คำเตือน!!นี่คือแฟนฟิกชั่น เป็นส่วนเนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่
ตัวละครบุคลิก และสถานที่ภายในเรื่อง ทั้งหมดเป็นของการ์ตูนดั้งเดิมทั้งหมดหาใช่ผมแต่งไม่
เพราะฉะนั้นใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งต่างๆอาจถามผมได้ หรืออ่านมังงะการ์ตูนเรื่องนี้
ส่วนเหตุผลที่แต่งแฟนฟิกคือ.....ยังคิดเรื่องตัวเองไม่ออกและผมชอบเรื่องนี้....
ติผมได้ตามสะดวก ขอบคุณครับ!!!!
ตอนที่ 1 ในคืนวันคริสต์มาสอีฟที่ทั้งสองคนได้พบชะตากรรมเดียวกัน
“ชั้นจะไม่มีวันร้องให้อีกแล้ว”เสียงตะโกนภายในใจจากหญิงสาวในคืนวันที่ทุกๆคนต่างมีความสุข
คืนวันคริสต์มาสอีฟเด็กสาวที่ต้องรับผิดชอบหนี้สิน 150 ล้านที่ส่งต่อจากพ่อแม่ของเธออยู่ภายในมือ
แต่ไม่ใช้เงินที่มาจากการพนันหรือความใจร้ายจากท่าน
แต่ล้วนมาจากความรักที่ต้องการให้เธอเป็นดั่งที่พ่อแม่ปรารถนาในสิ่งที่ตนไม่สามารถเป็นได้
ซุยเร็นจิลูกะ ในชีวิตเธอตั้งแต่เด็ก พ่อของเธอเป็นนักร้องที่ดังวูบเดียวก็ดับ
แม่ของเธอเป็นไอดอลที่ไม่มีวันดังทั้งสองที่ไม่สมปรารถนาจึงต้องการให้ลูกของเธอเป็นในสิ่งที่ตนไม่สามารถเอื้อมถึง
ทั้งสองใช้จ่ายเงินมากมายเพื่อให้ลูกะไปเป็นดาวที่ถึงฟากฟ้าแต่ในที่สุดความหวังก็กลายเป็นความสิ้นหวัง
ไม่ว่าจะพยายยามอย่างไรลูกะก็ไม่ได้เกิดแต่ไม่ใช่เพราะความสามารถของเธอ
แต่เพราะวงการนี้ก็เหมือนเหรียญหากไม่มีผู้สนับสนุนก็ไม่ได้เกิดท้ายที่สุดลูกะจึงตัดสินใจไปออดิชั่นที่บริษัทใหญ่
ด้วยตัวคนเดียว ผลคือความสามารถที่ต่างชั้นของเธอเมื่อเทียบกับผู้ออดิชั่นคนอื่นๆ
เธอเปรียบได้เหมือนดาว ขณะที่คู่แข่งของเธอเป็นได้แค่ผืนน้ำ
เมื่อเธอกลับบ้านไปพร้อมข่าวดี แต่ทว่าพ่อและแม่ของเธอก็ไม่อยู่เสียแล้ว
แท้จริงแล้ว ความตั้งใจของพวกเขา คือการส่งลูกะไปยังจุดสูงสุดด้วยตนเอง
พวกเขาที่คิดว่าตนไม่มีความสามารถพอที่จะช่วยเหลือลูกะได้ก็จากไป
สิ่งสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้มีแค่จดหมายที่เขียนเหตุผลของทั้งสองคนและคำสุดท้ายว่า
“เพราะอย่างนั้นพวกเราจึงไม่สามารถมองหน้าลูกได้อีก ขอโทษด้วย...” และหนี้สินอีก 150 ล้าน
ตัวลูกะไม่ได้คิดโทษพ่อแม่เธอแต่สำหรับเธอมันคือความผูกพันสิ่งสุดท้ายสำหรับเธอ
ทางบริษัทก็ตัดสินใจจะจ่ายหนี้ให้ลูกะโดยไม่คิดดอกและหักเงินจากค่าตัวแทน
“ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ร้องให้...”ลูกะที่พร่ำบอกตัวเองในใจและกำใบแจ้งหนี้สินแน่นด้วยแรงทั้งหมดของเธอ
เธอยืนอยู่อย่างเดียวดายท่ามกลางสวนสาธารณะมีแสงอ่อนๆจากโคมไฟข้างทางตู้ขายน้ำอัตโนมัติ และแสงจันทร์เท่านั้น
ทีอยู่กับเธอ เธอกำใบแจ้งหนี้สินแน่นและเก็บเข้ากระเป๋ากระโปรงของเธออากาศหนาวเย็นกำลังทำร้ายเธอ
ลูกะมีแค่เสื้อแขนยาวและผ้าพันคอที่คอยปกป้องเธอเท่านั้นเธอจึงรีบตัดสินใจที่จะรีบกลับบ้านของเธอทันที
ก่อนที่เธอจะไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกชายสองคนมัดมืออยู่และพยายามจะพาขึ้นรถไป
เด็กผู้หญิงคนนั้นดูโดดเด่นภายใต้คืนวันนี้ผมสีทองมัดผมคู่ไว้ทำให้ให้ดูเด็ก พร้อมทั้งขนาดตัวตัวที่เล็กและดูอ่อนแอ
ยิ่งดูเด่นชัดกับเสื้อกันหนาวที่ใหญ่เกินไปสำหรับเธอแต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังพูดด่าทอชายสองคนนั้น
ในตอนนั้นเธอก็นึกถึงหนังสือพิมพ์ตอนเช้าพาดหัวข่าว “แก๊งลักพาตัวอาละวาด”
ความคิดของเธอแบ่งเป็นสองส่วน”ช่วยหรือทำเป็นไม่เห็น?”
ตัวของเธอยืนแข็งทื่อไม่ขยับเพราะความกลัวแต่ก็ไม่สามารถละสายตาจากเด็กคนนั้นได้
ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ไม่คาดคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตลูกะได้รับรู้ถึงความเสียใจในการสูญเสียคนสำคัญไป
“ถ้าเด็กคนนั้นหายไปจะมีถึงกี่คนที่เสียใจ” แค่ความคิดเดียวก็พาตัวลูกะเข้าไปหาสองคนนั้นทันที
เธอจับมือของชายคนหนึ่งไว้“เดี๋ยวก่อนนี้นายทำอะไรน่ะ!!” แต่เธอก็รู้ตัวว่าทำพลาดไปแล้ว
ลำพังกำลังของเธอไม่มีทางทำอะไรชายสองคนนี้ไดและยิ่งกว่านั้นชายอีกคนที่สวมแว่นก็ควักมีดขึ้นมาจากข้างในเสื้อกันหนาว
“ดีเลยมีคนมาเพิ่มอีกคนแน่ะ”เขาหัวเราะเบาด้วยเสียงที่มีความกังวลเล็กน้อยแล้วเขาก็กระซิบกับชายอีกคน
“จะเอาไงดีละลูกพี่เชือกเราไม่พอนะ”“ไม่ต้องใส่ใจลำพังเด็กผู้หญิงสองคนไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว”
ลูกะที่ได้ยินดังนั้นจึงผละมืออกจากชายคนแรกทันทีแต่ก็สายไปเสียแล้ว“หยุดเลยแล้วเข้าไปในรถซะ”
ชายสวมแว่นสั่งด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อยชี้ให้ลูกะเข้าไปข้างในรถที่มีเด็กสาวคนนั้นที่ท่าทางดูอารมณ์เสียสุดๆนั่งอยู่
แล้วก็ลูกะค่อยๆเข้าไปในรถตามคำสั่ง“ขยับไป”ชายคนนั้นสั่งอีกครั้งก่อนที่จะเข้ามานั่งเบียดในเบาะหลังและใช้มีดจ่อไว้ที่เธอ
พอลูกะขยับตัวเข้าไปก็ได้ยินเสียงจากเด็กคนั้นเบาๆ“บ้าจริงๆเลยเธอเนี้ย” แต่ลูกะไม่ทันได้สังเกต
แล้วชายอีกคนรถก็ออกรถอย่างรีบเร่ง“ฮ่าๆๆไม่คิดว่าการลักพาตัวจะง่ายอย่างนี้” ชายสวมแว่นพูดขึ้น
“แล้วยังได้สาวสวยมาอีกคนหนึ่งแน่ะ”อีกคนพูดตอบลูกะก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
ขณะที่มือขวาของเธอคอยจับมือเด็กสาวที่ถูกมัดเอาไว้เพื่อเป็นการบอกเด็กคนนั้นว่าว่าไม่ต้องกลัว
แต่ตัวเธอกลับสั่นเหงื่อก็ไหลและหัวใจก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอที่กำลังกลัวสุดๆ
กลับรู้สึกได้ว่าเด็กสาวข้างๆเธอกลับนิ่งได้อย่างน่ากลัว
ดูเหมือนเด็กสาวจะรู้ว่าลูกะกำลังกลัวอยู่เธอจึงจับมือของลูกะไว้แน่นแล้วพูด
“พวกแกชั้นมีเรื่องจะขอร้องหน่อย...”น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกล้าจนลูกะต้องตกใจ
“ฮ่าๆๆอะไรละสาวน้อยขอบอกไว้นะว่าร้องไปก็เปล่าประโยชน์” แล้วชายสวมแว่นที่นั้งข้างๆลูกะก็พูดเสริม
“นี่นะเป็นนาทีเป็นนาทีตายของพวกเธอเลยนะว่าง่ายๆหน่อยละ!!!” ลูกะได้ยินก็เกิดกลัวอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าพวกนี้จะทำอะไรกับเธอขอให้ใครช่วยก็ไม่ได้ในความเร็วรถขนาดนี้มีแต่ต้องรอปฏิหาริย์งั้นเหรอ?
แล้วเด็กสาวก็พูดต่อ“เลิกหายใจซะ พวกแกกำลังทำให้อากาศสกปรกอยู่
โลกเรากำลังเสื่อมโทรมเพราะพวกนายหายใจอยู่นะ”
คำพูดนี้ทำให้ทั้งโจรลักพาตัวและลูกกะอึ้งไปหลายวินาทีเธอก็คิดว่าเด็กคนนี้กล้าหาร แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
“หนอยยัยเด็กเหลือขอนี่!!”ชายสวมแว่นตะโกนด้วยความโมโห
“อย่านะเฟ้ยเรายังไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใครเลย”ชายอีกคนห้ามไว้พอชายสวมแว่นได้ยินก็ค่อยๆถอยกลับไป
แล้วชายที่ขับรถก็พูดขึ้นมาต่อ“เก็บปากของเธอไว้ซะยัยหนู พวกเราเป็นหนี้พนัน
จนโดนพวกยา:Xซ่าจ้องจะเอาอวัยวะไปขายอยู่ฉะนั้นถ้าทำให้พวกชั้นโกธรละก็ได้เจอดีแน่”เขาพูดด้วยน้ำเสียงหน้ากลัว
แต่เด็กคนนั้นก็ไม่กลัวและสวนกลับต่อไปด้วยคำพูด“ชั้นบอกให้เลิกหายใจไง” พอชายสองคนได้ยินก็อึ้งอีกครั้ง
แล้วยังเธอก็พูดต่อ“แล้วนายก็ด้วยไอ่แว่น แว่นตาเชยๆแบบนั้นคิดว่านำแฟชั่นเรอะ?
หรือว่าเป็นพิธีทางศาสนาของพวกงี้เง่าที่จะอันเชิญเทพลงมาจุติ?”
พอชายสวมแว่นได้ยินก็เริ่มโมโหขึ้นมา
คำพูดแต่ละคำของเธอไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากทำให้เรื่องมันแย่ลงนะ!! ลูกะคิด
“หนอยแน่ยัยเด็กนี่งั้นชั้นจะสอนให้เธอจำด้วยร่างกายแล้วละ”
ชายสวมแว่นพูดแล้วค่อยๆเอามีดเข้ามาใกล้เด็กคนนั้นผ่านตัวลูกะตัวลูกะก็กำลังคิดว่าถ้าเป็นตอนนี้อาจจะพอทำอะไรได้
แล้วเธอก็จินตนาการแบบในการ์ตูนที่พระเอกอาศัยจังหวะเล่นงานตัวร้าย
แต่ ผัวะ!!!!เท้าของเด็กคนนั้นกระแทกเข้าเต็มๆหน้าชายสวมแว่นลูกะที่ยังคิดอยู่ก็เลยไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ได้
เลยยังทำอะไรไม่ถูกแต่พอรู้ตวอีกทีตัวเธอก็สั่นน้อยลงแล้ว
แล้วเด็กคนนั้นก็พูดต่อ“ถ้าเข้ามาใกล้กว่านี่ชั้นจะเรียกคนช่วยนะเจ้าโง่”
“เฮอะ”ชายที่ขับรถอยู่หัวเราะ “เธอนั้นแหละที่โง่ รถที่วิ่งด้วยความเร็ว 80กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คิดว่าเรียกแล้วจะมีคนมาช่วยงั้นเหรอ?”
ลูกะได้ยินก็ท้อใจอีกครั้งเธอรู้ว่าไม่ว่ายังไงเรื่องที่โดนจับอยู่ก็ไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะมีความกล้าแค่ไหน...
“มีสิ”คำพูดนี้ไปสะกิดใจลูกะเข้า เธอจึงค่อยๆมองไปที่เด็กสาวคนนั้นด้วยความสงสัย
“คนที่สาบานยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อชั้นถ้าเรียกเขาต้องมาแน่” เธอประกาศ
ลูกะไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินเธอไม่อยากเชื่อว่าคนที่เป็นดังวีรบุรุษแบบนั้นจะมีจริงในโลก
แต่ภายในใจก็แอบหวังอยู่ลึกๆซักวันจะมีคนที่คอยดูแลเธอ และคอยช่วยเหลือยามที่มีปัญหา
“งั้นก็ลองเรียกดูเซ่”ชายสวมแว่นท้า
ลูกะที่ตัวสั่นอยู่ข้างๆเด็กสาวคนนั้นก็ได้ยินชื่อของคนๆหนึ่งขึ้น“ฮายาเตะ...”
“อะไรน่ะ!!”เสียงร้องของคนขับรถดังขึ้นพร้อมกับจักรยานคันหนึ่งลอยข้ามผ่านรถไปและขวางหน้ารถเอาไว้
“....”ลูกะเห็นเด็กหนุ่มที่มาพร้อมกับจักรยานคันนั้นพูดบางอย่างด้วยสีหน้าที่มุ่งมันจนดูเท่มาก
แต่เธอก็รู้ตัวว่าเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังเอาตัวขวางรถที่วิ่งด้วยความเร็ว80 กิเมตรต่อชั่วโมงอยู่
เธอจึงรีบลุกขึ้นเอาตัวผ่านเบาะหน้าและตะโกนหวังจะให้เด็กหนุ่มได้ยิน “หลบไปนะ!!!”
แต่ก็เปล่าประโยชน์รถได้ชนเขาไปพร้อมกับจักรยานจนลอยออกไป
“อ๊ะลูกพี่!!!” ชายสวมแว่นตะโกนด้วยความตกใจ”หนวกหูเฟ้ยมันผิดเองที่มาขวางเองนี้หว่า”
“หนอยแน่พวกแกบังอาจมาทำร้ายฮายาเตะ”เด็กสาวตะโกนด้วยความโมโห
แต่ก่อนที่ลูกะจะได้รู้สึกอะไรเด็กหนุ่มคนนั้นก็พลิกตัวกลางอากาศแล้วกระโดดลงมาที่หน้ากระโปลงรถ
ชายคนขับรถเห็นก็ก็เหยียบเบรกทันทีลูกะที่อยู่ตรงกลางละหว่างเบาะก็ล้มมาที่ด้านหน้าทันทีติดคอนโซลรถยนต์
“ว้าก!!!” ชายหนุ่มสวมแว่นร้องขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้วรีบวิ่งออกจากรถ
เธอที่พยายามดันตัวเองขึ้นมาก็สบตากับเด็กหนุ่มคนนั้นเธอเห็นเขามีเลือดอาบไปทั่วตัว
และพยายามจะพยุงตัวไว้บนฝากระโปรงรถมือที่เปื้อนเลือดของเขาทาบไว้ที่กระจกจนเป็นลอยลากยาว
ดูเหมือนหนังสยองขวัญทำให้ลูกะเสียขวัญพอสมควรแล้วเขาก็พูดขึ้นมาผ่านกระจก
“ขะ...ขอโทษที....ขอเด็กคนนั้นคืนได้ไหม?” เด็กหนุ่มคนนั้นถามอย่างสุภาพ “คะ...ครับ”ชายขับรถก็ตอบอย่างว่าง่าย
ลูกะที่ได้ยินดังนั้นก็รู้ว่านี้เป็นคนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นคอยแล้วเธอก็ค่อยๆยันตัวขึ้นมาเอาหลังพิงเบาะไว้
ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่ท้องของตนมีด... มันกำลังปักอยู่ที่ท้องของตนอยู่ ทำไมตอนแรกไม่รู้สึกละ?....
เธอพยายามจะนึกย้อนกลับไปรถเบรก ชายถือมีดร้องแล้ววิ่งออกไป แล้วทำไมไม่เจ็บในทันทีละ?
เธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสารในร่างกายที่จะหลั่งเพื่อปลับสภาพร่างกายในทันทีเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดชั่วครู่
หลังจากนั้นเธอก็รู้ศึกถึงความเจ็บปวดที่เธอไม่เคยพบมาก่อน“อั๊ก...” แม้เจ็บแค่ไหนแต่เธอก็ไม่มีแรงจะร้อง
แล้วเสียงไซเร็นของตำรวจก็มาถึง “นี่เธอเป็นอะไรไหม? แบบนี้แย่แล้วทนไว้นะ...”
เสียงของเด็กสาวที่ถามลูกะด้วยความเป็นห่วงดังขึ้นข้างๆ
แต่ลูกะไม่รู้จะตอบอย่างไรดีในหัวว่างเปล่าไปหมด แล้วเด็กคนนั้นก็รีบลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะมีคนเข้ามาถามอีกครั้ง“นี่คุณเป็นอะไรไหมครับ”
ลูกะไม่มีแรงแม้จะหันไปหาดูเจ้าของเสียงแต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ แล้วก็ได้ยินเสียงคนคุยเต็มไปหมด
ลูกะไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นเธอคิดว่าทุกอย่างดูจะยุ่งเหยิงไปหมด
เธอพยายามจะช่วยเด็กคนนี้แบบไม่คิดอะไรเลยถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรเลย
ถ้าเธอปล่อยให้เด็กคนนั้นโดนจับต่อหน้าต่อตาไปเธอก็คงไม่เป็นอย่างนี้แต่เธอก็คงจะทนมีชีวิตอยู่ไม่ได้แน่ๆ
แล้วเธอได้ยินบางอย่างเสียงดังกำลังใกล้เข้ามาพร้อมเสียงลมพัดอย่างแรงเสียงแม้จะฟังดูคุ้นหูว่าเป็นพาหนะอากาศชนิดหนึ่ง
แต่เธอก็ไม่อยู่ในสถานะการที่จะคิดอะไรออก
ลูกะได้ยินเสียงเด็กสาวคนนั้นพูดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง“ชั้นสัญญาแล้วว่าจะตอบแทนเขา...”คำพูดอื่นๆเธอฟังไม่ค่อยออก
ไม่รู้เพราะอะไรลูกะถึงได้พยายามตั้งใจฟังสิ่ที่เด็กคนนั้นพูดอาจจะเป็นเพราะเด็กคนนั้นมีบางสิ่งดึงดูดเธออยู่
หรือแค่ลูกะเป็นห่วงเด็กคนนั้นเท่านั้น
“ฉะนั้นชั้นจะให้เขาเป็นพ่อบ้านคนใหม่ของซังเซนอินนางิคนนี้....”
“แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ละคะ?”“ถึงเธอจะงี่เง่าไปที่อยู่ๆก็มาโดนจับด้วย แต่เธอก็พยายามช่วยชั้นนะ...”
ต่อจากนั้นเธอก็รู้สึกว่าถูกใครอุ้มออกไปนอนบนเปลแล้วก็สัมผัสว่ามีคนเอาอะไรซักอย่างมาแทงที่แขนซ้าย
เธอรู้สึกว่าตัวของเธอถูกยกลอยขึ้นไปในอากาศสัมผัสถึงสายลมที่รุนแรง
ตัวเธอก็ค่อยๆไร้ความรู้สึกในระหว่างที่ตัวเธอถูกยกให้ลอยขึ้นและในที่สุดทุกๆอย่างก็มืดลง
ปล.อายเล็กน้อยตอนลง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-1-17 15:44
แฟนฟิคชั่น Hayate no gotoku Cross Time : ตอนที่ 1