ประตูไม้โทนสีน้ำตาลเข้มดูเก่าแก่ รอยขีดข่วนต่างๆที่ทิ้งบอกอายุและเรื่องราวของมันไว้แต่ก็มีไม่มากนักจากนักเดินทางที่ผ่านไปผ่านมา กว่าผมจะเดินจากชายหาด ทางทิศตะวันออกของเกาะมาก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตอนนี้เวลา 15.00 ซึ่งผมมาก่อนเวลาที่นัดไว้ 15 นาที เป็นเวลาที่พอเหมาะแต่ถ้าหาก เฟรย์ น้องสาวของผมไม่เรียกผมจาก ลมเย็นๆที่ผัดมาตามชายหาดที่แสน เพลิดเพลินแล้วหละก็ คงมาเลทกว่านี้แน่
ผมเอื่อมมือขวาไปเปิดประตูที่มีเสียงดัง ออกมาตั้งแต่ยามบ่าย ฟังดูหนวกหูพรางคิดว่าไม่เหมาะเอาซะเลยที่จะนัดเจอกันที่นี่ แต่ก็มันก็เป็นที่ๆคนทั้งเกาะรู้จักรและเป็นที่นัดผม ประจำอยู่แล้วจึงอดความคิดนั้นและ เปิดประตูเข้าไป อย่างช้าๆ
กริ๊งๆ เสียงกระดิ่งจากประตูดึงขึ้นพร้อมเสียง ยินดีต้อนรับ ที่ดังมาจากเคาท์เตอร์ ที่ห่างไกลไปไม่มากนัก เจ้าของเสียงคือหญิงสาวในชุดเมท ที่คอยดูแลที่นี้อยู่ประจำ
“สวัสดี เซน วันนี้มารับเควสหรอ”
“อ้อ ปล่าวครับ ลิซ่า วันนี้ผมมารอ เจน ครับ”
.”อ้อ งั้นเชิญตามสบายนะ วันนี้มีเมนู ที่เธอชอบด้วยนะ”
“ขอบคุณมากครับ งั้นเดี๋ยวรอ เจน มาผมค่อยสั่งนะครับ”
“ได้เลยจ้า”
สิ้นเสียงผมจึงเดินมานั่งที่บาร์กับเฟรย์ ใช้แล้วครับที่นี่คือ กิลนกพจญภัย สถานที่ๆ อยู่ใจกลางเกาะพอดี ซึ่งไม่มีใครรู้ที่มา ว่าที่นี่นั้นใครเป็นคนสร้าง เนื่องจากหลังจากที่โลกนี้เปลี่ยนไปก็มีที่นี่เกิดมาพร้อมกันด้วยเช่นกัน ที่นี่เป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ใตกลางเมือง ที่ดูแบบทั่วๆไป แต่พอเข้ามาด้านในกลับใหญ่ซะจนคิดว่า ใช่ที่เดียงกันหรือเปล่า ด้านในนั้นเป็น สี่เหลี่ยมพืนผ้า ความกว้างผิดจากตัวอาคาร ซึ่งสามารถ วางโต๊ะสำหรับ 10 คนได้ถึง 15 ตัว ละยังมีโต๊ะ ย่อยๆ อีก 16 ตัว แถมมีบาร์เครื่องดืมอีกต่าวหาก
หลายปีก่อนตอนที่ผมมา ที่นี่ ผมก็เจอ ลิซ่า จึงถามไปว่าทำไมที่นี่จึงใหญ่ผิดจากด้สนนอกที่เป็นตึกธรรมดา ลิซ่าก็ตอนมาแค่ว่า มันคือความลับจากเบื่องบนเท่านั้น
อ้อ ลิซ่านั้นไม่ใช่มนุษย์ปกติแบบพวกเราหรอกนะครับ แต่เอคือตัวตนที่เรียก ตนเองว่า npc
ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลอยู่ที่โลกใบนี้จะมี npc แต่นับจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มีแค่ ลิซ่าเท่านั้น ที่บอกว่าตนคือ npc แต่บนเกาะนนี้นั้น เพิ่งจะถูกเปิดแมพไปแค่ 30% เท่านั้น นับจากหน้าเกาะ มายังจุดนี้ ซึ่งหลังเกาะนั้น เคยมีนักค้นคว้ามือใหม่ไฟแรงเดินทางไปอยู่บ้าง แต่ก็เจอมอนเตอร์ ประเภท พืช ทำร้านจึงไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ แมพจึงมืดอยู่มาก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก เพราะเดี๋ยวมันก็จะสว่างในไม่ช้า โดยผมที่แหละ
ระหว่างที่คิดไปเรื่อง ก็มีเสียงเดินมาจากทางขวา ผมจึงหันไปกล่าวทักทายเจ้าของเสียงฝีเท้าที่รู้จะดี
“สวัสดี เจน มาตรงเวลาเหมือนเดิมนะ”
“ทางนี้ต่างหากที่ต้องถามว่า มาตรงเวลากับเขาเป็นด้วยหรอ”
“พี่ หนะต้องให้เฟรย์บ่อนก่อนถึงจะมาหนะซิ”
“อ้อ แบบนี้นี่เอง ลำบากแย่เลยนะ เฟรย์จัง”
หลังพูดจบเธอกะเอามือของไปไปลุบหัวของ เฟรย์อย่าง อ่อนโยน
“เชอะ ก็ผมมันเย็นดีนี่หน่าช่วยไม่ได้ ว่าแต่วันนี้มีอะไรเลยนัดมารึ”
“อ๋อ เรื่องนั้นหนะนะ...”
ปัง!!! เสียงเปิดประตูที่ดังมาจากด้านหน้ากิล เข้ามาขัดบทสนทนา ทำให้ผม กับ เจน และเฟรย์หันหน้าไปมองต้นตอของเสียงพร้อมกัน