ตอนที่ 8 Danger Jumping
ตัดกลับมาที่ทางออกสุสานร่างของฟีโก้ค่อยๆลุกขึ้นมาอีกครั้งเขามองห้องรอบๆตัวพบว่าประตูที่ดึงเขาไปยังโลกต่างมิติได้หายไปเห็นบันไดวนขึ้นไปบนพื้นดินแทน
เขาออกมาจากสุสานใต้ดินได้แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปนานเท่าไหรทันใดนั้นเองเขาสังเกตุเห็นๆคนๆหนึ่งวิ่งมาฟีโก้จำได้ว่าเป็นชายที่อยู่ข้างอดาเมอัสตอนที่เจอกันในค่ายผู้อพยพชายที่ชื่อคิมที่มักจะยืนด้านหลังอดาเมอัสเสมอ
คิม : “นี่นายมัวทำบ้าอะไรอยู่แผนการเริ่มไปแล้วนะทำไมถึงเพิ่งมาอยู่ตรงนี้”
ฟีโก้ : “ทัพของฟรานเคลื่อนไปนานเท่าไหรแล้วครับ”
คิม : “ยี่สิบกว่านาทีแล้วไม่มีเวลาอธิบายนายต้องไปเดี่ยวนี้”
ทั้งคู่เริ่มออกวิ่งฟีโก้รู้สึกเหมือนตัวหนักอึงแปลกๆและเหนื่อยมากกว่าปกติแต่ก็ยังวิ่งต่อไปจนถึงหินรูปประตูโค้งประหลาดฟีโก้แสดงอาการแปลกใจเล็กน้อยเพราะมันไม่ใช่ที่ๆบารน์และอดาเมอัสนัดกันไว้แต่ไม่นานก็ได้คำตอบเมื่อคิมแหวกวัชพืชตรงฐานประตูหินโค้งมันคือประตูเคลื่อนย้ายมวลสารพิสัยใกล้แบบใช้ภายในเมืองแต่ว่ามันเป็นประตุรุ่นเก่ามาก
คิม : “ตอนที่ชั้นใช้ประตูวาปนี้เป็นครั้งแรกชั้นอ้วกแตกแทบแย่นายเองก็เตรียมตัวไว้ซะมันจะพาพวกเราไปโผล่ในถ้ำโทรล์ใกล้ๆสะพาน”คิมหมุนสลักที่คล้ายๆกับลูกเลื่อนตู้นิรภัยที่อยู่ใต้ฐานประตูโค้งแล้วถอยออกมามองสักพัก
…… (ไม่มีความเปลี่ยนแปลง)แต่คิมก็ยังรออีกอยู่แปปหนึ่งพอหมดความอดทนเพราะได้รับคำสั่งให้มาพาตัวฟีโก้ให้ไวที่สุดก็เริ่มออกปากบ่น
คิม: “ไอ่บ้าเอ้ยทำไมมันไม่ทำงานฟร่ะครั้งก่อนมันยังใช้ได้อยู่เลย”
ฟีโก้มองบานประตูอยู่อย่างจดจ่อในมุมมองของฟีโก้มองเห็นตอนนี้มันแตกต่างจากคนอื่นมากเขามองเห็นเส้นแสงสีฟ้าโยงใยเป็นโครงข่ายมีเส้นที่ไม่พันอยู่สี่ถึงห้าแห่งและมีจุดำๆอีกสองแห่งพันกันไปทั่วซุ้มหินโค้งในขณะที่คนอื่นมองเห็นซุ้มหินโค้งธรรมดาที่มีเถาวัลปกคลุม
ฟีโก้: “อ้อประตูแบบเก่ามีการจัดเรื่องสมการคาถาและวางโครงสร้างแบบนี้เอง”
คิม: “นายรู้วิธีแก้มันเหรอนายสามารถซ่อมประตูวาปนี่ที่หมดพลังงานไปโดยสิ้นเชิ้งได้ด้วยเหรอ?”
ฟีโก้: “ซ่อมไม่ได้หรอกปัญหาคือประตูมันไม่ได้พังแม้จะเก่าแล้วก็เถอะผมมีวิธีนอกกรอบนิดๆหน่อยที่จะทำให้มันกลับมาทำงานได้อีกครั้งในทันที”
คิม : “ นอกกรอบ?ทำยังไงและใช้เวลามากมั้ย?”
ฟีโก้ : “ประตูรุ่นเก่าเนี่ยเวลามันทำงานเนื่องด้วยโครงสร้างคาถาที่เป็นรุ่นเก่าวัสดุที่ใช้ยังเป็นแค่หินธรรมดาอีกมันจึงถูกตั้งระบบคูลดาวเอาไว้พูดง่ายๆคือต้องรอเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงมันจึงจะทำงานใหม่เพื่อให้ตัวประตูนี้ไม่พังและไม่กินพลังเวทที่จะวาปในครั้งต่อไปดังนั้นผมจะใช้พลังของผมดึงเอาสลักล็อกในโครงสร้างเวทมนต์ออกมันก็จะใช้ได้ทันทีเลยครับไม่ต้องรอเวลาเป็นชั่วโมง”
คิม : “แหลมเลย จอมเวททำอะไรยากๆแบบนี้ได้ทุกคนเลยเหรอวะงั้นรีบทำเลย”
ฟีโก้ไม่ตอบแต่เขาใช้มือรวมพลังเวทที่ปลายนิ้วกดๆไปมาตรงประตูในสายตาของคิมที่เห็นฟีโก้กำลังทำอยู่คือฟีโก้กำลังเอานิ้วจิ่มๆและรูดไปมาตรงประตูหินเขาระเบิดหัวเราะออกมาเพราะมันดูแล้วเหมือนเด็กเอานิ้วจิ่มๆหินที่ไม่มีปุ่มอะไรให้กดเลย
คิม : “ฮ่าๆๆๆนายทำบ้าอะไรวะเนี่ยเอานิ้วถูๆตามล่องหินอยู่ได้ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
วินาทีต่อมาเขาก็อ้าปากค้างประตูหินเริ่มปล่อยกระแสเวทมนต์มากระจุกรวมตัวและเริ่มทำงานอีกครั้งแถมครั้งนี้กระแสพลังงานยังรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่เขาใช้ประตูครั้งก่อนซะอีก
ฟีโก้ :“พอหลุดไปยังอีกที่แล้ววิ่งออกห่างจากประตูนี่ให้เร็วที่สุดนะครับ”
ฟีโก้รีบฉุดมือคิมแล้ววิ่งเข้าไปในประตูวาปทั้งคู่ถูกพลังเวทดึงเข้าไปในวังวนสีขาวแล้วทะลุกลับไปยังด้านในสุดของถ้ำโทรล์อีกครั้งฟีโก้ยังคงวิ่งต่อทั้งๆที่หน้าซีดจากการ วาปแบบฉับพลันส่วนคิมที่ถูกลากก็อ้วกออกมาอีกแล้วก็เริ่มออกวิ่งเหมือนกัน เขาไม่เข้าใจในคำสั่งของฟีโก้แต่สักสี่ถึงห้าวินาทีต่อมาเขาได้ได้คำตอบซุ้มประตูหินปริแตกอย่างรวดเร็วรอยแยกที่เปล่งแสงสีฟ้าผุดออกมาลามไปตัวประตูแล้วประตูก็ถล่มเกิดหลุมพลังเวทย์กระจุกตัวดึงเศษหินเศษสลักที่เคยเป็นส่วนประกอบของประตูเข้าไปรวมในกระจุกเดียวกันเหมือนแบล็คโฮลก่อนจะระเบิดพัดเศษหินกระจายทั่วถ้ำเหมือนสะเก็ดระเบิด
ฟีโก้ : “หลบเร็ว !” แว็ปปป บรึ้มมมมมมม !!!
เสียงดังสนันหวั่นไหวทำให้โทรล์ป่วยที่นอนซมอยู่ตื่นขึ้นมาแล้วจ๊ะเอ๋กับคิมและฟีโก้เข้าพอดีมันเริ่มหยิบซากเกวียนที่อยู่ในถ้ำขึ้นมาแทนกระบองทุบพวกฟีโก้ที่ขว้างทางอยู่ทั้งคิมและฟีโก้กระโดดหลบไปคนละทางประกบโทรล์ที่ป่วยซ้ายขวา
ฟีโก้ : “โทรล์! นี่นายพาผมมาโผล่กลางถ้ำโทรล์เลยเหรอเนี่ยยุ่งละสิ”
ฟีโก้เริ่มยิงกระสุนเวทใส่คราวนี้เป็นลูกพลังสีฟ้าขนาดเท่าลูกบอลสามลูกใส่โทรล์เกิดแรงระเบิดบริเวณหัวและหัวไหล่เกิดแผลแหวอะและแผลไฟลวกโทรล์คำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะทรุดล้มหน้าคะมำกับพื้น
ฟีโก้ : "Acane Blaze!" ลูกพลังเวทย์สีฟ้าพุ่งเข้าใส่โทรล์เกิดแรงระเบิดหลายจุดรอบตัวโทรล์
โทรล์ป่วย:"ฮูมมมมม!!!" (แล้วก็ล้มตึง)
คิม : “เดี่ยวก่อน!!อย่าเพิ่ง!เจ้านี่มันกำลังป่วยนะเราคว่ำมันได้โดยที่ไม่ต้องฆ่า”
ฟีโก้ไม่พูดหรือแสดงทีท่าอะไรเขาได้แต่จ้องมือตัวเองอย่งตกตะลึงเล็กน้อยคิมที่มองดูโทรล์ที่สลบอยู่แล้วกลับมามองฟีโก้ต่อเขาไม่เข้าใจว่าทำไมฟีโก้จ้องมือตัวเองแต่ก็เริ่มพูดออกมาเพื่อทำลายความเงียบ
คิม : “นายเนี่ยมีพลังที่เหนือกว่าคนทั่วไปสินะชั้นไม่รู้เรื่องของพวกจอมเวทมากนักแต่ดูจากขีดความสามารถของนายเนี่ยคงไม่ใช่จอมเวทย์ธรรมดาใช่มัยวะ”
ฟีโก้ : “เป็นเรื่องธรรมดาของจอมเวทย์แน่นอนครับความสามารถของผมจอมเวทหลายๆคนก็ทำได้กันทั้งนั้นละครับ…ฮะฮะ อย่าคิดมากเลยครับรีบไปสมทบกับคุณอดาเมอัสกันก่อนดีกว่า” ฟีโก้พูดพร้อมกับหัวเราะน้อยๆแต่พองาม
คิมมองหน้าฟีโก้นิ่งอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อ
คิม:“เอาเถอะนายรู้จักมนต์รักษาไหม?อยากให้ช่วยโทรล์ตัวนี้ก่อนจะไปน่ะยังไงชั้นก็อุสาหให้ยาสมุนไพรมันกินแล้วปล่อยไว้แบบนี้มันอาจตายได้เสียดายของและอีกอย่างเราเป็นฝ่ายผิดที่มาบุกบ้านของมันแบบนี้”
ฟีโก้ท่องคาถาแล้วจัดการรักษาตามระเบียบด้วยพลังจอมเวทย์บ้านสีขาวที่ถนัดเวทป้องกันและรักษา
เมื่อเดินออกมาจากถ้ำเดินวิ่งออกไปซักพักฟีโก้และคิมก็วิ่งไปถึงแม่น้ำซึ่งกลายสภาพเป็นสนามรบไปแล้ว
ฟีโก้เหลือบเห็นโทรล์เกือบสิบตัวซึ่งครึ่งหนึ่งนอนจมกองเลือดไปแล้วส่วนที่เหลือตัวก็บาดแผลเต็มตัวทำท่าจะล้มเต็มตัว
แต่ทางกองทหารรักษาเมืองที่นำโดยอดาเมอัสก็มีทหารบาดเจ็บล้มตายพอสมควรฟีโก้ส่งยิงพลังเวทขึ้นฟ้าเป็นการส่งสัญญาณให้พวกบารน์และอดาเมอัสรู้ตัวว่าเขามาถึงแล้ว
เกิดแสงละลองสีน้ำเงินคล้ายพลุขึ้นทหารและโทรล์แหงนหน้าขึ้นไปพวกโทรล์งงเล็กน้อยแต่อดาเมอัสที่มองไปที่ต้นลำแสงเห็นฟีโก้ยืนอยู่ก็ยิ้มเพราะแผนการที่ถูกหยุดชะงักกลางขันจนเขาต้องวางแผนจัดฉากให้ไปเจอพวกโทรล์
โดยเหมือนจะบังเอิญเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้กองทัพผสมของฟราน์กับของตนข้ามแม่น้ำก่อนเวลาที่นัดแนะกันในแผนเขาเริ่มสั่งการอีกครั้งหลังจากที่สั่งการให้สู้แบบยื่อทู่ซี้กับโทรล์แบบกึ่งรุกกึ่งถอยอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงบนควาตายของลูกน้องที่เคยร่วมดื่มร่วมรบกันมาแบบนาทีละศพเขาหยิบดาบแล้วประกาศขึ้น
อดาเมอัส : “ถอยแบบระเบิดกระดอง”
พวกลูกน้องที่รอดและยังสู้ของเขาเริ่มตั้งโล่จัดแถว phalanx ของทหารโรมันโบราณ
(จัดแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งแบบยกโล่ประจันหน้าศัตรูเป็นกำแพงยาว)
แถวเป็นฟารั้งกำแพงสองชั้นพอโทรล์ตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่ทหารของอดาเมอัสแถวแรกก็ปลดสลักที่เป็นด้ามจับของโล่ออกส่งผลให้เข็มแทงชนวนที่ซ่อนอยู่ข้างใน
จุดระเบิดดินปืนที่ซ่อนอยู่ในโล่ทั้งหมดส่งผลให้โล่ทั้งแผ่นของพวกเขาพุ่งออกไปชนตามร่างกายส่วนต่างๆของโทรล์ที่เหลืออยู่เหมือนจรวดทำให้พวกมันชะงักไป
โดยไม่รีรอพวกทหารที่ตั้งโล่แถวที่สองก็ซ่อนเข้ามาสลับเปลี่ยนกับแถวแรกที่ไม่มีโล่เหลืออยู่แล้วโดยที่แถวแรกวิ่งหนีกลับไปยังที่ตั้งของทัพฟราน์แลนเนอร์อย่างพร้อมเพรียงแถวที่สองที่มีจำนวนทหารน้อยกว่าแถวแรกตั้งโล่เป็นถิ่วแถวเหมือนแถวแรก
พวกโทรล์เริ่มรุกเข้ามาอีกแถวที่สองก็ปลดสลักระเบิดโล่อีกคราวนี้พวกโทรล์ถอยหนักกว่าเดิมส่งเสียงร้องเจ็บปวดก่อนจะกลับมาบ้าคลั้งกว่าเดิมตามสัญชาติญาติสัตว์ที่ถูกทำให้บาดเจ็บพวกมันทำท่าจะชารท์เข้ามาอีก....แต่ทหารแถวที่สองของอดาเมอัสก็ไม่อยู่แล้วพวกเขาวิ่งเตลิดไปรวมกับแถวแรกแถมวิ่งเร็วกว่าแถวแรกเพราะไม่ต้องแบกพวกพ้องที่บาดเจ็บวิ่งหนีเหมือนแถวแรกแถมทหารแถวที่สองของอดาเมอัสเป็นพวกฝีเท้าไวกันทั้งนั้นที่แรกพวกโทรล์พยามจะวิ่งตามแต่ชั่วอึดใจมันก็ทยอยกลับถ้ำพวกมันเองก็ไม่อยากจะสูญเสียมากกว่านี้และพวกมันก็ไม่ได้รวดเร็วมากนัก
คิม:”ชั้นจะกับไปรายงานหัวหน้าก่อนเพื่อจะถ่ายทอดคำสั่งถัดไปนายไปรวมกับตาแก่บารน์ที่ประตูควบคุมแม่น้ำได้แล้วอ้ออย่าทำอะไรให้เสียแผนการอีกละ เข้าใจมะ”
ไม่กี่นาทีถัดมาฟีโก้ก็มาเจอกับบารน์ตรงประตูควบแม่น้ำคุม
บารน์: “เฮ้ยทำไมมาช้าจังวะหายไปนานมากนึกว่าถูกจับได้ซะแล้ว”บรานบ่นเอ็ด
ฟีโก้ : “เรื่องมันยาวน่ะลุงเอาไว้รอดไปได้ทั้งคู่แล้วจเล่าให้ฟังสถาน์การณ์เป็นยังไงมั้งลุง” ฟีโก้รีบถามเปลี่ยนเรื่อง
บารน์: “ไม่ดีเท่าไหร่ว่ะเห็นกลุ่มคนห้าหกคนตรงซากสะพานที่ถูกระเบิดท่าทางจะเป็นจอมเวทย์มันคงจะทำพิธีอะไรซักอย่างแน่ๆเพื่อแก้ปัญหาการเดินทัพของพวกมัน”
ฟีโก้มองไปทางสะพานก็เห็นกลุ่มคนหกคนยื่นอยู่แถวซากสะพานที่ถูกบารน์ระเบิด
สามสี่คนที่เป็นผู้หญิงแต่กายคล้ายชาวอีริเจี่ยนแถบทางตะวันออกเฉี่ยงเหนือของแคว้นไททาเนียพวกนี้มักถูกเรียกสั้นๆว่าชาวเลเพราะอีรีเจี่ยนเป็นหมู่เกาะต่างๆร้อยเกาะอยู่กลางทะเลเป็นทวีปที่เล็กที่สุดในมุนดุส(โลก)ถ้าไม่นับพื้นที่ๆเป็นทะเล
ฟีโก้ทำสีหน้าเหมือนกำลังคิดแผนการบางอย่างแล้วหันมาพูดกับบารน์
ฟีโก้: “เราคงต้องลุยแล้วละลุงดูเหมือนว่าพวกนั้นกำลังพยายามสร้างสะพานใหม่”
บารน์: “เฮ้ยจะเอาหรือวะพวกนั้นมีกันหกคนท่าจะเก่งๆทั้งนั้นที่ร้ายที่สุดคือมีทหารม้าของแคว้นอีลีนอร์อยู่ใกล้ๆตั้งหลายสิบคนถ้าเราโผล่ไปเจ้าลูกน้องชุดดำของฟราน์มันจำเราได้นั้นหมายถึงเราทั้งคู่อาจกลายเป็นศัตรูกับแคว้นอีลีนอร์ทั้งแคว้นเลยนะ”
บารน์พูด พร้อมชี้ไปที่คนใส่ชุดดำที่ยื่นอยู่หลังกลุ่มของพวกนักเวทย์
ฟีโก้: “งั้นเราคงต้องหาทางเก็บลูกน้องฟรานแบบเงียบๆรู้สึกว่าน่าจะชื่ออีกอลครับ”
บารน์:“ได้เลยเรื่องสังหารเงียบของถนัดละ”
ฟีโก้และบารน์นัดแนะแผนการอย่างรวดเร็วเพราะเวลากระชั้นเข้ามาโดยให้บารน์ ซุ่มยิงให้ตายแต่ในกรณีที่แผนพลาดฟีโก้ยิงเวทย์ซ้ำจะเสกบาเรียลวง (บาเรียที่ไม่มีคนอยู่)เป็นตัวล่อเป้าเบนความสนใจแล้วให้บารน์เปลี่ยนจุดซุ่มยิง
หาจังหวะลอบยิงให้ตายอีกครั้ง
ฟีโก้: “เอาละแผนนัดแนะเรียบร้อยถ้าพลาดกันจริงๆคงต้องลุยซึ่งๆหน้าแล้วละครับ”
บารน์ : “ไม่เป็นไรถ้าพลาดกันจริงๆพวกเราทางหนีแยอะแยะ”
ทั้งสองลัดเลี้ยวไปตามพุ่มไม้ไปอย่างรวดเร็วมุ่งเข้าสู่การต่อสู้แบบเงียบเฉียบ
Mana vision ตอนที่ 8