มันเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่ง
ชีวิตของเขาตั้งแต่เกิดมานั้น จะว่าไปก็มีแต่ความทุกข์ใจมาตลอด ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นพ่อเลยสักครั้ง แม่ของเขานั้นเขาก็จำได้เพียงลางๆเท่านั้น
ชีวิตมันช่างรันทดนัก คนที่ได้ยินเรื่องนี้คงจะคิดอย่างนั้น
แต่หากว่าชีวิตเขานั้นก็อยู่คนเดียวได้ไม่นาน จนเขาอายุได้ 5 ปี ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งรับเขาไปเลี้ยง
ชื่อของผู้หญิงใจดีคนนั้นคือสเตลล่า
สเตลล่ามีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง เธออายุเท่ากับเขาพอดี
ทั้งนี้ โชคยังดีที่เขาจำวันเกิดจากปากของแม่เขาได้
วันที่ 23 กุมภาพันธ์
น้องสาวของสเตลล่าก็เกิดวันเดียวกันกับเขา
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ญาติกันแท้ๆ แต่สเตลล่ากลับเลี้ยงดูเขาอย่างดีราวกับว่าเขาเป็นน้องชายแท้ๆคนหนึ่งของเธอเอง ดังนั้นเขาจึงรักและเคารพสเตลล่ามาก
หากถามว่าความรักที่เขามีต่อสเตลล่านั้นมีมากเพียงไร เขาก็ตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า เขาสามารถแลกชีวิตของเขาได้เลย
แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดแค่ปาก เขาทำได้จริงๆ ไม่สิ เขาทำจริงแน่
ชื่อของเขานั้น แม่ของเขาให้ชื่อว่า เฮลิออส
เฮลิออสอยู่ด้วยกันกับสเตลล่า สเตลล่าสอนเขาให้รู้จักว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร ทั้งยังสอนวิชาความรู้ต่างๆให้เขา ซึ่งเขาก็เรียนรู้ได้ทั้งหมดโดยใช้เวลาไม่นานนัก ซึ่งสเตลล่าเองก็เห็นว่าเขาเป็นเด็กที่หัวดี เธอจึงตัดสินใจสอนวิชาการต่อสู้ให้เขา
แรกเริ่มนั้น เฮลิออสก็รู้สึกไม่ค่อยคล่อง ครั้นจะต่อยก็ลำบาก ขยับตัวไม่ได้ดั่งใจ อีกอย่างอีกฝ่ายเป็นพี่สาวที่ทั้งสวยและดูบอบบาง จะให้ลงไม่ลงมือได้อย่างไร
แต่ดูเหมือนว่าเขาคิดผิด ถึงแม้สเตลล่าจะดูสวยและบอบบาง แต่เธอกลับเชี่ยวชาญการต่อสู้มือเปล่ามากชนิดที่ว่าครูสอนศิลปะการต่อสู้ยังอาย
ทุกวันหลังฝึกเสร็จแล้ว เฮลิออสก็จะออกมาพักที่นอกโรงฝึก เขาไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เขาพักที่นั่นเป็นประจำ
ที่ต้นไม้ใหญ่นั้นมีแผ่นหินอยู่
ขนาดของแผ่นหินนั้นมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่พอๆกับประตูโรงฝึกเลยทีเดียว แต่เขาเห็นแล้วเขากลับรู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
ขณะที่เฮลิออสนั่งดูแผ่นหินอยู่นั้น ก็มีอะไรบางอย่างออกมาจากพุ่มไม้ข้างๆเขา และมันกำลังเคลื่อนเข้ามาข้างหลังเขาอย่างเงียบๆ
"ที่นี่เมื่อก่อนแม่ฉันบอกว่าเคยสู้กับตัวประหลาดตัวหนึ่ง"เสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้นจากข้างหลังเฮลิออส
"!!!" เฮลิออสตกใจจึงหันไปตามเสียงที่มาจากด้านหลังของเขา ก็พบกับเด็กผู้หญิงมัดผมหางม้าคนหนึ่ง นอกจากผมหางม้าแล้ว เธอยังมีจอนที่ม้วนกันดูคล้ายครัวซองก์น่ารักๆย้อยลงมาทั้งสองข้าง บนหัวของเธอมีเส้นผมที่ตั้งชี้ขี้นสองเส้น ยาวหนึ่งเส้น สั้นหนึ่งเส้น เส้นยาวนั้นดูแล้วเหมือนกับว่ามั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ จนบางทีคงจะทำให้คิดไปว่า จะไปจิ้มหัวใครก็เป็นได้
"ลูน่า!!!"เฮลิออสเรียกเด็กหญิงที่กำลังยืนกอดตุ๊กตาตัวเท่าๆเธอที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา "ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง"เด็กหญิงที่เฮลิออสเรียกว่า "ลูน่า"ตอบกลับมา "แล้วอีกอย่าง นายหัดรู้ตัวให้ทันมั่งสิว่ามีอะไรหรือใครมาอยู่ข้างหลังนายตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ถ้าเป็นสัตว์ร้ายนายคงจะโดนงาบไปแล้วล่ะ"
ลูน่าหยุดพูดแล้วมองดูเฮลิออสที่กำลังมองแผ่นหินต่อจากเมื่อกี้
ทันทีที่ลูน่าเห็นกิริยาเช่นนั้น เธอก็รู้สึกว่าเหมือนหน้าของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้มือของเธอกำลังสั่นระริกๆ
"นี่ฟังกันอยู่รึเปล่าเนี่ย?!!!"ลูน่าตะโกน
"ไม่ล่ะ ถ้าลูน่าจะบ่นล่ะก็ฉันไม่ฟังหรอก"เฮลิออสตอบเสียงเรียบๆ ตายังคงจ้องแผ่นหินต่อไป และก็คิดอะไรเพลินๆ
"นี่!!!"ลูน่าหยุดชะงักก่อนที่จะตะโกนสิ่งที่เธอจะบ่นออกมา "อะ...ฮื่ม" เธอกระแอมเสียง ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้
"นี่...ลูน่า"เฮลิออสเรียก "อะไร?"ลูน่าถามตอบ "เธอบอกว่าตรงนี้แม่ของคุณป้าเคยสู้กับตัวประหลาดสินะ" "ใช่ ทำไมล่ะ?" เสียงของลูน่ายังมีเค้าของอารมณ์โมโห ที่ดูเหมือนว่าเธอพยายามกลั้นมันไว้ "เธอช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ"
ทันทีที่ลูน่าได้ยินเฮลิออสขอร้องให้เธอเล่าให้ฟัง เธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นเป็นที่ต้องการของคนอื่น จึงทำให้เธอออกอาการกระหยิ่มยิ้มย่องโดยไม่รู้ตัว
"นายอยากฟังเหรอ?" "อื้ม" ลูน่ายิ้มแล้วบอกว่า "งั้นจะเล่าล่ะนะ อะ...แฮ่ม..." "งั้นไม่ฟังดีกว่าท่าจะยาว" เฮลิออสบอกปัดแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ และเดินกลับไปที่โรงฝึกต่อ "ฮะ...เฮลิออส!!!" ลูน่าที่โกรธจนตัวสั่นรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอรู้สึกว่า ตอนนี้เธออยากจะฆ่าเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอเหลือเกิน
"งั้นก็ฆ่าซะสิ!" มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
"มะ...ไม่" ลูน่าพยายามปฏิเสธความคิดนั้น
"แต่มันทำให้เธอทุกข์ใจนี่"
"มะ...ไม่ใช่นะ"
"งั้นเธอคิดยังไงกับมันล่ะ?"
"ฉะ...ฉัน..."
"น่า...ลูน่า..."ลูน่าได้ยินเสียงเรียกเธอ เธอมองตามที่มาของเสียงก็พบเฮลิออสอยู่ข้างหน้าของเธอ
"ลูน่า เป็นอะไรไป เห็นเงียบไป ไม่สบายเหรอ?"เฮลิออสถามด้วยความเป็นห่วง เพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนเล่นของเขาเพียงคนเดียว
"เฮลิออ..." ลูน่ารู้สึกว่าเสียงของเธอหายไปตอนเรียกชื่อของเขาไม่ทันจบ เธออยากจะเรียกเขาอีกครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ ตอนนี้เธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก
"เอ๋?!"ลูน่าคิดสงสัย เพราะว่าเธอไม่ได้คิดจะยิ้มเลย ตอนนี้เธอมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างมาบงการร่างกายของเธอแทน และดูเหมือนว่าสิ่งนั้นจะมุ่งร้ายต่อเฮลิออส "เฮลิออส หนีไป!" เธออยากจะบอกเช่นนั้น แต่ก็บอกไม่ได้
เฮลิออสสังเกตเห็นรอยยิ้มบนมุมปากของลูน่า "ลูน่า?"เขาเรียกเธอ
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นมุ่งร้ายต่อเขา เขาจึงกระโดดถอยหลังไปไกลเพื่อตั้งหลัก "ลูน่า ทำไมกัน นี่ฉันเอง เฮลิ..." ไม่ทันพูดจบ เขาก็ต้องหลบคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตของเขา "ลูน่านี่ฉันเอง!!!" เขายังคงเรียกชึ่อของลูน่าต่อเพื่อหวังจะให้เธอได้สติ
แต่ดูเหมือนว่ายิ่งนานยิ่งไม่สามารถเรียกเธอให้ได้สติได้ "ดูท่าต้องทำให้สลบซะแล้ว"เขาคิดพร้อมกับพุ่งตัวเข้าประชิดลูน่าพร้อมกับเอี้ยวตัวหลบคลื่นพลังที่พุ่งมาใส่เขาไปด้วย "ขอโทษนะลูน่า..."เขาพูดขึ้นเบาๆแล้วใช้ท่า หลังมือกล่อมไสยา จนลูน่าสลบไป
"..."ลูน่าลืมตาตื่นขึ้นก็พบกับเฮลิออสที่นั่งให้เธอหนุนตักอยู่
"เอาสิฆ่ามันเลย"เสียงปริศนาในตัวของลูน่า
"ไม่นะฉันไม่อยากฆ่าใครนะ"ลูน่ารีบปฏิเสธ
"แต่มันจะทำให้เธอทุกข์ใจนะ"เสียงปริศนากล่าว
"ไม่...ไม่จริง!! ฉันสนุกมากเวลาอยู่กับเขา"ลูน่ายังคงปฏิเสธคำเกลี้ยกล่อมนั้น
"มันจะจริงเหรอ?"เสียงปริศนาถามลูน่า
"หมายความว่ายังไง?"ลูน่าสงสัยกับคำถามนั้น
"เอาเถอะ ยังไงฆ่ามันซะก็สิ้นเรื่อง เธอก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจแล้ว"เสียงปริศนากล่าวจบก็ควบคุมร่างทันที
"ไม่นะ!! อย่า!!"ลูน่าตะโกนบอกเสียงปริศนา
"อ้าว...ลูน่าฟื้นแล้วเหรอ?"เฮลิออสถามลูน่าทั้งๆที่เขาเห็นแล้วว่าเธอลืมตาขึ้นมาแล้ว "เอาเถอะ...ก็ฟื้นแล้วนี่นะเป็นไงมั่งล่ะ?"เขายังคงถามแบบกวนๆแต่จริงๆแล้วในใจของเขานั้นเป็นห่วงมาก "อ้าวไม่เป็นไรแล้วเหรอ?" เขาถามลูน่าที่จู่ๆก็ลุกขึ้น เขาสังเกตเห็นใบหน้าของลูน่านั้นมีน้ำตาใหลออกมา
เขาเห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นยืนบ้าง "ลูน่า?"เขาเรียกชื่อของเธอเพื่อที่จะถามว่าเป็นอะไร
ฉึก เสียงของมีคมแทงเข้ากับร่างของเฮลิออส
"ลู...น่า...?"เขาพูดขึ้นก่อนจะล้มลงจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
สิ่งที่เขาเห็นคือ ลูน่าถือดาบสีดำสนิทที่อาบเลือดของเขาอยู่!!!
แล้วสติสัมปชัญญะของเขาก็ดับไป
สเตลล่าเห็นเฮลิออสออกไปนานยังไม่กลับบ้าน เพราะปกติเขาจะต้องกลับมาช่วยเธอทำครัว แต่นี่เธอทำเสร็จแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของเขาเลย
"ไปไหนของเขาน้า ปกติก็ไม่ใช่เด็กที่จะไปซุกซนที่ไหนนี่"สเตลล่าคิดทบทวนถึงนิสัยที่ผ่านๆมาของเฮลิออส "งั้นออกไปดูหน่อยดีกว่า"เธอตัดสินใจที่จะออกไปตาม เพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงเฮลิออสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
สเตลล่าออกจากบ้านไปดูที่โรงฝึกก็ไม่พบใครเลย "ไปไหนของเขาน้า?"เธออุทานด้วยความสงสัย "ฮึก...ฮือออ" เธอได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงร้องไห้ดังมาจากทางเข้าไปในป่าหน้าโรงฝึก "ทำไมไม่รู้แต่รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ" เธอคิดในใจและมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าป่าหน้าโรงฝึกทันที
สเตลล่ามาถึงหน้าต้นไม้ใหญ่และแผ่นหินยักษ์หน้าทางเข้าป่าก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เธอพบ
เฮลิออสนอนจมอยู่กับกองเลือด และมีเด็กผู้หญิงอีกคนนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ
แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่านั้นคือดาบสีดำสนิทที่ตั้งอยู่ข้างๆเด็กหญิง
"ดาบจอมมาร!!!"สเตลล่าพูดขึ้น จากนั้นเข้าไปดูอาการของเฮลิออสก็พบว่าเขาหายใจรวยรินเต็มทีแล้ว "ไม่นะ...ไม่...หนูไม่ได้ตั้งใจ...พี่คะ...หนูไม่ได้ตั้งใจ..." เด็กสาวที่อยู่ข้างๆร้องบอกสเตลล่าอยู่ไม่ขาดและเข้ามากอดเธอ "มันเกิดอะไรขึ้น?" สเตลล่าจะถามแบบนั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือชีวิตของเฮลิออส เธอต้องช่วยชีวิตเขาก่อน แม้จะสงสัยเรื่อง "ดาบจอมมาร"ก็เถอะ
"ไม่เป็นไรลูน่า ไม่เป็นไร"สเตลล่าปลอบลูน่าที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธออุ้มเฮลิออสกลับไปที่บ้าน จากนั้นจัดการทำการรักษาโดยใช้เวทย์มนตร์รักษาที่เธอรู้จักมาตั้งแต่เมื่อก่อนรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ดูเหมือนว่าแผลจะหายได้เร็วกว่าที่เธอคิด ซึ่งสร้างความแปลกใจให้แก่สเตลล่าไม่น้อย "แปลกจัง แผลฉกรรจ์ขนาดนี้แถมยังเป็นแผลจากดาบจอมมารด้วย แต่แผลกลับหายเร็วมาก ทั้งๆที่ปกติอาจจะรักษาไม่ได้ด้วย นี่ฉันคิดอะไรของฉันเนี่ย? เขาหายก็น่าจะดีใจแล้วไม่ใช่เหรอ?"สเตลล่ายิ้มอย่างดีใจ ถึงแม้จะยังสงสัยก็ตาม เพราะคนสำคัญของเธอปลอดภัยแล้ว
แต่ยังมีสิ่งที่เธอต้องจัดการ สเตลล่าเดินไปหาลูน่าที่นั่งอยู่ที่หน้าเตียงของเฮลิออส เธอถามว่า "ทีนี้เล่าให้พี่ฟังได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?"
ลูน่าที่ยังสะอื้นจากการร้องไห้เป็นเวลานานก็ตอบแบบสะอื้นไปว่า "ค...อึก...คือว่า..." "ไม่เป็นไร ไว้ค่อยเล่าก็ได้" สเตลล่าเองก็รู้สึกเห็นใจน้องสาวที่ต้องอยู่ในสถานะการณ์อย่างนี้ทั้งที่ยังอายุแค่ 10 ปี ถึงแม้เธอจะอยากรู้มากก็ตาม แต่เธอคงต้องรออีกสักพักหนึ่งก่อน
ผ่านไปจนสเตลล่าเห็นว่าอาการของเฮลิออสดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนหายห่วงได้ และเห็นว่าลูน่าก็หยุดสะอึกสะอื้นแล้วก็เลยเข้าไปหา
"ทีนี้บอกพี่ได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?"
"หนูก็ไม่รู้ หนูได้ยินเสียง"
"เสียง?"
"ใช่ค่ะ เป็นเสียงของใครก็ไม่รู้ บอกให้หนูฆ่าเฮลี่"
"ทำไมกันล่ะ? ทำไมต้องฆ่าเฮลิออสด้วย?"
"ไม่รู้เหมือนกัน เสียงบอกว่าเฮลี่จะทำให้หนูทุกข์ใจ"
"งั้นเหรอ?"สเตลล่ามองไปที่ดาบจอมมาร "งั้น...ดาบเล่มนั้นล่ะ หนูเอามาจากไหน?"
"หนูก็ไม่รู้ พอหนูตื่นขึ้นมา จู่ๆดาบมันก็มาจากไหนไม่รู้แล้วหนูก็แทงเฮลี่ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจนะ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"ลูน่าเล่าไปตามความจริงทุกอย่าง เพราะเธอรู้ว่าถ้าเล่าให้พี่สาวของเธอฟังเธอจะต้องเข้าใจแน่ๆ
สเตลล่าใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอคิดวิเคราะห์และแยกแยะถึงเรื่องราวจากที่น้องสาวของเธอเล่ามา เธอก็คิดขึ้นว่า
"ลูน่าเป็นลูกสาวของคุณน้าซึ่งมีเชื้อสายปีศาจของจิ้งจอกเก้าหาง อีกนัยหนึ่งก็คือหมาป่า จะอะไรก็ช่าง ในเมื่อเธอเป็นลูกของคนที่มีเชื้อสายปีศาจ ลูน่าก็ต้องมีเชื้อปีศาจด้วย" สเตลล่าเอามือลูบคาง และครุ่นคิดต่อ "เสียงที่ลูน่าได้ยินนั้นเป็นเสียงของพลังปีศาจที่อยู่ในตัวเธอ" "แล้วทำไมถึงมาปรากฏเอาตอนนี้ล่ะ?" "นั่นต้องเป็นเพราะมีอะไรไปกระตุ้นด้านไม่ดีของลูน่าให้ออกมา อาจเป็นเพราะเฮลิออสไปยั่วโมโหลูน่าก็ได้ ทำให้พลังปีศาจของลูน่าตื่นขึ้นมา" "แต่พลังปีศาจที่ปรากฏออกมาช่วงแรกไม่น่าจะมีทางที่เฮลิออสจะรับมือไม่ได้นี่ เขารับมือไม่ได้หรือ?" "ตรงนั้นคิดว่าได้ เพราะมีร่องรอยของการต่อสู้อยู่ด้วย เฮลิออสเรียนรู้การต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่น่าจะเพลี่ยงพล้ำกับพลังปีศาจที่พึ่งตื่น อีกอย่าง ลูน่าบอกว่า 'พอหนูตื่น' แสดงว่านั่นต้องเป็นหลังจากที่เธอถูกเฮลิออสทำให้สลบไปแล้วแน่นอน และปีศาจคงจะใช้ช่วงจังหวะที่เฮลิออสคิดว่าปลอดภัยแล้วเรียกดาบปีศาจออกมาแทงเขา" "แล้วดาบจอมมารทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?" "นั่นต้องเป็นเพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะใช้มันเลยสามารถเรียกออกมาได้ ก็เหมือนกับเราที่มีสิทธิ์ในการใช้ดาบผู้กล้านั่นเอง ดังนั้น เธอจะต้องมีสัญลักษณ์อะไรสักอย่างที่เป็นเครื่องหมายเป็นแน่"
สเตลล่าใช้เวลากาลคิดวิเคราะห์และแยกแยะเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างทะลุปรุโปร่งโดยใช้เวลาไม่ถึงนาที และเธอก็หันไปทางลูน่า "นี่ลูน่า ก่อนหน้านี้ได้รับของอะไรจากใครบ้างหรือเปล่า?" เธอถาม "ก็มีตุ๊กตาที่คุณตาให้หนูเท่านั้นแหละ" "ขอดูหน่อยได้มั้ย?" "ค่ะ" แล้วลูน่าก็ส่งตุ๊กตาตัวนั้นให้สเตลล่าดู
ทันทีที่สเตลล่ารับตุ๊กตาตัวนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ "ต้องเป็นสัญลักษณ์ของจอมมารแน่" เธอคิดเช่นนั้น จากนั้นเธอก็ส่งคืนให้ลูน่า "จ้ะ ขอบใจจ้ะ" เธอยิ้มขอบคุณลูน่า "เรื่องนี้คงเป็นเพราะลูน่ายังไม่มีพลังพอที่จะควบคุมพลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้ แต่สักวันเธอต้องควบคุมได้แน่ แต่ต่อให้ใช้พลังของจอมมารก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนเลว ถ้าหากเธอถูกสอนให้เป็นคนดี เธอก็คงจะใช้ไปในทางที่ดี แต่ตอนนี้เธอคงต้องไปฝึกควบคุมพลังจอมมารให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อีก" คิดถึงตอนนี้เธอก็มองไปที่เฮลิออสที่นอนสลบสไลไม่ได้สติอยู่บนเตียง แม้อาการจะดีขึ้นจนไม่เป็นอันตราย แต่หากเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายตัวน้อยคนนี้ของเธอ เธอคงจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ "งั้นวันนี้ลูน่ากลับก่อนนะ เดี๋ยวไว้ค่อยมาวันหลังนะ" "แล้วเฮลี่..." สเตลล่าเห็นน้องสาวของตัวเองยังรู้สึกผิดก็เลยปลอบว่า "เรื่องในครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของลูน่าสักหน่อย อีกอย่างเฮลิออสก็อาการดีขึ้นแล้วด้วย" "แต่ว่า..." "พี่คิดว่าเฮลิออสไม่โกรธลูน่าหรอก เพราะลูน่าเองก็ไม่ได้ตั้งใจใช่ไหมล่ะ?"สเตลล่าพูดจบแล้วก็ยิ้มให้น้องสาวของเธอ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูน่าสบายใจขึ้น แล้วพูดว่า "ค่ะ งั้นหนูกลับก่อนนะ" แล้วลูน่าก็ออกไปและเดินไปทางเข้าป่าและเข้าป่าหายไปในที่สุด
"เห็นทีจะต้องบอกให้น้าจัดการฝึกพิเศษลูน่าซะแล้วสิ" สเตลล่าพูดกับตัวเอง จากนั้นเธอมองมาทางเฮลิออส "ว่าแต่สมเป็นลูกของ 'เขา' จริงๆนะ ที่มีพลังการฟื้นตัวขนาดนี้" แล้วเธอก็บิดขี้เกียจชูแขนขึ้นข้างบนจนสุดแขน "ถึงจะสงสัยทีแรก แต่ตอนที่สัมผัสได้นั้น ต้องเป็นพลังแบบเดียวกับ 'เขา' แน่ๆ" แล้วเธอก็หันมามองเฮลิออสอีกครั้งแล้วยิ้มให้เขา จากนั้นก็เดินออกไป
วันต่อมาเฮลิออสก็หายเป็นปกติ จากนั้นเขาก็เริ่มตั้งใจฝึกการต่อสู้อย่างจริงจัง
ผ่านไป 5 เดือน
ฝีมือการต่อสู้ของเฮลิออสรุดหน้าไปอย่างมาก ทั้งนี้ด้านความรู้เขาก็เรียนพื้นฐานจากสเตลล่ามาจนหมดแล้ว สเตลล่าตัดสินใจที่จะให้เขาออกไปศึกษาโลกภายนอกดูบ้างจึงเรียกเขาเข้ามาพบ
"มีอะไรหรือครับพี่?" เฮลิออสถาม สเตลล่ายิ้มให้แล้วก็บอกว่า "ช่วงที่ผ่านมา 5 เดือนนี้ฝีมือการต่อสู้ของเธอรุดหน้ามาก ทั้งวิชาความรู้พื้นฐานก็เรียนมาจนหมดแล้ว พี่ก็ไม่รู้จะสอนอะไรแล้วด้วย เธอคิดจะออกไปหาความรู้ที่อื่นบ้างหรือเปล่า?" ว่าจบแล้วสเตลล่ามองมาที่เฮลิออส เขาก็ตอบกลับไปว่า "ที่จริงแล้วผมก็สนใจเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยอยู่หรอกนะ แต่ผมอยากอยู่ที่นี่มากกว่า ไม่ได้คิดอยากออกไปไหนหรอก" สเตลล่าได้ยินแล้วก็รู้ว่าที่เขาตอบอย่างนั้นเพราะเกรงใจไม่อยากให้เธอลำบาก จึงบอกกลับไปว่า "ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกน่า เราอยู่กันมานานแล้ว เธอก็เป็นน้องชายคนหนึ่งของฉัน เพราะฉะนั้นมีอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก" "แต่..." "อยากทำให้พี่สาวไม่สบายใจเหรอ?" สเตลล่าพูดดักคอ เพราะหากไม่ใช้วิธีนี้ ดูท่าคนที่ชอบเกรงใจคนอื่นอย่างเฮลิออสจะไม่มีวันบอกความต้องการของตัวเองเป็นแน่ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผล "ผมอยากไปเรียนที่หอสมุดในเมืองหลวงน่ะครับ" "แหม...ก็แค่นี้ล่ะ" สเตลล่าลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าของเขาแล้วนั่งลง เธอยิ้มให้แล้วกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าของเฮลิออสซุกกับหน้าอกนุ่มๆของสเตลล่าเต็มๆ "เอ่อ...พี่ฮะ...คือว่า..." "มาอายอะไรกัน พี่น้องเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ" สเตลล่าพูดขึ้นและกอดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม...
ท้องฟ้ายามราตรีมีหมู่ดาราอยู่เต็มท้องฟ้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีหมู่ดาวอะไรบ้าง เพราะมันเยอะแยะไปหมด เฮลิออสเดินออกมาจากบ้านมุ่งหน้าไปที่ใต้ต้นไม่ใหญ่แถวหน้าโรงฝึก ในมือของเขาถืออะไรบางอย่างไปด้วย
"พรุ่งนี้ก็จะไปแล้วสินะ"เด็กหญิงทักขึ้นที่ด้านหลังเฮลิออส เขาหันกลับไปก็พบเจ้าของเสียง ใช่แล้ว ลูน่านั่นเอง "ลูน่า..." "นี่นายไม่คิดจะบอกฉันเลยรึไงว่าจะไปที่อื่นน่ะ" เฮลิออสก็ดูซึมๆลง แต่ก็ตอบไปว่า "ก็ว่าจะบอกอยู่นะ..." "นี่ถ้าพี่ไม่บอกฉัน ฉันก็คงไม่รู้เรื่องนะเนี่ย ต้องขอบคุณพี่จริง" แล้วลูน่าก็หลับตาลงและก้มหัวเหมือนกับกำลังขอบคุณอยู่จริงๆ "นี่ลูน่า..." เฮลิออสเรียก "มีอะไรเหรอ?" "ก่อนฉันจะไปฉันมีอะไรจะให้น่ะ..." ถึงเขาจะพูดแต่เขาก็ไม่สบตากับลูน่า ซึ่งลูน่าเองก็สังเกตได้ว่า หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้น เขาก็ไม่สบตาเธออีกเลย "ยังเกลียดฉันอยู่รึไง?" ลูน่าพูดขึ้น "เปล่านะฉันไม่ได้..." "ถ้าไม่ได้เกลียดงั้นก็มองตาฉันสิ" "ไม่ได้หรอก แต่ฉันมีอะไรจะให้น่ะ..." "ทำไมไม่ยอมสบตากันนะ มันน่าหงุดหงิดจริง"ลูน่าคิด "แล้วมีอะไรจะให้ล่ะ "เธอถาม "หลับตาก่อนสิ" "เอ๋?" "เอาน่า บอกให้หลับตาก็หลับตาสิ" ลูน่าถูกบังคับให้หลับตา "อ้า ก็ได้ ก็ได้ หลับตาก็หลับตา" แล้วเธอก็หลับตาลง
ทันทีที่หลับตาเธอก็รู้สึกว่าเฮลิออสมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือของเขากำลังแตะไมที่คอเสื้อของเธอ "เอ๊ะ!?" เธออุทานในใจ "หมอนี่มันคิดจะทำอะไรเนี่ย?" เธอคิดลุ้นพร้อมกับใจที่เต้นตึกตักจนเธอได้ยินเสียงชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ขัดขืน ปล่อยให้เขาทำจนเสร็จ "เอาล่ะ เสร็จแล้วล่ะ"เสียงเฮลิออสเอ่ยขึ้น
ลูน่าลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอหาก็คือตัวของเฮลิออสว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งเขาก็อยู่ตรงหน้าของเธอนั่นเอง "ไหนล่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" แต่เฮลิออสชี้นิ้วแทนคำตอบ เธอมองตามนิ้วก็พบว่าชี้ไปที่คอเสื้อของเธอนั่นเอง เธอก็พบว่ามีอะไรบางอย่างอยู่
มั้นเป็นเข็มกลัดทองคำใจกลางเป็นมรกตขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งคืบผู้ใหญ่ เมื่อมันถูกแสงระยิบระยับของดวงดาว มันก็ส่องประกายงดงามราวกับท้องฟ้ายามราตรีที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว "สวยจัง" ลูน่าอุทาน "เธอชอบสินะ..." เฮลิออสเอ่ยขึ้น "ของชิ้นนี้ฉันได้มาจากแม่น่ะ แม่บอกว่ามันเป็นของที่พ่อให้แม่ไว้ก่อนที่จะไป พอฉันโตขึ้นนิดหน่อยแม่ก็ให้ไว้อย่างกับรู้ว่าเราจะจากกัน คงจะให้ฉันไว้เป็นของดูต่างหน้าล่ะมั้ง..." เฮลิออสหลับตาแล้วมองพื้นอย่างเศร้าๆ "จนวันหนึ่ง มีคนไปพาฉันออกมาจากที่บ้านของแม่แล้วทิ้งฉันไว้ให้อยู่คนเดียวในเมืองที่สกปรก แต่โชคดีที่พี่สเตลล่ามาพบและเลี้ยงฉันไว้เหมือนน้องแท้ๆ และฉันก็ได้พบกับเธอ เธอเป็นคนแรกที่เป็นเพื่อนเล่นกับฉัน ตอนที่ฉันไม่สบายใจเธอก็มักจะมาอยู่ข้างๆทำให้ฉันไม่รู้สึกว้าเหว่ ฉันก็จะไม่อยู่แล้วก็เลยไม่รู้ว่าจะตอบแทนความใจดีของเธอยังไง ก็เลยเอาสิ่งที่ดูเหมือนของดูต่างหน้าแม่ของฉันมาให้เธอ อย่างน้อยหากฉันไม่อยู่แล้ว เธอก็จะได้มีของแทนตัวฉัน จะได้ไม่เหงา" ลูน่าได้ยินแล้วยิ้ม แล้วพูดว่า "ของแบบนี้ฉันใส่ไม่ได้หรอก" เฮลิออสตกใจจึงถามกลับไปว่า "ทำไมล่ะ?" "ก็เพราะมันเป็นของสำหรับผู้ใหญ่น่ะสิ ฉันยังเด็กยังคงไม่เหมาะกับมัน งั้นฉันจะเก็บมันไว้ใส่ตอนโตละกัน" เธอยิ้มแล้วพูดต่อว่า "ฉันเองก็มีของจะให้นายเหมือนกัน" ว่าแล้วลูน่าก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเธอ หยิบบาางอย่างขึ้นมา แล้วยื่นให้เฮลิออส "รับไว้สิ" เฮลิออสเห็นรอยยิ้มของลูน่าแล้วก็ไม่อาจปฏุิเสธได้จึงรับมา เห็นว่ามันเป็นตลับอะไรซักอย่าง "เปิดดูสิ" เขาก็เปิดตามคำของลูน่า
สิ่งที่อยู่ในตลับนั้นคือแหวนสำหรับผู้ใหญ่วงหนึ่ง
"เอ๋? นี่มันแหวนของผู้ใหญ่นี่?" "นั่นของแม่ของฉันเอง แม่ได้มาจากพ่อน่ะ" "แล้วให้ฉันจะไม่เป็นไรเหรอ?" "ไม่เป็นไรหรอก เพราะแม่บอกว่าถ้าฉันชอบใครก็ให้เขาไปได้น่ะ" "เอ๋???" "ฉันหมายความตามที่พูดนั่นแหละ ฉันชอบนายนะ เฮลิออส" "อะ...เอ่อ..." "..." "จริงๆแล้วฉันเองก็...ชอบเธอนะ ลูน่า" คำหลังเฮลิออสพูดเบามากจนแม้แต่เจ้าตัวยังแทบไม่ได้ยินเลย "นี่พูดอะไรน่ะ? ฉันไม่ได้ยินเลยนะ" ลูน่าทำท่าเงี่ยหูฟัง เฮลิออสนิ่งเงียบทั้งๆที่ยังหน้าแดงก่ำด้วยความเขินที่มีเด็กผู้หญิงมาบอกว่าชอบ ในใจของเขานั้นรู้เหตุผลแล้วว่าเหตุใดที่ผ่านมาเขาไม่สบตาลูน่าเลย "เอาไงเอากัน" เขาคิดแล้วรีบเดินไปหาลูน่า "ลูน่า..." ไม่ทันพูดอะไรต่อเขาก็โอบกอดลูน่าซะเต็มรัก "ฉันชอบเธอลูน่า ฉันชอบเธอ ชอบมานานแล้ว ฉันพึ่งเข้าใจตอนนี้ว่าจริงๆแล้วฉันชอบเธอ" เขากอดไว้แน่น แต่แทนที่จะอึดอัด ลูน่ากลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นมากกว่า ตอนนี้ เธอยิ้มเล็กน้อยอย่างดีใจที่อีกฝ่ายเองก็ชอบเธอ เธอจึงกอดตอบเช่นกัน
ทั้งสองกอดกันนานจนคิดว่าเพียงพอสำหรับการที่จะไม่พบกันหลายปีก็คลายจากกัน ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ถึงแม้จะไม่มีดวงจันทร์ แต่ก็มีหมู่ดาวส่องระยิบระยับให้แสงสว่างแทน
"งั้นเรามาสัญญากันมั้ย?" ลูน่ากล่าวขึ้น "สัญญาอะไร?" เฮลิออสถาม "ก็สัญญาว่าตอนโตเราจะมาใส่ของแบบนี้ด้วยกันไง" เฮลิออสได้ยินก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ก็ได้ ฉันสัญญา" "แต่ต้องมีหลักประกันนะ ว่าเราทำสัญญากันแล้ว" "หลักประกัน?" เฮลิออสสงสัย "ก็นี่ไง" ลูน่าบอกเสร็จก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วประกบปากกับเฮลิออส เขารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆและริมฝีปากอันนุ่มของลูน่า ตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงราวกับจะระเบิดให้ได้ จากนั้นลูน่าก็ผละออก แล้วพูดว่า "เราทำ 'สัญญา' กันแล้วนะ อย่าลืมล่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างมีความสุข เฮลิออสเห็นแล้วก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า "ลูน่า..."
วันรุ่งขึ้นเฮลิออสก็เดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อศีกษาต่อ โดยที่เขาไม่ลืมที่จะเอาแหวนของคนสำคัญไปด้วย
ทางด้านลูน่า เธออยู่ที่ปราสาทกลางป่า ตอนนี้เธอฝึกควบคุมพลังปีศาจกับแม่ของเธอ แน่นอนว่าที่เธอพยายามทำไปทั้งหมดนั้น ก็เพื่อตัวเขาเช่นกัน
ในเมื่อต่างคนต่างพยายามทำเพื่อคนที่ตัวเองชอบให้ดีที่สุด แม้จะอยู่ห่างกัน แต่หากจิตสื่อถึงกันแล้ว ก็คงไม่ต่างกับอยู่ต่อหน้า
ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเหมือนกับมีเทวดานำด้ายแห่งโชคชะตามาผูกให้อยู่ติดกัน ทั้งสองคนคิดถึงกันไม่ว่างเว้น ต่างคนต่างเฝ้ารอวันที่จะได้พบกันอีก เพราะทั้งสองคนนั้นได้สร้างสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งเอาไว้ โดยผ่านสิ่งของทั้งสองเป็นสื่อกลาง
เข็มกลัดแลกะแหวน...
จบตอนแรก
ชีวิตของเขาตั้งแต่เกิดมานั้น จะว่าไปก็มีแต่ความทุกข์ใจมาตลอด ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นพ่อเลยสักครั้ง แม่ของเขานั้นเขาก็จำได้เพียงลางๆเท่านั้น
ชีวิตมันช่างรันทดนัก คนที่ได้ยินเรื่องนี้คงจะคิดอย่างนั้น
แต่หากว่าชีวิตเขานั้นก็อยู่คนเดียวได้ไม่นาน จนเขาอายุได้ 5 ปี ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งรับเขาไปเลี้ยง
ชื่อของผู้หญิงใจดีคนนั้นคือสเตลล่า
สเตลล่ามีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง เธออายุเท่ากับเขาพอดี
ทั้งนี้ โชคยังดีที่เขาจำวันเกิดจากปากของแม่เขาได้
วันที่ 23 กุมภาพันธ์
น้องสาวของสเตลล่าก็เกิดวันเดียวกันกับเขา
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ญาติกันแท้ๆ แต่สเตลล่ากลับเลี้ยงดูเขาอย่างดีราวกับว่าเขาเป็นน้องชายแท้ๆคนหนึ่งของเธอเอง ดังนั้นเขาจึงรักและเคารพสเตลล่ามาก
หากถามว่าความรักที่เขามีต่อสเตลล่านั้นมีมากเพียงไร เขาก็ตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า เขาสามารถแลกชีวิตของเขาได้เลย
แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดแค่ปาก เขาทำได้จริงๆ ไม่สิ เขาทำจริงแน่
ชื่อของเขานั้น แม่ของเขาให้ชื่อว่า เฮลิออส
เฮลิออสอยู่ด้วยกันกับสเตลล่า สเตลล่าสอนเขาให้รู้จักว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร ทั้งยังสอนวิชาความรู้ต่างๆให้เขา ซึ่งเขาก็เรียนรู้ได้ทั้งหมดโดยใช้เวลาไม่นานนัก ซึ่งสเตลล่าเองก็เห็นว่าเขาเป็นเด็กที่หัวดี เธอจึงตัดสินใจสอนวิชาการต่อสู้ให้เขา
แรกเริ่มนั้น เฮลิออสก็รู้สึกไม่ค่อยคล่อง ครั้นจะต่อยก็ลำบาก ขยับตัวไม่ได้ดั่งใจ อีกอย่างอีกฝ่ายเป็นพี่สาวที่ทั้งสวยและดูบอบบาง จะให้ลงไม่ลงมือได้อย่างไร
แต่ดูเหมือนว่าเขาคิดผิด ถึงแม้สเตลล่าจะดูสวยและบอบบาง แต่เธอกลับเชี่ยวชาญการต่อสู้มือเปล่ามากชนิดที่ว่าครูสอนศิลปะการต่อสู้ยังอาย
ทุกวันหลังฝึกเสร็จแล้ว เฮลิออสก็จะออกมาพักที่นอกโรงฝึก เขาไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เขาพักที่นั่นเป็นประจำ
ที่ต้นไม้ใหญ่นั้นมีแผ่นหินอยู่
ขนาดของแผ่นหินนั้นมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่พอๆกับประตูโรงฝึกเลยทีเดียว แต่เขาเห็นแล้วเขากลับรู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
ขณะที่เฮลิออสนั่งดูแผ่นหินอยู่นั้น ก็มีอะไรบางอย่างออกมาจากพุ่มไม้ข้างๆเขา และมันกำลังเคลื่อนเข้ามาข้างหลังเขาอย่างเงียบๆ
"ที่นี่เมื่อก่อนแม่ฉันบอกว่าเคยสู้กับตัวประหลาดตัวหนึ่ง"เสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้นจากข้างหลังเฮลิออส
"!!!" เฮลิออสตกใจจึงหันไปตามเสียงที่มาจากด้านหลังของเขา ก็พบกับเด็กผู้หญิงมัดผมหางม้าคนหนึ่ง นอกจากผมหางม้าแล้ว เธอยังมีจอนที่ม้วนกันดูคล้ายครัวซองก์น่ารักๆย้อยลงมาทั้งสองข้าง บนหัวของเธอมีเส้นผมที่ตั้งชี้ขี้นสองเส้น ยาวหนึ่งเส้น สั้นหนึ่งเส้น เส้นยาวนั้นดูแล้วเหมือนกับว่ามั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ จนบางทีคงจะทำให้คิดไปว่า จะไปจิ้มหัวใครก็เป็นได้
"ลูน่า!!!"เฮลิออสเรียกเด็กหญิงที่กำลังยืนกอดตุ๊กตาตัวเท่าๆเธอที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา "ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง"เด็กหญิงที่เฮลิออสเรียกว่า "ลูน่า"ตอบกลับมา "แล้วอีกอย่าง นายหัดรู้ตัวให้ทันมั่งสิว่ามีอะไรหรือใครมาอยู่ข้างหลังนายตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ถ้าเป็นสัตว์ร้ายนายคงจะโดนงาบไปแล้วล่ะ"
ลูน่าหยุดพูดแล้วมองดูเฮลิออสที่กำลังมองแผ่นหินต่อจากเมื่อกี้
ทันทีที่ลูน่าเห็นกิริยาเช่นนั้น เธอก็รู้สึกว่าเหมือนหน้าของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้มือของเธอกำลังสั่นระริกๆ
"นี่ฟังกันอยู่รึเปล่าเนี่ย?!!!"ลูน่าตะโกน
"ไม่ล่ะ ถ้าลูน่าจะบ่นล่ะก็ฉันไม่ฟังหรอก"เฮลิออสตอบเสียงเรียบๆ ตายังคงจ้องแผ่นหินต่อไป และก็คิดอะไรเพลินๆ
"นี่!!!"ลูน่าหยุดชะงักก่อนที่จะตะโกนสิ่งที่เธอจะบ่นออกมา "อะ...ฮื่ม" เธอกระแอมเสียง ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้
"นี่...ลูน่า"เฮลิออสเรียก "อะไร?"ลูน่าถามตอบ "เธอบอกว่าตรงนี้แม่ของคุณป้าเคยสู้กับตัวประหลาดสินะ" "ใช่ ทำไมล่ะ?" เสียงของลูน่ายังมีเค้าของอารมณ์โมโห ที่ดูเหมือนว่าเธอพยายามกลั้นมันไว้ "เธอช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ"
ทันทีที่ลูน่าได้ยินเฮลิออสขอร้องให้เธอเล่าให้ฟัง เธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นเป็นที่ต้องการของคนอื่น จึงทำให้เธอออกอาการกระหยิ่มยิ้มย่องโดยไม่รู้ตัว
"นายอยากฟังเหรอ?" "อื้ม" ลูน่ายิ้มแล้วบอกว่า "งั้นจะเล่าล่ะนะ อะ...แฮ่ม..." "งั้นไม่ฟังดีกว่าท่าจะยาว" เฮลิออสบอกปัดแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ และเดินกลับไปที่โรงฝึกต่อ "ฮะ...เฮลิออส!!!" ลูน่าที่โกรธจนตัวสั่นรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอรู้สึกว่า ตอนนี้เธออยากจะฆ่าเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอเหลือเกิน
"งั้นก็ฆ่าซะสิ!" มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
"มะ...ไม่" ลูน่าพยายามปฏิเสธความคิดนั้น
"แต่มันทำให้เธอทุกข์ใจนี่"
"มะ...ไม่ใช่นะ"
"งั้นเธอคิดยังไงกับมันล่ะ?"
"ฉะ...ฉัน..."
"น่า...ลูน่า..."ลูน่าได้ยินเสียงเรียกเธอ เธอมองตามที่มาของเสียงก็พบเฮลิออสอยู่ข้างหน้าของเธอ
"ลูน่า เป็นอะไรไป เห็นเงียบไป ไม่สบายเหรอ?"เฮลิออสถามด้วยความเป็นห่วง เพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนเล่นของเขาเพียงคนเดียว
"เฮลิออ..." ลูน่ารู้สึกว่าเสียงของเธอหายไปตอนเรียกชื่อของเขาไม่ทันจบ เธออยากจะเรียกเขาอีกครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ ตอนนี้เธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก
"เอ๋?!"ลูน่าคิดสงสัย เพราะว่าเธอไม่ได้คิดจะยิ้มเลย ตอนนี้เธอมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างมาบงการร่างกายของเธอแทน และดูเหมือนว่าสิ่งนั้นจะมุ่งร้ายต่อเฮลิออส "เฮลิออส หนีไป!" เธออยากจะบอกเช่นนั้น แต่ก็บอกไม่ได้
เฮลิออสสังเกตเห็นรอยยิ้มบนมุมปากของลูน่า "ลูน่า?"เขาเรียกเธอ
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นมุ่งร้ายต่อเขา เขาจึงกระโดดถอยหลังไปไกลเพื่อตั้งหลัก "ลูน่า ทำไมกัน นี่ฉันเอง เฮลิ..." ไม่ทันพูดจบ เขาก็ต้องหลบคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตของเขา "ลูน่านี่ฉันเอง!!!" เขายังคงเรียกชึ่อของลูน่าต่อเพื่อหวังจะให้เธอได้สติ
แต่ดูเหมือนว่ายิ่งนานยิ่งไม่สามารถเรียกเธอให้ได้สติได้ "ดูท่าต้องทำให้สลบซะแล้ว"เขาคิดพร้อมกับพุ่งตัวเข้าประชิดลูน่าพร้อมกับเอี้ยวตัวหลบคลื่นพลังที่พุ่งมาใส่เขาไปด้วย "ขอโทษนะลูน่า..."เขาพูดขึ้นเบาๆแล้วใช้ท่า หลังมือกล่อมไสยา จนลูน่าสลบไป
"..."ลูน่าลืมตาตื่นขึ้นก็พบกับเฮลิออสที่นั่งให้เธอหนุนตักอยู่
"เอาสิฆ่ามันเลย"เสียงปริศนาในตัวของลูน่า
"ไม่นะฉันไม่อยากฆ่าใครนะ"ลูน่ารีบปฏิเสธ
"แต่มันจะทำให้เธอทุกข์ใจนะ"เสียงปริศนากล่าว
"ไม่...ไม่จริง!! ฉันสนุกมากเวลาอยู่กับเขา"ลูน่ายังคงปฏิเสธคำเกลี้ยกล่อมนั้น
"มันจะจริงเหรอ?"เสียงปริศนาถามลูน่า
"หมายความว่ายังไง?"ลูน่าสงสัยกับคำถามนั้น
"เอาเถอะ ยังไงฆ่ามันซะก็สิ้นเรื่อง เธอก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจแล้ว"เสียงปริศนากล่าวจบก็ควบคุมร่างทันที
"ไม่นะ!! อย่า!!"ลูน่าตะโกนบอกเสียงปริศนา
"อ้าว...ลูน่าฟื้นแล้วเหรอ?"เฮลิออสถามลูน่าทั้งๆที่เขาเห็นแล้วว่าเธอลืมตาขึ้นมาแล้ว "เอาเถอะ...ก็ฟื้นแล้วนี่นะเป็นไงมั่งล่ะ?"เขายังคงถามแบบกวนๆแต่จริงๆแล้วในใจของเขานั้นเป็นห่วงมาก "อ้าวไม่เป็นไรแล้วเหรอ?" เขาถามลูน่าที่จู่ๆก็ลุกขึ้น เขาสังเกตเห็นใบหน้าของลูน่านั้นมีน้ำตาใหลออกมา
เขาเห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นยืนบ้าง "ลูน่า?"เขาเรียกชื่อของเธอเพื่อที่จะถามว่าเป็นอะไร
ฉึก เสียงของมีคมแทงเข้ากับร่างของเฮลิออส
"ลู...น่า...?"เขาพูดขึ้นก่อนจะล้มลงจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
สิ่งที่เขาเห็นคือ ลูน่าถือดาบสีดำสนิทที่อาบเลือดของเขาอยู่!!!
แล้วสติสัมปชัญญะของเขาก็ดับไป
สเตลล่าเห็นเฮลิออสออกไปนานยังไม่กลับบ้าน เพราะปกติเขาจะต้องกลับมาช่วยเธอทำครัว แต่นี่เธอทำเสร็จแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของเขาเลย
"ไปไหนของเขาน้า ปกติก็ไม่ใช่เด็กที่จะไปซุกซนที่ไหนนี่"สเตลล่าคิดทบทวนถึงนิสัยที่ผ่านๆมาของเฮลิออส "งั้นออกไปดูหน่อยดีกว่า"เธอตัดสินใจที่จะออกไปตาม เพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงเฮลิออสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
สเตลล่าออกจากบ้านไปดูที่โรงฝึกก็ไม่พบใครเลย "ไปไหนของเขาน้า?"เธออุทานด้วยความสงสัย "ฮึก...ฮือออ" เธอได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงร้องไห้ดังมาจากทางเข้าไปในป่าหน้าโรงฝึก "ทำไมไม่รู้แต่รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ" เธอคิดในใจและมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าป่าหน้าโรงฝึกทันที
สเตลล่ามาถึงหน้าต้นไม้ใหญ่และแผ่นหินยักษ์หน้าทางเข้าป่าก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เธอพบ
เฮลิออสนอนจมอยู่กับกองเลือด และมีเด็กผู้หญิงอีกคนนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ
แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่านั้นคือดาบสีดำสนิทที่ตั้งอยู่ข้างๆเด็กหญิง
"ดาบจอมมาร!!!"สเตลล่าพูดขึ้น จากนั้นเข้าไปดูอาการของเฮลิออสก็พบว่าเขาหายใจรวยรินเต็มทีแล้ว "ไม่นะ...ไม่...หนูไม่ได้ตั้งใจ...พี่คะ...หนูไม่ได้ตั้งใจ..." เด็กสาวที่อยู่ข้างๆร้องบอกสเตลล่าอยู่ไม่ขาดและเข้ามากอดเธอ "มันเกิดอะไรขึ้น?" สเตลล่าจะถามแบบนั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือชีวิตของเฮลิออส เธอต้องช่วยชีวิตเขาก่อน แม้จะสงสัยเรื่อง "ดาบจอมมาร"ก็เถอะ
"ไม่เป็นไรลูน่า ไม่เป็นไร"สเตลล่าปลอบลูน่าที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธออุ้มเฮลิออสกลับไปที่บ้าน จากนั้นจัดการทำการรักษาโดยใช้เวทย์มนตร์รักษาที่เธอรู้จักมาตั้งแต่เมื่อก่อนรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ดูเหมือนว่าแผลจะหายได้เร็วกว่าที่เธอคิด ซึ่งสร้างความแปลกใจให้แก่สเตลล่าไม่น้อย "แปลกจัง แผลฉกรรจ์ขนาดนี้แถมยังเป็นแผลจากดาบจอมมารด้วย แต่แผลกลับหายเร็วมาก ทั้งๆที่ปกติอาจจะรักษาไม่ได้ด้วย นี่ฉันคิดอะไรของฉันเนี่ย? เขาหายก็น่าจะดีใจแล้วไม่ใช่เหรอ?"สเตลล่ายิ้มอย่างดีใจ ถึงแม้จะยังสงสัยก็ตาม เพราะคนสำคัญของเธอปลอดภัยแล้ว
แต่ยังมีสิ่งที่เธอต้องจัดการ สเตลล่าเดินไปหาลูน่าที่นั่งอยู่ที่หน้าเตียงของเฮลิออส เธอถามว่า "ทีนี้เล่าให้พี่ฟังได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?"
ลูน่าที่ยังสะอื้นจากการร้องไห้เป็นเวลานานก็ตอบแบบสะอื้นไปว่า "ค...อึก...คือว่า..." "ไม่เป็นไร ไว้ค่อยเล่าก็ได้" สเตลล่าเองก็รู้สึกเห็นใจน้องสาวที่ต้องอยู่ในสถานะการณ์อย่างนี้ทั้งที่ยังอายุแค่ 10 ปี ถึงแม้เธอจะอยากรู้มากก็ตาม แต่เธอคงต้องรออีกสักพักหนึ่งก่อน
ผ่านไปจนสเตลล่าเห็นว่าอาการของเฮลิออสดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนหายห่วงได้ และเห็นว่าลูน่าก็หยุดสะอึกสะอื้นแล้วก็เลยเข้าไปหา
"ทีนี้บอกพี่ได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?"
"หนูก็ไม่รู้ หนูได้ยินเสียง"
"เสียง?"
"ใช่ค่ะ เป็นเสียงของใครก็ไม่รู้ บอกให้หนูฆ่าเฮลี่"
"ทำไมกันล่ะ? ทำไมต้องฆ่าเฮลิออสด้วย?"
"ไม่รู้เหมือนกัน เสียงบอกว่าเฮลี่จะทำให้หนูทุกข์ใจ"
"งั้นเหรอ?"สเตลล่ามองไปที่ดาบจอมมาร "งั้น...ดาบเล่มนั้นล่ะ หนูเอามาจากไหน?"
"หนูก็ไม่รู้ พอหนูตื่นขึ้นมา จู่ๆดาบมันก็มาจากไหนไม่รู้แล้วหนูก็แทงเฮลี่ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจนะ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"ลูน่าเล่าไปตามความจริงทุกอย่าง เพราะเธอรู้ว่าถ้าเล่าให้พี่สาวของเธอฟังเธอจะต้องเข้าใจแน่ๆ
สเตลล่าใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอคิดวิเคราะห์และแยกแยะถึงเรื่องราวจากที่น้องสาวของเธอเล่ามา เธอก็คิดขึ้นว่า
"ลูน่าเป็นลูกสาวของคุณน้าซึ่งมีเชื้อสายปีศาจของจิ้งจอกเก้าหาง อีกนัยหนึ่งก็คือหมาป่า จะอะไรก็ช่าง ในเมื่อเธอเป็นลูกของคนที่มีเชื้อสายปีศาจ ลูน่าก็ต้องมีเชื้อปีศาจด้วย" สเตลล่าเอามือลูบคาง และครุ่นคิดต่อ "เสียงที่ลูน่าได้ยินนั้นเป็นเสียงของพลังปีศาจที่อยู่ในตัวเธอ" "แล้วทำไมถึงมาปรากฏเอาตอนนี้ล่ะ?" "นั่นต้องเป็นเพราะมีอะไรไปกระตุ้นด้านไม่ดีของลูน่าให้ออกมา อาจเป็นเพราะเฮลิออสไปยั่วโมโหลูน่าก็ได้ ทำให้พลังปีศาจของลูน่าตื่นขึ้นมา" "แต่พลังปีศาจที่ปรากฏออกมาช่วงแรกไม่น่าจะมีทางที่เฮลิออสจะรับมือไม่ได้นี่ เขารับมือไม่ได้หรือ?" "ตรงนั้นคิดว่าได้ เพราะมีร่องรอยของการต่อสู้อยู่ด้วย เฮลิออสเรียนรู้การต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่น่าจะเพลี่ยงพล้ำกับพลังปีศาจที่พึ่งตื่น อีกอย่าง ลูน่าบอกว่า 'พอหนูตื่น' แสดงว่านั่นต้องเป็นหลังจากที่เธอถูกเฮลิออสทำให้สลบไปแล้วแน่นอน และปีศาจคงจะใช้ช่วงจังหวะที่เฮลิออสคิดว่าปลอดภัยแล้วเรียกดาบปีศาจออกมาแทงเขา" "แล้วดาบจอมมารทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?" "นั่นต้องเป็นเพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะใช้มันเลยสามารถเรียกออกมาได้ ก็เหมือนกับเราที่มีสิทธิ์ในการใช้ดาบผู้กล้านั่นเอง ดังนั้น เธอจะต้องมีสัญลักษณ์อะไรสักอย่างที่เป็นเครื่องหมายเป็นแน่"
สเตลล่าใช้เวลากาลคิดวิเคราะห์และแยกแยะเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างทะลุปรุโปร่งโดยใช้เวลาไม่ถึงนาที และเธอก็หันไปทางลูน่า "นี่ลูน่า ก่อนหน้านี้ได้รับของอะไรจากใครบ้างหรือเปล่า?" เธอถาม "ก็มีตุ๊กตาที่คุณตาให้หนูเท่านั้นแหละ" "ขอดูหน่อยได้มั้ย?" "ค่ะ" แล้วลูน่าก็ส่งตุ๊กตาตัวนั้นให้สเตลล่าดู
ทันทีที่สเตลล่ารับตุ๊กตาตัวนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ "ต้องเป็นสัญลักษณ์ของจอมมารแน่" เธอคิดเช่นนั้น จากนั้นเธอก็ส่งคืนให้ลูน่า "จ้ะ ขอบใจจ้ะ" เธอยิ้มขอบคุณลูน่า "เรื่องนี้คงเป็นเพราะลูน่ายังไม่มีพลังพอที่จะควบคุมพลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้ แต่สักวันเธอต้องควบคุมได้แน่ แต่ต่อให้ใช้พลังของจอมมารก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนเลว ถ้าหากเธอถูกสอนให้เป็นคนดี เธอก็คงจะใช้ไปในทางที่ดี แต่ตอนนี้เธอคงต้องไปฝึกควบคุมพลังจอมมารให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อีก" คิดถึงตอนนี้เธอก็มองไปที่เฮลิออสที่นอนสลบสไลไม่ได้สติอยู่บนเตียง แม้อาการจะดีขึ้นจนไม่เป็นอันตราย แต่หากเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายตัวน้อยคนนี้ของเธอ เธอคงจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ "งั้นวันนี้ลูน่ากลับก่อนนะ เดี๋ยวไว้ค่อยมาวันหลังนะ" "แล้วเฮลี่..." สเตลล่าเห็นน้องสาวของตัวเองยังรู้สึกผิดก็เลยปลอบว่า "เรื่องในครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของลูน่าสักหน่อย อีกอย่างเฮลิออสก็อาการดีขึ้นแล้วด้วย" "แต่ว่า..." "พี่คิดว่าเฮลิออสไม่โกรธลูน่าหรอก เพราะลูน่าเองก็ไม่ได้ตั้งใจใช่ไหมล่ะ?"สเตลล่าพูดจบแล้วก็ยิ้มให้น้องสาวของเธอ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูน่าสบายใจขึ้น แล้วพูดว่า "ค่ะ งั้นหนูกลับก่อนนะ" แล้วลูน่าก็ออกไปและเดินไปทางเข้าป่าและเข้าป่าหายไปในที่สุด
"เห็นทีจะต้องบอกให้น้าจัดการฝึกพิเศษลูน่าซะแล้วสิ" สเตลล่าพูดกับตัวเอง จากนั้นเธอมองมาทางเฮลิออส "ว่าแต่สมเป็นลูกของ 'เขา' จริงๆนะ ที่มีพลังการฟื้นตัวขนาดนี้" แล้วเธอก็บิดขี้เกียจชูแขนขึ้นข้างบนจนสุดแขน "ถึงจะสงสัยทีแรก แต่ตอนที่สัมผัสได้นั้น ต้องเป็นพลังแบบเดียวกับ 'เขา' แน่ๆ" แล้วเธอก็หันมามองเฮลิออสอีกครั้งแล้วยิ้มให้เขา จากนั้นก็เดินออกไป
วันต่อมาเฮลิออสก็หายเป็นปกติ จากนั้นเขาก็เริ่มตั้งใจฝึกการต่อสู้อย่างจริงจัง
ผ่านไป 5 เดือน
ฝีมือการต่อสู้ของเฮลิออสรุดหน้าไปอย่างมาก ทั้งนี้ด้านความรู้เขาก็เรียนพื้นฐานจากสเตลล่ามาจนหมดแล้ว สเตลล่าตัดสินใจที่จะให้เขาออกไปศึกษาโลกภายนอกดูบ้างจึงเรียกเขาเข้ามาพบ
"มีอะไรหรือครับพี่?" เฮลิออสถาม สเตลล่ายิ้มให้แล้วก็บอกว่า "ช่วงที่ผ่านมา 5 เดือนนี้ฝีมือการต่อสู้ของเธอรุดหน้ามาก ทั้งวิชาความรู้พื้นฐานก็เรียนมาจนหมดแล้ว พี่ก็ไม่รู้จะสอนอะไรแล้วด้วย เธอคิดจะออกไปหาความรู้ที่อื่นบ้างหรือเปล่า?" ว่าจบแล้วสเตลล่ามองมาที่เฮลิออส เขาก็ตอบกลับไปว่า "ที่จริงแล้วผมก็สนใจเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยอยู่หรอกนะ แต่ผมอยากอยู่ที่นี่มากกว่า ไม่ได้คิดอยากออกไปไหนหรอก" สเตลล่าได้ยินแล้วก็รู้ว่าที่เขาตอบอย่างนั้นเพราะเกรงใจไม่อยากให้เธอลำบาก จึงบอกกลับไปว่า "ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกน่า เราอยู่กันมานานแล้ว เธอก็เป็นน้องชายคนหนึ่งของฉัน เพราะฉะนั้นมีอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก" "แต่..." "อยากทำให้พี่สาวไม่สบายใจเหรอ?" สเตลล่าพูดดักคอ เพราะหากไม่ใช้วิธีนี้ ดูท่าคนที่ชอบเกรงใจคนอื่นอย่างเฮลิออสจะไม่มีวันบอกความต้องการของตัวเองเป็นแน่ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผล "ผมอยากไปเรียนที่หอสมุดในเมืองหลวงน่ะครับ" "แหม...ก็แค่นี้ล่ะ" สเตลล่าลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าของเขาแล้วนั่งลง เธอยิ้มให้แล้วกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าของเฮลิออสซุกกับหน้าอกนุ่มๆของสเตลล่าเต็มๆ "เอ่อ...พี่ฮะ...คือว่า..." "มาอายอะไรกัน พี่น้องเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ" สเตลล่าพูดขึ้นและกอดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม...
ท้องฟ้ายามราตรีมีหมู่ดาราอยู่เต็มท้องฟ้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีหมู่ดาวอะไรบ้าง เพราะมันเยอะแยะไปหมด เฮลิออสเดินออกมาจากบ้านมุ่งหน้าไปที่ใต้ต้นไม่ใหญ่แถวหน้าโรงฝึก ในมือของเขาถืออะไรบางอย่างไปด้วย
"พรุ่งนี้ก็จะไปแล้วสินะ"เด็กหญิงทักขึ้นที่ด้านหลังเฮลิออส เขาหันกลับไปก็พบเจ้าของเสียง ใช่แล้ว ลูน่านั่นเอง "ลูน่า..." "นี่นายไม่คิดจะบอกฉันเลยรึไงว่าจะไปที่อื่นน่ะ" เฮลิออสก็ดูซึมๆลง แต่ก็ตอบไปว่า "ก็ว่าจะบอกอยู่นะ..." "นี่ถ้าพี่ไม่บอกฉัน ฉันก็คงไม่รู้เรื่องนะเนี่ย ต้องขอบคุณพี่จริง" แล้วลูน่าก็หลับตาลงและก้มหัวเหมือนกับกำลังขอบคุณอยู่จริงๆ "นี่ลูน่า..." เฮลิออสเรียก "มีอะไรเหรอ?" "ก่อนฉันจะไปฉันมีอะไรจะให้น่ะ..." ถึงเขาจะพูดแต่เขาก็ไม่สบตากับลูน่า ซึ่งลูน่าเองก็สังเกตได้ว่า หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้น เขาก็ไม่สบตาเธออีกเลย "ยังเกลียดฉันอยู่รึไง?" ลูน่าพูดขึ้น "เปล่านะฉันไม่ได้..." "ถ้าไม่ได้เกลียดงั้นก็มองตาฉันสิ" "ไม่ได้หรอก แต่ฉันมีอะไรจะให้น่ะ..." "ทำไมไม่ยอมสบตากันนะ มันน่าหงุดหงิดจริง"ลูน่าคิด "แล้วมีอะไรจะให้ล่ะ "เธอถาม "หลับตาก่อนสิ" "เอ๋?" "เอาน่า บอกให้หลับตาก็หลับตาสิ" ลูน่าถูกบังคับให้หลับตา "อ้า ก็ได้ ก็ได้ หลับตาก็หลับตา" แล้วเธอก็หลับตาลง
ทันทีที่หลับตาเธอก็รู้สึกว่าเฮลิออสมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือของเขากำลังแตะไมที่คอเสื้อของเธอ "เอ๊ะ!?" เธออุทานในใจ "หมอนี่มันคิดจะทำอะไรเนี่ย?" เธอคิดลุ้นพร้อมกับใจที่เต้นตึกตักจนเธอได้ยินเสียงชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ขัดขืน ปล่อยให้เขาทำจนเสร็จ "เอาล่ะ เสร็จแล้วล่ะ"เสียงเฮลิออสเอ่ยขึ้น
ลูน่าลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอหาก็คือตัวของเฮลิออสว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งเขาก็อยู่ตรงหน้าของเธอนั่นเอง "ไหนล่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" แต่เฮลิออสชี้นิ้วแทนคำตอบ เธอมองตามนิ้วก็พบว่าชี้ไปที่คอเสื้อของเธอนั่นเอง เธอก็พบว่ามีอะไรบางอย่างอยู่
มั้นเป็นเข็มกลัดทองคำใจกลางเป็นมรกตขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งคืบผู้ใหญ่ เมื่อมันถูกแสงระยิบระยับของดวงดาว มันก็ส่องประกายงดงามราวกับท้องฟ้ายามราตรีที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว "สวยจัง" ลูน่าอุทาน "เธอชอบสินะ..." เฮลิออสเอ่ยขึ้น "ของชิ้นนี้ฉันได้มาจากแม่น่ะ แม่บอกว่ามันเป็นของที่พ่อให้แม่ไว้ก่อนที่จะไป พอฉันโตขึ้นนิดหน่อยแม่ก็ให้ไว้อย่างกับรู้ว่าเราจะจากกัน คงจะให้ฉันไว้เป็นของดูต่างหน้าล่ะมั้ง..." เฮลิออสหลับตาแล้วมองพื้นอย่างเศร้าๆ "จนวันหนึ่ง มีคนไปพาฉันออกมาจากที่บ้านของแม่แล้วทิ้งฉันไว้ให้อยู่คนเดียวในเมืองที่สกปรก แต่โชคดีที่พี่สเตลล่ามาพบและเลี้ยงฉันไว้เหมือนน้องแท้ๆ และฉันก็ได้พบกับเธอ เธอเป็นคนแรกที่เป็นเพื่อนเล่นกับฉัน ตอนที่ฉันไม่สบายใจเธอก็มักจะมาอยู่ข้างๆทำให้ฉันไม่รู้สึกว้าเหว่ ฉันก็จะไม่อยู่แล้วก็เลยไม่รู้ว่าจะตอบแทนความใจดีของเธอยังไง ก็เลยเอาสิ่งที่ดูเหมือนของดูต่างหน้าแม่ของฉันมาให้เธอ อย่างน้อยหากฉันไม่อยู่แล้ว เธอก็จะได้มีของแทนตัวฉัน จะได้ไม่เหงา" ลูน่าได้ยินแล้วยิ้ม แล้วพูดว่า "ของแบบนี้ฉันใส่ไม่ได้หรอก" เฮลิออสตกใจจึงถามกลับไปว่า "ทำไมล่ะ?" "ก็เพราะมันเป็นของสำหรับผู้ใหญ่น่ะสิ ฉันยังเด็กยังคงไม่เหมาะกับมัน งั้นฉันจะเก็บมันไว้ใส่ตอนโตละกัน" เธอยิ้มแล้วพูดต่อว่า "ฉันเองก็มีของจะให้นายเหมือนกัน" ว่าแล้วลูน่าก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเธอ หยิบบาางอย่างขึ้นมา แล้วยื่นให้เฮลิออส "รับไว้สิ" เฮลิออสเห็นรอยยิ้มของลูน่าแล้วก็ไม่อาจปฏุิเสธได้จึงรับมา เห็นว่ามันเป็นตลับอะไรซักอย่าง "เปิดดูสิ" เขาก็เปิดตามคำของลูน่า
สิ่งที่อยู่ในตลับนั้นคือแหวนสำหรับผู้ใหญ่วงหนึ่ง
"เอ๋? นี่มันแหวนของผู้ใหญ่นี่?" "นั่นของแม่ของฉันเอง แม่ได้มาจากพ่อน่ะ" "แล้วให้ฉันจะไม่เป็นไรเหรอ?" "ไม่เป็นไรหรอก เพราะแม่บอกว่าถ้าฉันชอบใครก็ให้เขาไปได้น่ะ" "เอ๋???" "ฉันหมายความตามที่พูดนั่นแหละ ฉันชอบนายนะ เฮลิออส" "อะ...เอ่อ..." "..." "จริงๆแล้วฉันเองก็...ชอบเธอนะ ลูน่า" คำหลังเฮลิออสพูดเบามากจนแม้แต่เจ้าตัวยังแทบไม่ได้ยินเลย "นี่พูดอะไรน่ะ? ฉันไม่ได้ยินเลยนะ" ลูน่าทำท่าเงี่ยหูฟัง เฮลิออสนิ่งเงียบทั้งๆที่ยังหน้าแดงก่ำด้วยความเขินที่มีเด็กผู้หญิงมาบอกว่าชอบ ในใจของเขานั้นรู้เหตุผลแล้วว่าเหตุใดที่ผ่านมาเขาไม่สบตาลูน่าเลย "เอาไงเอากัน" เขาคิดแล้วรีบเดินไปหาลูน่า "ลูน่า..." ไม่ทันพูดอะไรต่อเขาก็โอบกอดลูน่าซะเต็มรัก "ฉันชอบเธอลูน่า ฉันชอบเธอ ชอบมานานแล้ว ฉันพึ่งเข้าใจตอนนี้ว่าจริงๆแล้วฉันชอบเธอ" เขากอดไว้แน่น แต่แทนที่จะอึดอัด ลูน่ากลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นมากกว่า ตอนนี้ เธอยิ้มเล็กน้อยอย่างดีใจที่อีกฝ่ายเองก็ชอบเธอ เธอจึงกอดตอบเช่นกัน
ทั้งสองกอดกันนานจนคิดว่าเพียงพอสำหรับการที่จะไม่พบกันหลายปีก็คลายจากกัน ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ถึงแม้จะไม่มีดวงจันทร์ แต่ก็มีหมู่ดาวส่องระยิบระยับให้แสงสว่างแทน
"งั้นเรามาสัญญากันมั้ย?" ลูน่ากล่าวขึ้น "สัญญาอะไร?" เฮลิออสถาม "ก็สัญญาว่าตอนโตเราจะมาใส่ของแบบนี้ด้วยกันไง" เฮลิออสได้ยินก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ก็ได้ ฉันสัญญา" "แต่ต้องมีหลักประกันนะ ว่าเราทำสัญญากันแล้ว" "หลักประกัน?" เฮลิออสสงสัย "ก็นี่ไง" ลูน่าบอกเสร็จก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วประกบปากกับเฮลิออส เขารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆและริมฝีปากอันนุ่มของลูน่า ตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงราวกับจะระเบิดให้ได้ จากนั้นลูน่าก็ผละออก แล้วพูดว่า "เราทำ 'สัญญา' กันแล้วนะ อย่าลืมล่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างมีความสุข เฮลิออสเห็นแล้วก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า "ลูน่า..."
วันรุ่งขึ้นเฮลิออสก็เดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อศีกษาต่อ โดยที่เขาไม่ลืมที่จะเอาแหวนของคนสำคัญไปด้วย
ทางด้านลูน่า เธออยู่ที่ปราสาทกลางป่า ตอนนี้เธอฝึกควบคุมพลังปีศาจกับแม่ของเธอ แน่นอนว่าที่เธอพยายามทำไปทั้งหมดนั้น ก็เพื่อตัวเขาเช่นกัน
ในเมื่อต่างคนต่างพยายามทำเพื่อคนที่ตัวเองชอบให้ดีที่สุด แม้จะอยู่ห่างกัน แต่หากจิตสื่อถึงกันแล้ว ก็คงไม่ต่างกับอยู่ต่อหน้า
ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเหมือนกับมีเทวดานำด้ายแห่งโชคชะตามาผูกให้อยู่ติดกัน ทั้งสองคนคิดถึงกันไม่ว่างเว้น ต่างคนต่างเฝ้ารอวันที่จะได้พบกันอีก เพราะทั้งสองคนนั้นได้สร้างสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งเอาไว้ โดยผ่านสิ่งของทั้งสองเป็นสื่อกลาง
เข็มกลัดแลกะแหวน...
จบตอนแรก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-1-17 15:40
Wing of Destiny ปีกแห่งโชคชะตา ตอนที่ 1 สายสัมพันธ์
[IMG]