจะลึกมากกลับค่อยๆสม่านตัวอย่างช้าๆแต่ทว่ารวดเร็วเป็นหมื่นเท่าของการสม่านแผลตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
สปาย : “อะไร ? ชั้นเป็นมนุษย์แน่นอนย่ะแค่ปรับแต่งอะไรบ้างอย่างนิดหน่อยเพื่อที่จะต่อสู้กับพวกจอมเวทย์อย่างพวกแกได้น่ะ”
“เข้าใจไหมเพื่อที่จะฆ่าพวกแกฉันถึงกับต้องขายความเป็นมนุษย์ไปนิดหนึ่งเลยแน่ะพวกแกจะรับผิดชอบยังไงยะ”
คำพูดสุดท้ายของสปายแฝงไว้ด้วยจิตสังหารจนแม็กกี้สะดุ้งเฮือกเพราะเป็นคำพูดที่อัดแน่นไปด้วยจิตอาฆาตที่รุนแรง
สปาย : “ไหนๆแกก็สู้ได้ดีฉันชื่อ วีต้าจำเอาไว้ก่อนไปนรกก็แล้วกัน”
ฉั้ว!!! วีต้าใช้มีดทำครัวสับเข้าที่ลำคอแม็กกี้แต่ตื้นเกินไปเพราะแม็กกี้เอี่ยวตัวหลบ
เล็กน้อยด้วยปฎิกิริยาที่ไวกว่ามนุษย์แต่ก็ทำให้เธอเลือดไหลทะลักออกจากลำคอ
วีต้า : “โห่จะตายแล้วยังดิ้นรนอีกเธอชื่ออะไรเหรอจะจำชื่อเธอไว้ละกันแต่ไม่นานก็คงลืมแล้วละฮ่าๆๆๆ” วีต้าหัวเราะอย่างบ้าครั้ง
ทันใดนั้นเองมือของแม็กกี้ก็ขยายใหญ่ขึ้นแล้วเปลี่ยนรูปนิ้วมืออ้วนขึ้นกลายเป็นอุ้งมือสัตว์ประเภทแมวแล้วตวัดกรงเล็บใส่วีต้าที่หัวเราะอยู่อย่างรวดเร็วพุ่งใส่คอของวีต้าจนเลือดกระฉูดวีต้าพยายามแหกปากร้องแต่ไม่มีเสียงเพราะโดนกรงเล็บทิ่มเข้าหลอดลมพอดีมืออีกข้างของแม็กกี้ไม่รอช้าตวัดกรงเล็บที่เพิ่งจะกลายเป็นอุ้งมือเสื้อไปอีกข้างใส่หัวของวีต้าหมายจะกระฉากหัวให้ขาดแต่วีต้ากระโดดหลบถอยฉากได้หวุดหวิด
แม็กกี้ที่ลุกขึ้นมาเริ่มกลายร่างทั้งตัวจนมีสภาพเหมือนกึ่งมนุษย์กึ่งแมวแต่ยังมีเค้าโครงหน้าเหมือนตอนเป็นคนอยู่เพียงแต่มีขนสีน้ำตาลแดงฟูขึ้นและหูก็กลายเป็นหูแมวมันคือแอนนิมาสิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ป่าที่มีหลากหลายเผ่าพันธ์เผ่าคูก้าคือตัวตนที่แท้จริงของแม็กกี้เป็นแอนนิมาที่มีรูปร่างเป็นแมว เสือหรือสิงโต ผสมกับมนุษย์
วีต้าที่บาดแผลที่คอค่อยๆสม่านตัวเริ่มส่งเสียงออกมาอย่างตกตะลึงในเหตุการนี้ว่า
วีต้า: “เธอ!เป็นเผ่าคูก้า!…ยังไง…โผล่มาได้ยังไง?ในดินแดนของมนุษย์”
พริบตาที่พูดจบเธอจับจิตสังหารของอีกฝ่ายและหลบคลื่นกรงเล็บที่ตวัดมาอย่างรวดเร็วแม็กกี้รู้ว่าโจมตีพลาดชึ่งเสี่ยงต่อการที่อีกฝ่ายจะปล่อยท่าโจมตีโต้กลับ
เธอสวิงตัวกระโดดลังกาหลังพร้อมกับปล่อยคลื่นเล็บจากเท้าทั้งสองข้างปิดช่องว่างการโจมตีสวนกลับของวีต้าแต่ก็ทำให้ปากแผลบริเวณคอเปิดเลือดออกมากขึ้น
วีต้าประกบมีดทำครัวคู่สุดท้ายออกมากันคลื่นเล็บเท้าที่ไคว้กันเป็นตัวเอ็กที่หลบได้ยากของแม็กกี้จนมีดแตกกระจุยเธอตัดสินใจหยิบขวดระเบิดควันปาลงพื้นแล้วหนีไป
เกิดหมอกควันกลืนกินทุกสิ่งในบริเวณให้เป็นสีเทาแม็กกี้ตัดสินใจตามล่าวีต้าต่อไป
เธอทิ้งอาจารย์ที่สลบอยู่ไว้ในห้องใกล้ๆกันและวิ่งฝ่าหมอกควันออกมาเธอเห็นวีต้า ที่มาพร้อมกับนักเรียนกลุ่มใหม่ที่วิ่งมาดูเหตุการณ์
วีต้า : “พวกเราศัตรูบุกมาแล้วฆ่ามันๆ!พวกผู้ต่อต้านมันร่วมมือกับแอนนิมา!”
กลุ่มนักเรียนจำนวนสิบกว่าคนระดมยิงเวทย์มนต์ชนิดต่างๆใส่แม็กกี้ที่เป็นแอนนิมา
เธอหลบตามเสาพยายามจะฝ่าเข้าไปฆ่าวีต้าแต่ไม่ไหวห่ากระสุนเวทย์:Xเข้ามามากเกินไปถ้าบุกเข้าไปมากกว่านี้เธอเพื่อที่จะฆ่าวีต้าจำเป็นต้องฆ่าพวกพ้องของเธอด้วยซึ่งเธอทำไม่ได้เธอจึงล่าถอยกลับเข้าไปในหมอกควันด้วยสปีดของแอนนิมาเผ่าคูก้า
วีต้าจ้องแม็กกี้พลางสแยะยิ้มอย่างสะใจ
“มันหนีไปแล้ว!ไวชะมัดบางทีมันอาจเป็นแอนนิมาที่เป็นทหารรับจ้าง” นักเรียนคนหนึ่งตะโกนพร้อมออกความเห็น
วีต้า: “ฉันเห็นมันตอนปลอมตัวเป็นมนุษย์ด้วยเป็นผู้หญิงผมสั้นสีแดงที่แขนนักเรียนติดป้ายปีหกบ้านสีแดงคะระวังตัวด้วยนะคะ”วีต้าเสริมทันที
นักเรียนบ้านสีแดงส่วนใหญ่ประจำการอยู่บนกำแพงมีอยู่สามคนที่ถูกส่งมาทางระบายน้ำและคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิงคือแม็กกี้นักเรียนที่อยู่บ้านสีแดงเริ่มรู้ความจริงที่บอกออกมาไม่ทั้งหมดของวีต้า
“ไม่จริงแม็กกี้น่ะเหรอจะเป็นสปาย…..ไม่อยากเชื่อเลย”นักเรียนบางคนในกลุ่มที่เป็นบ้านสีแดงพูดออกมาอย่างยอมรับความจริงไม่ได้
ไม่นานนักข่าวก็กระจายไปทั่วโรงเรียนมีลูกบอลสีขาวลอยได้กระจายส่งเสียงแจ้งข่าว
สำคัญไปทั่วโรงเรียน“ทุกหน่วยโปรดทราบมีสปายของข้าศึกแฝงตัวในโรงเรียนเป็นนักเรียนปีหกชื่อแม็กกี้ ฮอก บ้านสีแดง มีร่างจริงเป็นแอนนิมาเผ่าคูก้าโปรดระวังหากหน่วยไหนพบข้อให้จับกุมในทันทีขอย้ำทุกหน่วยโปรดระวัง”
แม็กกี้ : “………..ซวยแล้วสิเรายัยวีต้าสารเลว”(ยืนเกาหัวที่มีหูแมวอย่างเซ็งๆ)
หลังจากได้ยินเสียงประกาศของโรงเรียนเธอตัดสินใจหยิบเข็มกลัดของโรงเรียนที่เป็นอุปกรณ์ยืนยันตัวตนกระทืบทิ้งเพื่อไม่ให้ถูกจับตำแหน่งได้
ท่าทางจะลำบากแล้วสินะแม็กกี้เสียงๆหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังเป็นเสียงที่แม็กกี้ คุ้นหูเสียงของอาจารย์เคอัสที่เธอเพิ่งจะช่วยชีวิตออกมาและเป็นอาจารย์นำขบวนนักเรียนไปเฝ้าทางระบายน้ำใต้ดิน
แม็กกี้:ฟื้นแล้วหรือคะอาจารย์เคอัสบาดแผลเป็นยังไงบ้าง
อาจารย์เคอัส: “ดีขึ้นแล้วละแต่ก็ยังต้องพักซักหน่อยน่ะเราต้องหาทางทำอะไรซักอย่างกับรีเจนเดอร์เรเตอร์คนนั้น”
แม็กกี้ :“รีเจนเดอร์เรเตอร์?”
แม็กกี้ :“รีเจนเดอร์เรเตอร์?”
อาจารย์เคอัส : “เป็นมนุษย์ดัดแปลงเซล์ในร่างจนกลายพันธ์ตอนแรกครูคิดว่าเป็นข่าวลือน่ะนะจนกระทั้งครูยิงเวทย์โดนมันจังๆแต่ซักพักมันก็ลุกขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพวกมันจะมีพลังฟื้นตัวที่เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วไปแต่ใช่ว่าจะเป็นอมตะ
ดูเหมือนว่าจะมีรายงานการต่อสู้กับรีเจนเดอร์เรเตอร์มาก่อนเราต้องระเบิดมันจนร่างแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยมันถึงจะตายสนิทเสียมือดีไปมากมายกว่าจะฆ่ามันได้สักคน
พวกมันถูกฝึกมาดีไม่แพ้นักรบรับจ้างชั้นสูงเป็นอาวุธลับสุดยอดของพวกผู้ต่อต้านที่มาที่ไปเป็นปริศนาไม่แพ้อาวุธของพวกมันที่สร้างขึ้นมาด้วยวิทยาการที่แปลกประหลาดไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนจากเผ่าไหนหรือหน่วยงานใด”
แม็กกี้สับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอหนีจากสังคมแอนนิมาซึ่งเป็นเผ่าอาศัยตามป่าตามเขาห่างไกลความเจริญและสงบสุขแต่ทว่าน่าเบื่อมาได้4ปีเพื่อมาอยู่ในสังคมมนุษย์ในร่างจำแลงของหญิงสาวคนหนึ่งตอนนี้เธอเจอดีเข้ากับตัวรู้สึกแคว้งอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนี้เธอนึกถึงเพื่อนเดียวที่รู้ตัวตนที่เธอจริงของเธอแต่ก็ยังยอมรับตัวของเธอโดยไม่รังเกียจแม้ว่ามนุษย์กับแอนนิมาจะเคยสู้รบทำสงครามจนสร้างความเกลียดชังกัน
บ็อบหนึ่งในมนุษย์ที่หาได้ยากเขาเป็นคนที่เชื่อการหว่านเมล็ดแห่งความเกลียดชัง
ให้แก่กันและกันไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลยมีแต่ความจะสร้างบาดแผลและความเศร้าสร้อยให้กับโลกเท่านั้น บ็อบ หนึ่งคนที่ แม็กกี้ไม่อยากเสียไปแต่ตอนนี้เขาบาดเจ็บหนักและที่น่ากลัวที่สุดคือมีรีเจนเดอร์เรเตอร์ที่ชื่อวีต้าแทรกซึ่มอยู่ในหมู่นักเรียน….
ทันใดนั้นเองแม็กกี้ได้ยินเสียงฝีเท้าสิบกว่าคู่ดังใกล้เข้ามาเธอแสดงสีหน้าเคร่งเครียดจนอาจารย์เคอัสสังเกตุถึงความผิดปกติ
อาจารย์เคอัส: เป็นอะไรหรือเปล่าแม็กกี้
แม็กกี้ : “เสียงฝีเท้าค่ะอาจารย์คงเป็นพวกนักเรียนที่โดนวีต้าหลอกมาตามล่าหนู”
หาให้ทั่วทุกซอกทุกมุมล่านังสปายแม็กกี้ให้ได้!เสียงนักเรียนคนหนึ่งตะโกน
อาจารย์ตัดสินใจรื้อหนังสือออกจากชั้นปรากฏผนังอิฐที่มีอิฐก้อนหนึ่งยืนออกมาเล็กน้อยเขากดอิฐก้อนนั้นเข้าไปแล้วผนังช่องลับก็เปิดออกมาทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปในช่องเดินลับที่เชื่อมโยงทั่วโรงเรียนที่เป็นปราสาทก่อนประตูจะปิดลงตอนนี้ทั้งสองอยู่ในสถานะ ซ่อนตัวสมบรูณ์แบบเมื่อทั้งคู่ปลอดภัยแล้วอาจารย์เคอัสก็เริ่มบทสนทนา
อาจารย์เคอัส : “หูเธอนี่ดีจริงๆเป็นแอนนิมานี่สะดวกดีนะ”
แม็กกี้ : “…อาจารย์ไม่รังเกียจหนูเหรอคะที่หนูเป็นเผ่าคูก้า”
อาจารย์เคอัส : “จริงอยู่ที่แอนนิมาทุกเผ่าจับอาวุธขึ้นมาต่อกรมนุษย์เราทำสงครามมานานและสงครามก็จบลงไปนานแล้วเหตุผลที่ว่าเพราะเป็นมนุษย์จึงควรเกลียดแอนนิมาและเพราะเกิดเป็นแอนนิมาจึงควรเกลียดมนุษย์เหตุผลแบบนั้นน่ะสักวัน ครูจะล้มล้างมันให้ดูตอนนี้มนุษย์เรารบกันเองเพราะความรู้สึกที่ไม่เท่าเทียมของคนบางกลุ่มซึ่งครูว่าพวกเขาก็เหมือนพวกเธอในสมัยก่อนที่ถูกหลอกถูกยัดเยียดความชิงชังจนทำสงครามต่อสู้นำความชอบธรรมจอมปลอมโดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์จากสงครามเท่านั้น”
แม็กกี้จ้องมองอาจารย์เคอัสอย่างประหลาดใจเพราะดูเหมือนอาจารย์คนนี้รู้ลึกถึงความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสงครามที่มนุษย์ส่วนใหญ่พยายามจะปกปิดด้วยวิธีต่างๆ
ไม่ว่าจะบิดเบือนตำราเรียนฝังค่านิยมให้มองว่าแอนนิมาเป็นแค่สัตว์ป่าไม่ใช่เผ่าพันธ์
เผาทำลายหลักฐานความจริงเกี่ยวกับสงคราม อาจารย์ต้องรู้อะไรมากแน่ๆเธอคิด
แม็กกี้และอาจารย์เคอัสเดินมาไม่นานก็ถึงทางแยกของช่องเดินลับในปราสาท
อาจารย์เคอัสก็เริ่มบทสนทนาขึ้นอีกครั้ง
อาจารย์เคอัส : “ถึงทางแยกแล้ว!เลี้ยวขวาไปก็จะออกไปยังแม่น้ำข้อมูลล่าสุดบอกว่ามีขุนนางชื่อว่าฟรานแลนเนอร์แห่งแคว้นอีลีนอร์แม้จะเป็นพันธมิตรที่ยังไว้ใจไม่ได้เต็มร้อยแต่ก็เป็นพันธมิตรที่อยู่ใกล้ที่สุดที่จะช่วยโรงเรียนเราให้อยู่รอดทันเวลา
ถ้าเธอปลอมร่างกลับเป็นคนเหมือนที่แล้วๆมาแล้วยื่นเข็มกลัดโรงเรียนอัลเลวิชที่ครูกำลังจะให้แล้วบอกว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนนี้เธอจะได้รับการคุ้มครอง” (พูดเสร็จเขาก็ส่งเข็มกลัดยื่นให้แม็กกี้)
แม็กกี้ : ขอบคุณคะอาจารย์แต่หนูยังมีเรื่องบางเรื่องที่ยังอยากทำในโรงเรียนนี้คะ
อาจารย์เคอัส : เรื่องอะไรหรือ ?
แม็กกี้ : อย่างที่เรารู้ตอนนี้มีรีเจนเดอเรเตอร์แทรกซึมในโรงเรียนเราซึ่งอันตรายกับพวกเรานักเรียนทุกคนและมีคนหนึ่งที่หนูอยากจะไปช่วยให้เขาปลอดภัยคะ
อาจารย์เคอัส : “เพื่อนคนนั้นสำคัญมากขนาดที่ต้องยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเลยเหรอ?”
แม็กกี้ : .คะ…หนูรู้ว่าในสงครามมันเป็นเรื่องง่ายมากๆที่จะมีใครสักคนตาย
แต่บ็อบเป็นเพื่อนคนสำคัญเพื่อนที่ไม่อยากจะเสียไป….ดังนั้นหนูจะพาบ็อบหนีไปให้ได้แม้จะเสี่ยงอันตรายแค่ไหนคะ”แม็กกี้กล่าวด้วยความตั้งใจที่แนวแน่
อาจารย์เคอัสทำท่าครุ่นคิดสักพักก่อนจะหยิบแหวนวงหนึ่งจากกระเป๋าเสื้อออกมา
อาจารย์เคอัส “นี่เป็นแหวนพลังเวทที่จะค่อยๆกลืนกินพลังเวทย์ของผู้ที่สวมมัน แลกกับความสามารถในการพรางตัว เธอจะตัวใสๆรางๆมองเห็นยากแต่ระวังอย่าสวมนานเกินไปละเมื่อใดที่เธอรู้สึกมันหัวเล็กน้อยให้หยุดสวมมันความจริงครูรู้สึกเสียดายอยู่บ้างที่จะให้มันเพราะเป็นแหวนเวทมนต์ที่แพงและหายากแต่เห็นความตั้งใจของเธอใช้มันปกป้องคนที่เธอรักเถอะ”อาจารย์เคอัสส่งแหวนเวทย์มนต์ให้แม็กกี้
แม็กกี้ : “นี่มันแหวนล่องราตรีนี่คะแหวนแพงและหายากแบบนี้หนูรับไม่ได้หรอกคะ”
อาจารย์เคอัส : “รับไปเถอะแหวนนี่จะทำให้เธอสำเร็จความตั้งใจได้ขืนเธอออกไปช่วยเพื่อนเธอแบบนี้ครูว่าคงสำเร็จยากเอาเป็นว่าหนี้ที่เธอช่วยชีวิตครูนั้นหายกัน”
แม็กกี้ยืนมองแหวนในมือสักพักก็ถอนใจหยิบแหวนไปแล้วกล่าวขอบคุณแล้วเดินต่อไปสู่ช่องเดินลับที่เชื่อมไปยังบริเวณใกล้ๆกับห้องพยาบาลอาจารย์เคอัสมอง แผ่นหลังของแม็กกี้แล้วทำหน้าเหมือนคนแก่ที่นึกถึงความหลังบ้างอย่าง
“เด็กคนนี้ช่างเหมือนเธอจังเลยนะซีฟิส…เอาละกลับไปหาพวกนักเรียนดีกว่า” เขาพูดพึมพำเบาๆหยิบรูปภาพขึ้นมาดูพักหนึ่งแล้วใช้ช่องเดินอีกทางหายลับไป
Mana vision ตอนที่ 6