ที่ปราสาทกลางป่า
ที่นี้มีประวัติมายาวนาน ว่ากันว่ามันอยู่มาไม่ต่ำกว่าสี่ร้อยปี
ยังมีข่าวลืออีกว่า วันดีคืนดีจะมีผีเดินออกมาจากปราสาทนั้นเพื่อไปยังที่ไหนสักแห่ง เป็นผีในชุดสาวใช้ที่สวยงามมาก
สอบถามจากคนเฒ่าคนแก่ ก็ไม่มีใครทราบเลยว่าใครเป็นคนสร้าง เพราะทุกคนล้วนบอกว่าตั้งแต่เกิดมา ปราสาทแห่งนี้ก็มีอยู่แล้ว
จึงไม่มีข้อสรุปว่าใครเป็นคนสร้าง ยังคงไว้แต่ปราสาทที่ดูวังเวงน่ากลัวจนไม่มีใครกล้าเข้าไป
ว่ากันว่าเคยมีเหล่าเด็กเข้าไปเล่นซนกัน แต่เมื่อเข้าไปแล้วต่างก็พากันวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต
พวกเขาเห็นอะไรกัน? แล้วสิ่งนั้นมันน่ากลัวเพียงไหน?
เรื่องนั้นไม่มีใครรู้ ก็ยังคงมีข่าวลือต่อไปเรื่อยๆ
ในที่ๆหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นห้องนอน เพราะมีเตียงที่ดูหรูหราราวกับผู้ที่เป็นเจ้าของนั้นเป็นเศรษฐีวางไว้
บนเตียงมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่
ใบหน้าของเธองดงาม ชนิดที่ว่าไม่ว่กผู้ชายคนไหนเห็นเป็นต้องรักต้องเอ็นดูเป็นแน่
ผมสีทองของเธอยาวสลวยยาวถึงกลางแผ่นหลังปูอยู่บนเตียงราวกับเป็นผ้าปูนอนสำหรับเธอ
เธออยู่ในชุดนอนสีฟ้าอ่อน เนื้อผ้านั้นบางมากจนแนบชิดกับร่าง ทำให้เห็นสัดส่วนอันเย้ายวนของเธอ
โอ๊ะโอ่...ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินที่เราพูดนะ
"ทำอะไรคะ?" หญิงสาวที่ชันกายลุกขึ้นจากที่นอน พูดขึ้นด้วยเสียงที่งัวเงีย
ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ทันเข้าซะแล้วสิ อย่างนี้ต้องเผ่นแล้ว
"อ๋อ...คงจะมาแอบดูหนูเปลี่ยนชุดอีกสินะคะ" เธอคนนั้นพูดขึ้น แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงงัวเงีย แต่เป็นเสียงจริงจัง และบ่งบอกว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ
เธอรู้ซะแล้วสิ ฮะฮ่า แต่ไม่ทันฉันหรอก "อ๊ะ!!! อย่าหนีนะ!!!" เธอตะโกนเรียก ก่อนที่จะวิ่งตามไปทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด แต่ดูเหมือนว่าจะตามไม่ทัน เพราะเขาคนนั้นอยู่นอกประตู กว่าเธอจะเปิดประตูก็คงหนีไปไกลแล้ว "งั้นเจอนี่" เธอทำอะไรบางอย่างก่อนที่ร่างของเธอจะหายไป
"หยุดนะ!!!" หญิงสาวกำลังไล่ตามผู้ชายชุดดำแบบท่านเคาท์แดร็กคู{ติ๊ด} ที่แท้ เธอหายตัวออกมาจากห้องนั่นเอง "ฮ่าๆ แค่นั้นตามฉันไม่ทันหรอก" อีกฝ่ายที่โดนตามกล่าวมา ก่อนที่จะกระโดดลงไปด้านล่างแบบไม่สนใจความสูง เธอเห็นดังนั้นเลยใช้วิชาหายตัวอีก แล้วเธอก็ปรากฏตัวอีกที่หนึ่ง
มันเป็นห้องโถงที่กว้างพอควร ตรงกลางมีโต๊ะยาววางไว้พร้อมกับเก้าอี้ที่ดูหรูหรา รอบๆห้องมีเชิงเทียนพร้อมเทียนที่ถูกจุดไว้เพื่อให้แสงสว่างวางไว้โดยรอบ
เธอมองไปที่โต๊ะ สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด
"อ้าว...ลูน่า ตื่นแล้วเหรอ? มาทานข้าวด้วยกันสิ" ชายในชุดท่านเคาท์เอ่ยชวน แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกชวนจะไม่สนใจคำชวนนั้น "หน็อย...ทำเป็นไม่รู้เรื่อง เมื่อเช้าคุณคิดจะทำอะไรคะ?!" เธอพูดด้วยเสียงที่สั่นนิดหน่อย ดูเหมือนว่าเธอจะกลั้นความโกรธเอาไว้ "ก็ไปปลุกน่ะสิ" อีกฝ่ายตอบเรียบๆ
ทันใดนั้นมีผู้หญิงในชุดสาวใช้คนหนึ่งเดินออกมา "มีอะไรกันเหรอคะ?" เธอถาม "ก็เหมือนทุกๆวันนั่นแหละ" ท่านเคาท์ตอบอย่างเรียบๆ พร้อมกับตักข้าวใส่จานของตัวเอง "อ้อ งั้นสินะคะ" สาวใช้เห็นอาการก็เข้าใจ ลูน่าเห็นเธอคนนั้นจึงบอกว่า "คุณแม่คะ คุณตาเขา..." "เอาน่าๆ ลูน่าก็อย่าไปถือสาคุณตาเขาเลย เขาก็เป็นอย่างนี้ประจำนั่นแหละ" เธอพูดกับลูน่าอย่างเห็นใจ แล้วเธอก็หันมาทางท่านเคาท์ "ท่านพ่อเองก็เถอะค่ะ เลิกแกล้งลูน่าแบบนี้ได้แล้วนะคะ" เธอบอกกับท่านเคาท์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจคำพูดของเธอ เพราะมัวแต่ตั้งใจกิน ซึ่งมันทำให้ลูน่ารู้สึกหมั่นไส้มาก เธอคิดจะใช้เวทย์มนต์ใส่เขา
"หยุดเลยลูน่า!!!" เสียงของสาวใช้ดังขึ้น เสียงที่อ่อนโยนเมื่อครู่ บัดนี้กลับเป็นเสียงที่ฟังดูมีอำนาจ เสียงของเธอทำให้ลูน่าหยุดในทันที "คุณแม่..." เธอพูดอย่างสำนึกผิด เธอก้มหน้าลง สาวใช้เห็นเช่นนั้นก็พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "เอาเถอะ ลูกน่ะหัดควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ดีกว่า แล้วตอนนี้ลูกก็..." เธอมองไปที่ตัวลูน่าซึ่งใส่ชุดนอนอยู่ "แม่ว่าลูกกลับไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะโดนคุณตาจอมลามกเขาแกล้งเอาอีก" แล้วเธอก็หลับตาถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
"อ้อกกก" เสียงท่านเคาท์สำลักอาหาร ซึ่งก็เป็นขณะเดียวกันกับที่สาวใช้บ่นถึงเขา "ทางนั้นคุยอะไรกันน่ะ?" เขาถามไปที่สาวๆทั้งสอง ซึ่งแทนที่จะได้รับคำตอบ กลับได้รับสายตาที่ดุดันจากหลานสาวแทน แล้วเธอก็หายตัวไป
"เฮ้อ" เสียงสาวใช้ถอนหายใจ ก่อนจะถามว่า "ท่านพ่อมีจุดประสงค์อะไรกันแน่คะที่ทำแบบนั้น?" "มิลล่า วันนี้ฉันเกือบแย่แน่ะ!" ท่านเคาท์พูดขึ้นพร้อมทั้งเอามือจับที่เอวของตัวเอง "ไม่ได้วิ่งสุดกำลังบ่อยๆเลยเป็นอย่างนี้สินะ" มิลล่าส่ายหน้า แล้วบอกว่า "งั้นทีหลังก็อย่าทำแบบนั้นสิคะ" "ไม่ได้หรอก ลูน่าน่ะต้องฝึกอีกมาก ทั้งเวทย์มนต์ ทั้งเรื่องการควบคุมตัวเอง" ท่านเคาท์บอกจุดประสงค์ของตัวเองออกมา แท้จริงแล้วที่เขาทำไปทั้งหมดเป็นเพราะเพื่อฝึกหลานของเขานั่นเอง "แต่วันนี้ลูน่าเล่นเอาจนฉันเกือบใช้เวทย์มนต์ซะแล้วสิ ทีหลังใช้ดีกว่าดีมั้ยน้า?" เขาพูดขึ้น "อย่าดีกว่าค่ะ" มิลล่าห้ามทันควัน "ขืนท่านพ่อใช้เวทย์มนต์ล่ะก็ ที่นี่คงหายไปหมดแน่ค่ะ" "แต่ก็เคยใช้อยู่ทีนึงนี่ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย" "นั่นมันนอกปราสาทค่ะ!!!" "เออ!!! จริงด้วย!!!" ท่านเคาท์พูดขึ้นทันทีที่นึกออก
ลูน่าหายตัวกลับมาที่ห้องของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจเรึ่องเมื่อครู่ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะขัดมิลล่าซึ่งเป็นแม่ของเธอ "งั้นก็ช่างมันเถอะ" เธอคิดแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า จากนั้นเธอก็ถอดชุดออกแล้วก็เดินไปอาบน้ำ
.................................................
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวก่อนเดินออกจากห้องน้ำ แน่นอนว่านี่เป็นห้องของเธอ การที่เธอจะเดินเปลือยกายในห้องนั้นเป็นสิทธิ์ของเธอเอง และเธอก็ทำอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้วด้วย เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งก่อนที่จะเลือกชุดมาชุดหนึ่ง
เธอใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน ตอนนี้เธออยู่ในชุดสีดำและค่อนข้างรัดรูป แต่ตรงข้อมือนั้นหลวมโพรก กระโปรงยาวถึงพื้น ดูเหมือนเป็นผู้ดีสูงศักดิ์
ที่หน้าอกเธอติดเครื่องประดับอยู่อย่างหนึ่ง
มันเป็นเข็มกลัดทองคำ ตรงกลางเป็นมรกตขัดมันแวววับตา
ลูน่ามองตัวเองที่หน้ากระจก ตาของเธอมองดูที่รูปร่างของตัวเองแล้วยิ้มให้กับกระจก จากนั้นเธอก็มองมาที่เครื่องประดับที่หน้าอก "เขาจะเป็นยังไงมั่งนะ?"เธอพูดขึ้นจากนั้นใช้มือม้วนผมของตัวเองที่เป็นลอนลงมาเหมือนกับครัวซองต์ขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ซึ่งอาการอย่างนี้คงจะเรียกว่าเขินอายสินะ
เวลาประมาณช่วงบ่ายของวันนั้น หญิงสาวที่อยู่ที่บ้านข้างโรงฝึกได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายจากคนที่เธอรู้จัก ซึ่งเธอเห็นแล้วก็ยิ้มก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ปิ๊งป่อง เสียงออดดังขึ้นในบ้าน นั่นหมายความว่ามีคนมาหาเธอ "ค่า กำลังไปค่า" เธอตะโกนบอกคนที่กดออด ก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูให้
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูวิ่งโผเข้ามากอดเธอ "พี่คะ" เธอเรียกหญิงสาวคนนั้นว่าพี่ "อ้าว ลูน่าเองเหรอ " เธอกล่าวพลางเอามือลูบหัวแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู "เอ้า เข้ามาข้างในก่อนสิ" เธอบอกลูน่า
ลูน่านั่งรออยู่ที่โซฟาที่เอาไว้รองรับแขก ไม่นานหญิงสาวก็เดินเข้ามาพร้อมกับถาดที่ใส่น้ำเปล่าสองแก้ว "เอ้า มาเหนื่อยๆกินน้ำซะก่อนสิ" เธอบอกลูน่า
"ค่าาา" ลูน่าบอกก่อนจะยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่แล้วเธอก็หยุดมือเอาไว้
ผมของเธอที่ชี้ออกมานั้น บัดนี้มันส่ายไปส่ายมาราวกับเรดาร์ที่กำลังตรวจจับสัญญาณบางอย่างได้ จมูกของเธอขยับเล็กน้อยเหมือนกำลังสูดกลิ่นอะไรบางอย่างได้
"พี่สเตลล่าคะ นี่มัน..." ลูน่ากล่าวขึ้นพร้อมกับจ้องมาที่ตัวของสเตลล่า ซึ่งสเตลล่าเองก็เหมือนจะรู้ "จ้าๆ" จากนั้นเธอก็หยิบบางอย่างที่ซ่อนไว้ออกมา
มันเป็นวัตถุลึกลับอยู่ในกล่องสีเหลี่ยมขนาด 20x20 ซม. ซึ่งสเตลล่ายื่นของสิ่งนั้นให้กับลูน่า
ลูน่าเห็นของสิ่งนั้นแล้วถึงกับตาลุกวาว "เค้กจริงๆด้วย" เส้นผมที่ยื่นออกมาของเธอตอนนี้ส่ายไปส่ายมาอย่างเร็วไม่ต่างจากสุนัขดีใจเลย "ขอบคุณค่า รักพี่ที่สุดเลยยย" เธอขอบคุณแล้วรีบหยิบมา เปิดกล่องออกแล้วรีบกินทันที "อร่อยจัง!!" เธออุทานขึ้นหลังจากที่ตักเค้กชิ้นแรกเข้าปาก
"อุตส่าห์แอบเอาไว้กะว่าให้หายเหนื่อยก่อนค่อยให้ แต่ดันจมูกดีซะนี่เรา" สเตลล่าบอกกับน้องสาวของเธอที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย
ผ่านไปไม่นาน ลูน่าก็กินเค้กจนหมด เหลือเพียงกล่องตั้งไว้ แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มอย่างมีความสุข
"มีความสุขดีสินะ ลูน่า" สเตลล่าพูดเชิงเหน็บแนมลูน่าเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายก็ได้แต่หัวเราะกลับมา "แหะๆๆๆ" "ฮะๆๆๆ" ต่างคนต่างหัวเราะกันคิกคัก
สเตลล่า: "อ้อนี่ ลูน่า พี่ได้รับจดหมายด้วยล่ะ"
ลูน่า: "จากใครคะ?"
สเตลล่า: "จาก 'เขา' น่ะ"
ทันทีที่ลูน่าได้ยินว่า จาก 'เขา' เธอก็ตื่นตัวทันที "เอ๋ จริงเหรอ?" สเตลล่าพยักหน้า "แล้วว่าไงบ้างคะ?" เธอถาม "ก็เห็นบอกว่าจะกลับมาแล้วน่ะนะ..." "เอ๋! จริงเหรอคะ? จะมาเมื่อไหร่คะ?" สเตลล่าก็หยิบจดหมายที่เธอพึ่งได้มาออกมาให้ลูน่าหยิบไปอ่าน
ลูน่าหยิบจดหมายจากมือของสเตลล่า หัวใจของเธอเต้นโครมคราม แต่ก็มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้สึก เพราะอาการมันไม่ได้ออกมาข้างนอกแต่อย่างใด ไม่รอช้า เธอรีบคลี่จดหมายที่พับไว้อ่านทันที
" วันx เดือนx ปีx
ถึงพี่สเตลล่า
เป็นยังไงบ้างครับ สบายดีหรือเปล่า? ผมสบายดีครับ อาจจะกระทันหันไปหน่อยที่ส่งมา แต่ผมมีเรื่องจะขอร้องพี่หน่อยน่ะครับ
คือลูกน้องของผมเกิดปัญหานิดหน่อย ก็เลยว่าจะให้ไปพักผ่อนที่นั่นซักระยะ แน่นอนว่าผมก็จะกลับไปด้วย ตอนนี้ผมก็คิดว่าจะกลับไปอยู่ที่นั่นตลอดเลย เพราะตำแหน่งหัวหน้าของผมหมดวาระพอดี ผมอยากจะให้พี่ช่วยเตรียมที่พักสำหรับผู้หญิงสักคนได้ไหม? เพราะจะให้ผมนอนกับเธอก็คงไม่มีปัญหาหรอก..."
อ่านถึงตอนนี้ ลูน่ารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกสายฟ้าของเทพเจ้าซูสผ่าเอา จนเธอค้างไปชั่วครู่
"ลูน่าเป็นอะไรไปน่ะ?" สเตลล่าถามน้องสาว ซึ่งเสียงของเธอทำให้ลูน่าหายจากสภาวะอัมพาตไปได้ "อ๊ะ! คะ มีอะไรคะ?" สเตลล่าเห็นน้องสาวตัวเองแปลกๆเลยถามว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นนิ่งไป" "ปะ...เปล่าค่ะ" เธอตอบกลับไปทั้งๆที่พึ่งโดนฟ้าผ่าไปเต็มๆ เธอจึงฝืนใจอ่านต่อ "เอาน่า มันยังไม่จบซะหน่อย"
"...แต่แน่นอนว่าผมไม่ทำหรอก เพราะถ้าลูน่ารู้เข้ามันคงจะไม่ดีแน่ ในหลายๆความหมายน่ะนะ เอาล่ะ ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ เพราะเธอเป็นคนสำคัญมาก ส่วนกลับไปแล้วแน่นอนว่าผมจะเอาของฝากไปเยอะๆเลยครับ
รักและเคารพ
เฮลิออส"
ถึงจะอ่านจบแล้วแต่ลูน่าก็ยังคงจับจดหมายไว้แน่น ตาของเธอกำลังจ้องไปที่กระดาษใบนั้น ตรงคำว่า "คนสำคัญมาก" "สำคัญขนาดไหนล่ะ?" เธอยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ไม่ทันรู้ตัว กระดาษจดหมายที่เธอถือก็ถูกไฟเผาไปเสียแล้ว "ว้าย!!!" เธออุทานขึ้นทันทีที่เห็นเปลวไฟ สเตลล่าซึ่งมองเห็นเหตุการณ์ตลอดนั้นก็แซวเธอว่า "ไฟหึงสินะ?" "มะ...ไม่ใช่ซะหน่อย!!" ลูน่ารีบปฏิเสธ ทั้งๆที่หน้าของเธอแดงเพราะสเตลล่าพูดแทงใจดำ เธอคิดในใจว่า "เฮลี่นะเฮลี่ ทำไมกัน ผ่านไปไม่กี่ปีก็ลืมสัญญากับฉันซะแล้ว ไม่ใช่ว่าหลายปีมานี้มีผู้หญิงคนอื่นหรอกนะ เดี๋ยวคอยดูเถอะ กลับมาเจอดีแน่" ซึ่งแน่นอนว่าลูน่าได้เตรียมแผนการอะไรบางอย่าง
เวลาล่วงเลยจนพลบค่ำลูน่าก็เลยลาสเตลล่ากลับบ้าน "กลับก่อนนะคะพี่สเตลล่า" "จ้า เดินทางดีๆนะจ๊ะ" "ค่า แล้วเจอกันใหม่นะ" จากนั้นลูน่าก็เดินออกจากบ้านไป
ที่ดงกลางป่า มีกลุ่มชายวัยฉกรรจ์ 4 คนกำลังซุ่มรออะไรบางอย่างอยู่
"เฮ้ย! แน่ใจนะว่าทางนี้น่ะ" ชายคนหนึ่งท่าทางกำยำเอ่ยถาม "แน่ใจสิพี่ ฉันเห็นเธอเดินผ่านมาทางนี้บ่อยจะตาย" ชายคนที่ดูตัวเล็กกว่าหน่อยหนึ่งบอก "แล้วตะกี้ฉันก็เห็นเธออีก เดี๋ยวเธอต้องกลับมาแน่" "คราวนี้เราได้สนุกกันแล้ว อดกันมานานแล้วสิ" "ผมขอก่อนนะ" "ไม่ได้ ฉันพี่ใหญ่ต้องได้ก่อนสิ พวกก็เป่ายิ้งฉุบกันเอาเองแล้วกัน" "ครับ" อีกสามคนตอบอย่างหงอยๆ แต่ก็ยอมรับเงื่อนไข "โน่นๆ มาทางโน้นแล้ว" ชายคนหนึ่งตะโกนบอกทุกคน ว่าแล้วทุกคนก็เข้าไปซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้ใกล้ๆ "สวยใช้ได้เลยว่ะ" "ใช่ม้า?" "ชู่วว" ชายที่เป็นหัวหน้าทำสัญญาณว่าให้เงียบ
"เฮลี่นะเฮลี่ คอยดูเถอะ ถ้ามาเมื่อไหร่เจอดีแน่!!" ลูน่ายังคงเดินไปบ่นไป โดยไม่รู้ว่ากำลังมีภัยมาถึงตัวเอง จนเธอเดินมาถึงจุดพวกชายทั้งสี่ก็ออกมา
"ว่าไงคนสวย จะไปไหนเหรอจ๊ะ มืดๆค่ำแบบนี้" "สนใจไปด้วยกันมั้ยจ๊ะ" "อยากหาอะไรสนุกๆทำมั้ยน้องสาว" "มีแฟนหรือยังจ๊ะ"
เธอตอบไปทันทีว่า "ฉันไม่ว่างจะมายุ่งกับพวกนาย ถอยไป!!!"แล้วเธอก็เดินฝ่าพวกมันออกไป แล้วก็เร่งฝีเท้า ซึ่งพวกมันก็ตามมา
ในเมื่อมันยังวิ่งตาม เธอก็จำเป็นต้องวิ่งหนี แต่ดูเหมือนว่าแรงของเธอจะมีไม่พอ ทำให้หนึ่งในสี่คนวิ่งไปดักหน้าเธอไว้ "จะรีบไปไหน เรามาสนุกกันดีกว่า"
ในเมื่อไม่มีทางเลือก เห็นทีเธอจะต้องใช้เวทย์มนต์ซะแล้ว "แกมายุ่งกับฉันเองนะ" แล้วเธอก็ยื่นมือไปข้างหน้า
"???" "ทำอะไรคนสวย? หรือว่าจะเล่นมายากลอะไร?" ลูน่าแปลกใจว่าทำไมตนเองถึงใช้เวทย์มนต์ไม่ได้ "ไม่จริงน่า..." ไม่ว่าจะลองดูกี่ครั้ง ผลก็ออกมาเหมือนเดิม ซึ่่งตอนนี้เธอจะวิ่งหนีก็สายไปเสียแล้ว "ไม่!!! ไม่นะ!!! อย่าเข้ามานะ!!!" เธอร้องบอกพวกนั้น แต่แน่นอนว่ามันมีแต่จะเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอถอยหลังไปเรื่อยๆ จนไปติดกับอะไรบางอย่าง เธอหันไปข้างหลังก็พบกับชายคนที่เป็นหัวหน้า "จะไปไหน มาสนุกกับพวกเราก่อนสิ" แล้วกันก็ใช้กำลังจับเธอ
"ไม่นะ ช่วยด้วย!!!" เธอตะโกนขอร้องให้คนช่วย แน่นอนว่ากลางป่าแบบนี้คงไม่มีใครมาช่วยเธอแน่นอน
"จัดการทำให้มันเงียบทีสิ" ชายคนหนึ่งบอก แล้วอีกคนก็ต่อยเข้าที่ท้องน้อยของเธอ เธอจุกและล้มไปกับพื้น
ในที่สุดพวกมันก็จัดการทำตามที่ตกลงกันไว้ โดยเริ่มจากหัวหน้าของมัน
มันเริ่มที่จะทำ...กับเธอ แต่ก็กีดกับเสื้อผ้าที่หนาของเธอ "รำคาญจริงโว้ย!" มันบ่นอย่างรำคาญ แล้วก็จัดการกระชากเข็มกลัดที่อยู่ที่อกของเธอแล้วซัดไปข้างๆ จากนั้นก็ใช้หน้าหยาบๆของมันไซร้กับหน้าอกของเธอ
ลูน่าที่ตอนนี้ไม่อาจขยับได้ ไม่มีแรงแม้แต่จะพูด เธอได้แต่มองเข็มกลัดที่อยู่ข้างๆตัวของเธอ ทั้งที่ไอ้พวกนั้นมันกำลังทำ...เธออยู่
"เฮลิออส..." แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา
"!!!" เฮลิออสรู้สึกไม่ดี เขาหันกลับไปที่โต๊ะในห้องของเขาก็พบว่าตลับแหวนที่เขาได้จากลูน่าร่วงอยู่บนพื้น เขาเห็นแล้วมันทำให้ใจคอเขารู้สึกไม่ค่อยดี
"ก็วางไว้บนโต๊ะดีๆนี่ ไม่น่าจะตกลงมาได้ ไม่ใช่ว่า..." เขาคิดดูเหตุผล ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเข้าไปอีก "ลูน่า..." เขาจับตลับแหวนแล้วหลับตานึกถึงลูน่า เพราะจริงแล้วไม่มีเวลาไหนที่เขาไม่คิดถึงเธอเลย แต่ว่าในครั้งนี้ เขากลับรู้สึกคิดถึงมาผิดปกติ และรู้สึกไม่ดีด้วยอีกต่างหาก "เห็นทีฉันจะต้องกลับเดี๋ยวนี้แล้วสิ ถึงจะบอกพี่สเตลล่าไปแล้วก็เถอะ แต่ก็ขอกลับไปก่อนล่ะ" ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกลับในขณะนั้นเลย แน่นอนว่าเขาก็ไปชวนลิซ่าโดยบอกว่าให้รีบ แล้วเขาก็จะออกเดินทางทันที
ดูเหมือนว่าความผูกพันธ์ของทั้งสองคนนั้นจะเชื่อมถึงกันจริงๆ
แต่ว่ามันจะทันหรือเปล่านั้น ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะการที่จะเดินทางอย่างเร็วที่สุดมันก็ต้องใช้เวลานานเป็นวัน ดังนั้นเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับโชคชะตาว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จบตอนที่ 3
นี่ข้าพเจ้าเขียนอะไรลงไปเนี่ย??!!
พวกโจรแก!!!!!!!!
อ่านแล้วก็บอกความรู้สึกกันบ้างล่ะ ติหรือชมก็ได้ ขอให้โพสต์บอกกันบ้าง จะได้ปรับปรุงเนื้อหาซะบ้าง
ที่นี้มีประวัติมายาวนาน ว่ากันว่ามันอยู่มาไม่ต่ำกว่าสี่ร้อยปี
ยังมีข่าวลืออีกว่า วันดีคืนดีจะมีผีเดินออกมาจากปราสาทนั้นเพื่อไปยังที่ไหนสักแห่ง เป็นผีในชุดสาวใช้ที่สวยงามมาก
สอบถามจากคนเฒ่าคนแก่ ก็ไม่มีใครทราบเลยว่าใครเป็นคนสร้าง เพราะทุกคนล้วนบอกว่าตั้งแต่เกิดมา ปราสาทแห่งนี้ก็มีอยู่แล้ว
จึงไม่มีข้อสรุปว่าใครเป็นคนสร้าง ยังคงไว้แต่ปราสาทที่ดูวังเวงน่ากลัวจนไม่มีใครกล้าเข้าไป
ว่ากันว่าเคยมีเหล่าเด็กเข้าไปเล่นซนกัน แต่เมื่อเข้าไปแล้วต่างก็พากันวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต
พวกเขาเห็นอะไรกัน? แล้วสิ่งนั้นมันน่ากลัวเพียงไหน?
เรื่องนั้นไม่มีใครรู้ ก็ยังคงมีข่าวลือต่อไปเรื่อยๆ
ในที่ๆหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นห้องนอน เพราะมีเตียงที่ดูหรูหราราวกับผู้ที่เป็นเจ้าของนั้นเป็นเศรษฐีวางไว้
บนเตียงมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่
ใบหน้าของเธองดงาม ชนิดที่ว่าไม่ว่กผู้ชายคนไหนเห็นเป็นต้องรักต้องเอ็นดูเป็นแน่
ผมสีทองของเธอยาวสลวยยาวถึงกลางแผ่นหลังปูอยู่บนเตียงราวกับเป็นผ้าปูนอนสำหรับเธอ
เธออยู่ในชุดนอนสีฟ้าอ่อน เนื้อผ้านั้นบางมากจนแนบชิดกับร่าง ทำให้เห็นสัดส่วนอันเย้ายวนของเธอ
โอ๊ะโอ่...ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินที่เราพูดนะ
"ทำอะไรคะ?" หญิงสาวที่ชันกายลุกขึ้นจากที่นอน พูดขึ้นด้วยเสียงที่งัวเงีย
ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ทันเข้าซะแล้วสิ อย่างนี้ต้องเผ่นแล้ว
"อ๋อ...คงจะมาแอบดูหนูเปลี่ยนชุดอีกสินะคะ" เธอคนนั้นพูดขึ้น แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงงัวเงีย แต่เป็นเสียงจริงจัง และบ่งบอกว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ
เธอรู้ซะแล้วสิ ฮะฮ่า แต่ไม่ทันฉันหรอก "อ๊ะ!!! อย่าหนีนะ!!!" เธอตะโกนเรียก ก่อนที่จะวิ่งตามไปทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด แต่ดูเหมือนว่าจะตามไม่ทัน เพราะเขาคนนั้นอยู่นอกประตู กว่าเธอจะเปิดประตูก็คงหนีไปไกลแล้ว "งั้นเจอนี่" เธอทำอะไรบางอย่างก่อนที่ร่างของเธอจะหายไป
"หยุดนะ!!!" หญิงสาวกำลังไล่ตามผู้ชายชุดดำแบบท่านเคาท์แดร็กคู{ติ๊ด} ที่แท้ เธอหายตัวออกมาจากห้องนั่นเอง "ฮ่าๆ แค่นั้นตามฉันไม่ทันหรอก" อีกฝ่ายที่โดนตามกล่าวมา ก่อนที่จะกระโดดลงไปด้านล่างแบบไม่สนใจความสูง เธอเห็นดังนั้นเลยใช้วิชาหายตัวอีก แล้วเธอก็ปรากฏตัวอีกที่หนึ่ง
มันเป็นห้องโถงที่กว้างพอควร ตรงกลางมีโต๊ะยาววางไว้พร้อมกับเก้าอี้ที่ดูหรูหรา รอบๆห้องมีเชิงเทียนพร้อมเทียนที่ถูกจุดไว้เพื่อให้แสงสว่างวางไว้โดยรอบ
เธอมองไปที่โต๊ะ สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด
"อ้าว...ลูน่า ตื่นแล้วเหรอ? มาทานข้าวด้วยกันสิ" ชายในชุดท่านเคาท์เอ่ยชวน แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกชวนจะไม่สนใจคำชวนนั้น "หน็อย...ทำเป็นไม่รู้เรื่อง เมื่อเช้าคุณคิดจะทำอะไรคะ?!" เธอพูดด้วยเสียงที่สั่นนิดหน่อย ดูเหมือนว่าเธอจะกลั้นความโกรธเอาไว้ "ก็ไปปลุกน่ะสิ" อีกฝ่ายตอบเรียบๆ
ทันใดนั้นมีผู้หญิงในชุดสาวใช้คนหนึ่งเดินออกมา "มีอะไรกันเหรอคะ?" เธอถาม "ก็เหมือนทุกๆวันนั่นแหละ" ท่านเคาท์ตอบอย่างเรียบๆ พร้อมกับตักข้าวใส่จานของตัวเอง "อ้อ งั้นสินะคะ" สาวใช้เห็นอาการก็เข้าใจ ลูน่าเห็นเธอคนนั้นจึงบอกว่า "คุณแม่คะ คุณตาเขา..." "เอาน่าๆ ลูน่าก็อย่าไปถือสาคุณตาเขาเลย เขาก็เป็นอย่างนี้ประจำนั่นแหละ" เธอพูดกับลูน่าอย่างเห็นใจ แล้วเธอก็หันมาทางท่านเคาท์ "ท่านพ่อเองก็เถอะค่ะ เลิกแกล้งลูน่าแบบนี้ได้แล้วนะคะ" เธอบอกกับท่านเคาท์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจคำพูดของเธอ เพราะมัวแต่ตั้งใจกิน ซึ่งมันทำให้ลูน่ารู้สึกหมั่นไส้มาก เธอคิดจะใช้เวทย์มนต์ใส่เขา
"หยุดเลยลูน่า!!!" เสียงของสาวใช้ดังขึ้น เสียงที่อ่อนโยนเมื่อครู่ บัดนี้กลับเป็นเสียงที่ฟังดูมีอำนาจ เสียงของเธอทำให้ลูน่าหยุดในทันที "คุณแม่..." เธอพูดอย่างสำนึกผิด เธอก้มหน้าลง สาวใช้เห็นเช่นนั้นก็พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "เอาเถอะ ลูกน่ะหัดควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ดีกว่า แล้วตอนนี้ลูกก็..." เธอมองไปที่ตัวลูน่าซึ่งใส่ชุดนอนอยู่ "แม่ว่าลูกกลับไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะโดนคุณตาจอมลามกเขาแกล้งเอาอีก" แล้วเธอก็หลับตาถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
"อ้อกกก" เสียงท่านเคาท์สำลักอาหาร ซึ่งก็เป็นขณะเดียวกันกับที่สาวใช้บ่นถึงเขา "ทางนั้นคุยอะไรกันน่ะ?" เขาถามไปที่สาวๆทั้งสอง ซึ่งแทนที่จะได้รับคำตอบ กลับได้รับสายตาที่ดุดันจากหลานสาวแทน แล้วเธอก็หายตัวไป
"เฮ้อ" เสียงสาวใช้ถอนหายใจ ก่อนจะถามว่า "ท่านพ่อมีจุดประสงค์อะไรกันแน่คะที่ทำแบบนั้น?" "มิลล่า วันนี้ฉันเกือบแย่แน่ะ!" ท่านเคาท์พูดขึ้นพร้อมทั้งเอามือจับที่เอวของตัวเอง "ไม่ได้วิ่งสุดกำลังบ่อยๆเลยเป็นอย่างนี้สินะ" มิลล่าส่ายหน้า แล้วบอกว่า "งั้นทีหลังก็อย่าทำแบบนั้นสิคะ" "ไม่ได้หรอก ลูน่าน่ะต้องฝึกอีกมาก ทั้งเวทย์มนต์ ทั้งเรื่องการควบคุมตัวเอง" ท่านเคาท์บอกจุดประสงค์ของตัวเองออกมา แท้จริงแล้วที่เขาทำไปทั้งหมดเป็นเพราะเพื่อฝึกหลานของเขานั่นเอง "แต่วันนี้ลูน่าเล่นเอาจนฉันเกือบใช้เวทย์มนต์ซะแล้วสิ ทีหลังใช้ดีกว่าดีมั้ยน้า?" เขาพูดขึ้น "อย่าดีกว่าค่ะ" มิลล่าห้ามทันควัน "ขืนท่านพ่อใช้เวทย์มนต์ล่ะก็ ที่นี่คงหายไปหมดแน่ค่ะ" "แต่ก็เคยใช้อยู่ทีนึงนี่ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย" "นั่นมันนอกปราสาทค่ะ!!!" "เออ!!! จริงด้วย!!!" ท่านเคาท์พูดขึ้นทันทีที่นึกออก
ลูน่าหายตัวกลับมาที่ห้องของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจเรึ่องเมื่อครู่ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะขัดมิลล่าซึ่งเป็นแม่ของเธอ "งั้นก็ช่างมันเถอะ" เธอคิดแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า จากนั้นเธอก็ถอดชุดออกแล้วก็เดินไปอาบน้ำ
.................................................
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวก่อนเดินออกจากห้องน้ำ แน่นอนว่านี่เป็นห้องของเธอ การที่เธอจะเดินเปลือยกายในห้องนั้นเป็นสิทธิ์ของเธอเอง และเธอก็ทำอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้วด้วย เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งก่อนที่จะเลือกชุดมาชุดหนึ่ง
เธอใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน ตอนนี้เธออยู่ในชุดสีดำและค่อนข้างรัดรูป แต่ตรงข้อมือนั้นหลวมโพรก กระโปรงยาวถึงพื้น ดูเหมือนเป็นผู้ดีสูงศักดิ์
ที่หน้าอกเธอติดเครื่องประดับอยู่อย่างหนึ่ง
มันเป็นเข็มกลัดทองคำ ตรงกลางเป็นมรกตขัดมันแวววับตา
ลูน่ามองตัวเองที่หน้ากระจก ตาของเธอมองดูที่รูปร่างของตัวเองแล้วยิ้มให้กับกระจก จากนั้นเธอก็มองมาที่เครื่องประดับที่หน้าอก "เขาจะเป็นยังไงมั่งนะ?"เธอพูดขึ้นจากนั้นใช้มือม้วนผมของตัวเองที่เป็นลอนลงมาเหมือนกับครัวซองต์ขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ซึ่งอาการอย่างนี้คงจะเรียกว่าเขินอายสินะ
เวลาประมาณช่วงบ่ายของวันนั้น หญิงสาวที่อยู่ที่บ้านข้างโรงฝึกได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายจากคนที่เธอรู้จัก ซึ่งเธอเห็นแล้วก็ยิ้มก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ปิ๊งป่อง เสียงออดดังขึ้นในบ้าน นั่นหมายความว่ามีคนมาหาเธอ "ค่า กำลังไปค่า" เธอตะโกนบอกคนที่กดออด ก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูให้
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูวิ่งโผเข้ามากอดเธอ "พี่คะ" เธอเรียกหญิงสาวคนนั้นว่าพี่ "อ้าว ลูน่าเองเหรอ " เธอกล่าวพลางเอามือลูบหัวแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู "เอ้า เข้ามาข้างในก่อนสิ" เธอบอกลูน่า
ลูน่านั่งรออยู่ที่โซฟาที่เอาไว้รองรับแขก ไม่นานหญิงสาวก็เดินเข้ามาพร้อมกับถาดที่ใส่น้ำเปล่าสองแก้ว "เอ้า มาเหนื่อยๆกินน้ำซะก่อนสิ" เธอบอกลูน่า
"ค่าาา" ลูน่าบอกก่อนจะยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่แล้วเธอก็หยุดมือเอาไว้
ผมของเธอที่ชี้ออกมานั้น บัดนี้มันส่ายไปส่ายมาราวกับเรดาร์ที่กำลังตรวจจับสัญญาณบางอย่างได้ จมูกของเธอขยับเล็กน้อยเหมือนกำลังสูดกลิ่นอะไรบางอย่างได้
"พี่สเตลล่าคะ นี่มัน..." ลูน่ากล่าวขึ้นพร้อมกับจ้องมาที่ตัวของสเตลล่า ซึ่งสเตลล่าเองก็เหมือนจะรู้ "จ้าๆ" จากนั้นเธอก็หยิบบางอย่างที่ซ่อนไว้ออกมา
มันเป็นวัตถุลึกลับอยู่ในกล่องสีเหลี่ยมขนาด 20x20 ซม. ซึ่งสเตลล่ายื่นของสิ่งนั้นให้กับลูน่า
ลูน่าเห็นของสิ่งนั้นแล้วถึงกับตาลุกวาว "เค้กจริงๆด้วย" เส้นผมที่ยื่นออกมาของเธอตอนนี้ส่ายไปส่ายมาอย่างเร็วไม่ต่างจากสุนัขดีใจเลย "ขอบคุณค่า รักพี่ที่สุดเลยยย" เธอขอบคุณแล้วรีบหยิบมา เปิดกล่องออกแล้วรีบกินทันที "อร่อยจัง!!" เธออุทานขึ้นหลังจากที่ตักเค้กชิ้นแรกเข้าปาก
"อุตส่าห์แอบเอาไว้กะว่าให้หายเหนื่อยก่อนค่อยให้ แต่ดันจมูกดีซะนี่เรา" สเตลล่าบอกกับน้องสาวของเธอที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย
ผ่านไปไม่นาน ลูน่าก็กินเค้กจนหมด เหลือเพียงกล่องตั้งไว้ แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มอย่างมีความสุข
"มีความสุขดีสินะ ลูน่า" สเตลล่าพูดเชิงเหน็บแนมลูน่าเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายก็ได้แต่หัวเราะกลับมา "แหะๆๆๆ" "ฮะๆๆๆ" ต่างคนต่างหัวเราะกันคิกคัก
สเตลล่า: "อ้อนี่ ลูน่า พี่ได้รับจดหมายด้วยล่ะ"
ลูน่า: "จากใครคะ?"
สเตลล่า: "จาก 'เขา' น่ะ"
ทันทีที่ลูน่าได้ยินว่า จาก 'เขา' เธอก็ตื่นตัวทันที "เอ๋ จริงเหรอ?" สเตลล่าพยักหน้า "แล้วว่าไงบ้างคะ?" เธอถาม "ก็เห็นบอกว่าจะกลับมาแล้วน่ะนะ..." "เอ๋! จริงเหรอคะ? จะมาเมื่อไหร่คะ?" สเตลล่าก็หยิบจดหมายที่เธอพึ่งได้มาออกมาให้ลูน่าหยิบไปอ่าน
ลูน่าหยิบจดหมายจากมือของสเตลล่า หัวใจของเธอเต้นโครมคราม แต่ก็มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้สึก เพราะอาการมันไม่ได้ออกมาข้างนอกแต่อย่างใด ไม่รอช้า เธอรีบคลี่จดหมายที่พับไว้อ่านทันที
" วันx เดือนx ปีx
ถึงพี่สเตลล่า
เป็นยังไงบ้างครับ สบายดีหรือเปล่า? ผมสบายดีครับ อาจจะกระทันหันไปหน่อยที่ส่งมา แต่ผมมีเรื่องจะขอร้องพี่หน่อยน่ะครับ
คือลูกน้องของผมเกิดปัญหานิดหน่อย ก็เลยว่าจะให้ไปพักผ่อนที่นั่นซักระยะ แน่นอนว่าผมก็จะกลับไปด้วย ตอนนี้ผมก็คิดว่าจะกลับไปอยู่ที่นั่นตลอดเลย เพราะตำแหน่งหัวหน้าของผมหมดวาระพอดี ผมอยากจะให้พี่ช่วยเตรียมที่พักสำหรับผู้หญิงสักคนได้ไหม? เพราะจะให้ผมนอนกับเธอก็คงไม่มีปัญหาหรอก..."
อ่านถึงตอนนี้ ลูน่ารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกสายฟ้าของเทพเจ้าซูสผ่าเอา จนเธอค้างไปชั่วครู่
"ลูน่าเป็นอะไรไปน่ะ?" สเตลล่าถามน้องสาว ซึ่งเสียงของเธอทำให้ลูน่าหายจากสภาวะอัมพาตไปได้ "อ๊ะ! คะ มีอะไรคะ?" สเตลล่าเห็นน้องสาวตัวเองแปลกๆเลยถามว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นนิ่งไป" "ปะ...เปล่าค่ะ" เธอตอบกลับไปทั้งๆที่พึ่งโดนฟ้าผ่าไปเต็มๆ เธอจึงฝืนใจอ่านต่อ "เอาน่า มันยังไม่จบซะหน่อย"
"...แต่แน่นอนว่าผมไม่ทำหรอก เพราะถ้าลูน่ารู้เข้ามันคงจะไม่ดีแน่ ในหลายๆความหมายน่ะนะ เอาล่ะ ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ เพราะเธอเป็นคนสำคัญมาก ส่วนกลับไปแล้วแน่นอนว่าผมจะเอาของฝากไปเยอะๆเลยครับ
รักและเคารพ
เฮลิออส"
ถึงจะอ่านจบแล้วแต่ลูน่าก็ยังคงจับจดหมายไว้แน่น ตาของเธอกำลังจ้องไปที่กระดาษใบนั้น ตรงคำว่า "คนสำคัญมาก" "สำคัญขนาดไหนล่ะ?" เธอยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ไม่ทันรู้ตัว กระดาษจดหมายที่เธอถือก็ถูกไฟเผาไปเสียแล้ว "ว้าย!!!" เธออุทานขึ้นทันทีที่เห็นเปลวไฟ สเตลล่าซึ่งมองเห็นเหตุการณ์ตลอดนั้นก็แซวเธอว่า "ไฟหึงสินะ?" "มะ...ไม่ใช่ซะหน่อย!!" ลูน่ารีบปฏิเสธ ทั้งๆที่หน้าของเธอแดงเพราะสเตลล่าพูดแทงใจดำ เธอคิดในใจว่า "เฮลี่นะเฮลี่ ทำไมกัน ผ่านไปไม่กี่ปีก็ลืมสัญญากับฉันซะแล้ว ไม่ใช่ว่าหลายปีมานี้มีผู้หญิงคนอื่นหรอกนะ เดี๋ยวคอยดูเถอะ กลับมาเจอดีแน่" ซึ่งแน่นอนว่าลูน่าได้เตรียมแผนการอะไรบางอย่าง
เวลาล่วงเลยจนพลบค่ำลูน่าก็เลยลาสเตลล่ากลับบ้าน "กลับก่อนนะคะพี่สเตลล่า" "จ้า เดินทางดีๆนะจ๊ะ" "ค่า แล้วเจอกันใหม่นะ" จากนั้นลูน่าก็เดินออกจากบ้านไป
ที่ดงกลางป่า มีกลุ่มชายวัยฉกรรจ์ 4 คนกำลังซุ่มรออะไรบางอย่างอยู่
"เฮ้ย! แน่ใจนะว่าทางนี้น่ะ" ชายคนหนึ่งท่าทางกำยำเอ่ยถาม "แน่ใจสิพี่ ฉันเห็นเธอเดินผ่านมาทางนี้บ่อยจะตาย" ชายคนที่ดูตัวเล็กกว่าหน่อยหนึ่งบอก "แล้วตะกี้ฉันก็เห็นเธออีก เดี๋ยวเธอต้องกลับมาแน่" "คราวนี้เราได้สนุกกันแล้ว อดกันมานานแล้วสิ" "ผมขอก่อนนะ" "ไม่ได้ ฉันพี่ใหญ่ต้องได้ก่อนสิ พวกก็เป่ายิ้งฉุบกันเอาเองแล้วกัน" "ครับ" อีกสามคนตอบอย่างหงอยๆ แต่ก็ยอมรับเงื่อนไข "โน่นๆ มาทางโน้นแล้ว" ชายคนหนึ่งตะโกนบอกทุกคน ว่าแล้วทุกคนก็เข้าไปซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้ใกล้ๆ "สวยใช้ได้เลยว่ะ" "ใช่ม้า?" "ชู่วว" ชายที่เป็นหัวหน้าทำสัญญาณว่าให้เงียบ
"เฮลี่นะเฮลี่ คอยดูเถอะ ถ้ามาเมื่อไหร่เจอดีแน่!!" ลูน่ายังคงเดินไปบ่นไป โดยไม่รู้ว่ากำลังมีภัยมาถึงตัวเอง จนเธอเดินมาถึงจุดพวกชายทั้งสี่ก็ออกมา
"ว่าไงคนสวย จะไปไหนเหรอจ๊ะ มืดๆค่ำแบบนี้" "สนใจไปด้วยกันมั้ยจ๊ะ" "อยากหาอะไรสนุกๆทำมั้ยน้องสาว" "มีแฟนหรือยังจ๊ะ"
เธอตอบไปทันทีว่า "ฉันไม่ว่างจะมายุ่งกับพวกนาย ถอยไป!!!"แล้วเธอก็เดินฝ่าพวกมันออกไป แล้วก็เร่งฝีเท้า ซึ่งพวกมันก็ตามมา
ในเมื่อมันยังวิ่งตาม เธอก็จำเป็นต้องวิ่งหนี แต่ดูเหมือนว่าแรงของเธอจะมีไม่พอ ทำให้หนึ่งในสี่คนวิ่งไปดักหน้าเธอไว้ "จะรีบไปไหน เรามาสนุกกันดีกว่า"
ในเมื่อไม่มีทางเลือก เห็นทีเธอจะต้องใช้เวทย์มนต์ซะแล้ว "แกมายุ่งกับฉันเองนะ" แล้วเธอก็ยื่นมือไปข้างหน้า
"???" "ทำอะไรคนสวย? หรือว่าจะเล่นมายากลอะไร?" ลูน่าแปลกใจว่าทำไมตนเองถึงใช้เวทย์มนต์ไม่ได้ "ไม่จริงน่า..." ไม่ว่าจะลองดูกี่ครั้ง ผลก็ออกมาเหมือนเดิม ซึ่่งตอนนี้เธอจะวิ่งหนีก็สายไปเสียแล้ว "ไม่!!! ไม่นะ!!! อย่าเข้ามานะ!!!" เธอร้องบอกพวกนั้น แต่แน่นอนว่ามันมีแต่จะเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอถอยหลังไปเรื่อยๆ จนไปติดกับอะไรบางอย่าง เธอหันไปข้างหลังก็พบกับชายคนที่เป็นหัวหน้า "จะไปไหน มาสนุกกับพวกเราก่อนสิ" แล้วกันก็ใช้กำลังจับเธอ
"ไม่นะ ช่วยด้วย!!!" เธอตะโกนขอร้องให้คนช่วย แน่นอนว่ากลางป่าแบบนี้คงไม่มีใครมาช่วยเธอแน่นอน
"จัดการทำให้มันเงียบทีสิ" ชายคนหนึ่งบอก แล้วอีกคนก็ต่อยเข้าที่ท้องน้อยของเธอ เธอจุกและล้มไปกับพื้น
ในที่สุดพวกมันก็จัดการทำตามที่ตกลงกันไว้ โดยเริ่มจากหัวหน้าของมัน
มันเริ่มที่จะทำ...กับเธอ แต่ก็กีดกับเสื้อผ้าที่หนาของเธอ "รำคาญจริงโว้ย!" มันบ่นอย่างรำคาญ แล้วก็จัดการกระชากเข็มกลัดที่อยู่ที่อกของเธอแล้วซัดไปข้างๆ จากนั้นก็ใช้หน้าหยาบๆของมันไซร้กับหน้าอกของเธอ
ลูน่าที่ตอนนี้ไม่อาจขยับได้ ไม่มีแรงแม้แต่จะพูด เธอได้แต่มองเข็มกลัดที่อยู่ข้างๆตัวของเธอ ทั้งที่ไอ้พวกนั้นมันกำลังทำ...เธออยู่
"เฮลิออส..." แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา
"!!!" เฮลิออสรู้สึกไม่ดี เขาหันกลับไปที่โต๊ะในห้องของเขาก็พบว่าตลับแหวนที่เขาได้จากลูน่าร่วงอยู่บนพื้น เขาเห็นแล้วมันทำให้ใจคอเขารู้สึกไม่ค่อยดี
"ก็วางไว้บนโต๊ะดีๆนี่ ไม่น่าจะตกลงมาได้ ไม่ใช่ว่า..." เขาคิดดูเหตุผล ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเข้าไปอีก "ลูน่า..." เขาจับตลับแหวนแล้วหลับตานึกถึงลูน่า เพราะจริงแล้วไม่มีเวลาไหนที่เขาไม่คิดถึงเธอเลย แต่ว่าในครั้งนี้ เขากลับรู้สึกคิดถึงมาผิดปกติ และรู้สึกไม่ดีด้วยอีกต่างหาก "เห็นทีฉันจะต้องกลับเดี๋ยวนี้แล้วสิ ถึงจะบอกพี่สเตลล่าไปแล้วก็เถอะ แต่ก็ขอกลับไปก่อนล่ะ" ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกลับในขณะนั้นเลย แน่นอนว่าเขาก็ไปชวนลิซ่าโดยบอกว่าให้รีบ แล้วเขาก็จะออกเดินทางทันที
ดูเหมือนว่าความผูกพันธ์ของทั้งสองคนนั้นจะเชื่อมถึงกันจริงๆ
แต่ว่ามันจะทันหรือเปล่านั้น ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะการที่จะเดินทางอย่างเร็วที่สุดมันก็ต้องใช้เวลานานเป็นวัน ดังนั้นเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับโชคชะตาว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จบตอนที่ 3
นี่ข้าพเจ้าเขียนอะไรลงไปเนี่ย??!!
พวกโจรแก!!!!!!!!
อ่านแล้วก็บอกความรู้สึกกันบ้างล่ะ ติหรือชมก็ได้ ขอให้โพสต์บอกกันบ้าง จะได้ปรับปรุงเนื้อหาซะบ้าง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-1-17 15:33
Wing of Destiny ตอนที่ 3 ความสัมพันธ์นั้นช่างลึกซึ้ง
[IMG]