บทที่ 13
Mind Less
ฟีโก้ที่เห็นวงจรเวทย์เริ่มใช้นิ้วมือที่ห้อหุ้มพลังไล่เส้นวงจรเวทยมนต์เป็นจุดๆเข้าเริ่มกดปุ่มที่เป็นกระกระจุกตัวของพลังเวทย์มนเป็นวงแสงที่คนทั่วไปมองไม่เห็นเฉกเชนเส้นพลังเวทย์ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นคนแบบเดี่ยวกับเขา…คนที่มองเห็นโครงสร้างของวงเวทย์หรือพลังเวทย์แบบเขาหรือไม่ก็ช่างทำเครื่องมือเวทย์มนต์ที่ใช้เครื่องมือในการมองเห็นโครงสร้างเวทย์มนต์ที่มีขั้นตอนการใช้งานที่ยุ่งยากและใช้เวลาในการส่องหาเส้นวงจรที่ละเส้น…แต่เขามองเห็นทั้งหมดในทีเดียวด้วยพลังนี้
พลังที่ช่างทำเครื่องมือเวทย์มนต์ทุกคนใฝ่ฝันถึงพลังพิเศษ ManaVision….
เขายังคงไล่นิ้วไปตามวงจรเวทย์ต่อไปนานๆครั้งก็กดนิ้วลงไปหนักๆบริเวณที่มีกระจุกพลังเวทย์แทรกอยู่มากๆเขาพยายามที่จะลบล้างการทำงานของบาเรียจุดนี้
จุดเล็กๆพอที่จะให้คนหนึ่งหรือสองคนแทรกเข้าไปข้างในได้ เขาจะสร้างรูบนบาเรียขนาดยักษ์ที่หุ้มโรงเรียนนี้เอาไว้แล้วกางมันออกสักห้าวินาที…แค่ห้าวินาทีเท่านั้น
ฟลิน : “อ้าวๆวิ่งมาซะเร็วแต่มาติดแหงกหน้าทางเข้าโรงเรียนซะงั้นโชคไม่เข้าข้างเลยนะลุง”ฟลินที่อุ้มคารินพร้อมกับกระโดดไปมาตามกิ่งไม้ตามมาทันจนได้
บารน์: “ไอ่เด็กเวรนี่ตื้อไม่เลิกเลยวุ้ยไม่อยากจ่ายค่าเหล้าร้านข้าขนาดนั้นเชียว”
เสียงสนทนาสั้นๆเมื่อครู่ทำเอาฟีโก้ชะงักไปสองวิจากนั้นก็รีบเร่งมือไล่นิ้วขึ้นไปอีก
ฟีโก้ : “ลุงถ่วงเวลาไว้…ขอแค่สองนาทีลุง ขอแค่สองนาที!”
ฟลิน : “นั้นเอ็งทำอะไรวะนั้นเอานิ้วถูๆบาเรียยักษ์ท่าจะบ้าแหะไอ่นี่”ฟลินตะโกนล้อเลียนฟีโก้อย่างอดขำในท่าทีแปลกๆไม่ได้
คาริน : “ท่าจะไม่ดีแล้วค่ะฟลินไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรแต่ชั้นรู้สึกว่าพลังบาเรียแถบนี้เริ่มอ่อนลงไปค่ะ…ฟลินรีบจัดการเขาคนนั้นเลยค่ะ”
บารน์ : “อย่านะโว้ย! ถ้าพวกเอ็งเขามาอีกแม้แต่นิดเดี่ยวพ่อเอาถึงตายแน่”
บารน์ชักหน้าไม้ตั้งประจันขึ้นมาอีกครั้ง
ฟลิน : “คารินตาแก่บ้านี้เป็นพวกยิงระยะไกล…ขอลานสเก็ตที”
คาริน : “ค่ะ…odq-<RTSotiofa(ร่ายคาถา)Azure Land!”
บารน์ : “ย้ากก….” (เหนี่ยวไกหน้าไม้กลแบบไม่ยั้ง)
พลังเวทย์มหาศาลของคารินแพร่กระจายเปลี่ยนพื้นหญ้าให้กลายเป็นทุ่งน้ำแข็ง
ลานสเก็ตที่สร้างด้วยเวทย์มนต์ถูกเสกขึ้นมาในเวลาไม่นาน ฟลินรีบกระโดดลงไปในลานสเก็ตพอๆกับบารน์ที่เปิดฉากยิงฟลินใช้ความลื่นของสนามเข้ากับวิชาเคลื่อนทีเร็วของตนกลายเป็นการพุ่งเข้าหาบารน์อย่างรวดเร็วกระสุนลูกดอกของบารน์พุ่งเข้าใส่หัวเหมือนจะโดนแต่ไม่โดนทุกๆครั้งที่หัวหรือตัวของฟลินจะถูกปักเขาจะเอี่ยวหัวโยกตัวหลบอย่างว่องไวพอระยะห่างสั้นลงลูกดอกอีกระลอกของบารน์ก็เขามาเขาเริ่มเอาดาบปัดป้องลูกดอกของบารน์ผสานกับการโยกหลบลื่นไหล่แบบนักสเก็ต…เขาพุ่งเข้าถึงตัวชายแก่แล้วออกท่ากระโจนโท้มใส่ทั้งตัวด้วยดาบคู่ของเขาหมายจะสับหัวบารน์แต่ชายแก่ก็กลิ้งตัวหลบหวุดหวิดแล้วดึงสลักบ้างอย่างที่อยู่หลังไกยิง
กริ้ก แกร็กๆ (เสียงดึงสลัก)
คานส่งลูกดอกซ้ายขวาปีกข้างของหน้าไม้หุบพับลงแล้วใบมีดก็ยื่นยาวออกมาอีกยี่สิบกว่าเซนติเมตรตอนนี้หน้าไม้กลไกของบารน์กลายเป็นหอกสั้นไปซะแล้ว
ฟลิน : “อูวหูวววว….กลายเป็นหอกได้ด้วยหน้าไม้ลุงเจ๋งวะอยากได้มั้งจัง”ฟลินพูดพร้อมทำหน้ายียวนกวนส้นเท้า
บารน์ ; “อยากได้ก็มาเอาจากศพข้าไปก็แล้วกัน!”บารน์ตะโกนอย่างเริ่มยั่ว
ทั้งสองโลมรันพันตูเข้าประทะกันหอก(หน้าไม้)ประทะดาบสั้นคู่บารน์หลบคมดาบสั้นของฟลินท์แล้วแทงสวนอย่างรวดเร็วในขณะที่ฟลินยกดาบไขว้พยายามจะล็อกหอกไม้ของบารน์ตรึงเอาไว้แต่ไม่สำเร็จ
บทกลอนแห่งการปะทะ
หอกปะทะดาบ …โดยไม่ทราบจ้วงจั่วลม…..หอกคมถมแทงสวน…ฟลินก็ป่วนกวนส้นเท้า(โยกหลบไปมาทำหน้ากวนตีน)…. โดดไปเหนือหัวเกล้า(ลอยเหนือหัวบาร์น)ทิ่มแทงเปล่าจั่วลมซ้ำ(บารน์หลบ)ถูกหอกแทงทิ่มตำ…ช่างระยำติดเกราะหนัง
เกราะแหว่งขาดเคว้งพัง(ฟลินเกราะขาด)แต่ก็ยังยืนสู้ทน
ฟลิน : “แฮ่กๆๆ….ไม่เลวนี่ลุงชั่วโมงบินแยอะจริง”
ฟลินเริ่มพูดพล่ามไปพร้อมกับสลัดเกราะถักจากแผ่นหนังทิ้งเพราะหอกของบารน์
บารน์ยืนนิ่งสีหน้าเครียดแล้วเริ่มพูดอีกครั้ง
บารน์ : “ทางนี้ต่างหากที่ควรจะพูดน่ะ” ฉูดดดดดดด(เสียงเลือด:X)
บารน์ทรุดตัวลงเลือดเริ่มไหล่อาบออกมาช่างเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อบทกลอนร่ายไว้เหมือนจะชนะแต่บารน์ในตอนนี้กลับเริ่มมีรอยกรีดยาวที่มีเลือดกระฉูดตามแขนขาช่วงหระดูกไหปลาร้าและท้องบารน์เอามือกุ้มแผลที่ท้องแต่ก็ยังถอยร่นกลับเข้าไปหาฟีโก้ที่พยายามปลดบาเรียอยู่อย่างไม่ลดละ
บารน์: “ อัก!นี่แกใช้กระบวนท่าซ่อนเงาทวิภพเหรอเนี่ย”
(กระบวนท่าที่ฟันด้วยความเร็วไปพร้อมกับลบกลิ่นอายในการกระหนำฟันผลก็คือคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอในเชิงดาบหรือพวกประสาทรับรู้ทั่วๆไปจะเห็นเป็นการลงดาบเพียงแค่ครั้งเดียวแต่จริงๆแล้วฟันลงไปหลายครั้ง…ผู้สำเร็จวิชานี้ขั้นสูงสุดจะสามารถลงดาบได้เป็นสิบครั้งภายใต้การมองเห็นของศัตรูแค่ดาบเดียว)
ฟลิน : “โห่…ลุงนี่รอบรู้จังนะแต่ผมก็ไม่เท่าไหร่หรอกแค่ลงดาบแทรกซ้อนสามครั้งเอง….เอาละที่เหลือก็จับไอ่จอมเวทย์ติงต็องนี่กลับไปให้ท่านฟราน์”
บารน์ : “หึ….จะไม่เข้ามาเอาหน้าไม้ข้าหน่อยเหรอ”
ฟลิน : “ไม่ละลุงเก็บไว้ใช้แหอะ…ตอนนี้สงครามก็กระจายไปทั่วไททาเนียแล้วผมก็ไม่ถนัดอาวุธแบบนี้ทีมผมก็มีผมคนเดียวที่เป็นนักรบส่วนเงินน่ะผมหาเรื่อยๆได้สบายมาก…ก็ผมเป็นทหารรับจ้างนี่น้า ฮะๆ” ฟลินพูดพลางยิ้มอย่างอารมดี
บารน์ : “ชิ….รู้สึกเสียศักดิ์ศรีชะมัด”บารน์บ่นอุบ
ฟลิน : “แต่ก็เล่นซะเกราะผมพังเลยนะ….ถึงจะเป็นเกราะหนังวัวถูกๆก็เฮอะเป็นทหารทั่วๆไปคงหัวขาดไปสามสี่รอบแล้วมั้ง…ลุงอยู่หน่วยไหนกันแน่น่ะผมรู้นะว่าลุงเป็นทหารมาก่อนดูจากสไตล์การต่อสู้แล้ว…เรนเจอร์สินะ”
คำพูดสุดท้ายทำเอาบารน์สะอึกเป็นเจ้าหนูที่ร้ายกาจจริงๆ เขาคิด
ฟีโก้ : “Light Wall !”
กำแพงแสงถูกเสกกั้นระหว่างฟลินและบารน์อย่างรวดเร็วตอนนี้เบื้องหลังของฟีโก้คือม่านบาเรียคุ้มกันโรงเรียนที่ถูกเจาะเป็นรูด้วยพลังพิเศษของฟีโก้และด้วยความรู้งานของบารน์เขาวิ่งใส่รูนั้นทันทีโดยไม่ต้องให้ฟีโก้ร้องเตือนทั้งสองรีบมุดผ่านรูเล็กๆขนาดให้ตัวคนมุดก้มต่ำพอร่างของทั้งคู่ผ่านเขาไปสามวินาทีเท่านั้นบาเรียยักษ์ก็ปิดตัวลงทันทีอีกครั้งบารน์และฟีโก้หลบหนีการไล่ล่าได้สำเร็จ
ฟลิน : “:Xเอ้ย!…เสียเหลี่ยมมันจนได้” ฟลินตะโกนอย่างเจ็บใจ
คารินหยุดบริกรรมคาถาทุ่งหิมะแล้วเริ่มต่อว่าฟลินท
คาริน : “ประมาทอีกแล้วนะคะฟลินฉันจะรายงานคุณจาฮารี”(หัวหน้าทีม)
ฟลิน : “โธ่…พี่สาวตอนสู้อยู่ทำไมไม่ช่วยยิงสนับสนุนมั้งอะ…อย่ามัวแต่ยื่นดูจิ”
คาริน : “ฉันทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วค่ะ(ยืนบริกรรมรักษามนต์ทุ่งน้ำแข็ง)คุณละค่ะทำอะไร…ชวนศัตรูคุยซะงั้นทำให้พวกมันหลบหนีสำเร็จ”คารินพูดพร้อมปล่อยจิตสังหารออกมาทำเอาฟลินหงอไปเลยแต่แล้วทั้งคู่ก็ลามือกลับไปหาจาฮารี
อีกด้านหนึ่งของบาเรียคุ้มกันโรงเรียน
ฟีโก้ : “Heal Delight!”แสงเวทย์แห่งการรักษาส่องรอบตัวบารน์อีกครั้ง
บารน์ : “ขอบใจนะฟีโก้ ว่าแต่มีเวทย์ที่ขจัดขเม่าควันดำในปอดข้าบ้างไหมนี่”
ฟีโก้ : “ถ้าแผลเกิดขึ้นไม่เกิดขึ้นนานและสาหัสเกินไปหรือถูกพิษถูกสถานะอะไรแปลกๆผมก็รักษาได้ทันทีเลยลุง” ฟีโก้ตอบแต่เริ่มหายใจหนักขึ้น
บารน์ : “ว้า…ยังงี้ข้าก็อดสูบบุหรี่อีกตามเคยนะสิ…ช่างแหอะยังไงข้าก็เลิกนานแล้ว”
ฟีโก้ ; “ลุงนี้ไม่เคยถนอมร่างกายเลยนะ…แฮ่กๆ” ฟีโก้ตอบแต่ก็หายใจหนักขึ้นแล้วเริ่มที่จะเดินช้าลงสีหน้าเริ่มซีดเผือกแต่บารน์ยังไม่รู้เพราะเดินนำหน้าอยู่
บารน์ : “แต่ข้าก็ออกกำลังกายบ่อยๆนะโว้ย…ออกจะฟิตปั๋งขนาดยกถังระเบิดสี่ห้าลังก็ยังไหวพวกทหารทั่วๆไปไม่ได้กินข้าหรอกวะ…ฮ่าๆๆๆ”
ตุ้บ!!!
บารน์ได้ยินเสียงร่างกระแถกพื้นของฟีโก้จึงหันมามองแล้วเริ่มประคองร่างฟีโก้ขึ้นมา
บารน์ : “เฮ้ยฟีโก้เป็นอะไรวะ…ฟีโก้…เฮ้ย!”
ฟีโก้ : “พลังมาน่าของผมใกล้ถึงขีดสุดแล้ว…แฮกๆผมกำลังจะ Mind Less..แฮกๆ”
บารน์ : “แข็งใจไวนะฟีโก้…แข็งใจไว้”
ฟีโก้ : “พอถึงห้องของผม…แฮกๆจะเจอตู้ยาหยิ…ยาขวดสีน้ำ…นเข้มจุกก็อกเขีย..มาให้ผมดื่ม…ลุง ตึ…ผมอยู่ติ….ตัวโรงเรีย….แฮกๆ….เฮือก”(สลบเหมือดไปแล้ว)
บารน์ ; “ฟีโก้…เฮ้ยฟีโก้!แล้วห้องเอ็งมันห้องเบอร์ไหนวะ….ฟีโก้! เฮ้ย…เวรละสิ”
บารน์ล้วงกระเป๋ากางเกงฟีโก้เขาเจอสำหรับยันต์ที่เหลืออยู่เจ็ดถึงแปดใบ
กุญแจห้อง จี้ปลาโลมาสีขาว และ คริสตันประหลาดทรงแหลมสีแดงที่เหมือนจะมีพลังงานบางอย่างเล่นอยู่ตลอดเวลา
บารน์หยิบคริสตันขึ้นมาสำรวจเขารู้จักอุปกรณ์เวทย์มนต์หลายชนิดอาจจะรู้จักมากกว่าฟีโก้ที่เป็นจอมเวทย์ซะอีกมันเหมือนOrb(ลูกแก้วเวทย์มนต์)แต่ประสบการณ์การผ่านโลกมายาวนานบอกเขาว่ามันไม่ใช่เขารู้สึกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทรงอำนาจมากกว่านั้นเมื่อเอานิ้วสัมผัสพลังบางอย่างไหล่เข้ามาในร่าง…เขารู้สึกหนุ่มขึ้นๆมีพลังมากขึ้นๆเขารู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก…และเขาเกิดความรู้สึกเมามันบริเวณช่างล่างอย่างรุนแรง…มันรุนแรงยิ่งซะกว่าตอนที่เขาฝันเปียกครั้งแรกอย่างเทียบไม่ได้
สติของเขาเริ่มพล่ามัว…มันสุขล้นพอๆกับได้ทำอะไรพิเศษๆกับผู้หญิงที่ชื่นชอบ
“อา…,มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน…ซินเทียร”….คิกๆๆๆๆๆๆ…..ฮิๆๆๆ
บารน์ตกใจแต่ตั้งสติได้เขารีบเหวี่ยงคริสตันสีแดงออกไปจากตัวเมื่อได้ยินเสียง
หัวเราะของหญิงสาวจากคริสตันมันเป็นเสียงหัวเราะที่เย้ายวนพร้อมจะปั่นหัวผู้ชายทุกคนให้สับสนบารน์เก็บคริสตันเข้าตัวฟีโก้โดยไม่สัมผัสโดยตรงเขาสังเกตุว่าสีหน้าของฟีโก้เริ่มซีดลงไปอีก…ถึงคริสตันนั้นจะประหลาดและสร้างความรู้สึกมันๆให้กับเขาแต่ตอนนี้อาการMind Lessของฟีโก้ดูเหมือนจะหนักขึ้น เขาเก็บกุญแจห้องที่ไม่รู้จะเอาไปไขที่ประตูบานใดเพราะฟีโก้สลบเหมือดไปก่อน
บารน์ : “เอาละนะฟีโก้ ไปกันเถอะ”
บารน์สะพายร่างทั้งร่างของฟีโก้ขึ้นบ่าแหงนมองอาคารสิบชั้นของหอพักนักเรียนโรงเรียนอัลเลวิชที่ตั้งตระหงานตีนเขาแล้วก็มองไปทางโรงเรียนที่ตั้งบนยอดเขาอย่างองอาจสองเท้าก้าวอย่างมาดมั่นและเข้มแข็ง…เขามุ่งไปทางหอพักอย่างรีบเร่งแต่ก็ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใดที่จะประดังเขามา
Mana vision ตอนที่ 13